บทที่ 14 มีเรื่องจนได้เป็นแฟนกัน

2041 Words
บทที่ 14 มีเรื่องจนได้เป็นแฟนกัน ครืดด!!..ครืดดด!!..แรงสั่นของโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน ทำให้ผมเงยหน้าขึ้นจากแฟ้มเอกสารที่กำลังอ่านอยู่ สายเรียกเข้า : RACHA “เออ ว่า” ผมใส่หูฟังแล้วกรอกเสียงเรียบไปตามสาย “รีบมาตึกใหญ่ ด่วน !” “มีเรื่องอะไร” ผมขมวดคิ้วใส่มือถือ เพราะอาการที่ไอ้ราชาเอ่ยถึงตึกใหญ่ต้องมีเรื่องแน่ “ฟ้าและไวน์มีเรื่องกับอันอัน” “มึงว่าอะไรนะ” ผมถามเสียงแข็ง มือกำปากกาไว้แน่น “มึงได้ยินชัดแล้ว” “ไวน์เป็นไงบ้างวะ” ผมใจเต้นรัวมากเมื่อไอ้ราชาบอกว่า อันอันรุมตบไวโอลินและอิงฟ้า “ทางนั้นเอาพ่อแม่มา ซึ่งกูถูกห้ามไม่ให้เข้าไปยุ่ง เพราะกูเป็นนักศึกษา” ฟังจากเสียงของมัน ผมก็รู้ว่าไอ้ราชากำลังหัวเสีย “กูจัดการเอง” ผมบอกไอ้ราชาแล้ววางสายพร้อมลุกออกจากโต๊ะทำงาน และระหว่างเดินออกจากห้องผมต่อสายหาคนที่จะมาจัดการเรื่องนี้ให้ผมได้ เพราะผมรู้ดีว่ากฎของพ่อผมเข้มงวดแค่ไหน แต่ถ้าให้เดาฝั่งนั้นเล่นสกปรกก่อนแน่นอน เพราะพ่อแม่ของอันอันรู้จักพ่อผม และผมเคยสัญญากับตัวเองไว้ ว่าจะดูแลน้องให้ดี อุตส่าห์ตามรับตามส่งตลอดคนพวกนั้นยังมีโอกาสมาทำร้ายน้องได้อีก… ตึกใหญ่ของมหาลัย.. หลังไปทำแผลกันแล้ว พวกฉันทั้งห้าคน มีฉัน พี่อิงฟ้า พี่กอหญ้า พี่เฟส และพี่ฮานะก็มาที่ห้องประชุมซึ่งเราทั้งห้ายืนออกันอยู่หน้าห้อง “ไหน ใครที่ทำร้ายลูกฉัน” เสียงที่ดังขึ้น ทำให้ฉันและพี่อิงฟ้าที่นั่งรออยู่นั้นหันไปมอง ก็เห็นชายหญิงวัยกลางคนเดินมาพร้อมกับพี่อันและเพื่อนๆ ของพี่อัน “พวกแกใช่มั้ยที่ทำร้ายลูกฉัน” หญิงวัยกลางคนเดินมาชี้หน้าฉันกับพี่อิงฟ้า “ใช่ค่ะคุณแม่ ยัยสองคนนี้แหละที่รุมทำร้ายหนู” พี่อันเบะปากใส่ฉันและพี่อิงฟ้า “กล้าดียังไงมาทำร้ายลูกฉัน” ส่วนผู้ชายกลางคน ฉันคิดว่าคงเป็นพ่อของพี่อันก็ตะคอกใส่พวกฉันเสียงดัง “เอ่อ ใจเย็นๆ นะครับท่านสุเทพ” อาจารย์ผู้ปกครองห้าม “จะให้เย็นยังไง คุณไม่เห็นหน้าลูกฉันเหรอ โอ๋ ลูกแม่เจ็บมั้ยคะ” แม่พี่อันหันไปตะคอกใส่อาจารย์ แล้วหันไปโอ๋ลูกตัวเอง “อาจารย์ดูแลเด็กยังไงกัน ถึงปล่อยให้มีเรื่อง ผมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด” พ่อพี่อันเองก็พูดข่มอาจารย์ผู้ปกครอง “ผมว่าใจเย็นๆ ดีกว่านะครับคุณอาสุเทพ” แล้วเสียงใหญ่ที่ดัง ทำให้ทุกคนรวมทั้งฉันและพี่อิงฟ้าหันไปมอง “พี่อิงฟ้า พี่ราชามา” ฉันสะกิดบอกพี่อิงฟ้า “สวัสดีครับ” พี่ราชายกมือขึ้นไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง แต่สายตาเข้มขึงขังแดงก่ำมองมาทางพี่อิงฟ้า “จะให้อาเย็นยังไงไหวราชา อันอันลูกอาถูกทำร้ายนะ อาจะเอาเรื่องนังเด็กสองคนนี้ให้ถึงที่สุด” แม่พี่อันพูดขึ้นแล้วจิกตามาที่ฉันกับพี่อิงฟ้า “แต่เท่าที่ผมรู้มาทางลูกคุณอามีกันถึงสี่คนเลยนะครับ” พี่ราชาเดินมายืนข้างพี่อิงฟ้า และฉันได้ยินพี่ราชาคาดโทษพี่อิงฟ้าว่า “กลับห้องไปโดนแน่” “ชิ” แต่พี่อิงฟ้าก็ย่นหน้าเบะปากใส่พี่ราชาอย่างชิล ๆ เหมือนพี่อิงฟ้าไม่เกรงกลัวพี่ราชาเลย “ลูกอาจะไปสู้เด็กพวกนี้ได้ยังไง อาเลี้ยงลูกมาแบบไข่ในหิน ไม่ได้กร้านโลกเหมือนนังเด็กพวกนี้นี่” แม่พี่อันก็พูดขึ้นไม่ต่างจากพ่อพี่อัน ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกว่าบ้านนี้นิสัยไม่ดีทัศนคติแย่กันทั้งบ้าน “หึ ! แม่หนูคนนี้คงเป็นแฟนเราสินะราชา แต่ยากหน่อยนะ เพราะอาจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด บางทีอาจจะถูกไล่ออกเลยก็ได้” พ่อพี่อันมองพี่อิงฟ้าด้วยสายตาดูถูก “ผมว่าใจเย็นกันก่อนนะครับ อย่าให้ถึงขั้นไล่ออกเลย” อาจารย์ผู้ปกครองห้ามอีกครั้ง “ผมว่าอาจารย์เอาเวลาว่างไปเตรียมหาที่สอนใหม่เถอะครับ” พ่อพี่อันขู่อาจารย์ผู้ปกครอง และไม่ทันที่อาจารย์ผู้ปกครองจะตอบโต้ เสียงใหญ่ฟังดูอบอุ่นแต่แฝงไปด้วยทรงพลังก็ดังขึ้นพร้อมก้าวเข้ามาในห้อง “สวัสดีครับคุณสุเทพ คุณหญิงเดือน” “อ้าวคุณธิว สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ” พ่อแม่พี่อันหันไปทักทาย และยกมือไหว้ชายวัยกลางคนอายุเท่าพ่อแม่พี่อันนั่นแหละ ไหว้อย่างนอบน้อมเชียว “ครับๆ สวัสดีครับ” ชายวัยกลางคนนั้นยกมือไหว้ตอบ แล้วเดินไปนั่งที่ขอบโต๊ะ จึงทำให้พี่ราชาและพี่อิงฟ้ายกมือไหว้ “ท่านประธานใหญ่ของมหาลัย” พี่อิงฟ้ากระซิบบอกฉัน “ค่ะ” ฉันเงยหน้ามองพี่อิงฟ้า แล้วหันไปรีบยกมือไหว้ชายวัยกลางคนตรงหน้า และยิ่งทำให้ฉันต้องแอบจ้องท่านเพราะหน้าตาของท่านเหมือนพี่เอ็มมาก ‘พี่เอ็มเป็นลูกชายของท่านประธานมหาลัยเหรอ โอ๊ย ! พระเจ้า’ ฉันถามตัวเองในใจ “ผมจะเอาเรื่องเด็กสองคนนี้ให้ถึงที่สุด” พ่อพี่อันชี้มาที่พวกฉัน แล้วมองพวกฉันเชิงเยาะเย้ย เหมือนจะแสดงให้เห็นว่าตัวเองเส้นใหญ่ รู้จักถึงประธานใหญ่ของมหาลัย “ผมว่าใจเย็นกันก่อนนะครับ ขอผมสืบหาเรื่องราวก่อนดีกว่า” ท่านประธานมองมาที่พวกฉัน แล้วหันไปพูดกับพ่อพี่อันอย่างใจเย็น “จะสืบอะไรอีกคะ คุณธิวดูลูกอันของฉันสิคะ ดูไม่ได้ขนาดนี้ต้องไล่ออกสถานเดียวค่ะ” แม่พี่อันเดินไปหาพี่อัน แล้วพาพี่อันไปยืนตรงหน้าท่านประธาน “ผมว่าเข้าไปคุยในห้องดีกว่าครับ” ท่านประธานหันไปมองอาจารย์ผู้ปกครอง “เชิญคุณสุเทพและคุณเดือนทางนี้ครับ” อาจารย์ผู้ปกครองเชิญครอบครัวนั้นเข้าไป ตามด้วยเพื่อนพี่อันอีกสามคน “อาธิว ผมเข้าไปด้วยครับ” พี่ราชาเดินตามพวกฉัน และรีบขออนุญาตจากท่านประธานใหญ่ “อารู้นะว่าแม่หนูนี่เป็นแฟนชา แต่ผิดก็ต้องว่าไปตามผิดนะราชา” ท่านมองหน้าพี่อิงฟ้าเล็กน้อย แล้วหันไปพูดกับพี่ราชา “แต่ผมขอเข้าไปในฐานะผู้ปกครองน้อง” พี่ราชาพูดขึ้น “การที่เรายังเป็นนักศึกษา อายุห่างกันไปกี่ปีนั่นไม่ได้เรียกว่าผู้ปกครองหรอกนะ” ท่านประธานใหญ่พูด “แต่..” พี่ราชาไม่ทันได้พูดอะไร ท่านก็พูดแทรกขึ้นว่า “ปล่อยให้อาจัดการเองดีกว่านะ” “ผมหวังว่าอาธิวคงให้ความเป็นธรรมกับน้อง ๆ นะครับ” สีหน้าของพี่ราชาตอนนี้เครียดหนัก ฉันเข้าแหละว่าคงห่วงพี่อิงฟ้ามาก “ไม่ต้องห่วง อาจะไม่ให้ใครมาใช้เส้นสายได้ในมหาลัยอาแน่” ท่านเองก็รับคำอย่างจริงจัง “ขอบคุณครับ” พี่ราชายกมือไหว้ พวกฉันก็เช่นกัน “อาจารย์ศักดิ์ เฝ้าหน้าห้องไว้ ใครที่ไม่เกี่ยวข้องห้ามไม่ให้เข้า” ท่านหันไปสั่งอาจารย์ผู้ปกครอง “ได้ครับท่าน” อาจารย์ผู้ปกครองก้มหัวให้ท่านยามท่านเดินผ่าน ซึ่งฉันและพี่อิงฟ้าก็เดินตามท่านเข้าไปในห้องทำงาน ฉันกับพี่อิงฟ้าเดินเข้ามาแล้วก็เห็นว่ามีผู้ใหญ่ในห้องประมาณเจ็ดคน ซึ่งน่าจะเป็นกรรมการหรือบุคคลสำคัญในมหาลัยนี้ “นั่งเลยเด็กๆ” กรรมการท่านหนึ่งหันมาบอกพวกฉัน ฉันและพี่ฟ้าจึงเดินไปนั่งตรงข้ามกับครอบครัวนั้น เพื่อที่จะเผชิญหน้ากันตรงๆ “เอาล่ะ ก่อนอื่นผมอยากจะขอทราบก่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกคุณถึงได้ทะเลาะกันถึงขั้นลงไม้ลงมือกันขนาดนั้น” ท่านถาม “ต้องถามเด็กพวกนี้สิคะ ว่าทำไมถึงมาทำร้ายลูกสาวดิฉัน” แม่พี่อันเปิดประเด็น “ผมขอถามเด็กๆ เองดีกว่านะคุณเดือน” ท่านเอ่ยขึ้น “พอจะตอบผมได้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น” เพราะไม่มีใครตอบ ท่านจึงถามย้ำ “งั้นขอถามหน่อยว่าใครเริ่มก่อน” ท่านถามประเด็นใหม่ “หนูค่ะ” พี่อิงฟ้ายกมือขึ้น “นั่นไงคะมันยอมรับแล้ว อย่างนี้ต้องไล่ออกค่ะ” แม่พี่อันชี้หน้าพี่อิงฟ้า “ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ ที่นี่ไม่ไล่เด็กออกง่ายๆ หรอกนะครับ มากสุดก็แค่ขึ้นทัณฑ์บนไว้” ท่านประธานใหญ่ของมหาลัยที่นั่งอยู่หัวโต๊ะคงทนไม่ไหวจึงพูดขึ้น “ผมว่าเรื่องนี้ให้ทางเราตัดสินเองดีกว่านะครับ เพราะถ้าผิดจริงก็ต้องเรียกผู้ปกครอง และขึ้นทัณฑ์บนไว้” ท่านอธิการพูดขึ้น “ทั้งสองคน พอที่จะติดต่อผู้ปกครองมาพบได้มั้ย” ท่านหันมาถามฉันและพี่อิงฟ้า แล้วนี่คือสิ่งที่ทำให้ฉันคิดหนัก พ่อแม่ฉันต้องตกใจแน่ถ้ารู้ว่าฉันมีเรื่อง ซึ่งฉันไม่อยากให้พวกท่านต้องมาหาฉันเพราะเรื่องตบตีแย้งผู้ชาย.. ก๊อก!!!ๆ ๆ.. แต่ยังไม่ทันที่พวกฉันจะได้พูดอะไรไปก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นเสียก่อน แล้วประตูก็เปิดออกพร้อมกับมีผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งที่สวยมากมาในชุดเดรสสีครีมเรียบหรู “คุณหญิงโฉม” หญิงวัยกลางคนที่เดินเข้ามานั้นทำให้คนทั้งห้องดูตกใจเป็นอย่างมาก “ค่ะ โฉมเอง” ท่านยิ้มแล้วเดินอย่างสง่าผ่าเผย ความเป็นผู้ดีทะลุเปล่งประกายออร่ามาก ท่านเดินมานั่งข้างๆ ท่านประธานใหญ่ ซึ่งมีป้ายด้านหน้าว่ารองประธาน ทำให้ฉันคิดว่าท่านน่าจะเป็นภรรยาของท่านประธานใหญ่หรือก็คือแม่พี่เอ็มนั่นแหละ “มาได้ยังไงครับ” ท่านประธานถามคุณหญิงเสียงหวาน “น้องมาทำธุระค่ะ” คุณหญิงเองก็พูดตอบกลับอย่างสุภาพน่ารัก “ธุระ ?” ท่านทำหน้ามองภรรยาอย่างนึกประหลาดใจ “ค่ะ หนูคนไหนชื่อหนูไวโอลินจ้ะ” คุณหญิงโปรยยิ้มมองฉันและพี่อิงฟ้า “เอ่อ หนูค่ะ” ฉันถึงกับนิ่งไปหลายวินาที จนท่านต้องถามซ้ำฉันจึงยกมือขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ “หนูนั่นเอง มานี่สิลูก” ท่านยิ้มแล้วกวักมือเรียกฉัน ฉันทำหน้าลำบากใจหันไปมองพี่อิงฟ้าอย่างขอความคิดเห็น ซึ่งพี่อิงฟ้าก็พยักหน้าให้ฉัน ฉันจึงลุกขึ้นแล้วเดินหาท่าน “มานั่งข้างๆแม่มา” พอเดินมาถึงท่าน คุณหญิงก็ยิ้มหวานให้ฉันแล้วชี้ไปที่นั่งตรงข้ามกับท่านที่เขียนป้ายว่ารองประธาน “..” ฉันไม่พูดยกมือไหว้ท่านทั้งสองและลังเลเล็กน้อยที่จะนั่งข้างคุณหญิง “นั่งสิ นั่งที่ของพี่เอ็มนี่แหละ” ท่านคงเห็นฉันยืนเอ๋อจึงบอกว่าเป็นที่ของพี่เอ็ม เมื่อฉันนั่งลงก็เห็นว่าทุกคนมองมาที่ฉันอย่างสงสัย รวมถึงท่านประธานใหญ่ด้วย แต่ท่านก็ไม่ได้ถามอะไร “นี่มันอะไรกันคะคุณหญิงโฉม ทำไมเด็กนั่นถึงไปนั่งตรงนั้นได้” แม่พี่อันพูดเสียงไม่พอใจ “กรุณาเรียกเด็กดีๆหน่อยนะคะคุณเดือน” คุณหญิงบอกแม่พี่อันเสียงนุ่มมาก แต่แฝงไปด้วยความจิกกัด “อะไรกันครับ ผมงงไปหมดแล้ว” พ่อพี่อันก็ถามเสียงแข็ง และดูจะไม่พอใจด้วย “ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ที่วันนี้โฉมมาที่นี่ โฉมแค่มาเป็นผู้ปกครองให้หนูไวโอลิน แฟนของเจ้าเอ็มค่ะ”…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD