บทที่ 11
ซื้อข้าวมาฝากคนขี้เมา
เมื่อเกิดเรื่องที่ห้างฉันก็ไม่มีอารมณ์ที่จะเดินเล่นต่อ จึงขอตัวกลับก่อนซึ่งเพื่อนทั้งสองก็กลับเหมือนกัน แล้วเอวากับนาเดียร์ก็ขับรถมาส่งฉันที่คอนโด
เอวาจอดรถข้างทางตรงหน้าคอนโดเธอไม่ยอมลงจากรถ แต่มองฉันที่เปิดประตูลงไป แล้วช่วงที่ฉันกำลังจะลงจากรถเธอก็พูดว่า
“เจอกันวันจันทร์นะ”
“โอเค” ฉันเดินอ้อมไปยืนตรงฝั่งที่เอวานั่งขับรถ
“แล้วนี่จะไปหาพี่เอ็มใช่ปะ” นาเดียร์ที่นั่งอยู่เบาะหลังเปิดประตูรถ ลงจากรถไปนั่งที่เดิมของฉันด้านหน้าตรงข้ามเอวา
“ใช่” ฉันชูถุงอาหารในมือให้เพื่อนดูแค่นี้เพื่อนก็รู้แล้วว่าฉันไปหาพี่เอ็มเพื่อนำข้าวไปให้เขา
“มีส่งข้าวส่งน้ำกันแล้วเหรอ” เอวาพูดกับฉันแต่หันไปหัวเราะคิกคักกับนาเดียร์
“นั่นสิ อย่างนี้เรียกว่าแฟนได้หรือยังนะ” นาเดียร์ก็พูด แล้วหัวเราะกับเอวา
“บ้า แฟนเฟินอะไร มั่วละ” ฉันว่าเพื่อนทั้งสอง รู้ว่าพวกมันล้อเล่นฉันถึงไม่โกรธพวกมันไง
“จริงอะ” นาเดียร์ทำหน้าทะเล้นใส่ฉัน
“ไม่อยากคุยกับพวกแกแล้ว นี่พวกแกไปได้แล้ว” ฉันยิ้มอายจนหน้าแดงเลยล่ะ มือก็ยกขึ้นลูบหน้าร้อนผ่าว
“เคๆ งั้นพวกฉันไปก่อนนะ” เอวาบอกพร้อมกับขับรถออกไป
“บาย” ส่วนฉันยกมือขึ้นบ้ายบายเพื่อน เมื่อเพื่อนเปิดกระจกลงแล้วโบกมือให้ฉันตอบ…
ที่หน้าคอนโดพี่เอ็ม..
“อุ๊ย ! พี่ชายคะหลีกทางด้วยค่ะ” ฉันหยุดเดินแล้วเงยหน้ามองพี่ รปภ.
“พักที่นี่เหรอครับ” พี่ รปภ.ถาม
“เปล่าค่ะ ฉัน..” ฉันยังไม่ทันได้บอกพี่ รปภ. ‘ว่ามาหาคุณธีรเดชค่ะ’ พี่ รปภ. ก็พูดแทรกขึ้นว่า
“ไม่ได้พักที่นี่ห้ามเข้านะครับ”
“ฉันมาหา..” ฉันไม่ได้บอกเหตุผลกับพี่ รปภ. ก็มีเสียงของผู้ชายอีกคนดังขึ้น ซึ่งดูการแต่งตัวใส่สูทมีป้ายชื่อติดที่หน้าอกก็พอให้ฉันรู้เลยว่า พี่ชายคนนี้เป็นผู้จัดการของที่นี่แน่
“อ้าวน้อง นี่มาหาคุณธีรเดชเหรอครับ”
“ค่ะ” ฉันยกมือไหว้พี่เขา
“งั้นตามพี่มา”
“ขอบคุณพี่ชายมากนะคะ ครั้งหน้าถ้าฉันมาหาพี่เอ็มจะโทรบอกพี่เอ็มให้ลงมารับค่ะ” ฉันเดินตามพี่ผู้จัดการไปที่หน้าลิฟท์
“เชิญครับ”
“ค่ะ” ก่อนที่ฉันจะเข้าไปในลิฟท์ฉันก็ยกมือไหว้ขอบคุณพี่เขาอีกครั้ง แล้วลิฟท์ก็เคลื่อนตัวลอยขึ้นไปยังชั้นยี่สิบเอ็ดและเมื่อลิฟท์เปิดฉันก็ก้าวขาออกมายืนตรงหน้าห้องของพี่เอ็ม
ติ๊งหน่องๆ..
“พี่เอ็มตื่นหรือยังนะ” ฉันกดกริ่งพร้อมกับพูดคนเดียวอยู่ตรงหน้าห้อง
แอ๊ดด!!..
เมื่อเสียงประตูห้องเปิดออกฉันก็ชะโงกหน้าเข้าไปมอง เห็นเจ้าของห้องเองก็ชะโงกหน้ามามองฉันเหมือนกัน ซึ่งเจ้าของห้องอยู่ในชุดไปรเวทธรรมดา เหมือนเขาจะออกไปข้างนอก
“ขึ้นมาได้ไงครับ” ผมทำหน้างงเมื่อเห็นคนตรงหน้า แล้วผมก็รีบดึงเธอเข้ามาในห้อง
“หนูคิดว่าเป็นพี่ผู้จัดการค่ะ ที่ให้หนูขึ้นมาหาพี่ได้”
ฉันบอกลักษณะของพี่คนนั้นให้พี่เอ็มทราบ
“คุณบอย” ผมบอกน้องแล้วพาเธอไปนั่งที่โซฟาตัวใหญ่กลางห้องนั่งเล่น ส่วนผมก็นั่งลงพื้นชันเข่าข้างหนึ่งตรงหน้าเธอ
“หนูมากวนพี่หรือเปล่าคะ” ฉันนั่งตัวตรงเอาหมอนมาวางไว้ที่ตัก ไม่กล้ามองไปทางไหนนอกจากมองไปข้างหน้า
“ไม่ๆ” ผมปฏิเสธพร้อมยื่นมือไปจับมือน้องมาดม
“เห็นพี่แต่งตัวแบบนี้ นึกว่าจะออกไปข้างนอก”
ฉันเขินมาก จึงยกมือจับผมยาวเหน็บหู แล้วแกล้งหันไปมองทางอื่นที่ไม่ใช่ตรงหน้าเขา
“เปล่า แล้วนี่เราบอกว่าจะไปห้างกับเพื่อนไม่ใช่เหรอ”
ผมยิ้มมุมปาก มองน้องที่ใส่ชุดแมทช์เสื้อยืดสีขาวกระโปรงเอวยาวสีดำสั้นเหนือเข่า คือน่ารักว่ะ ผมชอบลุคนี้ของน้องมากครับ
“ไปมาแล้วค่ะ แล้วนี่พี่กินข้าวหรือยังคะ” สายตาเข้มของเขามองฉัน ทำให้ฉันขยับตัวลุกขึ้นยืนเดินไปที่กระเป๋าที่พี่เอ็มเอาไปวางไว้ที่โต๊ะกินข้าว
“จะออกไปกินข้าวพอดี แล้วนี่ซื้ออะไรมา” ผมลุกขึ้นเดินตามไปยืนคล่อมคนตัวน้อยอยู่ข้างหลังของเธอ
“ข้าวผัดพริกแกงใส่เนื้อกับน้ำขิงค่ะ หนูซื้อมาฝากเผื่อจะแก้อาการแฮงค์ได้” ฉันชูถุงให้พี่เขาดูพร้อมทั้งย่นคอหนีเมื่อพี่เอ็มชะโงกหน้ามาเกยบ่าด้านหลังของฉัน
“กำลังอยากกินพอดี ปะไปกินกัน” ผมชวนพร้อมกับจับมือน้องให้หันมามองหน้ากัน
“ไปไหนคะ” ฉันงงกับท่าทีของพี่เอ็มมาก นี่ฉันซื้อข้าวมาให้เขา เขายังจะไปกินข้างนอกอีกเหรอ
“กินข้าวไง” ผมถือถุงอาหารและจูงมือน้องพาเดินไปยังมุมห้องครัว
“หนูซื้อมาฝากพี่ค่ะ” ฉันยืนมองพี่เอ็มเอาจานและช้อนออกมาจากตู้
“กินด้วยกันไง” ผมบอกทั้งที่ไม่มองหน้าน้องเพราะผมเอาแต่สนใจแกะอาหารใส่จาน
“หนูกินมาแล้ว แล้วก็จะกลับแล้วค่ะ” ฉันบอก เอาจริงๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะขึ้นมาหรอก แค่จะเอาอาหารฝากพี่ประชาสัมพันธ์เอาขึ้นมาให้พี่เอ็ม แต่พี่ รปภ. ไม่ให้เข้า แล้วพี่ผู้จัดการมาเห็นพี่เขาเลยให้ฉันขึ้นมา
“ไม่เอา ยังไม่ให้กลับ” ผมรีบวางทุกอย่างไว้แล้วรีบหันมากอดคนตัวน้อยไว้ กลัวเธอจะหนีกลับห้อง
“หนูเหนื่อยค่ะ อยากพัก” ฉันปล่อยให้พี่เอ็มกอด เพราะถ้าขัดขืนก็เหนื่อยเปล่าๆ ดูท่าทางพี่เอ็มคงไม่ปล่อยฉันแน่
“นอนเล่นที่ห้องพี่ก็ได้” ผมพูดชิดหัวของเธอแล้วอุ้มเธอให้เท้าลอยพาไปนั่งที่โซฟาตัวเดิม
“พี่เอ็ม พี่ไม่กินข้าวเหรอคะถ้าจะกินเดี๋ยวหนูไปเอามาให้ค่ะ” ฉันทำตัวไม่ถูก เมื่อพี่เอ็มวางฉันให้นั่งบนโซฟาแต่พี่เขาก็ยังนั่งกอดฉันอยู่
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่จัดการเอง” ผมจูบแก้มหอมของน้อง แล้วรีบลุกขึ้นเดินไปยังมุมห้องครัวอีกครั้ง
“พี่เอ็มทำกับข้าวกินเองบ่อยเหรอคะ” ฉันชะโงกหน้ามองไปทางพี่เอ็ม ซึ่งพี่เขาถือจานข้าวและแก้วน้ำมาหาฉัน
“ไม่ครับ” ผมนั่งบนพื้นตรงหน้าน้องพร้อมตักข้าวเขาปากเคี้ยวทั้งที่บอกน้อง
“อ้าว แล้วทำไมมีครัวใหญ่จัง” ฉันส่ายหน้าเมื่อพี่เอ็มตักข้าวป้อนฉัน
“มีไว้งั้นแหละ เอาไว้ให้แฟนมาทำกับข้าวให้กิน” ผมหยุดกินข้าวแล้วขึ้นไปนั่งข้างน้อง ที่ผมพูดไปเมื่อครู่นี้ ผมพูดจริง จึงจับน้องให้มามองตากัน อยากให้น้องรู้ว่าผมไม่ได้พูดเล่น
“เหรอคะ” ฉันทำหน้าเฉไฉมองไปรอบๆ ห้องเพื่อหลบสายตาสีเข้ม
“สนใจมาทำกับข้าวให้พี่กินมั้ยครับ” ผมโน้มหน้าเข้าไปถามเธอ จนเราสองคนได้กลิ่นลมหายใจของกันและกัน
“พี่เอ็มกินข้าวไปเลยนะ” ฉันดันหน้าเขาออกห่าง
ยี่สิบนาทีที่ฉันนั่งเงียบมองพี่เอ็มกินข้าว และเสียงวางช้อนลงจานผสมเสียงพี่เอ็มก็พูดขึ้นว่า
“โอ๊ยอิ่มมากเลย”
“หนูล้างให้ค่ะ” ฉันอมยิ้มเล็กน้อยมองพี่เอ็มเอนหลังพิงเบาะโซฟา ดูท่าพี่เขาจะอิ่มจริงๆ
“ขอบคุณครับ” ผมดื่มน้ำแล้วลุกขึ้นเดินตามน้องไปที่อ่างล้างจาน มองน้องพลางดื่มน้ำขิงพลางเมื่อหมดแก้วแล้วก็ยื่นให้น้อง...
ส่วนฉันเอาแก้วมาล้างและจัดการเช็ดจานแก้วแห้งแล้วก็เก็บเข้าตู้แล้วฉันหันไปยิ้มให้พี่เอ็ม
“เสร็จแล้ว งั้นหนูขอตัวนะคะ” ฉันเดินผ่านหน้าพี่เอ็ม
“ไปไหน” ผมเดินตามแล้วรีบคว้าแขนเล็กไว้ ดึงเบาๆจนน้องเซถอยหลังมาปะทะหน้าอกผม
“กลับห้องหนูไงค่ะ” ฉันฝืนตัวออกจากการโอบกอดจากคนด้านหลัง
“ไม่ให้กลับ”
“หนูเหนื่อยค่ะ ว่าจะกลับไปนอนพัก” ฉันย่นคอย่นหน้าหนี เมื่อพี่เอ็มซุกหน้าลงบ่นหัวไหล่ด้านหลังของฉัน
“ก็พี่บอกแล้วไง นอนเล่นที่นี่” ผมพูดพร้อมกับจับน้องให้หันมาแล้วผมก็ย่อตัวอุ้มคนตัวเล็กพาไปยังโซฟาตัวเดิม
ตุบ!..
เป็นเพราะฉันขัดขืนหรือพี่เอ็มตั้งใจก็ไม่รู้ ทำให้ฉันและพี่เอ็มพากันล้มลงไปนอนทับกันบนโซฟา
“พี่เอ็มทำอะไร ปล่อย” ฉันแหวขึ้นมาเมื่อพี่เขายังนอนทับฉันและเหมือนจะโน้มหน้าลงมาจูบฉันอีกด้วย
“อะไร” ผมถาม พร้อมก้มจูบจมูกเล็ก
“หนูจะกลับห้องค่ะ” ฉันดันหน้าพี่เอ็มออกแล้วขยับตัวจะลุก แต่พี่เขากลับอุ้มฉันพาไปนอนเกยอกของพี่เขา ซึ่งพี่เอ็มกึ่งนั่งกึ่งนอนหลังพิงพนักโซฟา
“นอนนี่แหละ พี่อยากนอนกอดเรา” ผมกอดเธอเอาไว้ แล้วก้มจูบหัวของเธอเบาๆ
“ตะ แต่...” ฉันไม่ทันได้พูด พี่เอ็มก็ชิ่งพูดก่อนว่า
“เดี๋ยวตอนค่ำพี่พาไปกินข้าวแล้วจะไปส่ง” ผมดันให้น้องนอนหงายแล้วผมก็ขึ้นคร่อมนอนทับน้องอีกครั้ง
“นอนก็ได้ค่ะ แต่ปล่อยก่อนได้มั้ยหนูอึดอัดค่ะ”
ฉันดันหน้าเขาไว้ เมื่อเห็นว่าเขาไม่มีทางยอมฉันจึงต่อรอง
“ไม่เอา นอนกอดกันอย่างนี้แหละ อบอุ่นดี” ผมส่ายหน้า แล้วโน้มหน้าลงไปจะจูบปากนุ่ม
“พี่เอ็ม” ฉันรีบยกมือปิดปากตัวเอง แล้วขยับหนีนอนหันหลังให้พี่เขา
“เจ้าเล่ห์นะเรา” ผมอมยิ้มให้กับแผ่นหลังบางแล้วขยับเข้าไปนอนกอดคนตัวน้อยซ้อนอยู่ข้างหลังเธอ
“นอนดีๆ ค่ะ” ฉันทำเสียงดุ ทั้งที่ใจเต้นตุบๆ หวาดหวั่นกลัวไปเสียทุกอย่าง ตอนเด็กๆ เคยนอนกอดพ่อพอโตมาอายุสิบเก้าแล้วก็ไม่ได้นอนกอดพ่ออีกเลย นี่เพิ่งจะเป็นครั้งแรกที่ได้นอนกอดกับผู้ชายก็วันนี้แหละ
“ไวน์” ผมเรียก พร้อมจับให้น้องนอนหงายแล้วก็อยากจะหัวเราะออกมาเสียงดังๆ มากเพราะน้องแกล้งหลับ ที่ผมรู้เพราะเปลือกตาและแพขนของน้องยังไหวยุบยิบๆอยู่
“พี่เอ็ม คนฉวยโอกาส” ฉันลืมตาโพรงมองหน้าพี่เอ็ม เมื่อเขาจูบปากของฉัน ซึ่งพี่เขาพยายามใช้ลิ้นชอนไชเข้ามาในปากของฉัน
“นึกว่าหลับแล้ว” ผมยังคงจูบปากอิ่มอยู่อย่างนั้น ลิ้นของผมเข้าไปในโพรงปากหอมคอยเกลี่ยวพันลิ้นเล็กที่หลีกหนี บางทีน้องก็ตะวัดลิ้นหยอกล้อลิ้นของผมด้วย
“หนูหลับแล้วค่ะ” สัมผัสของพี่เอ็มทำให้ฉันสั่นสะท้านเผลอใจคล้อยตาม พี่เขาสอนฉันให้รู้จักจูบซึ่งฉันก็จูบตอบเขาอย่างเงอะงะ…
ผ่านไปหลายชั่วโมง..
ผมนอนมองร่างบางในอ้อมกอดที่กำลังนอนหลับใหล ลมหายใจสม่ำเสมอนั่นทำให้รู้ว่าเธอเข้าสู่นิทราแล้ว ตอนที่เห็นน้องหน้าห้องใจผมเต้นแรงมาก การกระทำที่เอาใจใส่ผมของเธอมันทำให้ผมมั่นใจว่าผมเลือกคนไม่ผิด ความน่ารักและความเป็นธรรมชาติของเธอนั่นยิ่งทำให้ผมหลงรักเธอเข้าไปใหญ่
“เด็กดื้อเอ้ย” ผมพูดคนเดียวพลางโน้มหน้าเข้าไปจูบหน้าผากเนียน
“พี่รักเธอนะ” ความเด๋อด๋าของน้องมันทำให้ผมคลั่งเธอเป็นอย่างมาก อยากจะจับเธอขังไว้ในห้องเก็บน้องไว้คนเดียวไม่แบ่งให้ใครได้มองเลยล่ะ…