บทที่ 11 ซื้อข้าวมาฝากคนขี้เมา

2125 Words
บทที่ 11 ซื้อข้าวมาฝากคนขี้เมา เมื่อเกิดเรื่องที่ห้างฉันก็ไม่มีอารมณ์ที่จะเดินเล่นต่อ จึงขอตัวกลับก่อนซึ่งเพื่อนทั้งสองก็กลับเหมือนกัน แล้วเอวากับนาเดียร์ก็ขับรถมาส่งฉันที่คอนโด เอวาจอดรถข้างทางตรงหน้าคอนโดเธอไม่ยอมลงจากรถ แต่มองฉันที่เปิดประตูลงไป แล้วช่วงที่ฉันกำลังจะลงจากรถเธอก็พูดว่า “เจอกันวันจันทร์นะ” “โอเค” ฉันเดินอ้อมไปยืนตรงฝั่งที่เอวานั่งขับรถ “แล้วนี่จะไปหาพี่เอ็มใช่ปะ” นาเดียร์ที่นั่งอยู่เบาะหลังเปิดประตูรถ ลงจากรถไปนั่งที่เดิมของฉันด้านหน้าตรงข้ามเอวา “ใช่” ฉันชูถุงอาหารในมือให้เพื่อนดูแค่นี้เพื่อนก็รู้แล้วว่าฉันไปหาพี่เอ็มเพื่อนำข้าวไปให้เขา “มีส่งข้าวส่งน้ำกันแล้วเหรอ” เอวาพูดกับฉันแต่หันไปหัวเราะคิกคักกับนาเดียร์ “นั่นสิ อย่างนี้เรียกว่าแฟนได้หรือยังนะ” นาเดียร์ก็พูด แล้วหัวเราะกับเอวา “บ้า แฟนเฟินอะไร มั่วละ” ฉันว่าเพื่อนทั้งสอง รู้ว่าพวกมันล้อเล่นฉันถึงไม่โกรธพวกมันไง “จริงอะ” นาเดียร์ทำหน้าทะเล้นใส่ฉัน “ไม่อยากคุยกับพวกแกแล้ว นี่พวกแกไปได้แล้ว” ฉันยิ้มอายจนหน้าแดงเลยล่ะ มือก็ยกขึ้นลูบหน้าร้อนผ่าว “เคๆ งั้นพวกฉันไปก่อนนะ” เอวาบอกพร้อมกับขับรถออกไป “บาย” ส่วนฉันยกมือขึ้นบ้ายบายเพื่อน เมื่อเพื่อนเปิดกระจกลงแล้วโบกมือให้ฉันตอบ… ที่หน้าคอนโดพี่เอ็ม.. “อุ๊ย ! พี่ชายคะหลีกทางด้วยค่ะ” ฉันหยุดเดินแล้วเงยหน้ามองพี่ รปภ. “พักที่นี่เหรอครับ” พี่ รปภ.ถาม “เปล่าค่ะ ฉัน..” ฉันยังไม่ทันได้บอกพี่ รปภ. ‘ว่ามาหาคุณธีรเดชค่ะ’ พี่ รปภ. ก็พูดแทรกขึ้นว่า “ไม่ได้พักที่นี่ห้ามเข้านะครับ” “ฉันมาหา..” ฉันไม่ได้บอกเหตุผลกับพี่ รปภ. ก็มีเสียงของผู้ชายอีกคนดังขึ้น ซึ่งดูการแต่งตัวใส่สูทมีป้ายชื่อติดที่หน้าอกก็พอให้ฉันรู้เลยว่า พี่ชายคนนี้เป็นผู้จัดการของที่นี่แน่ “อ้าวน้อง นี่มาหาคุณธีรเดชเหรอครับ” “ค่ะ” ฉันยกมือไหว้พี่เขา “งั้นตามพี่มา” “ขอบคุณพี่ชายมากนะคะ ครั้งหน้าถ้าฉันมาหาพี่เอ็มจะโทรบอกพี่เอ็มให้ลงมารับค่ะ” ฉันเดินตามพี่ผู้จัดการไปที่หน้าลิฟท์ “เชิญครับ” “ค่ะ” ก่อนที่ฉันจะเข้าไปในลิฟท์ฉันก็ยกมือไหว้ขอบคุณพี่เขาอีกครั้ง แล้วลิฟท์ก็เคลื่อนตัวลอยขึ้นไปยังชั้นยี่สิบเอ็ดและเมื่อลิฟท์เปิดฉันก็ก้าวขาออกมายืนตรงหน้าห้องของพี่เอ็ม ติ๊งหน่องๆ.. “พี่เอ็มตื่นหรือยังนะ” ฉันกดกริ่งพร้อมกับพูดคนเดียวอยู่ตรงหน้าห้อง แอ๊ดด!!.. เมื่อเสียงประตูห้องเปิดออกฉันก็ชะโงกหน้าเข้าไปมอง เห็นเจ้าของห้องเองก็ชะโงกหน้ามามองฉันเหมือนกัน ซึ่งเจ้าของห้องอยู่ในชุดไปรเวทธรรมดา เหมือนเขาจะออกไปข้างนอก “ขึ้นมาได้ไงครับ” ผมทำหน้างงเมื่อเห็นคนตรงหน้า แล้วผมก็รีบดึงเธอเข้ามาในห้อง “หนูคิดว่าเป็นพี่ผู้จัดการค่ะ ที่ให้หนูขึ้นมาหาพี่ได้” ฉันบอกลักษณะของพี่คนนั้นให้พี่เอ็มทราบ “คุณบอย” ผมบอกน้องแล้วพาเธอไปนั่งที่โซฟาตัวใหญ่กลางห้องนั่งเล่น ส่วนผมก็นั่งลงพื้นชันเข่าข้างหนึ่งตรงหน้าเธอ “หนูมากวนพี่หรือเปล่าคะ” ฉันนั่งตัวตรงเอาหมอนมาวางไว้ที่ตัก ไม่กล้ามองไปทางไหนนอกจากมองไปข้างหน้า “ไม่ๆ” ผมปฏิเสธพร้อมยื่นมือไปจับมือน้องมาดม “เห็นพี่แต่งตัวแบบนี้ นึกว่าจะออกไปข้างนอก” ฉันเขินมาก จึงยกมือจับผมยาวเหน็บหู แล้วแกล้งหันไปมองทางอื่นที่ไม่ใช่ตรงหน้าเขา “เปล่า แล้วนี่เราบอกว่าจะไปห้างกับเพื่อนไม่ใช่เหรอ” ผมยิ้มมุมปาก มองน้องที่ใส่ชุดแมทช์เสื้อยืดสีขาวกระโปรงเอวยาวสีดำสั้นเหนือเข่า คือน่ารักว่ะ ผมชอบลุคนี้ของน้องมากครับ “ไปมาแล้วค่ะ แล้วนี่พี่กินข้าวหรือยังคะ” สายตาเข้มของเขามองฉัน ทำให้ฉันขยับตัวลุกขึ้นยืนเดินไปที่กระเป๋าที่พี่เอ็มเอาไปวางไว้ที่โต๊ะกินข้าว “จะออกไปกินข้าวพอดี แล้วนี่ซื้ออะไรมา” ผมลุกขึ้นเดินตามไปยืนคล่อมคนตัวน้อยอยู่ข้างหลังของเธอ “ข้าวผัดพริกแกงใส่เนื้อกับน้ำขิงค่ะ หนูซื้อมาฝากเผื่อจะแก้อาการแฮงค์ได้” ฉันชูถุงให้พี่เขาดูพร้อมทั้งย่นคอหนีเมื่อพี่เอ็มชะโงกหน้ามาเกยบ่าด้านหลังของฉัน “กำลังอยากกินพอดี ปะไปกินกัน” ผมชวนพร้อมกับจับมือน้องให้หันมามองหน้ากัน “ไปไหนคะ” ฉันงงกับท่าทีของพี่เอ็มมาก นี่ฉันซื้อข้าวมาให้เขา เขายังจะไปกินข้างนอกอีกเหรอ “กินข้าวไง” ผมถือถุงอาหารและจูงมือน้องพาเดินไปยังมุมห้องครัว “หนูซื้อมาฝากพี่ค่ะ” ฉันยืนมองพี่เอ็มเอาจานและช้อนออกมาจากตู้ “กินด้วยกันไง” ผมบอกทั้งที่ไม่มองหน้าน้องเพราะผมเอาแต่สนใจแกะอาหารใส่จาน “หนูกินมาแล้ว แล้วก็จะกลับแล้วค่ะ” ฉันบอก เอาจริงๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะขึ้นมาหรอก แค่จะเอาอาหารฝากพี่ประชาสัมพันธ์เอาขึ้นมาให้พี่เอ็ม แต่พี่ รปภ. ไม่ให้เข้า แล้วพี่ผู้จัดการมาเห็นพี่เขาเลยให้ฉันขึ้นมา “ไม่เอา ยังไม่ให้กลับ” ผมรีบวางทุกอย่างไว้แล้วรีบหันมากอดคนตัวน้อยไว้ กลัวเธอจะหนีกลับห้อง “หนูเหนื่อยค่ะ อยากพัก” ฉันปล่อยให้พี่เอ็มกอด เพราะถ้าขัดขืนก็เหนื่อยเปล่าๆ ดูท่าทางพี่เอ็มคงไม่ปล่อยฉันแน่ “นอนเล่นที่ห้องพี่ก็ได้” ผมพูดชิดหัวของเธอแล้วอุ้มเธอให้เท้าลอยพาไปนั่งที่โซฟาตัวเดิม “พี่เอ็ม พี่ไม่กินข้าวเหรอคะถ้าจะกินเดี๋ยวหนูไปเอามาให้ค่ะ” ฉันทำตัวไม่ถูก เมื่อพี่เอ็มวางฉันให้นั่งบนโซฟาแต่พี่เขาก็ยังนั่งกอดฉันอยู่ “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่จัดการเอง” ผมจูบแก้มหอมของน้อง แล้วรีบลุกขึ้นเดินไปยังมุมห้องครัวอีกครั้ง “พี่เอ็มทำกับข้าวกินเองบ่อยเหรอคะ” ฉันชะโงกหน้ามองไปทางพี่เอ็ม ซึ่งพี่เขาถือจานข้าวและแก้วน้ำมาหาฉัน “ไม่ครับ” ผมนั่งบนพื้นตรงหน้าน้องพร้อมตักข้าวเขาปากเคี้ยวทั้งที่บอกน้อง “อ้าว แล้วทำไมมีครัวใหญ่จัง” ฉันส่ายหน้าเมื่อพี่เอ็มตักข้าวป้อนฉัน “มีไว้งั้นแหละ เอาไว้ให้แฟนมาทำกับข้าวให้กิน” ผมหยุดกินข้าวแล้วขึ้นไปนั่งข้างน้อง ที่ผมพูดไปเมื่อครู่นี้ ผมพูดจริง จึงจับน้องให้มามองตากัน อยากให้น้องรู้ว่าผมไม่ได้พูดเล่น “เหรอคะ” ฉันทำหน้าเฉไฉมองไปรอบๆ ห้องเพื่อหลบสายตาสีเข้ม “สนใจมาทำกับข้าวให้พี่กินมั้ยครับ” ผมโน้มหน้าเข้าไปถามเธอ จนเราสองคนได้กลิ่นลมหายใจของกันและกัน “พี่เอ็มกินข้าวไปเลยนะ” ฉันดันหน้าเขาออกห่าง ยี่สิบนาทีที่ฉันนั่งเงียบมองพี่เอ็มกินข้าว และเสียงวางช้อนลงจานผสมเสียงพี่เอ็มก็พูดขึ้นว่า “โอ๊ยอิ่มมากเลย” “หนูล้างให้ค่ะ” ฉันอมยิ้มเล็กน้อยมองพี่เอ็มเอนหลังพิงเบาะโซฟา ดูท่าพี่เขาจะอิ่มจริงๆ “ขอบคุณครับ” ผมดื่มน้ำแล้วลุกขึ้นเดินตามน้องไปที่อ่างล้างจาน มองน้องพลางดื่มน้ำขิงพลางเมื่อหมดแก้วแล้วก็ยื่นให้น้อง... ส่วนฉันเอาแก้วมาล้างและจัดการเช็ดจานแก้วแห้งแล้วก็เก็บเข้าตู้แล้วฉันหันไปยิ้มให้พี่เอ็ม “เสร็จแล้ว งั้นหนูขอตัวนะคะ” ฉันเดินผ่านหน้าพี่เอ็ม “ไปไหน” ผมเดินตามแล้วรีบคว้าแขนเล็กไว้ ดึงเบาๆจนน้องเซถอยหลังมาปะทะหน้าอกผม “กลับห้องหนูไงค่ะ” ฉันฝืนตัวออกจากการโอบกอดจากคนด้านหลัง “ไม่ให้กลับ” “หนูเหนื่อยค่ะ ว่าจะกลับไปนอนพัก” ฉันย่นคอย่นหน้าหนี เมื่อพี่เอ็มซุกหน้าลงบ่นหัวไหล่ด้านหลังของฉัน “ก็พี่บอกแล้วไง นอนเล่นที่นี่” ผมพูดพร้อมกับจับน้องให้หันมาแล้วผมก็ย่อตัวอุ้มคนตัวเล็กพาไปยังโซฟาตัวเดิม ตุบ!.. เป็นเพราะฉันขัดขืนหรือพี่เอ็มตั้งใจก็ไม่รู้ ทำให้ฉันและพี่เอ็มพากันล้มลงไปนอนทับกันบนโซฟา “พี่เอ็มทำอะไร ปล่อย” ฉันแหวขึ้นมาเมื่อพี่เขายังนอนทับฉันและเหมือนจะโน้มหน้าลงมาจูบฉันอีกด้วย “อะไร” ผมถาม พร้อมก้มจูบจมูกเล็ก “หนูจะกลับห้องค่ะ” ฉันดันหน้าพี่เอ็มออกแล้วขยับตัวจะลุก แต่พี่เขากลับอุ้มฉันพาไปนอนเกยอกของพี่เขา ซึ่งพี่เอ็มกึ่งนั่งกึ่งนอนหลังพิงพนักโซฟา “นอนนี่แหละ พี่อยากนอนกอดเรา” ผมกอดเธอเอาไว้ แล้วก้มจูบหัวของเธอเบาๆ “ตะ แต่...” ฉันไม่ทันได้พูด พี่เอ็มก็ชิ่งพูดก่อนว่า “เดี๋ยวตอนค่ำพี่พาไปกินข้าวแล้วจะไปส่ง” ผมดันให้น้องนอนหงายแล้วผมก็ขึ้นคร่อมนอนทับน้องอีกครั้ง “นอนก็ได้ค่ะ แต่ปล่อยก่อนได้มั้ยหนูอึดอัดค่ะ” ฉันดันหน้าเขาไว้ เมื่อเห็นว่าเขาไม่มีทางยอมฉันจึงต่อรอง “ไม่เอา นอนกอดกันอย่างนี้แหละ อบอุ่นดี” ผมส่ายหน้า แล้วโน้มหน้าลงไปจะจูบปากนุ่ม “พี่เอ็ม” ฉันรีบยกมือปิดปากตัวเอง แล้วขยับหนีนอนหันหลังให้พี่เขา “เจ้าเล่ห์นะเรา” ผมอมยิ้มให้กับแผ่นหลังบางแล้วขยับเข้าไปนอนกอดคนตัวน้อยซ้อนอยู่ข้างหลังเธอ “นอนดีๆ ค่ะ” ฉันทำเสียงดุ ทั้งที่ใจเต้นตุบๆ หวาดหวั่นกลัวไปเสียทุกอย่าง ตอนเด็กๆ เคยนอนกอดพ่อพอโตมาอายุสิบเก้าแล้วก็ไม่ได้นอนกอดพ่ออีกเลย นี่เพิ่งจะเป็นครั้งแรกที่ได้นอนกอดกับผู้ชายก็วันนี้แหละ “ไวน์” ผมเรียก พร้อมจับให้น้องนอนหงายแล้วก็อยากจะหัวเราะออกมาเสียงดังๆ มากเพราะน้องแกล้งหลับ ที่ผมรู้เพราะเปลือกตาและแพขนของน้องยังไหวยุบยิบๆอยู่ “พี่เอ็ม คนฉวยโอกาส” ฉันลืมตาโพรงมองหน้าพี่เอ็ม เมื่อเขาจูบปากของฉัน ซึ่งพี่เขาพยายามใช้ลิ้นชอนไชเข้ามาในปากของฉัน “นึกว่าหลับแล้ว” ผมยังคงจูบปากอิ่มอยู่อย่างนั้น ลิ้นของผมเข้าไปในโพรงปากหอมคอยเกลี่ยวพันลิ้นเล็กที่หลีกหนี บางทีน้องก็ตะวัดลิ้นหยอกล้อลิ้นของผมด้วย “หนูหลับแล้วค่ะ” สัมผัสของพี่เอ็มทำให้ฉันสั่นสะท้านเผลอใจคล้อยตาม พี่เขาสอนฉันให้รู้จักจูบซึ่งฉันก็จูบตอบเขาอย่างเงอะงะ… ผ่านไปหลายชั่วโมง.. ผมนอนมองร่างบางในอ้อมกอดที่กำลังนอนหลับใหล ลมหายใจสม่ำเสมอนั่นทำให้รู้ว่าเธอเข้าสู่นิทราแล้ว ตอนที่เห็นน้องหน้าห้องใจผมเต้นแรงมาก การกระทำที่เอาใจใส่ผมของเธอมันทำให้ผมมั่นใจว่าผมเลือกคนไม่ผิด ความน่ารักและความเป็นธรรมชาติของเธอนั่นยิ่งทำให้ผมหลงรักเธอเข้าไปใหญ่ “เด็กดื้อเอ้ย” ผมพูดคนเดียวพลางโน้มหน้าเข้าไปจูบหน้าผากเนียน “พี่รักเธอนะ” ความเด๋อด๋าของน้องมันทำให้ผมคลั่งเธอเป็นอย่างมาก อยากจะจับเธอขังไว้ในห้องเก็บน้องไว้คนเดียวไม่แบ่งให้ใครได้มองเลยล่ะ…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD