บทที่ 9
ห้ามยุ่งกับคนของผม
เช้าวันใหม่เวลาแปดโมงเช้า..
ผมไปหาไวโอลินที่ห้อง เมื่อเห็นสภาพใบหน้าของเธอแล้วยิ่งทำให้ผมโกรธคนทำมากขึ้นไปอีก เธอบอกผมว่าวันนี้จะไม่เข้าไปทำกิจกรรมที่คณะ ซึ่งผมก็บอกให้เธอพักผ่อนให้หน้าหายบวมปากหายดีแล้วค่อยไปเรียนก็แล้วกัน
“เดี๋ยวพี่จะบอกไอ้ราชาให้นะ” ผมบอกแล้วก้าวเข้าไปในห้อง วันนี้น้องไม่ห้ามและยังเป็นคนเปิดประตูกว้างเชิญให้ผมเข้าไปในห้อง
“ขอบคุณพี่เอ็มมากค่ะ” ฉันปิดประตูแล้วเดินตามพี่เอ็มไปนั่งที่โซฟาพร้อมกับอุ้มเจ้าถั่วพูให้มานอนบนตัก
“นี่ข้าวต้มปลาพี่ซื้อมาฝาก กินซะนะจะได้กินยา” ผมเมินหน้าหนี ไม่อยากมองรอยเขียวช้ำบนใบหน้าของน้อง ผมเจ็บนะ เจ็บยิ่งกว่าเธอเสียอีก
“ค่ะ” ฉันยิ้มให้พี่เอ็มอย่างไม่เต็มปากเพราะเจ็บริมฝีปากมาก
“ตอนเย็นๆ พี่จะมาหานะ อยากได้อะไรไหม” ผมอดใจไม่ไหวเดินไปนั่งข้างน้อง จับให้เธอหันหน้ามามองกันแล้วสำรวจดูหน้าบวมเขียวช้ำนั้นของเธอ
“ไม่ค่ะ พี่เอ็มไปเถอะค่ะ” ฉันเจ็บแต่ก็ฝืนยิ้มให้พี่เอ็ม
“งั้นพี่ไปนะ” เวลาช่างไม่เป็นใจเอาเสียเลยเมื่อผมมองนาฬิกาบนข้อมือ ใช่ผมต้องไปแล้วเพราะวันนี้ที่คณะมีประชุมใหญ่ด้วย
“ค่ะ” ฉันพยักหน้าให้พี่เอ็มพร้อมกับลุกขึ้นยืนเมื่อพี่เขายืน แล้วปล่อยให้เขาจูงมือเดินไปที่ประตู
“ตอนเที่ยงพี่จะโทรหานะ” ผมก็ดึงน้องให้เข้ามาหาแล้วผมก็จูบแก้มบวมของน้องเบาๆ เพื่อปลอบขวัญ
“พี่เอ็มอย่าค่ะ อายบ้างสิคะ” ฉันร้องประท้วงอยู่ในลำคอ เมื่อพี่เอ็มจูบริมฝีปากของฉัน ฉันเขินมากเมื่อคนข้างห้องเดินผ่านจึงทำให้ฉันดันพี่เอ็มออกห่าง
“พี่ไปนะ” ผมมองคนที่เดินผ่านแล้วหันมามองน้องน้อยที่ยืนก้มหน้าตัวสั่น
“ไปได้แล้ว” ฉันไม่รอฟังคำพูดของพี่เขา รีบปิดประตูใส่หน้าพี่เอ็ม แล้วรีบเดินไปนั่งด้วยใบหน้าแดงที่เขินอายอยู่บนโซฟา...
เมื่อออกเดินจากห้องพักของไวโอลินมาแล้วผมก็เดินไปขึ้นรถของผมเองเพื่อที่จะขับออกไป และช่วงเวลาขับรถออกจากคอนโดผมก็โทรหาไอ้ราชาทันที
ตู้ด ตู้ด..
“เออ ว่า”
“กูกำลังเข้าไป” เมื่อไอ้ราชารับสายผมก็บอกไปตามปลายสาย
“ไอ้เหี้ย กูนึกว่ามึงจะปลอบน้องไวน์เพลินจนไม่มาแล้วสิ” แต่เสียงตอบกลับมาคือเสียงตะโกนจากไอ้พาส
“เอาตีนยัดปากมันดิ” ผมพูดอย่างหงุดหงิดที่มันพูดให้น้องเสียหาย
“เออ กูรออยู่ห้องประชุม” ไอ้ราชาตอบกลับมาแล้วผมก็วางสายทันที…
ย้อนไปเมื่อวาน...
ผมอยู่ในห้องประชุมซึ่งในห้องมีพ่อของผมนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ ใช่ ! มหาลัยนี้คือของผม ที่บ้านผมทำธุรกิจหลายทางมีทั้งคอนโด โรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ
ตอนที่ไอ้พาสโทรมาบอกว่าไวโอลินมีเรื่องผมก็รีบลุกขึ้น และกำลังจะวิ่งออกจากห้องประชุมของมหาลัยไป แต่ก็ต้องหยุดเมื่อเสียงของพ่อดังขึ้น
“เอ็ม นั่นแกจะไปไหน?”
“พ่อครับ เดี๋ยวผมกลับมานะครับ” ผมบอกพ่อที่มีตำแหน่งเป็นถึงประธานใหญ่ของมหาลัยแล้วรีบวิ่งออกจากห้องประชุมไปในทันที
ตอนไปถึงผมเห็นหน้าไวโอลินแล้วรู้สึกโกรธไอ้อีคนที่ทำร้ายน้องมาก ไหนน้องยังมาบอกผมว่าให้เลิกยุ่งกับเธออีกในใจของผมแทบสลาย แต่ผมก็ไม่มีสิทธิ์โกรธเธอเพราะสาเหตุที่ทำให้เธอเจ็บตัวมันคือผม..
ปัจจุบัน..
ผมขับรถเข้าไปในมหาลัยและจอดรถตรงที่จอดรถส่วนบุคคลที่เจ้าของมหาลัยเท่านั้นที่จอดได้ แล้วผมก็รีบร้อนลงจากรถ เดินตรงไปยังห้องประชุมที่นัดไว้กับพวกเพื่อนๆ..
ปัง!..ผมถีบประตูห้องประชุมของคณะไอ้ราชาอย่างแรงจนมันเปิดออก ก็เห็นไอ้ราชาและไอ้พาสที่นั่งเล่นเกมส์อยู่
“ไอ้สัส ถ้ามันพังกูจะให้มึงสร้างห้องประชุมให้ใหม่นะโว้ย” ไอ้ราชาหันมามองผมอย่างเคืองๆ ห้องประชุมนี้เป็นของประธานคณะสถาปัตย์ ซึ่งก็คือไอ้ราชานั่นแหละ
“กูสร้างให้สิบห้องเลย” ผมบอกมัน แค่นี้ไม่ทำให้ขนหน้าแข้งผมร่วงหรอก แยกห้องนี้ให้เป็นห้องพักส่วนตัวของพวกมันยังได้เลย
“พูดแล้วนะ สัส” ไอ้พาสต้าพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น ไอ้ห่านี้คงคิดภาพในหัวแล้วล่ะว่าจะเอาแบบไหน
“ไม่ทำให้ห้องประชุมเป็นอ่างก็พอ” ไอ้ไทม์ที่เดินตามผมมาพูดขึ้น
“ไอ้ห่าไทม์” ไอ้พาสต้ายกเท้าใส่ไอ้ไทม์ ซึ่งไอ้ไทม์คงรู้ความคิดของไอ้พาสต้าเหมือนที่ผมรู้นั่นแหละ
“ทำไม กูรู้ทันมึงเหรอไอ้เพื่อนรัก” ไอ้ไทม์จับขาไอ้พาสต้า เอาไว้แล้วกระโดดกอดคอไอ้พาสต้า
“เออ ถ้ากูสร้างขึ้นมาจริงๆ อย่ามาใกล้นะเว้ย” ไอ้พาสต้าบอกไอ้ไทม์
“เห้ย ได้ไง ไปไหนไปกันดิวะ” ไอ้ไทม์ทำท่าไม่ยอม
“พอๆ เลยพวกมึงในสมองมีแต่หญิงนะ” ผมยกมือห้ามเพื่อน ส่ายหน้าให้พวกมันอย่างเอือมๆ นี่หากใครมาได้ยินและเห็นคงคิดว่าแก๊งของผมบ้าผู้หญิงเป็นแน่
“ไอ้เอ็ม มึงดูโน่น” ไอ้ราชาพยักหน้าให้ผมดู
“จัดการเองละกัน” อิงฟ้าผลักเธอทั้งสามเข้ามาแล้วเธอก็ขอตัวกลับไปทำกิจกรรมต่อ
“ไง !” ผมเลิกสนใจเพื่อนแล้วหันไปหาสามคนที่พากันยืนกอดกันตัวสั่นอยู่กลางห้อง
“อะ เอ็ม” ทั้งสามคนเอ่ยชื่อผมพร้อมกัน เสียงสั่นตัวสั่นเลยนะกลัวละสิ ทีทำคนอื่นไม่เห็นกลัวเลย
“โห น้องอิงฟ้านี่โหดใช้ได้” ไอ้ไทม์พูดขึ้น
“ไม่โหดจะเอาเสือราชาอยู่เหรอวะ” ไอ้พาสต้าพยักหน้าไปทางไอ้ชารา
“ยัยนั่นน่ะ นังปีศาจชัดๆ” ไอ้ราชาพูดถึงแฟนของมันพร้อมหัวเราะหึ ๆ
“ปีศาจน้อยที่ทำให้เสือราชากลายเป็นแมวเหรอวะ” ไอ้ไทม์ว่าอย่างกวนตีน
“เชี่ย” ไอ้ราชายกตีนใส่ไอ้ไทม์
และพวกมันต่างก็หยุดเถียงกัน เมื่อผมเอ่ยเสียงใหญ่เหมือนสิงโตดุร้ายถามเธอทั้งสามโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยว่า
“พวกเธอทำอะไร”
“..” เงียบไม่มีคำตอบจากพวกเธอทั้งสามคน
“ถามว่าพวกเธอทำอะไร ทำไมไม่พูด” ผมเก็บอารมณ์ขุ่นโกรธเอาไว้สุดๆ ทั้งที่ตอนนี้แทบจะกระโจนเข้าไปฉีกพวกเธอให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้ว
“ตอบดิวะ” ไอ้ราชาตะโกนขึ้นมาอย่างหงุดหงิด
“..” ผมจ้องหน้าพวกเธอทั้งสาม ผมไม่สนว่าพวกเธอจะคิดว่าพวกผมหน้าตัวเมียรังแกผู้หญิง แต่พวกนี้มันรนหาที่เอง สมควรเจอมากกว่าที่พวกเธอทำกับไวโอลินด้วยซ้ำ
“คะ คือ ระ เราขอโทษ” เพื่อนของโรสยกมือไหว้ขอโทษผม
“หึ ! ฉันไม่ใช่คนที่พวกเธอต้องมาขอโทษ” ผมบอกไปเสียงเย็นเมื่อนึกถึงใบหน้าสวยๆ ของไวโอลินที่มีแผล แล้วแม่ง! ผมอยากจะชกหน้าพวกเธอให้เละเหมือนหน้าน้องเหลือเกิน
“จะให้เราไปขอโทษเด็กนั่นเหรอ ไม่มีทาง” โรสพูดพร้อมเชิดหน้าคอตั้ง สำหรับผมการกระทำแบบนี้มันเหมือนเป็นการท้าทายและยังคงไม่สำนึกผิด
“หึ ! เธอน่าจะรู้จักฉันดีนะโรส ไม่สิพวกเธอน่าจะรู้ว่าฉันทำอะไรได้บ้าง ทำให้พวกเธอหายไปตอนนี้เลยก็ยังได้” ผมขู่พวกเธอไป แต่ไม่ได้หวังว่าจะให้พวกเธอไปขอโทษน้องหรอกเพราะว่าคนพวกนี้ไม่สมควรจะไปเจอน้องด้วยซ้ำ
“มะ ไม่ได้นะ” โรสตะคอกใส่ผม ซึ่งเธอไม่ได้เกรงกลัวและมีความสำนึกผิดเลยแม้แต่น้อย
“ทำไมจะไม่ได้” ผมจ้องหน้าเธอตาลุกวาว
“เอ็มก็รู้ว่าพ่อโรสเป็นใคร” โรสเชิดหน้ายิ้มเยาะเมื่อเอ่ยถึงพ่อ
“รู้เอาไว้นะโรส พ่อเธอไม่มีผลต่อฉันเลยสักนิด” ผมกระตุกยิ้มเมื่อนึกถึงไอ้แก่กระจอกจอมขี้โกงคนนั้น
“แล้วเอ็มจะเอายังไง” โรสถาม
“เธอไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องคนของฉันโรส” ผมชี้หน้าพวกเธอทั้งสาม
“แต่เอ็มก็รู้ว่าโรสชอบเอ็ม”
“..” ผมไม่ตอบโต้แต่ยกมือห้าม เพราะไม่ต้องการฟังคำพูดที่เห็นแก่ตัว และผมก็งงมากกับตรรกะของผู้หญิงแบบนี้ เอาเหตุผลที่ว่าชอบผมไปตบคนอื่นได้ด้วยเหรอ มันใช่เหรอวะ
“โรสชอบเอ็มจริงๆนะ” เธอบอกผมโดยไม่อายเลย หน้าด้านสุดๆ
“แต่ฉันไม่ได้ชอบเธอ” ผมมองหน้าเธออย่างเย็นชา
ผมกับโรสรู้จักกันตอนที่ไปประกวดดาวเดือนตอนปีหนึ่ง ซึ่งทุกคนก็เป็นเพื่อนที่ดีของผม แต่กับเธอ เธอเข้ามาทำดีกับผมตลอดนั่นทำให้ผมรู้ว่าเธอคิดอะไร แต่ก็พยายามรักษาระยะห่าง เพราะพ่อของเธอกับพ่อของผมรู้จักกันด้วยจึงไม่อยากทำลายน้ำใจของเธอ แต่ผมก็ชัดเจนทุกอย่างนะว่าไม่ได้รักหรือชอบเธอในฐานะแฟน ผมย้ำเสมอว่าเราคือเพื่อนกัน
“ทำไมเอ็มไม่มองเราบ้าง” เธอร้องไห้
“หึ !” ผมหัวเราะในลำคอ นี่ถ้าเป็นคนอื่นคงสงสารไปแล้วแต่กับผม ไม่! เพราะเธอมันน่ารังเกียจที่มาแตะต้องคนที่ไม่ควรแตะ ภาพของน้องที่ร้องไห้และแผลบนร่างกายของน้องไม่ควรจะมีด้วยซ้ำ
“อีเด็กนั่นมันมีดีอะไร เรามาก่อนด้วยซ้ำทำไม...เอ็ม มะ อึก !” โรสไม่ทันได้พูดจบประโยค คำว่าอีที่เธอเรียกไวโอลินนั่นมันทำให้สติผมขาดสะบั้น ผมตรงเข้าไปยืนใกล้เธอพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างคว้าคอระหงมากำไว้อย่างแรง
“อะ เอ็ม ปล่อยโรส” เพื่อนของเธอก็พยายามเข้ามาช่วย
“เงียบ ถ้าไม่อยากตาย !” ผมหันไปตวาดใส่พวกเธอ
“อะ เอ็ม ปละ ปล่อย ระ โรส หายใจไม่ออก !” เสียงอึกอักหน้าตาแดงก่ำดวงตาเหลือกโพรงออกนอกเบ้า ทำให้ผมปลอยมือจากคอระหง
“เธอไม่มีสิทธิ์มาเรียกจิกคนของฉันอย่างนั้น !” ผมบอกพร้อมเหวี่ยงเธอจนเธอเซล้มลงไปกองบนพื้น
โรสถูกเพื่อนช่วยพยุงให้ลุกขึ้นยืน ซึ่งเมื่อเธอยืนได้ด้วยตัวเองแล้วก็สะบัดเพื่อนออกแล้วเดินตรงมาหาผม พร้อมเชิดหน้าถามผมว่า
“ทำไมเอ็มทำอย่างนี้ เรารักเอ็มนะ”
“แต่ฉันไม่ได้รักเธอ !” ผมกัดฟันพูดใส่หน้าเธอเสียงดุดัน
“อึก ทำไมเอ็มใจร้ายจัง”
“แม่งเอ้ย นี่เธอปัญญาอ่อนหรือเปล่า ฉันพูดขนาดนี้แล้วนะ” ตอนนี้ผมโคตรจะหงุดหงิดเลยที่ดูเหมือนเธอจะพูดไม่รู้เรื่อง
“แม่งมึนว่ะ” ไอ้พาสต้าที่นั่งเล่นเกมส์อยู่เงยหน้าขึ้นมาพูด ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับมัน แม่งมึนจริงๆ ผู้หญิงคนนี้
“ยิงทิ้งเลยมะ” ไอ้ไทม์ที่นั่งดูอยู่ก็พูดขึ้นบ้าง พร้อมกับหยิบปืนกระจอกปลอมๆ มาวางไว้บนโต๊ะ
“หึ ๆ” ผมหัวเราะในลำคอ ไอ้ห่านี้ชอบเล่นบทขู่แต่ความจริงแล้วไอ้บ้านี่มันกลัวปืนจริงจะตายไป
“อะ เอ็มอย่าทำอะไรบ้าๆ นะ” โรสหวาดกลัวมองไอ้ไทม์ ซึ่งไอ้บ้านั่นก็แกล้งเล็งปืนไปทางเธอ
“แค่ไล่ออกก็พอ” ผมพูดเสียงแข็ง
“เห้ย มึงเป็นใคร ใหญ่เหรอถึงเอาใครออกก็ได้” ไอ้พาสต้ามันพูดประชด เพราะความจริงผมก็ไม่มีสิทธิ์เอาใครออกได้หรอก ถึงจะเป็นลูกชายคนเดียวของท่านประธานของมหาลัยก็ตาม
“แปลกๆ นะมึงน่ะ” ไอ้ไทม์ก็มองผมอย่างล้อเล่น
“ปกติไม่ใจดีแบบนี้นี่นา” ไอ้ราชาเองก็เช่นกัน
“หึ ! กูไม่ได้ใจดีแต่การฆ่ามันตายเร็วไป ให้ออกไปรับความจริงว่าตอนนี้ตัวเองกำลังจะหมดตัวเพราะครอบครัวถูกฟ้องล้มละลายมันสะใจกว่าเยอะ” ผมหันไปคุยกับเพื่อน
“เอ็มพูดแบบนี้หมายความว่าไง” โรสถามและทำหน้าตาเลิ่กลั่ก หวาดหวั่นกลัวว่าเพื่อนสองคนที่ยืนฟังอยู่จะรู้ความจริงว่าในเวลานี้ครอบครัวของเธอไม่ได้รวยอย่างที่ทุกคนเข้าใจแล้ว…