ตอนที่ 2 รักษาสิทธิ์ (6)

1320 Words
“ทำไมกลับเร็วนักล่ะคะ น้องเจนยังคุยกับป้าภาสนุกๆ อยู่เลย” น้องเจนสนุกคนเดียวหรือเปล่าลูก คุณจิรัชบ่นในใจ “น้องเจนเล่าเรื่องรุ่นพี่ให้ป้าภาฟัง คนที่เขาชวนน้องเจนอยู่ทำงานหลังเรียนจบ แต่น้องเจนปฏิเสธ เลือกกลับไทยมาหาพี่นัย” แก้มหล่อนเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อได้สบตาคู่หมั้นหนุ่ม เขาหล่อหล่อนสวย เขารวยหล่อนรวย เขาเรียนจบเมืองนอกหล่อนเรียนจบเมืองนอก เขามีบริษัทใหญ่โตพ่อเจนจิราก็มีบริษัทใหญ่โต ทั้งเขาและหล่อนยังเป็นลูกคนเดียว ผู้มีสิทธิ์สืบทอดทรัพย์สมบัติทั้งหมด ไม่มีคุณสมบัติข้อไหน ที่เจนจิรากับภารนัยไม่เหมาะสมกัน “วันหลังค่อยมาใหม่นะลูก ให้ป้าภาพักผ่อน” ลูกสาวหน้างอคอหักหนักกว่าเดิม ดื้ออยากอยู่บ้านภารนัยนานๆ คุณจิรัชกดน้ำหนักมือบนไหล่ลูกเตือนให้ทำตัวดีๆ อย่าไม่น่ารักต่อหน้าว่าที่แม่สามีในอนาคต “ลูกสาวผมดื้อนิดหน่อย หวังว่าคุณภาจะเอ็นดูนะครับ” “ไม่ดื้อหรอกค่ะ น้องเจนน่ารัก ดิฉันต้องเอ็นดูเธออยู่แล้ว ดีเสียอีก ไม่รังเกียจคนแก่ อยากอยู่คุยกับดิฉัน เอาไว้วันหลังน้องเจนมาบ้านป้า โทรบอกป้าก่อนนะลูก แล้วมาเร็วๆ เราจะได้คุยกันนานกว่าเดิม” คำพูดคุณภาวินีเปลี่ยนโลกเจนจิรา หล่อนมีความสุข 100% “ป้าภาน่ารักที่สุดเลยค่ะ ถ้าอย่างนั้นน้องเจนกับคุณพ่อขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ ป้าภาส่งตรงนี้ก็พอแล้วค่ะ น้องเจนเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง ตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะเข้าบริษัทไปเรียนรู้งานกับคุณพ่อวันแรก น้องเจนจะแวะมาหาป้าภาบ่อยๆ เอาเรื่องสนุกๆ มาเล่าให้ป้าภาฟัง” “จ้ะ ขอบใจน้องเจนมากนะ ที่มีน้ำใจไม่เบื่อคนแก่อย่างป้า” “ต่อไปน้องเจนจะมาเป็นสะใภ้ ก็ต้องขยันเอาใจคุณป้าเยอะๆ” เอาใจมารดาคู่หมั้นหนุ่มที่ไปไหนมาไหนโดยวีลแชร์ไฟฟ้า มัดใจแม่ไว้ ลูกชายท่านจะได้ไปไหนไม่รอด ต้องเทหัวใจทั้งดวงให้เจนจิรา “ฟังพูด ลูกสาวผมไม่มีความเป็นกุลสตรีเลยครับคุณภา” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณพ่อ เราคนกันเอง ใช่ไหมคะป้าภา” “จ้ะ” ว่าที่ลูกสะใภ้พูดจาโผงผาง ก็น่ารักดี คุณภาวินีไม่ถือสา “พรุ่งนี้พี่นัยว่างไหมคะ น้องเจนไปหา เรากินข้าวเที่ยงด้วยกัน” “ไม่สะดวกครับ พี่ออกต่างจังหวัดทุกวัน กลัวน้องเจนมาถึงไม่เจอพี่จะเสียเวลา รอวันหยุดหน้าได้ไหม พี่เลี้ยงข้าวชดเชย” เพิ่งจะหายใจโล่งตอนที่คุณจิรัชชวนออกไปคุยกันเรื่องงาน กลับเข้ามาที่เดิมเขาอึดอัดอีกแล้ว ไม่ใช่เจนจิราไม่ดี ไม่น่ารัก แต่ไม่มีความสุขอย่างไรไม่รู้สิ “น้องเจนไม่อยากรอนาน อีกตั้งหลายวันกว่าจะถึงวันหยุด!” “พูดจาดีๆ หน่อยสิลูก” จะงอนภารนัยทำไม ในเมื่อรู้ว่าภาระงานชายหนุ่มล้นมือ คุณจิรัชเข้าข้างว่าที่ลูกเขยมากกว่าลูกสาว “คุณภากับนัย อย่าไปถือสาน้องเลยนะครับ แค่เด็กดื้อคนหนึ่งงอแง” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ น้องเจนเพิ่งกลับไทย คงจะอยากมีเพื่อนคุย เอาอย่างนี้สิจ๊ะน้องเจน ถ้าพี่นัยไม่สะดวกอาหารกลางวันเพราะติดพันภาระงาน เลื่อนมาเป็นอาหารค่ำก็ได้ หนูมานั่งเล่นกับป้ารอพี่เขาเลิกงาน พี่นัยกลับมาถึงบ้านเราก็ค่อยกินข้าวด้วยกันดีไหมจ๊ะ” “จะไม่เป็นการรบกวนคุณภาเหรอครับ” เกรงใจเจ้าของบ้าน สุขภาพคุณภาวินีไม่ค่อยดี กลัวลูกสาวจะป่วนจนไม่ได้พักผ่อน “ไม่รบกวนหรอกค่ะ ดิฉันจะนอนพักเยอะๆ เก็บแรงไว้รอ” “ขอบคุณคุณภาที่เมตตาลูกสาวผมนะครับ” ได้เห็นว่าคุณภาวินีเอ็นดูลูกสาวท่านก็คลายใจ หากอนาคตเจนจิราจะมาเป็นสะใภ้บ้านนี้ อาการป่วยด้วยโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังทำให้คุณภาวินีไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ ออกไปเจอฝุ่นควันแสงแดดไม่ได้ อาการป่วยกำเริบได้ง่าย พร้อมจะทรุดเข้าโรงพยาบาลตลอดเวลา ประกอบกับประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์สามปีก่อน สูญเสียสามีผู้เป็นที่รักไปพร้อมกับขาคู่ใจ ผ่านการผ่าตัดหลายครั้ง แต่ไม่สามารถกลับมาเดินได้ วันๆ ไม่ออกไปไหน หมกตัวภายในคฤหาสน์กับเหล่าแม่บ้านและคนรับใช้ ภารนัย ทายาทคนเดียวในตระกูลจึงจำเป็นต้องรับภาระงาน เขาเป็นคนหนุ่มไฟแรงทุ่มเทแรงกายแรงใจขับเคลื่อนบริษัทไปข้างหน้า คนหนุ่มตรงสเปกคุณจิรัช จนอยากได้ภารนัยมาเป็นลูกเขยใจแทบขาด “ขอบพระคุณค่ะคุณป้า น้องเจนดีใจจังเลยที่คุณป้าเมตตาน้องเจน ถือโอกาสนี้นัดกับพี่นัยเลยนะคะ เจอกันพรุ่งนี้หลังเลิกงานค่ะ” ไม่เกรงใจผู้ใหญ่สองคน เจนจิราก้าวผ่านคุณภาวินีไปหอมแก้มชายหนุ่ม “จะเป็นลมกับลูกสาว ไม่มีแม่อบรมเลยเป็นแบบนี้ ฝากคุณภาช่วยอบรมสั่งสอนด้วยนะครับ ผมเวียนหัว คงต้องขอตัวลา” “ยินดีค่ะ ขอบคุณคุณจิรัชสำหรับอาหารค่ำที่สรรหาของดีๆ มาฝากค่ะ ตานัย ลูกไปส่งคุณอาจิรัชกับน้องเจนแทนแม่หน่อยนะลูก” “ครับคุณแม่” แค่เขายืน เจนจิราก็เข้ามาคล้องแขน เขาทั้งสองคนเดินผ่านกระจกเงาขนาดใหญ่ ในนั้นสะท้อนภาพชายหญิงคู่หนึ่งที่เหมาะสมกันมาก แต่เหตุไฉนใบหน้าภารนัยจึงไม่มีรอยยิ้มอยู่เลย “น้องเจนตั้งใจมาหาพี่นัย แต่ดูเหมือนว่าเราจะไม่ค่อยได้คุยกันเลยนะคะ คุณพ่อน่าโดนดุมาก แทนที่จะอยู่คุยกันกลับลากพี่นัยไปคุยที่อื่น คืนนี้รอน้องเจนกลับถึงบ้าน สักสี่ทุ่ม เราโทรคุยกันได้ไหมคะ” “น้องเจน กอดแขนพี่เขาอยู่ได้ ไม่น่ารักเลยลูก ขึ้นรถได้แล้ว”คุณจิรัชลดกระจกรถยนต์ลงมากดดัน ถูกมองค้อนใส่ไปตามระเบียบ “โธ่... คุณพ่อ! เฮ้อ กลับก็ได้ค่ะ พรุ่งนี้เจอกันนะคะพี่นัย” “เผื่อใจไว้หน่อยก็ดีนะลูก” พูดต่อหลังจากหน้ารถเลี้ยวพ้นบ้านหลังใหญ่ ดวงตาเจนจิราขวางโลก ไม่เข้าใจความหมายของคำแนะนำ “คุณพ่อหมายความว่ายังไงเหรอคะ มาบอกให้น้องเจนเผื่อใจ” “พ่อผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ สัมผัสได้น่ะสิ ว่านัยเขาอึดอัดมากกว่ายินดี ที่พ่อกับน้องเจนมาที่บ้านแล้วยังพูดถึงเรื่องแต่งงาน” “ไม่จริงค่ะ พี่นัยจะอึดอัดได้ยังไง คุณพ่อคิดไปเองทั้งเพ น้องเจนกับพี่นัยเหมาะสมกันมากที่สุด พี่นัยไม่โง่ปฏิเสธน้องเจนหรอกค่ะ” “พี่นัยเคยบอกว่ารักหนูหรือเปล่า ตอนที่หนูไปอยู่เมืองนอก เขาเคยไปเยี่ยมหนูบ้างไหม หรือโทรคุยข้ามคืนเหมือนคู่รักหรือไม่ พ่อกับพ่อของพี่นัยจับพวกลูกหมั้นกันโดยไม่ได้ถามความสมัครใจ วันเวลาผ่านไปนาน พี่นัยอาจจะไม่ได้อยากแต่ง แต่เงียบเพราะเขาเกรงใจพ่อก็เป็นไปได้ พ่อไม่ห้ามถ้าหนูจะไปหา หรือไปเที่ยวนอนค้างคืนด้วยกัน แต่หนูก็ต้องชั่งใจตัวเองด้วยนะลูก ถ้าพี่นัยไม่ได้รักหนู หนูก็ต้องรักตัวเอง” ท่านพูดด้วยเหตุผล ต่อให้ลูกสาวจะหน้างอเพราะงอนมากแค่ไหน เชื่อว่าเจนจิราจะเก็บคำพูดไปทบทวน ในวันที่ใจเย็นลงกว่านี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD