“คุณนัยตามใจลูกเกินไปแล้วนะคะ สองขวบพอปล่อยได้ แต่ถ้าสามขวบสี่ขวบวัยเข้าโรงเรียนแล้วยังตามใจ ลูกจะเอาแต่ใจนะคะ”
งานหนักจะมาตกที่ธารธารา ที่ต้องเลี้ยงดูและอยู่กับลูกทุกวัน
“ครับ ให้ลูกโตกว่านี้อีกสักนิด ผมจะตามใจให้น้อยลง”
“ขอบคุณค่ะ” ธารธาราเลิกนอนขี้เกียจลุกขึ้นมาคุยกับเขาดีๆ
“คุณนัยอยู่กินข้าวกับธารไหมคะ ใกล้จะได้เวลาอาหารเที่ยง”
เผื่อว่าเขามีธุระออกไปข้างนอกจะได้ไม่ตั้งโต๊ะอาหารรอเก้อ เขาพยักหน้ารับแค่เล็กน้อย ลับหลังเขา ใบหน้าธารธาราก็มีรอยยิ้ม
นอกจากคืนวันเสาร์ที่ได้นอนกอดเขา มีวันอาทิตย์อีกวันที่ชอบ ถึงจะไม่ได้ไปเที่ยวไหน แต่ก็ได้อยู่กับเขาทั้งวันพร้อมหน้าสามพ่อแม่ลูก
อาหารกลางวันไม่ได้ลำบากปรุงใหม่ แค่นำอาหารที่สั่งจากช่วงเช้าไปอุ่นไมโครเวฟ ตั้งโต๊ะไม่ถึงสิบนาทีก็พร้อมรับประทาน สามคนพ่อแม่ลูกร่วมกันรับประทานอย่างเอร็ดอร่อย อาหารธรรมดา แต่มันวิเศษมากที่สุด ช่วงบ่าย ภารนัยกล่อมลูกนอนเก่งมาก ปูที่นอนในห้องรับแขกคุยเล่นกับลูกไม่นาน หนูพริกหวานผล็อยหลับตอนกลางวัน เปิดโอกาสให้พ่อกับแม่ของลูกมีโอกาสพูดคุยกันเล็กๆ น้อยๆ ขณะที่รอลูกตื่น
“ธารเล่าให้ผมฟังหรือยัง จะเข้าฝึกงานบริษัทไหน” จำได้แค่ไม่ใช่บริษัทเขา แต่หล่อนเอ่ยชื่อบริษัทนั้นให้ฟังหรือยัง เขาลืมไปแล้ว
“เอาไว้ได้ใบตอบรับกลับมาธารจะเอามาให้คุณนัยดูนะคะ บริษัทใหญ่มาก บางที แค่เห็นชื่อคุณนัยอาจจะรู้จักระดับเจ้าของก็ได้”
“พูดไปยิ้มไปหมายความว่ายังไง อยากฝึกงานที่นั่นมากเหรอ”
“ไม่ใช่แค่อยากฝึกงานนะคะ ธารอยากสมัครทำงานที่นั่น ถ้าหากการฝึกงานผ่านไปด้วยดี ธารอาจจะยื่นใบสมัครจริงๆ ก็ได้”
“ทำไมต้องเจาะจงว่าเป็นบริษัทนั้น ในเมื่อตำแหน่งก็คล้ายกัน จะทำงานที่บริษัทผม ธารก็ทำได้ เผลอๆ ผมให้เงินเดือนได้มากกว่า” โน้มน้าวหลายครั้ง หญิงสาวไม่ยอมคล้อยตาม ใกล้ชิดเขา ไม่ดีเหรอ?
“ธารมีเหตุผลของธารค่ะ แล้วธารก็เคยบอกคุณไปแล้ว ว่าจะไม่ฝึกงานหรือทำงานในบริษัทคุณนัย ความเรื่องคุณนัยมีพริกหวานเป็นลูกแตกขึ้นมา อาจจะไม่คุ้ม ชื่อเสียงของคุณก็จะแย่ลงไปด้วย”
“แค่ผมมีลูก มันแย่ตรงไหน คนรอบข้างควรจะดีใจกับผมสิธาร พริกหวานของผมน่ารักขนาดนี้ ลองมีใครมาว่าลูก ผมไม่มีทางยอม”
“มันแย่ตรงที่คุณนัยมีคู่หมั้นแล้วไงคะ ไม่แฟร์กับฝ่ายหญิงเลย ถ้าหากเธอรู้ทีหลังว่าคุณนัยซุกลูกไว้ตั้งหลายปี โดยไม่ยอมบอกเธอ ครอบครัวของเธอก็จะมองคุณนัยในแง่ร้าย เก็บเงียบไว้ดีแล้วค่ะ”
“ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วสิ คำว่าจบของธาร คืออะไร จบความสัมพันธ์ของเรา หรือให้ผมจบความเป็นพ่อลูกกับพริกหวาน เท่าที่ฟังตอนนี้ เหมือนกับว่าธารไม่อยากให้ผมใกล้ลูกเลยด้วยซ้ำ”
“ใกล้ได้ค่ะ ธารไม่ได้จะพาลูกไปไหน แค่ไม่อยากให้คุณนัยมาคลุกคลีกับเรามาก แอบแวะมาเยี่ยมสัปดาห์ละครั้งสองครั้งก็พอแล้ว” หลบสายตา ไม่อยากให้พ่อของลูกมองผ่านเข้ามาถึงหัวใจที่มีรัก กลัวเขาจะใช้จุดอ่อนนี้ ผูกมัดหล่อนให้อยู่กับเขาในสถานะเป็นรอง
“พริกหวานเป็นลูกผมนะธาร มาแค่แป๊บเดียวจะไปพอได้ยังไง”
“แต่อีกไม่นาน พอคุณนัยแต่งงาน คุณก็จะมีลูกกับภรรยา ธารแค่อยากให้คุณคิดถึงครอบครัวปัจจุบันของคุณให้มากๆ อย่าให้เธอระแคะระคายจนรู้เรื่องของธารกับลูก ธารไม่ใช่เมียน้อยคุณนะ ไม่ได้อยากถูกระรานโดยภรรยาคุณ เธอจะยอมอยู่เฉยๆ เหรอคะถ้ารู้เรื่องการมีอยู่ของธารกับลูก ไม่มีหรอกค่ะที่เธอจะทนนิ่งเฉยได้ โดยไม่มายุ่งวุ่นวายกับพวกเรา ถ้าคุณนัยยังอยากให้ธารกับลูกอยู่บ้านหลังนี้ต่อไป ก็ต้องเงียบให้ถึงที่สุด ไม่อย่างนั้นธารกับลูกอาจต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น”
“ผมจะยอมให้ธารพาพริกหวานไปจากผมได้ยังไง ผมเลี้ยงลูกมาตั้งแต่แกเกิด ไม่เคยทอดทิ้งธารกับลูกเลย นี่เหรอ ที่ธารตอบแทนผม!” เขาสูดลม พยายามจะสงบใจ “ขอโทษ ผมไม่ควรขึ้นเสียง เอาเป็นว่าธารสบายใจได้ ผมเข้าใจความหมายของคุณ ถ้าธารกังวลเรื่องน้องเจนมากขนาดนั้น ผมจะไม่แต่งงานกับน้องเจน โอเคไหม และถ้าเคลียร์เรื่องงานจบเมื่อไหร่ ผมจะหาวิธีถอนหมั้นกับฝ่ายนั้นให้รอมชอมมากที่สุด ไม่ให้กระทบมาถึงธุรกิจที่พวกเราทำด้วยกัน แล้วพาพริกหวานไปกราบคุณแม่ ธารจะโอเคกับความคิดผมหรือเปล่า”
แบบนั้นก็ไม่ได้ เขามีเจตนารับแค่ลูก ไม่ได้อยากรับแม่ของลูก
“คุณแม่คุณจะเอ็นดูพริกหวานเหรอคะ ดีไม่ดี ท่านอาจจะ...”
“ลูกของเราน่ารัก คุณแม่ผมจะไม่เอ็นดูได้ยังไง สีหน้าธารดูเครียดๆ ไปนะ ปกติธารไม่เคยชวนผมคุยเรื่องทำนองนี้”
“ขอโทษค่ะ ได้ยินว่าคุณเจนกลับมาแล้ว ธารคิดหนักแทนคุณ”
“ไม่ใช่ว่าผมจะดุธาร แต่ไม่อยากให้ธารเครียด เรื่องน้องเจน ผมเคลียร์เอง ธารคิดถึงแค่เรื่องฝึกงานก็พอแล้ว รอธารฝึกงานเสร็จเมื่อไหร่ ค่อยมาจับเข่าคุยกันอีกที ว่าเรื่องของเราจะเอายังไงกันต่อ”
“เอายังไงกันต่อ หมายถึงอะไรเหรอคะ”
“ก็เรื่องของเราไง ถ้าธารยังน่ารักเสมอต้นเสมอปลาย วัดจากความรู้สึกผมตอนนี้ ผมว่าไม่แย่นะ ถ้าเราจะเปิดตัวว่าคบกัน เราอยู่ด้วยกันมาตั้งขนาดนี้ นิสัยใจคออีกฝ่ายเป็นยังไง ไปด้วยกันได้ไหม ก็พอจะมองกันและกันออก ลูกก็มีด้วยกันแล้วหนึ่งคน แถมยังน่ารักมากอีกด้วย เราจะอยากแยกกันทำไม ทำไมเราไม่อยู่ด้วยกันไปเลย”
“คุณนัย คิดจะจริงจังกับธารเหรอคะ คงไม่ได้แกล้งพูดเพื่อหลอกให้ธารอยู่กับคุณ แล้วผลสุดท้ายคุณก็ไปแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น แค่ถ่วงเวลาหลอกให้ธารรอ ให้ธารอยู่กับคุณ แบบเมียน้อย”
“ผมแย่มากขนาดนั้นเลยเหรอ ธารถึงมองผมในแง่ร้าย”
“ก็เพราะธารไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าคุณนัยจะเลือกธาร”
ธารธาราตอบด้วยน้ำเสียงกล้ำกลืนฝืนทน
“ธารไม่อยากถูกหลอก ศักดิ์ศรีในตัวธารถึงจะน้อย แต่ธารก็ยืนยันว่าจะไม่เป็นบ้านเล็กของคุณ ให้อยู่กับลูกแบบหลบๆ ซ่อนๆ จนลูกโตพอจะรู้ว่าเป็นลูกเมียน้อย มันจะดีเหรอคะ ธารกับลูกจะมีความสุขจากใจจริงงั้นเหรอ ถ้าคุณนัยยืนยันว่าคุณจริงใจกับธาร...”
“ธารจะรอค่ะ รอจนกว่าจะถึงวันสุดท้ายของการฝึกงาน ถ้าคุณเลือกธาร ธารก็จะอยู่กับคุณ แต่ถ้าคุณเลือกคุณเจน คุณก็ต้องยอมรับเงื่อนไขของธาร ที่จะไม่อนุญาตให้คุณมาค้างในบ้านหลังนี้ หรือพาพริกหวานออกไปข้างนอก พริกหวานเป็นลูกธาร สิทธิ์ของคุณนัยในตัวพริกหวานไม่เคยมี และจะไม่มีตลอดไปค่ะ”