‘พ่อของพริกหวานเหรอคะ หล่อจัง เพิ่งเคยเห็นครั้งแรก’
‘พี่ชายค่ะ’
แฟนคลับหนูพริกหวานฟังคำตอบ แล้วครางอ๋อ แต่สายตาคู่นั้นไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อย เพราะพริกหวานเรียกเขาพ่อ
ธารธาราไม่อยากออกไปข้างนอกกับภารนัยก็เพราะแบบนี้ กลัวคนเข้ามาทักทายรู้จักเขา สาวมาถึงไส้ธารธาราว่าเป็นเด็กเลี้ยงของเขา ชีวิตหล่อนค่อนข้างเหงา ดร็อปหนึ่งเทอมมาคลอดลูกทำให้เพื่อนที่เข้าเรียนรุ่นเดียวกันจบไปก่อน ต้องเรียนกับรุ่นน้อง อ่านหนังสือคนเดียว ไปเรียนคนเดียว กลับบ้านมาหาลูก วันๆ ธารธารามีแค่พริกหวานคุยเล่นเป็นเพื่อน ภารนัยงานเยอะ จะมาค้างด้วยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น วันอื่นๆ เขาไปค้างที่ไหน ธารธาราไม่รู้เลย
รายการสั่งซื้อเสื้อผ้าออนไลน์เข้ามาเพิ่มสิบออเดอร์ ธารธาราแพ็คเสร็จเรียบร้อยรอกดเรียกรถเข้ามารับเช้าวันพรุ่งนี้ พร้อมกับอีกกว่าหนึ่งร้อยกล่องที่แพ็คเสร็จไปก่อนหน้า ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงสองพ่อลูกยังไม่ออกจากห้องน้ำ ลากขาข้างที่เจ็บมายืนดูหน้าห้องน้ำ
คว่ำสายตาแสนงอนใส่ลูกสาวตัวป่วนหลายครั้งในรอบวัน งอนลูก ตอนแม่จับอาบน้ำร้องไห้งอแงบีบน้ำตาไม่ยอมอาบ ติดเล่น อยากจะเล่นซนมากกว่า แต่พอเปลี่ยนเป็นคุณพ่อ หนูน้อยไม่งอแงเลยสักแอะลงแช่ในอ่างน้ำสำหรับเด็ก อาบน้ำสระผมไปพร้อมกับเล่นตุ๊กตายางรูปทรงสัตว์ต่างๆ สลับกวักน้ำใส่คุณพ่อจนเสื้อผ้าภารนัยเปียก
“พริกหวาน ดึกแล้วนะลูก ขึ้นจากน้ำมาใส่เสื้อผ้า ปล่อยให้ผมเปียกนานๆ จะไม่สบายนะคะ แต่งตัวเสร็จจะได้เข้านอน”
ได้ยินคำว่านอนเด็กซนส่ายหน้า ไม่อยากนอน อยากเล่นกับคุณพ่อนานๆ พ่อก็ตามใจลูกเหลือเกิน ปล่อยให้ลูกแช่น้ำจนตัวซีด พ่อของลูกกับแม่ของลูกสบตากันวินาทีเดียวเท่านั้น ภารนัยรีบหยิบผ้าเช็ดตัวกางปีกออก โยกท่อนแขนเสมือนล่อกระทิง
“ใครเอ่ย อยากใส่ชุดนอนพี่เจ้าหญิง ชูมือขึ้นสูงๆ”
“พริกหวาน” เด็กหญิงตัวกระจิ๋วเดียววางมือแปะบนขอบอ่าง ก้าวขาทีละข้างมายืนหนาวสั่นให้คุณพ่อเอาผ้าห่อตัวอุ้มออกจากห้องน้ำ
ไม่ค่อยจะลำเอียงเลยนะ ว่ารักคุณพ่อมากกว่าคุณแม่
ธารธารายืนนานไม่ไหว ตึงบนแผล รั้งท้ายสองพ่อลูกเข้ามาในมาสเตอร์เบดรูม มีวอคอินโคลเซ็ทในตัว แชร์พื้นที่ใช้สอยสามคนพ่อแม่ลูก เท้าเล็กของหนูพริกหวานเหยียบลงพื้นไม่ทันไร เด็กซนวิ่งหนีคุณพ่อไปรอบห้อง หัวเราะคิกๆ อยากให้คุณพ่อตามมาวิ่งไล่จับ
‘ต้องอย่างนี้ ถึงจะเท่าเทียมกัน คุณนัยจะได้รู้รสชาติการวิ่งไล่จับลูก ว่าเหนื่อยแค่ไหน’
คุณแม่ยังสาวอมยิ้มเล็กๆ หาที่เหมาะนั่งรอชมภาพกีฬามันๆ
ภารนัยก็ภารนัยเถอะ ต้องมีหมดแรงกันบ้าง ธารธาราไม่ช่วยจับลูก แม้ว่าพ่อของลูกจะส่งสายตามาขอความร่วมมือ หล่อนลดสายตาลงที่เข่า ยกแผลมาอ้างให้เขาตามจับลูกสาวจอมซนด้วยตัวเอง
“พริกหวาน ไม่วิ่งหนีคุณพ่อนะลูก”
“พ่อพ่อ! จับ... พริกหวาน”
ไม่ฟังพ่อเลย ภารนัยถอนหายใจยาว เพื่อลูก เขาจะไม่บ่นว่าเหนื่อย ไล่ตามจับลูกมาเช็ดตัว เป่าผมให้แห้ง เผลอไปหยิบแป้งเด็กกับค้นหาชุดนอนแป๊บเดียว พริกหวานวิ่งหนีอีกรอบ ผ่านหน้าคุณแม่ไป
ภารนัยค้อนธารธารา ตามไปอุ้มลูกสาวกลับมาปะแป้งหอมๆ ใส่ชุดนอน ไม่เก็บขวดแป้งให้เสียเวลา จับเด็กซนไว้มั่นอุ้มมาขึ้นเตียงเดียวกับคุณแม่ นอนประกบไม่ให้ตัวแสบออกไปวิ่งเล่นข้างนอก น้ำยังไม่อาบ แต่ดวงตาภารนัยจะปิดด้วยความอ่อนเพลีย พ่อของลูกกับแม่ของลูกเบียดกันนอนขนาบข้างลูกสาวเป็นแซนด์วิชสอดไส้ปูอัด
หนูพริกหวานตาใสแป๋ว ไม่ยอมนอน อ้อนขอลุกขึ้นมาทายาให้คุณแม่ ถูกสั่งห้ามโดยคุณพ่อ ต่อรองขอเอายาให้กิน คุณพ่อไม่อนุญาต ลดลงเหลือขอดูแผลคุณแม่ คุณพ่อก็ไม่ยอม หนูน้อยถอนหายใจใส่คุณพ่อ กิริยาน่าขำ ธารธาราหัวเราะให้ความโตไวของลูก
“Twinkle, twinkle, little star, How I wonder what you are…” ขับกล่อมบทเพลงแสนหวานพาลูกสาวเข้านอน ร้องเพลงเดียวกล่อมหลับได้ทั้งพ่อกับลูก ท่าทางเขาจะเพลียมาก ทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแล้วยังต้องช่วยธารธาราปราบลูกสาวตัวป่วน นำผ้าขนหนูชุบน้ำสะอาดมาลากเช็ดบนใบหน้าขาวสะอาดลงมาถึงซอกคอ
“ผมเผลอหลับไปเหรอ” ภารนัยตื่นตอนที่รู้สึกได้ถึงความเย็น เขาค่อนข้างเหนื่อย ทำงานหนักจนร่างกายอ่อนเพลียสะสม
“ถอดเสื้อกับกางเกงออก เช็ดตัวสักหน่อยก็นอนได้แล้วค่ะ”
ภารนัยดูแลการอยู่การกินของธารธารากับลูกสาวดีมาก ไม่เคยปล่อยให้หล่อนอดอยาก ธารธาราตอบแทนความดีของเขาดูแลกลับบ้างในวันที่เขาเหน็ดเหนื่อย อยู่ด้วยกันมาหลายปี จะปากแข็งว่าไม่รักไม่ผูกพันกับเขาเท่ากับโกหก เพียงแต่ไม่ใช่ความรักในรูปแบบอยากครอบครองเป็นเจ้าของ หรือเรียกร้องกึ่งบังคับให้เขายกย่องตนเอง
แค่รัก... แค่นั้น... ไม่มีความคิดซับซ้อน ปรารถนาดีกับเขา อยากให้เขาสุขภาพแข็งแรง มีความสุขในทุกวัน ธารธาราไม่เคยก้าวก่ายชีวิตของเขา ยอมรับความจริงเสมอว่าความสัมพันธ์ พัฒนาไปมากกว่าสถานะพ่อแม่ที่ดีของลูก ‘ไม่ได้’ เน้นย้ำคำว่า ‘ไม่ได้’ โดยเด็ดขาด
ภารนัยดีพร้อมทุกอย่าง คู่ควรกับการมีความรักที่ดี กับผู้หญิงสักคนที่เหมาะสมกับเขาอย่างเช่นคุณเจนจิรา ส่วนธารธารายังอายุน้อย หล่อนเชื่อว่าอนาคตข้างหน้าหากแยกทางกับเขา จะมีใครสักคนผ่านเข้ามาในชีวิต ขอแค่รับสถานะแม่เลี้ยงเดี่ยวได้ และรักหล่อนกับลูกสาวด้วยใจจริง ไม่แย่นักหรอก ถ้าจะลองเปิดใจ ใครอีกคนของภารนัยกับธารธาราล้วนแล้วแต่รอคอยอยู่ข้างหน้า
พริกหวานน้อยของคุณแม่จะสับสนหรือเปล่า ขออย่าสับสน และอย่าสงสัยในความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก ถึงพ่อแม่จะไม่ได้อยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว แต่ก็รักพริกหวานมากที่สุดในโลกนะลูก
“ผมยังไม่ได้แปรงฟัน”
เขานอนทอดกายให้ธารธาราเทคแคร์ เส้นผมยาวสลวยสีดำอ่อนคลอเคลียบนแก้มใส อายุที่ห่างกันถึงสิบปี ให้ความรู้สึกเหมือนธารธาราเป็นน้องสาวหรือหลานสาวได้เลย ห่างกันมากเกินไป จนภารนัยเคยเก็บไปคิดว่าเขาทำลายอนาคตธารธาราหรือเปล่า ไม่พลาดท้องกับเขา หล่อนอาจมีชีวิตที่สนุกสุดเหวี่ยงไปตามวัย ไม่ต้องจับเจ่าอยู่แต่บ้าน เลี้ยงลูกให้เขาสลับกับถือหนังสือไปเรียน
แต่ถ้าไม่ท้อง ภารนัยก็คงจะไม่มีลูกสาวน่ารักๆ ให้อุ้มในวันนี้ หนูพริกหวานตอนนี้สองขวบครึ่ง มันแปลกๆ ไปหน่อย ที่เขาคิดอยากมีลูกเพิ่มอีกคนมาเล่นเป็นเพื่อนพริกหวาน ลูกสาวให้ชื่อพริกไทย ลูกชายให้ชื่ออะไรดี ขอคิดก่อน ใจภารนัยเอนเอียงไปทางลูกสาวมากกว่า
“ลุกขึ้นไปล้างหน้าแปรงฟันสักหน่อยไหมคะ ธารจะเช็ดตัวให้”
“ไม่เป็นไร ผมหายขี้เกียจจะลุกไปอาบน้ำสระผมให้สดชื่น ที่จริงผมไม่น่านอนสภาพนี้ วันนี้ทั้งวันผมไปดูที่ดินที่ชลบุรี เหม็นไปทั้งตัว”