บทนำ

1303 Words
             หญิงสาวรูปร่างเพรียวบงมองกระจกภายในลิฟท์ ตรงหน้า เห็นหญิงสาวในชุดกระโปรงทรงเอสีดำกับเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวเข้ารูป ผมยาวสีดำถูกรวบเข้าไว้ด้วยกัน ดวงตาคู่หวานภายใต้แว่นตากรอบสีดำกะพริบอย่างเชื่องช้า ยามมองตัวเองในกระจก ยามเลื่อนสายตามองดูหน้าท้องที่แบนราบนั้นแล้ว ให้รู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงอยู่ไม่น้อย เพราะมันกำลังมีชีวิตน้อย ๆ อยู่ข้างใน ชีวิตน้อย ๆ ที่เกิดจากความตั้งใจและผิดพลาดประสมกันอยู่อย่างละครึ่ง             ผิดพลาด เพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิด              ตั้งใจ เพราะถึงแม้เป็นเรื่องไม่ควร แต่มันก็เกิดมาจากความรักของเธอนั่นเอง             ภายในใจหญิงสาวนั้นแอบหวั่นว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร ถ้าเขารู้เรื่องนี้ ... จะตื่นเต้นดีใจไปกับเธอหรือเปล่า ถ้าไม่เล่า เธอจะทำอย่างไรดีกับชีวิตต่อจากนี้ไป             เสียงลิฟต์ดังขึ้น ปลุกสติหญิงสาวให้ตื่น เธอกุมมือสองข้างที่เย็นชื้นไปหมดด้วยความตื่นเต้นเข้าไว้ด้วยกัน สูดกำลังใจลึก ๆ เข้าไปภายในปอด แล้วเดินออกจากลิฟต์ไปยังห้องทำงานของรองประธานบริษัทแห่งนี้             ตรงหน้าที่เห็นคือโต๊ะเลขาฯ คนเก่งของรองประธานบริษัท พออีกฝ่ายเห็นเธอกำลังเดินมาจึงยิ้มให้อย่างเป็นมิตร             " อ้าว มาเก็บของที่เหลือเหรอจ้ะ น้องริน"             " ค่ะ" หญิงสาวตอบ แล้วมองเข้าไปในห้องทำงานใหญ่ที่อยู่ด้านหลังเลขาฯคนเก่ง "แล้วคุณ..."             "อยู่ข้างในนั่นแหละ น้องรินอยากเข้าไปพบคุณจอมมั้ย"             "ค่ะ" หญิงสาวตอบ พร้อมพยักหน้า ความรู้สึกตื่นเต้นกลับขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นเลขาฯ คนเก่งก็กดอินเตอร์คอมเพื่อติดต่อกับคนภายในห้อง              ขณะรอหญิงสาวคนเดิมจึงได้แต่กวาดสายตามองดูรอบ ๆ ห้องทำงานของท่านรองประธานบริษัทด้วยความชื่นชม             บริษัททีเคแอนด์ดับบลิว เป็นชื่อบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์อันเป็นบริษัทลำดับต้น ๆ ในประเทศไทย             เมื่อก่อนเธอเคยมาเป็นเลขาฯ เฉพาะกิจที่นี่ ให้กับบุรุษที่อยู่ในห้องทำงานโอ่อ่านี้ และสาเหตุที่เธอถูกเรียกว่า 'เลขาฯ เฉพาะกิจ' เพราะเธอถูกส่งตัวมาจากบริษัทในเครือของบริษัทแห่งนี้ เพื่อทำงานแทนเลขาฯ คนเก่งตรงหน้า ที่ลางานยาวเพราะป่วยหนัก นั่นเอง             ใช่ เธอมาปฏิบัติงานที่นี่เมื่อสามเดือนที่แล้ว และเรื่องราวก็เกิดขึ้นเมื่อสองเดือนก่อนในคืนหนึ่ง             "เข้าไปพบคุณจอมได้เลยจ้ะ" เสียงของเลขาฯ คนเก่งปลุกให้หญิงสาวที่อยู่ในภวังค์รู้สึกตัวขึ้น เธอกล่าวขอบคุณแล้ว จึงเดินตรงไปยังประตูไม้บานหนาที่ได้รับการแกะสลักเป็นลวดลายงดงามตรงหน้า ยื่นมือไปเคาะประตูสองสามที จากนั้นจึงเปิดประตูเข้าไป             เจ้าของห้องทำงานโอ่อ่า เงยหน้ามองอดีตเลขาฯ ของตนเพียงนิด เห็นแล้วก็ก้มทำงานต่อไป ทำราวกับว่าหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้มีความสลักสำคัญเท่าไหร่ ใจของเธอร่วงหล่นลงไป... แต่ก็ถูกเก็บขึ้นมาที่เดิม เมื่อเสียงทุ้มของเขาเอ่ยขึ้นมาเรียบ ๆ              "เธอเองเหรอ" เขาถาม แต่ไม่ได้สนใจ ยังคงก้มหน้าลงอ่านเอกสารที่กองพะเนินบนโต๊ะต่อ             "ค่ะ" หญิงสาวตอบ ทำใจดีสู้เสือ แม้จะหวาดหวั่นกับท่าทีที่ไม่ให้ความสำคัญกับเธอเท่าไหร่ก็ตาม "วันนี้รินมาเก็บของที่เหลือ และเอ่อ...รินมี... มีเรื่องค่อนข้างสำคัญที่จะบอกคุณ ให้ทราบ"             เสียงหญิงสาวตรงหน้าหายไปเป็นช่วง ๆ ทำให้เขานิ่งฟังมากขึ้น แต่สายตายังจ้องอยู่เอกสารแฟ้มหนาตรงหน้า แล้วพูดขึ้นเมื่อเธอหยุดพูดไปเสียดื้อ ๆ              "ก็บอกมาสิ...เร็ว ๆ ไม่เห็นหรือว่างานฉันมีเยอะ"             เขาเร่งขึ้น หญิงสาวจึงกลั้นใจพูดต่อให้จบ "ค่ะ...คือ รินท้องค่ะ หมอบอกว่า อายุครรถ์ได้หกสัปดาห์แล้ว"             คราวนี้เขาชะงัก เงยใบหน้าคมคายขี้น คิ้วเข้มจัดของขมวดเข้าไว้ด้วยกัน สายตาที่มองมานั่นมีแววค้นหาอยู่ไม่น้อย ทำให้คนที่ถูกมองใจสั่น และยิ่งสั่นหนักขึ้นเมื่อนึกถึงเรื่องในคืนแห่งความลึกซึ้งของเขาและเธอ             " ฉันว่า ฉันใช้ถุงยาง"              " คะ!" หญิงสาวอุทาน เมื่อเขาเอ่ยขึ้นตอนหลังจากมองเธออย่างไม่วางตาอยู่นาน ริมฝีปากบางเฉียบนั้นขยับเอ่ยต่อไปว่า             "จะมาบอกว่าเด็กในท้องเธอคือลูกฉันหรือ"             หญิงสาวกะพริบตางุนงง "คะ...ค่ะ"             เขายิ้มหยัน ส่ายหน้า " ไม่ เป็นไปไม่ได้ เด็กในท้องนั้นไม่ใช่ลูกฉัน"             หญิงสาวเม้มปาก รู้สึกผิดหวัง เขาพูดอย่างนี้นอกจะแสดงว่าเขาไม่ยอมรับแล้ว เขายังกล่าวหาว่าเธอไปมีความสัมพันธ์กับชายคนอื่นแล้วมายักเยียดเด็กในท้องเธอให้กับเขา              ไม่ เธอไม่เคยมีความสัมพันธ์กับใครอีก... นอกจากเขาคนเดียว             ชายหนุ่มมองวงหน้าเธอต่ออีกนิด ยื่นมือหนาไปเปิดลิ้นชัก ควานหาอะไรสักอย่าง พอพบก็หยิบมันโยนลงมาตรงหน้าเธอ             "อยากได้ค่าเสียหายหรือ เอาไปสิ แล้วมุกที่ว่าท้องนั่น ขอทีเถิด ฉันมันผู้ชายประเภทไหน ฉันรู้ตัวอยู่ทำอะไร ทำไจะไม่เชฟตัวเองเอาไว้...คืนนั้นเธอเองก็ไม่ได้ขัดขืน เรียกได้ว่าสมยอม... เราตกลงกันแล้ว เธอก็บอกว่าจะไม่เรียกร้องอะไร มาตอนนี้จะอ้างว่าท้อง ทั้ง ๆ ฉันเองก็มั่นใจว่าป้องกันแล้วเป็นอย่างดี จะให้ฉันเชื่อหรือ..."               ลมหายใจของหญิงสาวเหมือนจะหายไปชั่วขณะหนึ่ง สองหูนั้นอื้ออึงไปทำให้ไม่ได้ยินว่าเขาพูดอะไรต่อไปอีกบ้าง                  เท้าสองข้างนั่นก็อ่อนแรง จนร่างบองบางของเธอแทบล้มทั้งยืน...                 เขาหาว่าเธอกุเรื่องเพื่อเรียกร้องให้เขารับผิดชอบหรือ เรื่องแบบนี้สำหรับเธอนั้นมันกุไม่ได้หรอก เพราะอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าท้องเธอนั้นจะขยายใหญ่เพื่อฟ้องความจริงให้รู้ว่า เธอไม่ได้โกหก ที่สำคัญมันก็จะบอกกับคนทั่วไปว่า เธอเป็นหญิงสาวที่ยังไม่ผ่านการสมรสแต่กำลังจะมีลูก!             เสียงผลักลิ้นชักกลับเข้าไปที่เดิม ดึงหญิงสาวกลับมาสู่เหตุการณ์ปัจจุบัน แววตาทั้งสองที่คลอขังไปด้วยน้ำตาเหลือบมาดูมือหนาที่เคาะลงบนเงินปึกหนึ่ง              "ถ้าอยากได้ค่าเสียหาย ก็มารับเอาเงินนี่ไป แต่ไอ้เรื่องที่บอกว่าท้องนี่ขอเถอะ อย่าพูดอีกเลยเพราะฉัน...ไม่เชื่อ" เขากล่าวพลางส่ายหน้าสำทับ ยืนยันว่าไม่เชื่ออย่างที่เธอว่ามา             หญิงสาวร่างบอบบางเซไปข้างหลังเล็กน้อยด้วยดวงใจที่ร้าวระทม เลื่อนส่ายตามองหน้าเขา เขาที่เธอแอบรักมาเนิ่นนาน             "รินมาที่นี่...ไม่ได้จะมาเรียกร้องใด ๆ จากคุณทั้งสิ้น เพราะคืนนั้นรินเองก็ใจง่ายไป ที่ยอมมีอะไรกับคุณ ดังนั้นเรื่องที่รินพูดมาเมื่อครู่ ก็ให้ถือเสียว่าเป็นเพียงลมที่พัดผ่านไปเถอะค่ะ" หญิงสาวหยุด พยายามบังคับไม่ให้น้ำตารินหลั่ง "จากนี้ไป รินจะไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีกแล้ว...ไม่เด็ดขาด"             พูดจบแล้วก็หมุนตัว พลางกึ่งวิ่งและเดินออกจากห้องทำงานนี้ไป ด้วยดวงใจที่แตกสลาย             ทิ้งเอาไว้เพียงถ้อยคำที่ตอกย้ำกับตนเองซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าว่า...เธอมันโง่เอง!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD