#2

1506 Words
“แม่จากที่นี่ไปนานแล้ว ทุกอย่างดูแปลกตาสำหรับแม่ไปหมด” ทิวามองแม่อีกครั้งและยิ้มออกมาเล็กน้อย เขาเข้าใจดีว่าแม่ต้องการอะไร  “ก็ได้ครับแม่ ผมรู้ว่าแม่ชอบการเดินทาง แต่แม่ต้องสัญญานะครับว่าเมื่อไหร่ที่แม่อยากพักและอยากหยุด แม่ต้องคิดถึงผม คิดถึงบ้านหลังนี้” รัศมียิ้มและโอบกอดลูกชาย “ขอบใจมากทิวา ทั้งๆที่แม่...”  “ไม่เอาครับแม่ เราไม่เอ่ยถึงเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจครับ”  “แล้วลูกจะเอายังไงต่อ” “ผมก็…” ทิวาทอดสายตาไปทั่วห้องรับแขกที่โอ่งโถง “อยู่ที่นี่...แต่ไม่ได้อยู่เพื่อรอคอยเจ้าของบ้านอีกคนเดินเข้ามา...ผมจะต้องสืบหาผู้หญิงคนนั้นให้เจอก่อนที่...มัน...จะรู้ตัว” แววตาของทิวาเปลี่ยนไปอีกครั้ง รัศมีรู้สึกไม่สบายใจอยู่เงียบๆ คนที่เกิดมาเพียบพร้อมอย่างเทวัญ และประสบความสำเร็จในชีวิต แม้จะไร้ตัวตนไปแล้วแต่คนอย่างเทวัญถ้าคิดจะทำอะไรแล้ว ยากนักที่ใครจะขัดขวางได้ แล้วนี่เขาทำอะไร... ทิวาจะรู้ตัวไม่นะ ว่าเขาเหมือนพ่อของเขาเหลือเกิน “ทิวา ลูกจะเข้าบริษัทไม่ใช่เหรอลูก” รัศมีเปลี่ยนเรื่อง “ครับ” “งั้นลูกไปเถอะ เดี๋ยวเรื่องตรงนี้แม่จัดการให้จ่ะ” ทิวาก้มมองพื้นที่เกลื่อนกลาดไปด้วยเศษแก้วมากมายก่อนจะเดินออกไป ก็อก ก็อก ก็อก “ดาว...นับดาว นี่กี่โมงแล้ว ทำไมยังไม่ตื่น เดี๋ยวก็ไปเรียนสายหรอก” “แม่...วันนี้ที่คณะเขารับน้อง หนูจะไปหรือไม่ไปก็ได้” “แล้วทำไมลูกถึงจะไม่ไป” “ก็หนูอยากนอนต่อ...” เฮ้ยยย เสียงถอนหายใจครั้งหนึ่งก่อนที่ฝีเท้าจะเดินห่างประตูไป หลังจากนั้นนับดาวก็เข้าสู่นิทราต่อได้อย่างไม่ยากเย็น  “ตื่นแล้วเหรอ” ประภาเอ่ยกับบุตรสาวที่เดินหน้าแป้นเข้ามาหา “จ่ะแม่จ๋า” นับดาวเดินไปนั่งข้างกายแม่ และยื่นมือไปหยิบมีดขนาดเล็กช่วยแม่ปอกเปลือกกล้วย เพื่อเตรียมทำกล้วยบวชชีส่งให้กับโรงเรียนอนุบาลใกล้บ้าน “แล้วไม่ไปหาอะไรกิน” “เดี๋ยวก่อนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวขนมไปส่งไม่ทัน” “สรุปว่าวันนี้ไม่ไปมหาลัย...” นับดาวส่ายหน้า  “หนูเปล่าขี้เกียจนะ ปีสุดท้ายแล้ว หนูต้องฝึกงาน แม่ลืมไปแล้วเหรอจ่ะ” “ดีแล้ว มีคุณต้องทดแทน” นับดาวยิ้มหวานและตั้งหน้าตั้งตาช่วยประภาจนกล้วยที่เตรียมไว้ได้ลงไปอยู่ในหม้อขนาดใหญ่บนเตาถ่าน  ประภาก็ไล่บุตรสาวไปหาอะไรกิน “จ่ะ เดี๋ยวหนูไปส่งขนมเองและจะรอรับตาหนูกลับมาเลย” รถเข็นเคลื่อนไปอย่างช้าๆ ในตรอกซอยขนาดเล็ก “ตาหนู นั่งลง” นับดาวปรามเด็กชายผิวขาวตัวน้อยที่อยากจะลุกขึ้นยืนบนรถเข็นขนาดเล็กอยู่หลายครั้ง “ผมปวดฉี่” นับดาวอ้าปากค้าง และหยุดลงเบียดเข้าข้างทาง  “ทนไปถึงบ้านไม่ได้เหรอ” เด็กน้อยส่ายหน้า “ถ้างั้นหันหน้าเข้ากำแพง” เด็กน้อยก็ยังส่ายหน้าอีกครั้ง จะย้อนกลับไปที่โรงเรียนก็ดูจะไม่ใช่ทางออกที่ดี  “ข้างทางเถอะนะ” “ผมไม่ใช่สุนัข” นับดาวกลอกตาอย่างช่วยไม่ได้ “แล้วจะเอายังไง บ้านก็ยังอีกไกล” พรึ่บ! แขนเล็กๆยกขึ้นชี้ไปยังรั้วสีเขียว นับดาวยิ้มพร้อมหลี่ตามองเทวา เด็กน้อยตรงหน้า “ร้ายนักนะ” บ้านหลังนี้เป็นบ้านของเด็กผู้หญิงที่เรียนอยู่ที่เดียวกันกับเทวา แต่เด็กคนนั้นเรียนอยู่ชั้นอนุบาลสองในขณะที่เทวาพึ่งอยู่เตรียมอนุบาล  “เด็กคนนั้นยังไม่เลิกเรียนเลยไม่ใช่เหรอ” เทวายักไหล่ นับดาวตามความคิดเด็กน้อยตรงหน้าไม่ทันเลยจริงๆ แต่ก็เดินไปกดกริ่ง ไม่นานคุณยายเจ้าของบ้านก็เดินออกมา “คุณยาย ดาวเองค่ะ” “อ้าวดาว...มีอะไรเหรอลูก” “คือหนูอยากรบกวนขอใช้ห้องน้ำหน่อยค่ะ พอดีตาเทวา...” นับดาวไม่ต้องเอ่ยอะไรต่อ คุณยายก็รีบเปิดประตูให้และเชิญให้ทั้งสองเข้ามาในบ้านอย่างใจดี  นับดาวช่วยจนเทวาเสร็จธุระในห้องน้ำ แต่ทันทีเมื่อเทวาออกจากห้องน้ำเขากลับวิ่งไปอีกฟากของบ้าน ตรงนั้นมีชุดโต๊ะเก้าอี้ขนาดเล็กน่ารัก น่าจะเป็นโต๊ะทำการบ้านของหลานสาวของคุณยาย นับดาวเห็นว่าเทวาล้วงเอาอะไรบางอย่างออกมาจากเป้ใบเล็กของตนเองและวางไว้บนโต๊ะ “อะไรเหรอ...เมื่อกี้นี่” นับดาวเอ่ยถามอย่างอยากรู้เมื่อทั้งสองออกจากบ้านคุณยายและเดินกลับมาที่รถเข็นของตน  “ยางลบเมอร์เมด” นับดาวร้องอ้อ ที่แท้วันก่อนที่ไปตลาดด้วยกัน เทวาร้องขอให้เธอซื้อมันมา และนับดาวก็เริ่มเข้าใจเพราะชุดโต๊ะการบ้านนั้นก็เป็นลายเมอร์เมดเช่นกัน “ร้ายกาจ” นับดาวยิ้มออกมาอย่างขบขัน เทวาแค่ยกยิ้มเล็กน้อยและหันไปสนใจถนนข้างหน้าในทันที “ตั้งใจทำงานรู้มั้ย” “แม่ หนูไปฝึกงานนะคะ” นับดาวร้องบอกมารดาที่อวยพรบุตรสาวอย่างตั้งใจ “อ๊ะอ๊ะ ตั้งใจเรียนรู้และฝึกงานอย่าเอาเรื่องขายหน้ากลับมาบ้าน...” นับดาวยิ้มเจ้าเล่ห์มองกลับไป “ไปได้แล้ว วันแรกก็จะสาย” นับดาวหอมแก้มนุ่มของแม่ทีหนึ่งก่อน ประภามองนับดาวและเทวาเดินออกจากบ้านไปด้วยกัน เธอไม่รู้ว่าต่อจากนี้บุตรสาวจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ไม่มีใครสามารถหนีชะตาชีวิตของตัวเองได้ แต่เธอจะอยู่ที่นี่ รอคอยบุตรสาวกลับมาเติมพลังเพื่อกลับไปต่อสู้กับอะไรก็ตาม...ที่อยู่ข้างนอกนั้น “สวัสดีค่ะ ดิฉันนับดาว นักศึกษาฝึกงานมารายงานตัวค่ะ” เจ้าหน้าที่ฝ่ายต้อนรับกล่าวทักทายและบอกให้เธอรอสักครู่ นับดาวมองไปรอบๆ อาคารหกชั้นที่ตั้งตระหง่านบนพื้นที่กว้าง ที่นี่กว้างมากแต่พื้นที่ส่วนใหญ่ด้านนอกกลับทำเป็นลานจอดรถกับสวนเล็กๆ ต้นไม้ขนาดเล็กใหญ่ถูกปลูกถูกจัดไว้อย่างลงตัว  “รอสักครู่นะคะ เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลกำลังลงมาค่ะ” นับดาวรอไม่ถึงสองนาที หญิงสาววัยกลางคน คงมาจากฝ่ายบุคคลกำลังเดินมาทางนี้  “สวัสดีค่ะ” ทั้งสองทักทายกัน  “คุณนับดาวมาฝึกงานฝ่ายบัญชี” นับดาวพยักหน้า  “นี่ค่ะ บัตรประจำตัวพนักงาน เรียกพี่ว่าพี่บุษก็ได้จ่ะ เดี๋ยวพี่จะพาไปฝ่ายบัญชีเลยจ่ะ”  “ขอบคุณค่ะพี่บุษ” “นานเหลือเกินที่บริษัทเราไม่ได้รับนักศึกษาฝึกงาน” นับดาวยิ้มรับไม่มีความแปลกใจกับเรื่องนี้เลย พวกเธอเดินไปอีกทางเพื่อไปยังลิฟท์ “ฝ่ายบัญชีจะแยกอยู่ทางปีกซ้ายชั้นห้า ส่วนชั้นหกฝั่งเดียวกันจะเป็นที่ทำงานของประธานบริษัท” นับดาวตั้งใจฟัง  นับดาวเข้ามาในลิฟท์ แน่นอนว่าแม้เธอจะพยายามปกปิดความตื่นเต้นไว้ แต่ก็... “ตื่นเต้นสินะ” นับดาวยิ้มพร้อมพยักหน้า “รับรองว่าผู้จัดการบัญชีที่นี่เกินคาดหมาย” นับดาวเลิกคิ้วมองพี่บุษ แต่ไม่ทันได้เอ่ยอะไรลิฟท์ก็มาถึงชั้นห้า นับดาวย้ายสายตาหันไปมอง ขอบอกว่าไม่เหมือนกับที่เธอคิดไว้ กองเอกสาร ฝ่ายบัญชีต้องเต็มไปด้วยแฟ้มเอกสารรายรับ รายจ่าย ใบกำกับภาษีอะไรพวกนี้ไม่ใช่เหรอ แต่สิ่งที่เธอเห็นคือโต๊ะทำงานสีขาวทุกโต๊ะ ทุกโต๊ะมีเจ้าหน้าที่นั่งประจำและทุกคนกำลังจดจ่ออยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์และแฟ้มเอกสารตรงหน้า  “ฝ่ายบัญชีที่นี่มีด้วยกันแปดคน คนที่แปดอยู่ในห้องกระจกตรงนั้น คุณปริญญาเป็นผู้จัดการแผนกบัญชีเทียบได้เป็นคนเก่าคนแก่เลยก็ว่าได้” “นี่!” ทั้งสองสะดุ้ง เมื่อจู่ๆก็มีเสียงมาจากด้านหลัง  “นี่คุณปริญ ทำพี่หัวใจจะวาย” นับดาวมองคนร่างสูง เขา...อ่อ...หรือเธอ...เอาไงดีล่ะ คือผู้จัดการฝ่ายบัญชี “นี่คือ...เด็กฝึกงานที่ว่า” บุษบาที่มือยังทาบอกอยู่พยักหน้าหันไปทางนับดาว ปริญญามองนับดาวเริ่มสำรวจตั้งแต่ใบหน้าไล่ลงไปยังรองเท้าถึงสองรอบและอดไม่ได้ที่จะเดินอ้อมตัวเธอไปดูด้านหลัง นับดาวหันมองตามร่างสูงที่กำลังสำรวจเธออยู่ แม้จะรู้สึกว่าคนตรงหน้าดูจะไร้มารยาทไปสักหน่อยแต่แปลกเพราะเธอกลับไม่รู้สึกแย่นัก คงเพราะแววตาที่ดูจริงใจและใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างใจดี “หน้าตาน่าเอ็นดูจังเลย” ปริญญาเอ่ยเบาๆ  “นี่ พูดแบบนี้หมายความว่ายังไม่ได้ดูรายละเอียดที่พี่ส่งมาให้เมื่ออาทิตย์ที่แล้วใช่มั้ย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD