ตอนที่3

1397 Words
ทั้งสองต่างมีแต่ความตึงเครียดโดยเฉพาะทัพที่ไม่พอใจเป็นอย่างมากแต่ไม่อาจทำอะไรได้ในเมื่ออีกฝ่ายคือแม่ของตน มือยกกุมขมับทั้งที่อายุเกือบจะสามสิบแต่กลับไม่สามารถมีชีวิตคู่เป็นของตัวเองได้ คิดแล้วก็ช่างน่าสมเพช สายตามองขิงที่ยืนอยู่ตรงข้าม อีกฝ่ายมีใบหน้าที่สวยแต่ให้ความรู้สึกไม่มีความเป็นธรรมชาติมองยังไงก็น่าจะถูกแต่งเติมมา ใบข้าวที่เห็นคนรักมองคนตรงหน้าก็หลุบตาลง “แกทั้งสองจะเอายังไง ฉันไม่มีเวลาว่างมานั่งฟังนะ” “แม่ครับ…ผมกับข้าวรักกัน..เราไม่มีสายเลือดเดียวกัน” “ถ้าอย่างนั้นจะให้ฉันเปล่าประกาศสินะ ได้สิ..” “ไม่นะครับ” ใบข้าวรีบแย้งแล้วส่ายหน้า “พี่ทัพ..ไม่เอา” “ข้าว…พี่ไม่ยอมเลิกนะ” “แต่ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเรามีความสัมพันธ์กัน…ยิ่งพี่มีหน้าตาในสังคมผมไม่ยอม..” “แล้วจะให้ทำยังไงข้าวจะยอมเป็นเมียน้อยเหรอ” “ครับ..ผมยอม…” ทัพก็ตกใจพลางกัดฟัน โกรธทุกคนรวมถึงคนรักที่หัวอ่อนคนนี้ด้วย แต่เพราะสถานการณ์มันบังคับจนทำให้ข้าวยอมเป็นเมียน้อย เขาโกรธจนเส้นเลือดหน้าผากปูด ขิงที่มองดูได้แต่หลุบตารู้สึกผิดเต็มประดา พวกเขารักกันมากแต่เพราะมีตนถึงต้องอยู่ในสถานการณ์นี้ ส่วนทิษยากำลังยิ้มอย่างเหนือชัยเพราะทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผนการแม้ใจจริงจะอยากให้เลิกกันมากกว่า “ว่ายังไง จะเลิกหรือจะอยู่ในฐานะเมียน้อย” ใบข้าวเม้มปากแม้จะพูดไปว่ายอมอยู่ในฐานะเมียน้อยได้แต่พอถูกถามก็เริ่มลังเลและทัพก็สังเกตเห็นจนต้องกุมมือแน่น “ฉันไม่ยอมเลิกนะ” ‘….’ “นายจะไม่เลิกใช่ไหม….ใช่ไหม…” ใบข้าวพยายามฝืนยิ้มแล้วหลบสายตา ทัพเห็นเช่นนั้นก็ใจไม่ดีรีบโพล่งตอบ “ข้าวจะอยู่กับผมตลอดไป…เราจะไม่แยกจากกัน” ทิษยาโมโหลูกตัวเองจริง ๆ เธอมองใบข้าวที่สีหน้ากระอักกระอ่วนก่อนจะเอ่ยตาม “…..ผมขอโทษนะครับ…ผมอยากอยู่กับพี่ทัพไม่ว่าฐานะอะไรก็ตาม” ทัพก็เริ่มยิ้ม “ฮึ ถ้าขอโทษจริงแกไม่เอาลูกฉันไปหรอก..ดี! ในเมื่ออยากเป็นเมียน้อยฉันก็จะให้เป็น..ทัพไปจดทะเบียนสมรสกับขิงเดี๋ยวนี้เลย” พอทุกคนได้ยินก็ตกใจ ไม่เว้นแม้แต่ขิงเขาไม่คิดว่าจะถึงขนาดจดทะเบียนสมรสแค่คิดว่าแต่งงานบังหน้าเท่านั้น แต่เพราะทิษยากำลังโกรธจึงเผลอพลั้งปากไปจะกลับคำตอนนี้ก็คงไม่ทัน เธอเดินออกไปจากบ้านโดยจับมือพาขิงไปด้วยกัน “รีบตามมาได้แล้วอย่าให้แม่ต้องโกรธ!” ทัพยืนนิ่ง สองมือกำแน่น ส่วนข้าวก็ร้องไห้เงียบ ๆ “ขอโทษนะข้าว…พี่ขอโทษ..” “ไม่เป็นไรครับ..ยังไงเราก็ได้อยู่ด้วยกันนี่ครับ..สักวันคุณนายจะต้องใจอ่อนกว่านี้แน่นอนตอนนี้ท่านก็ยอมเรามากแล้ว” วันนั้นขิงกับทัพจดทะเบียนสมรสด้วยกันแน่นอนว่าทำให้ผู้คนที่นั่นต่างตกใจเพราะใครจะคิดว่าจู่ ๆ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณนายทิษยาจะมีคู่แล้วทั้งยังไม่เคยได้ยินข่าวใด ๆ แต่ก็เหมาะสมกันมาก หลังจากนั้นสามวันก็มีงานแต่งเล็ก ๆ มีเพียงผู้ใหญ่สองฝ่ายที่มาเป็นสักขีพยานเท่านั้น ขิงไม่คิดเลยว่าตอนนี้ตนจะกำลังแต่งงานกับทัพและกำลังถูกเขาสวมแหวนแต่งงานให้ มันคือเรื่องจริงงั้นเหรอ…ผู้ชายคนนี้กำลังเป็นสามีของตน… หลังทุกอย่างจบลงจึงถึงเวลาเข้าห้องหอ ทิษยาไม่ลืมกำชับขิงอีกหลายครั้งเพื่อจัดการให้ทัพมารักซะและป้องกันให้ดีแม้จะพยักหน้ารับคำแต่เมื่อมาอยู่ในห้องสองคนก็มีแต่ความเงียบ ทัพปลดเนกไทออกแล้วปลดกระดุมเสื้อเพื่อคลายความอึดอัด เพียงนั่งนิ่งอยู่บนเตียงและโทรหาข้าวเพื่อให้สบายใจ ส่วนขิงยืนกระอักกระอ่วนไม่กล้านั่งกระทั่งสบสายตาเข้มคู่นั้นจึงหลุบลง ไม่นานก็ต้องวางสายเพราะอีกฝ่ายต้องทำงานถึงจะเป็นลูกบุญธรรมแต่งานของใบข้าวก็คือคนรับใช้อยู่ดี “นายกับฉันไม่รู้จักกัน ไม่เคยเจอกันมาก่อน ทำไมถึงยอมแต่งงานกับฉัน” สำหรับขิงเขาคิดว่านี่แทบจะเป็นประโยคแรกที่พวกเขาคุยกันนอกจากตอนที่ทัพมาซื้อขนมตนในสมัยเรียนจึงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก มือสองข้างกุมกันจนสั่น หลุบสายตาไม่กล้ามองหน้าเขา “ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง” “คือ…แม้พี่จะไม่รู้จักผม..แต่ผมรู้จักพี่และแอบชอบมาตลอด” คนฟังหรี่ตามองไม่อยากเชื่อ “ถึงขนาดมาทำลายความรักของฉันเลยงั้นเหรอ” ขิงกลืนน้ำลายลงคอยากเย็น ตัวสั่นขึ้นมา ความรู้ผิดถาโถม ประโยคนี้เขามักจะได้ยินตอนที่สามารถทำลายความรู้สึกของคนรักของผู้ว่าจ้างได้ เจ็บปวด…ไม่อยากทำแล้วอยากมีความสุข..แต่ว่าการได้เขามาเป็นสามีก็คือความสุขเหมือนกันต่อให้ต้องทำลายความสัมพันธ์ของทั้งคู่ลง…เขาอยากมีความสุขของตนเองบ้างและโอกาสก็มาถึง “ผมไม่ได้ทำลายนะครับ..แต่ในเมื่อคุณแม่เลือกผม..ผมก็จะเป็นภรรยาของคุณให้ดีที่สุด” “เฮอะ ภรรยาเหรอ นี่นายคิดว่าจะได้เป็นภรรยาของฉันจริง ๆ เหรอ” “คุณหมายความว่ายังไง” “สำหรับฉันนายมันก็แค่คนนอก ข้าวต่างหากคือภรรยาของฉัน และในสายตาแม่นายก็คงเป็นแค่เครื่องมือเท่านั้น” ใช่..อีกฝ่ายพูดถูกทุกอย่างจนขิงรู้สึกอาย “เรา…เราแต่งงาน เราจดทะเบียนสมรสกันแล้วนะครับ ผมเป็นเมียหลวง…ส่วนคน ๆ นั้นก็คือเมียน้อย” ทัพลุกพรวดแล้วปรี่มาหาทันที มือหนาบีบเข้าที่คางจนขิงรู้สึกเจ็บ “นายไม่เคยเป็นเมียหลวง ไม่สินายไม่ใช่เมียฉัน อย่ามาเทียบกับข้าว!” พูดพลางผลักขิงจนกระแทกผนังสายตามองอย่างดูแคลน “อย่าสำคัญตัวนัก!” ขิงเงยหน้ามองอีกฝ่ายที่ขึงขัง ท่าทางจะโกรธอย่างมาก “คุณโกรธไปเถอะแต่ความจริงก็เหมือนเดิม” พูดพลางปลดกระดุมเสื้อตนออกเผยให้เห็นไหล่ขาวเนียน “คุณคือสามีของผม…” ทัพไม่แม้จะสนใจเขาหันหลังเตรียมเปิดประตูออกไป ขิงเห็นเช่นนั้นจึงรีบวิ่งไปกอดจากด้านหลัง หากอีกฝ่ายออกไปตอนนี้ตนต้องถูกคุณนายดุด่าแน่ ๆ และขิงเองก็ไม่อยากให้เขาไป “ปล่อย” น้ำเสียงที่เย็นชาเอ่ยขึ้นเขาไม่คิดเลยว่าจะถูกกอด “ไม่…ผมไม่ยอมเราเพิ่งแต่งงานกันและต้องอยู่ห้องหอถึงเช้านะ” “ฉันไม่ต้องการอยู่กับนาย” “แต่ผมต้องการอยู่กับคุณ” “บอกให้ปล่อย!” ทัพแกะมือที่กอดได้แล้วเหวี่ยงข้าวจนล้มลงอีกครั้ง “อย่ามายุ่งกับฉัน!” “ถ้าพี่ไป คุณแม่ต้องไม่พอใจใบข้าวแน่ ๆ! คิดให้ดีล่ะกันว่าใครจะได้รับผลกระทบมากที่สุด” “นายขู่ฉันเหรอฮะ!” “ผมพูดเรื่องจริง” ทัพยกมือเสยผม ท่าทางเขาโกรธอย่างมากแต่สุดท้ายก็เดินกลับไปนั่งที่เตียงอีกครั้ง เขาต้องอดทนเพราะอย่างไรต่อไปนี้ข้าวก็อยู่ในฐานะเมียของตนแล้ว ทะเบียนสมรสจะเป็นยังไงก็ช่าง ขณะที่กำลังนึกถึงอีกคนแต่กลับพบว่าตอนนี้ขิงกำลังปลดเสื้อผ้าตนเองออกอีกครั้ง “จะทำอะไร” “เราเข้าหอกันแล้วนะครับ…ถ้าพี่ไม่มีอะไรกับผม…ผมจะต้องฟ้องคุณแม่..” ทัพโกรธจนสั่นเขาเดินมาหาแล้วยกมือตบทันที เพียะ! ขิงก็เบิกตากว้าง เหมือนใบหน้าจะชาไปทั้งแถบไม่คิดว่าจู่ ๆ จะถูกตบแบบนี้ “หน้าด้านจริง ๆ อย่าคิดว่าจะขู่ฉันได้ทุกเรื่อง จำไว้!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD