ขูดรีดสหายรัก(1)

1304 Words
“ถึงเมืองหูเจียงแล้วขอรับคุณชายน้อย ท่านจะเดินทางไปหมู่บ้านตีนเขาเลยหรือไม่ขอรับ หรือว่าท่านอยู่จะพักที่เมืองหูเจียงก่อน” ลุงเหอเอ่ยกับซุนหวางแต่สายตากลับหันไปขอความเห็นจากท่านแม่ทัพ “ซุนหวางว่าอย่างไร เจ้าเหนื่อยหรือไม่” “ไม่ขอรับข้ายังเดินทางต่อได้ ข้าอยากไปให้ถึงหมู่บ้านตีนเขาไว ๆ” “ทำไมจะต้องรีบขนาดนั้น ถึงอย่างไรข้าก็ไปกับเจ้าอยู่ดี” ‘อ่า..ยังคิดจะไปอยู่อีกหรือนี่ ข้าคิดว่าท่านแม่ทัพแค่ล้อเล่นเสียอีก’ ซุนหวางคิดและพยายามหาทางเลี่ยงท่านแม่ทัพอีกครั้ง “แต่มันอยู่คนละเส้นทางกับค่ายทหารไม่ใช่หรือขอรับ มันอาจจะทำให้ท่านแม่ทัพเสียเวลา ข้าไม่อยากรบกวน” “ไม่ต้องเกรงใจ จะทางไหนใกล้ไกลนั่นมันเป็นปัญหาของข้า เดินทางกันได้แล้วก่อนที่มันจะค่ำ!” ชิวหานตอบคนตัวเล็กไปด้วยท่าทางที่ยียวน แล้วก็หันมาสั่งลูกน้องด้วยเสียงอันดังฟังชัดเหมือนกับคำสั่งการให้ออกศึกกระนั้น “ขอรับท่านแม่ทัพ!!” ผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือจะทำให้ท่านแม่ทัพของพวกเขาผิดหวัง เสียงร้องขานรับอย่างพร้อมเพรียง และดังกึกก้องของเหล่าทหารกล้าได้สร้างความฉงนให้กับผู้คนที่สัญจรผ่านไปผ่านมาเป็นอย่างยิ่ง ต่างก็พากันสงสัยว่าทหารของกองทัพหลวงจะไปเปิดศึกที่ใดกันถึงได้พากันฮึกเหิมยิ่งนัก “ท่านแม่ทัพ พวกท่านจะไปกันทั้งหมดนี่เลยหรือขอรับ” ลุงเหอผู้ใหญ่บ้านแห่งหมู่บ้านตีนเขาก็ตกใจเช่นกันที่เห็นทหารนับร้อยเตรียมพร้อมจะเดินทางอีกครั้ง ก็มันไม่ใช่แค่ทหารนับร้อยแต่ม้าศึกก็มีนับร้อยเช่นกัน แล้วหมู่บ้านตีนเขาเล็กๆ แห่งนั้นจะไม่พัง ราบเป็นหน้ากลองเลยหรือ “ทำไมล่ะ หมู่บ้านของท่านไม่ยินดีต้อนรับข้าหรืออย่างไร” แม่ทัพชิวหานถามออกไปเนิบ ๆ แต่แฝงด้วยความดุดัน ทำให้คนฟังหัวใจแทบตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม “ตะ..ต้อนรับขอรับ แต่เรื่องอาหารและที่พักนั้น...” “ท่านลุงเหอไม่ต้องเป็นกังวลไป พวกข้าไม่ทำให้ท่านต้องลำบากหรอก ข้าแค่อยากมั่นใจว่าซุนหวางอยู่ที่นั่นจะต้องปลอดภัย ภายใต้การดูแลของท่าน ใช่ไหมท่านลุงเหอ เอาล่ะ..เดินทางกันได้แล้ว” “ขอรับท่านแม่ทัพ!” เหอชวนจำต้องรับคำอย่างหนักแน่นไม่แพ้เหล่าทหารเช่นกัน เห็นทีเขาจะต้องกำชับลูกบ้านอย่างหนักเรื่องของคุณชายน้อยซุนหวางเสียแล้ว หากเกิดสิ่งใดขึ้นกับคุณชายน้อยคนนี้ เฮ้อ..เขาไม่อยากจะคิดต่อเลยเพราะหมดหนทางที่จะหลีกเลี่ยงแล้ว การเดินทางจึงได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง ด้วยการนำของทหารกลุ่มใหญ่ ชิวหานบังคับม้าให้วิ่งช้า ๆ และเข้าไปขนาบข้างกับรถม้าของคนตัวเล็ก ที่ผ้าม่านของรถม้ายังคงเปิดอยู่ “ทำไมท่านแม่ทัพจะต้องข่มขู่ท่านลุงเหอด้วยขอรับ” เมื่อ เห็นชิวหานเข้ามาใกล้ ซุนหวางก็รีบต่อว่าคนอวดเบ่งทันที ลุงเหอก็ดีกับเขาขนาดนั้นยังมิวายโดนคนผู้นี้ข่มเหงด้วยวาจาอีก แบบนี้เขาเรียกว่าใช้อำนาจในทางที่ผิดหรือไม่ “ไม่ชอบหรือ ข้าทำเพื่อเจ้าทั้งนั้นนะ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ข้าก็ทำเพื่อเจ้าได้ ยื่นมือมาสิ” ‘อะไรอีกล่ะ ทำไมถึงชอบวุ่นวายกับข้านัก’ ถึงจะคิดแบบนั้น หัวใจเจ้ากรรมกลับยิ่งเต้นกระหน่ำดั่งกลองศึกทั้งยังยอมยื่นมือออกไปตามคำสั่งแล้วถุงผ้าที่มีน้ำหนักอยู่มากโขก็ถูกวางลงบนมือของเขา ‘ถุงเงินนี่’ ซุนหวางคิด แต่ทำไมมันถึงได้เยอะขนาดนี้ “ท่านแม่ทัพนี่มัน...” “ก็เงินค่ายาของเจ้า ยังสงสัยอะไรอีกหรือ” “ทำไมมันถึงได้มากมายขนาดนี้ขอรับ” “แค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอกตวนหยางย่อมยินดีที่จะจ่าย ต่อให้เยอะกว่านี้เขาก็ต้องจ่าย เจ้าคิดว่าข้าทำได้ดีหรือไม่ที่ช่วยเจ้าขายของได้กำไรงามเช่นนี้ แล้วข้าสมควรได้รับรางวัลไหมซุนหวาง” “ขะ..ข้าไม่มีรางวัลให้ขอรับ เช่นนั้นท่านแม่ทัพก็แบ่งเงินไปก็ได้” “หึ ๆ ๆ ใครเขาอยากจะได้เงินของเจ้ากัน ข้าหมายถึงรางวัลอย่างอื่นต่างหาก ที่ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายสักตำลึง” ชิวหานบอกความต้องการของตัวเองไปทั้งยังใช้สายตาจดจ้องไปที่ริมฝีปากบางอย่างหลงใหล ความรู้สึกและรสจูบของวันนั้นมันก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวไม่เคยจางหายจนอยากจะยื่นมือไปสัมผัสอีกครั้ง ซุนหวางพอรู้ตัวว่าถูกมองตรงส่วนใด ก็รีบดึงผ้าม่านปิดลงทันที คิดถึงตอนนั้นทีไรใบหน้าก็เห่อร้อนขึ้นเมื่อนั้น ‘โอย..ทำไมข้าถึงเป็นเช่นนี้’ ซุนหวางได้แต่สงสัยอาการร้อนรุ่มของตัวเองที่มีต่อบุรุษผู้นี้ ส่วนแม่ทัพชิวหานก็ยังคงควบม้าขนาบข้างรถม้าของซุนหวางด้วยสีหน้าชื่นมื่นและเป็นสุขอย่างยิ่ง ท่าทีขวยเขินที่น่ามองเช่นนี้เขาอยากจะเห็นมันบ่อย ๆ เหลือเกิน ย้อนกลับไปหนึ่งวัน ก่อนการเดินทางสู่เมืองหูเจียง... “ท่านแม่ทัพ คุณชายซุนหวางมียาเหลือหรือไม่” ตวนหยางเอ่ยถามผู้เป็นสหาย ความหวังที่จะได้ยากลับไปให้ท่านหมอปิงนั้น มันก็มีแค่ริบหรี่ เพราะคิดว่าใครเขาจะบ้าซื้อยามาตุนไว้เยอะแยะปานนั้นแต่อย่างน้อย ๆ ขอให้ได้อย่างละสิบยี่สิบเม็ดก็คงจะดี “หากว่าได้มาแล้วเจ้าจะให้ราคาเท่าไหร่หรือ คงไม่ใช่ราคาปกติหรอกนะ กว่าจะหอบหิ้วมาจากเมืองหลวงมันก็ต้องมีค่าขนส่งบ้าง..ว่าอย่างไร” เพื่อคนงามของเขาแม่ทัพหนุ่มถึงกับผันตัวเองเป็นพ่อค้าขายยาชั่วคราวเลยทีเดียว ทั้งยังต่อรองได้เก่งยิ่งนัก “โธ่..ท่านแม่ทัพจะพูดไยให้มากความ หากว่ามีจริงข้าก็ยินดีที่จะจ่ายโดยไม่เกี่ยงราคาแม้แต่น้อย” “มียามาห้าอย่างอย่างละห้าร้อยเม็ด อ่อ..มียาชาด้วยนะ เป็นยาตัวใหม่ ท่านหมอปิงจะต้องชอบแน่ ๆ” “ห๊ะ! ห้าร้อยเม็ด นี่คุณชายซุนหวางเหมายามาจากร้านฟู่เจียงจริงหรือ แล้วเรื่องราคาเล่า..ว่ามาเร็วเข้าสหาย” ตวนหยาง กระตือรือร้นขึ้นมาในทันที “อย่างละห้าร้อยตำลึงทอง” “ว่าอย่างไรนะ ห้าร้อยตำลึงทองก็ไม่ถือว่าแพง ฮิฮิ” “หูเจ้าเพี้ยนหรืออย่างไร ข้าบอกว่าอย่างละห้าร้อยตำลึงทอง รวมแล้วคือสองพันห้าร้อยตำลึงทอง” “สองพันห้าร้อยตำลึงทอง! ชิวหาน..เจ้าจะขูดเลือดขูดเนื้อข้าเกินไปหรือไม่” กุนซือหนุ่มโอดโอย..เขารู้นะว่าคุณชายซุนหวางไม่มีทางขายยาให้เขาแพงเช่นนี้แน่ เฮอะ! คิดจะขายของเอากำไร เพื่อจะได้เอาใจคนงามหรือ แม้แต่สหายของท่านเองก็ไม่ละเว้นเลยนะท่านแม่ทัพ “จะเอาหรือไม่เอา” “อะ..เอาก็เอา แล้วเจ้าช่วยขอเงินคืนจากท่านหมอปิงให้ข้าด้วยนะ” “ก็แค่นั้น..แล้วข้าจะพยายามก็แล้วกัน” ฮ่า ๆ ๆ ๆ นี่คือการกระทำที่ท่านแม่ทัพหนุ่มทำเพื่อคนงามสินะ ช่างน่าสรรเสริญเสียจริงหวังว่าคนงามคงจะพอใจเป็นอย่างยิ่งนะท่านแม่ทัพ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD