“หรือพี่ทำให้แม่พิศไม่มีความสุข”
“มิได้เจ้าค่ะคุณพี่...”
แม่พิศเขินอายยิ่งนักที่ฉุดรั้งคุณหลวงให้หันมองตน เมื่อสามีทำทีเป็นเง้างอนและกำลังจากไป หล่อนรั้งต้นแขนแกร่งให้คุณหลวงหันมอง หวาดหวั่นนักว่าผัวรักจะกริ้วโกรธ ด้วยในฐานะเมียหล่อนไม่ควรให้สิ่งนี้เกิดขึ้นเลย
“แล้วอันใดกันเล่า แม่พิศถึงได้ห้ามพี่”
“น้อง... เอ่อ... น้องกลัวเจ็บเจ้าค่ะ มันเจ็บเหลือเกิน น้องไม่รู้ว่าจะทนได้อีกหรือไม่ น้อง...”
“โธ่... พี่คิดว่าเรื่องอันใด แม่พิศของพี่”
ใบหน้าโน้มต่ำเข้าหาเมียรัก จูบรับขวัญซ้ายขวาอย่างแสนรักแสนหลง เมื่อคิดว่าเมียรักช่างไม่ประสานัก เรื่องความเจ็บนั้นใครกันเล่าที่จะเจ็บนาน
“มันแค่ครั้งแรกเท่านั้นที่แม่พิศจะเจ็บ แต่ครั้งต่อๆ ไปจะมีแต่ความสุขเท่านั้นที่แม่พิศจะได้รับ พี่คงต้องพิสูจน์ แม่พิศจะได้รู้ว่าพี่พูดจริง”
เมื่อคุณหลวงผัวรักโน้มใบหน้าลงหาพร้อมกับพรมจูบไปทั่วทั้งร่าง แม่พิศก็ยิ้มรับอย่างยินดี เพราะต้องการรู้เพียงเท่านั้น หากครั้งต่อไปไม่เจือไปด้วยความเจ็บอีก สิ่งที่ได้ยินมาก็คงจริงแท้แน่นอน
‘สุข’ ราวได้ล่องลอยขึ้นสู่สรวงสวรรค์ สุขราวกับโลดแล่นขึ้นไปบนเขาพระสุเมรุ
แม้หล่อนจะไม่รู้ว่าสวรรค์นั้นเป็นเช่นไร หรือยอดเขาพระสุเมรุนั้นสูงชันเสียดฟ้าเพียงไหน ทว่าอาการล่องลอยยามคุณหลวงปาดไล้ปลายลิ้นไปจนทั่วทั้งร่างก็ทำให้หล่อนต้องร้องครวญครางด้วยความสุขท่วมท้นไม่หยุดเช่นกัน
“อา... คุณพี่ขา... คุณพี่เจ้าขา... อื้อ... น้องเสียวเหลือเกิน... คุณพี่เจ้าขา... น้องเสียว...”
“ชอบหรือไม่แม่พิศ แม่พิศชอบหรือไม่”
“ชอบเจ้าค่ะ ชอบ น้องชอบ อื้อ... คุณพี่เจ้าขา... น้องชอบ... อื้อ...”
ปลายนิ้วแยงลึกสู่ช่องทางสวรรค์ พร้อมๆ กับปลายลิ้นที่กดกระหน่ำรัวเร็วไม่ยั้ง ทำให้ทุกคำถามได้รับคำตอบจนหมดสิ้น
ไม่มีแล้วความเอียงอายและใบหน้าที่ก้มงุด มีแต่ใบหน้าที่ส่ายสะบัดไปมาไม่แพ้สะโพกผายที่ส่ายร่อนรับปลายลิ้น และเมื่อเมียรักกรีดร้อง คุณหลวงก็จ้วงแทงปลายนิ้วพร้อมกดลิ้นแนบแน่นกับเกสรดอกไม้ที่ตอดตุบจนต้องเพิ่มแรงกดหนักๆ ให้หล่อนครวญครางแอ่นดอกไม้ฉ่ำน้ำปะทะใบหน้าของเขาไม่หยุดเช่นกัน
“โอว... คุณพี่ขา... น้องเสียวเหลือเกิน... โอว...”
แม่พิศยังคงครวญครางไม่ขาดปาก ทั้งที่ดอกไม้ของหล่อนตอดตุบปลายลิ้นของผัวรักไปแล้ว ทว่าหนทางสวรรค์นี้ก็ยังไม่สิ้นสุด อีกไม่นานความอึดอัดคับแน่นของผัวรักคงจะสอดแทรกลงมาให้หล่อนต้องดิ้นพล่านไปด้วยความซ่านเสียวอีกแน่ เพราะเวลานี้ที่ปากทางฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำหวาน หล่อนรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งปนร้อนถูไถอยู่ภายนอก
“อื้อ... คุณพี่... น้องเสียว... อื้อ...”
“หึหึ... ยังมีเสียวกว่านี้อีกแม่พิศ”
คำตอบที่ทำให้แม่พิศต้องยิ้ม เมื่อคิดว่าจะมีอะไรที่เสียวไปกว่านี้อีกหรือ หล่อนจะได้รับความน่าอัศจรรย์ใจอีกครั้งแล้วใช่หรือไม่ มิน่าเล่าสาวๆ ที่พากันออกเรือนไปจึงได้หน้าตาระรื่นนัก เพราะไม่ใช่เพียงความสุขเดิมๆ ที่ได้รับอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่เป็นความสุขใหม่ที่ทำให้ตื่นเต้นไม่หยุด
และนี่เพียงเข้าวันที่ 2 หากเป็นพรุ่งนี้ มะรืนนี้ หรือมะเรื่องนี้เล่า ความสุขจะท่วมท้นสักเพียงไหน แม่พิศครุ่นคิดพร้อมพลิกกายตามที่คุณหลวงต้องการ
‘อา... หล่อนกำลังได้รับความสุขที่ไม่มีวันจบสิ้นเหรอนี่’
แลหน้าท้องแบนราบที่พาดผ่านกับขอบเตียงก็ต้องหดเกร็งจนแม่พิศต้องขยุ้มผ้าปูที่นอนแน่น ดวงตาเบิกกว้างทอดมองร่องรอยความเจ็บปวดเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ด่างดวงสีแดงนั้นกระจัดกระจายเป็นคราบฝังแน่นไปทั่วผ้าปูพื้นขาว ขณะความรู้สึกครั้งใหม่กำลังสอดแทรกเข้าลึก
“อ่ะ! คุณพี่... น้องเจ็บ... อื้อ... คุณพี่... ซี้ด...”
ความแข็งแกร่งของคุณหลวงสอดแทรกเข้ามาจากทางบั้นท้ายชำแรกรอยเจ็บแสบและบวมเป่งจนแม่พิศต้องห่อริมฝีปากซู้ดซี้ด ทว่ามันกลับเป็นความเจ็บแสบที่ทนได้
“ไม่เจ็บหรอก เชื่อพี่”
“อา... คุณพี่... อื้อ... น้อง...”
“ไหนบอกพี่สิว่าแม่พิศรู้สึกเช่นไร อืม... บอกพี่... อืม...”
“น้อง... น้อง... อื้อ... คุณพี่ขา... อื้อ...”
“บอกพี่สิว่าแม่พิศเสียว... อา... พี่ก็เสียว... อืม...”
“น้อง... อื้อ... น้องเสียวเจ้าค่ะ... คุณพี่เจ้าขา... น้องเสียว...”
ฝ่ามือจับบั้นท้ายกลมกลึงพร้อมกระแทกกดบั้นเอวกระหน่ำใส่ และทุกครั้งที่ค่อยๆ ถอนตัวตนก่อนจะกดลงไปอีกครั้ง ดวงตาเต็มไปด้วยความปรารถนาก็เห็นพูเนื้อหนั่นบวมเป่งขยับเข้าออกเพื่อให้ความแข็งแกร่งสอดแทรกได้ง่ายขึ้น เขาจึงกดแก่นเนื้อแข็งแรงเข้าออกให้ลึกมากขึ้น ยิ่งลึกยิ่งรับรู้ถึงแรงตอดรัดที่ไม่มีส่วนใดในร่างกายจะสามารถทำได้นอกจากโพรงฉ่ำน้ำแห่งนี้
“โอว... คุณพี่... โอว... ซี้ด... คุณพี่ขา... โอว... น้องเสียว... อู้...”
เสียงร้องและใบหน้าซ่านไปด้วยแรงอารมณ์ของแม่พิศ คือ ยาปลุกความกำหนัดชั้นดีที่ทำให้เขาตื่นตัวอย่างสุดๆ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่แสดงความร้อนแรงและตอบโต้ในสิ่งที่เขาถาม หรือที่จริงเขาเองก็ไม่เคยถามคู่นอนสักครั้งว่ารู้สึกเช่นไร มีแต่จะรีบปลดเปลื้องให้เสร็จสิ้นไปเร็วพลัน