ออดดด~ เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้นทำให้ฉันเดินลงมาเปิดประตูดูว่าใครมา เพราะถ้าเป็นแม่ก็น่าจะเปิดประตูรั้วเข้ามาเลยมากกว่า วันนี้แม่โทรมาบอกฉันว่าต้องทำงานล่วงเวลาเพราะมีงานด่วนเข้ามา ฉันเลยต้องอยู่บ้านคนเดียวไปก่อน พอฉันเปิดประตูออกมาก็เจอกับเลโอที่ยืนอยู่หน้ารั้ว เขาจ้องมาที่ฉันสายตายังคงนิ่งและน่ากลัวเหมือนเดิม....
“จะยืนจ้องอีกนานมั้ย?” เขาพูดขึ้นเมื่อเห็นฉันเอาแต่ยืนมองหน้าเขาอยู่หน้าประตู
“น...นายมาทำไมอ่ะ” ฉันเอ่ยถามออกไปแบบกล้าๆ กลัวๆ แล้วก็หลุบตาลงต่ำหลบสายตาเขาที่กำลังจ้องฉันอยู่
“เปิดประตู...ให้หน่อย...”
เขาพูดขึ้นเสียงเบาลง แต่ฉันก็ยังกล้าๆ กลัวๆ ที่จะไปเปิดประตูให้เขาอยู่ดี เผื่อเขาโมโหแล้วเผลอฆาตกรรมอำพรางฉันขึ้นมาจะทำยังไง T^T
“ต..ตอบมาก่อนสิ น..นายมาทำไมเวลานี้อ่ะมันมืดแล้วนะ ถ้าจะมาหาแม่ฉันท่านยังไม่กลับมาเหรอก นายกลับไปก่อนเถอะ” ฉันพยายามรวบรวมความกล้าตอบเขาไปทั้งที่ในใจยังคงเต้นตุบๆ อย่างกับงานเทศกาลดนตรี
“....เธอ” เขาตอบกลับมาเสียงเบาทำให้ฉันไม่ได้ยินคำก่อนหน้านั้น เขาคงไม่ได้พูดว่า 'ฉันมาฆาตกรรมเธอ’ แบบนี้ใช่มั้ย TT
“..ฉันมาหาเธอ..เปิดประตูให้หน่อย...”
เขาพูดเสียงดังขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อยแถมยังก้มลงมองพื้นอีก เขาเป็นอะไรหรือเปล่า? เขาคงไม่ได้กำลังโมโหฉันอยู่หรอกนะ T^T
“.....” ฉันเลือกที่จะเงียบแล้วค่อยๆ เดินไปเปิดประตูรั้วให้เขา พอเห็นฉันมาเปิดประตูให้เขาก็เดินกลับไปที่รถแล้วหยิบถุงบางอย่างที่ห้อยอยู่เดินเข้ามาด้วย หวังว่านั่นจะไม่ใช่อาวุธที่จะใช่เชือดฉันเหรอกนะ ฮืออออ~
เขาเดินนำหน้าฉันมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูบ้านแล้วหันกลับมามองฉันที่เดินตามหลังเขามาจนฉันแทบจะชนกับเขาฉันเหวอจนรีบกระโดดถอยหลังออกห่างจากเขาทันที
“คุณน้าไม่อยู่...ไปนั่งตรงนั้น...”
เขาพูดพร้อมกับชี้ไปที่โต๊ะในสวนหย่อมเล็กๆ ข้างบ้านฉันแล้วเดินนำหน้าฉันไปนั่งตรงนั้นก่อนจะส่งสายตามามองฉันที่ยังยืนมองการกระทำเขาอยู่ที่เดิม พอสายตาของเขามาปะทะกับสายตาฉันที่กำลังมองเขาอยู่ฉันก็ขนลุกซู่ขึ้นมาทันทีเลย น่ากลัวอ่ะ
“น...นายมีอะไรเหรอ? อ๊ะ...”
ฉันกลั้นใจถามเขาหลังจากที่เดินมานั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามเขา เลโอไม่ได้ตอบคำถามฉันแต่เอื้อมมือมาจับที่คางฉันเบาๆ แทน เขาจับคางฉันให้หันไปทางซ้ายทีขวาทีแล้วเอาแต่จ้องอยู่แบบนั้นจนฉันประหม่าขึ้นมากับการกระทำของเขาตอนนี้ เขาคงไม่ได้กำลังคิดว่าแผนว่าจะอำพรางร่างฉันยังไงให้เนียนที่สุดหรอกใช่มั้ย TT
“เจ็บมั้ย...” เขายังคงจ้องมาที่คางของฉันที่เขาจับอยู่
“ม...ไม่แล้วล่ะ...หายแล้ว” ฉันตอบเขาเสียงเบา ความจริงฉันก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากเหรอกฉันแค่ตกใจกับการที่เขาทำแบบนั้นมากกว่าเพราะเมื่อก่อนที่รู้จักกันเขาไม่เคยเป็นแบบนี้ พอมาเจอเขาในเวอร์ชั่นแบบนี้ฉันเลยกลัวเขาอยู่ตลอดเวลา เขาในตอนนี้ราวกับว่าเป็นคนละคนกับเขาในตอนนั้นที่เหมือนกันก็มีแค่ชื่อเท่านั้นเอง..
“ขอโทษ....” เขาพูดออกมาเบาๆ แต่หูฉันกลับได้ยินชัดมากราวกับว่ามันก้องกังวาลอยู่ในหู
ฉันมองเขางงๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อในหูของตัวเองเพราะนี่คือคำขอโทษแรกที่เขาเอ่ยออกมาหลังจากที่กลับมาเจอกันตอนโต เขาหยิบถุงที่เขาถือเข้ามาแล้วหยิบหลอดยาออกมาจากถุงก่อนจะทายาในหลอดนั้นลงบนคางของฉันอย่างเบามือซึ่งฉันก็ไม่เข้าใจว่าเขาจะทายาให้ฉันทำไมในเมื่อมันแค่ช้ำปกติต้องกินยาไม่ใช่เหรอ? แล้วจากที่ได้กลิ่นนี่มันยาทาแก้ปวดเมื่อยนี่...แต่ก็ช่างเถอะแค่นี้ก็เห็นแล้วว่าเขาเองก็ห่วงฉันเป็นเหมือนกันแค่นี้ก็พอแล้ว
“หวังว่ามันจะไม่ช้ำนานนะ...” เขาพูดขึ้นในขณะที่ทายาให้ฉัน ฉันทำได้แค่เกร็งตัว หลับตาแล้วอยู่นิ่งๆ แทบจะกลั้นหายใจเลยทีเดียว
“น..นายไม่สบายเหรอ? หรือก่อนมานี่หัวนายกระแทกอะไรมา” ฉันเอ่ยถามเขาอย่างสงสัยเมื่อเขาทายาให้ฉันเสร็จพร้อมกับแปะแผ่นกอเอี๊ยะลงบนคางฉัน
ฉันจ้องมองเขาอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาทำวันนี้เลย เขาใจร้ายกับฉัน... ปากร้ายกับฉัน... แล้วตอนนี้ก็มาทำดีกับฉัน...
เขาต้องการอะไรกันแน่?
“ตลกน่า...” -_-* เขาทำหน้านิ่งแล้วตวัดสายตาน่ากลัวแบบที่เคยทำปกติใส่ฉัน ฉันว่าเขาเป็นไบโพล่าร์แล้วล่ะเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย -0-
“ก...ก็นายทำตัวผิดปกติ...” คำพูดของฉันทำให้เลโอหันมาจ้องหน้าฉันอย่างจริงๆ จังๆ แต่การจ้องครั้งนี้สายตาเขาไม่ได้ดูน่ากลัวเหมือนทุกที
“นาย..นายปากแตกด้วย ไปล้มกระแทกอะไรมาใช่มั้ยล่ะเลยมีอาการแปลกๆ แบบนี้ เดี๋ยวรอตรงนี้แป๊บนึงนะ” ฉันบอกเขาก่อนจะลุกเตรียมวิ่งเข้าไปในบ้านหากล่องยา
หมับ! เลโอจับแขนฉันกำลังจะออกตัววิ่งไว้จนตัวฉันเซเกือบล้มหงายหลัง ดีนะที่ฉันหันมาจับขอบโต๊ะไว้ทันไม่งั้นล้มเจ็บตัวอีกแน่ๆ >_<
“ฉันจะไปเอากล่องยามาให้นายทำแผลน่ะ...” ฉันบอกกับเขา พอฉันพูดจบเลโอก็หยิบชุดทำแผลออกมาจากถุงยาที่เขาหิ้วเข้ามา
“ใช้อันนี้..” เขาพูดเสียงเบาพร้อมกับทำหน้าเจ็บแผลตรงปาก
“.......” ฉันเลยนั่งลงมองเขากับชุดทำแผลสลับกับไปมาช้าๆ
“ให้เธอทำ...” เขาพูดขึ้นมาเบาๆ พร้อมกับมองมาที่ฉัน ฉันชี้ตัวเองในเชิงถามซ้ำอีกรอบ เลโอพยักหน้าตอบก่อนจะย้ายมานั่งเก้าอี้ข้างๆ ฉันแทน
“ฉันทำแผลไม่ค่อยเก่งนะ นายอาจจะเจ็บทนหน่อยล่ะ”
ฉันบอกเขาพรางค่อยๆ เอาสำลีชุบน้ำเกลือเช็ดแผลให้เขา ฉันประหม่ามากที่ต้องโดนเลโอจ้องหน้าในระยะที่ใกล้ขนาดนี้ แต่เพราะกลัวเขาจะเจ็บฉันเลยต้องตั้งใจโฟกัสแผลของมากกว่าสายตาของเขา
“อ่ะ เสร็จแล้ว...” ฉันพูดขึ้นพร้อมกับแปะพลาสเตอร์แบบกันน้ำไว้ที่มุมปากของเขา
‘เป็นแผลต้องติดพลาสเตอร์นั่นแหละเนาะไหนๆ เขาก็ซื้อมาแล้ว ^O^’ ฉันคิดในใจแบบนั้นพลางมองไปที่พลาสเตอร์ตรงมุมปากเขา
“อืม...” เลโอพยักหน้าตอบแล้วยกมือขึ้นมาลูบตรงพลาสเตอร์ที่ฉันติดให้ แล้วเขาก็จ้องมาที่หน้าฉันทำให้ความเงียบเข้ามาปกคลุมอีกรอบจนฉันเริ่มกลัวสายตานิ่งๆ แบบคาดเดาอะไรไม่ได้แบบนี้ของเขาอีกครั้ง ฉันหลบตาลงต่ำและหวังว่าเขาคงจะไม่อาการไบโพล่าร์กำเริบแล้วควบคุมตัวเองไม่อยู่จนฆาตกรรมอำพรางฉันนะ TT
“อ้าวเลโอ ทำไมมาซะมืดเลยล่ะจ๊ะ มาอยู่เป็นเพื่อนบราวนี่เหรอลูก แล้วนั่นหน้าไปโดนอะไรมาทั้งคู่เลย”
เสียงสวรรค์ช่วยชีวิต! แม่ของฉันที่เปิดประตูรั้วเข้ามา รัวถามฉันกับเลโอเป็นชุดทำให้ฉันกับเลโอหันหน้าไปมองกันอีกรอบ
“อ๋อ...ไม่มีอะไรเหรอกค่ะแม่ แค่ยุงกัดค่ะ แหะๆ” ฉันยิ้มแห้งกลบเกลื่อนกลัวแม่ซักไซ้มากกว่านี้ แต่แม่คงเชื่อเหรอก ยุงที่ไหนจะกัดปากเล่า โถ่...
“แล้วทำไมไม่เข้าไปนั่งเล่นในบ้านล่ะลูกข้างนอกยุงเยอะจะตายไป มาๆ เข้าบ้านกัน เลโอวันนี้ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนนะลูก” แม่ฉันตัดบทก่อนจะเดินหิ้วถุงกับข้าวเดินนำเข้าบ้านไปก่อน
“เอ่อ...นายจะเข้าบ้านมั้ย?” ฉันเอ่ยถามหลังเมื่อเห็นเลโอยังนั่งเงียบอยู่เหมือนเดิม
“….” เขาไม่ตอบแต่ลุกขึ้นเดินเข้าบ้านตามแม่ฉันไป ปล่อยให้ฉันนั่งมองหลังของเขาตาปริบๆ
“เห้อ...ฉันล่ะไม่เข้าใจนายจริงๆ เลย...” ฉันพึมพำเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าบ้านเป็นคนสุดท้าย วันนั้นหลังจากทานข้าวเสร็จกว่าเลโอจะกลับบ้านก็มืดพอสมควรแล้วดีหน่อยที่บ้านเลโออยู่ห่างไปไม่ไกลมาก เขาขับรถออกไปไม่ถึง 20 นาทีก็โทรมาบอกแม่ฉันว่าถึงบ้านแล้ว เลโอเป็นคนที่ขับรถเร็วมากถึงแม้จะเคยได้ยินคุณป้าแม่ของเขาจะบ่นอยู่บ่อยๆ ก็ตามแต่เขาก็ยังขับเร็วอยู่ดี =_=” ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาโดนใบสั่งไปกี่ครั้งแล้ว