แผลงฤทธิ์

1450 Words
ไร่ภครารมย์ "กรี๊ดดดดดดด....ออกไปให้หมด หยีเกลียด! เกลียด! เกลียดๆๆทุกคน! ออกไป๊! กรี๊ดดดดด!" เสียงกรีดร้องของแก้วเจ้าจอมดังกระหน่ำขึ้นราวกับพายุหมุนตัวจากพื้นดินขึ้นสู่ที่สูง ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ชั้นหนังสือรวมถึงสำรับอาหารร่วงลงเกลื่อนกลาดไปทั่วพื้นห้องจากน้ำมือเล็กๆ ของเด็กสาววัยเพียงสิบเก้าปี 'ยาหยี แก้วเจ้าจอม ภครารมย์' "เชิญทางนี้เลยครับคุณหมอ" เสียงคุ้นเคยของพ่อบ้านดังขึ้นจากหน้าประตู ทว่ากลับมีชื่ออีกบุคคลหนึ่งถูกเชื้อเชิญมาด้วย "หยีใจเย็นๆ นะคะลูก แม่กำลังตามคุณหมอมาช่วยดูแลลูกนะ" คุณยอดดาวได้แต่ปลอบขวัญบุตรสาวอยู่ห่างๆ เพราะกลัวโดนลูกหลงจากการกระทำอันไร้สติของแก้วเจ้าจอม "แม่! หยีไม่ได้บ้านะ แต่ถ้าแม่ให้หยีไปเรียนต่างประเทศหยีไม่ยอมเด็ดขาด หยีไม่อยากไป!" เด็กสาวยังคงโวยวาย และเอาแต่เรียกร้องความต้องการของตนเอง "สวัสดีครับ ผมนายแพทย์โจนาส เมอร์ฟี่ครับ เป็นจิตแพทย์ที่จะมารักษาคุณแก้ว..." นายแพทย์โจนาสพูดไทยชัดเจนทุกคำ ทว่ากลับถูกเสียงของหญิงสาวพูดแทรกขึ้นเสียก่อน "กรี๊ดดดด! ออกไป! หยีไม่ได้บ้า! หยีบอกว่าหยีไม่ได้บ้าไงคะแม่!" แก้วเจ้าจอมโวยวายท่าเดียว ทั้งที่ยังไม่ได้หันมามองหน้าชายหนุ่มเสียด้วยซ้ำ "ชื่อยาหยีค่ะ เรียกชื่อยาหยีดีกว่านะคะ น้องจะได้ไม่เครียด" คุณยอดดาวบอกนายแพทย์หนุ่ม "กรี๊ดดดด! มันเป็นใคร ทำไมแม่ต้องให้มันเรียกชื่อเล่นหนู ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!" มือเรียวเอื้อมไปหยิบหนังสือเล่มใหญ่ก่อนที่จะขว้างมันมาทางโจนาส หนังสือเจ้ากรรมจึงลอยมาโดนหน้าผากของชายหนุ่มเข้าเต็มๆ จนมีเลือดไหลซึมออกมา แผลคงเป็นรอยกรีดของแผ่นกระดาษ หรืออาจเกิดจากพลาสติกที่ห่อหนังสืออยู่ก็เป็นได้ คุณยอดดาวตกใจจนทำอะไรไม่ถูก นางจึงรีบวิ่งเข้ามาดึงแขนคุณหมอหวังจะพาเดินออกจากห้องนอนของแก้วเจ้าจอม ทว่า... "เดี๋ยวครับ ผมขอเชิญคุณออกไปรอข้างนอก แล้วปล่อยให้ผมอยู่ในห้องนี้กับเด็กคนนี้ตามลำพัง" โจนาสพูดเสียงจริงจัง "เอ่อ...ฉันต้องขอโทษแทนลูกสาวด้วยนะคะที่ทำให้คุณได้รับบาดเจ็บ แต่ว่าตอนนี้ยาหยีอาการหนักมาก ปล่อยให้แกอยู่ตามลำพังเถอะนะคะ" คุณยอดดาวพูดเช่นนั้นออกไปเพราะเกรงว่าเขาจะโกรธเคืองบุตรสาวของตนเอง" "ไม่ต้องขอโทษผมหรอกครับ ผมไม่ถือคนบ้าอยู่แล้ว ผมแค่ต้องการที่จะประเมินอาการป่วยของเขาว่าถึงขั้นสาหัสแค่ไหน" แก้วเจ้าจอมหันขวับมามองใบหน้าคมคายด้วยแววตาโกรธเคือง เธออึ้งไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าบุรุษผู้นี้สามารถพูดไทยได้ชัดเจนแม้ว่าใบหน้าหล่อเหลาของเขากับดวงตาสีฟ้าหม่นคู่นั้นจะดูเหมือนชาวตะวันตกโดยแท้จริง "ออกไปนะ!" แก้วเจ้าจอมออกปากไล่โจนาสอีกครั้งหลังจากมารดาเดินออกไปแล้ว ทว่าครั้งนี้เสียงกลับเบาลงเพราะอยู่กันตามลำพังแค่สองคน "ใจเย็นๆสิ เราเป็นเพื่อนกันได้นะ มีอะไรอยากเล่าให้ผมฟังไหม" โจนาสสังเกตอาการของแก้วเจ้าจอมผ่านรอยยิ้มที่กำลังส่งไปผูกมิตรกับเธอ 'เด็กสมัยนี้เอาแต่ใจถึงขั้นยอมแกล้งบ้าเลยเหรอวะ' โจนาสได้แต่คิดในใจ ในฐานะที่เป็นจิตแพทย์ เพียงแค่เขาเห็นเธอโวยวายก็รู้แล้วว่าเป็นแค่เด็กเอาแต่ใจ ไม่ใช่คนเป็นบ้าอย่างที่เธอกำลังแกล้งหลอกคนอื่นๆ อยู่ "นายออกไปจากห้องของฉันได้แล้ว และก็อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก" ใบหน้าสวยเบือนหนีไปทางอื่น แล้วจึงเดินตรงไปหยิบเอาตุ๊กตาหมีตัวสีน้ำตาลของตนเองขึ้นมา จากนั้นจึงยื่นมันมาให้นายแพทย์หนุ่ม "นี่ไง โจนาสเขาเป็นพื่อนของฉัน ฉันจะให้เขาไล่นายออกไปจากห้องนอนของฉัน" โจนาสอมยิ้มน้อยๆ ที่ตุ๊กตาหมีของแก้วเจ้าจอมดันมาชื่อตรงกันกับชื่อของตน "งั้นโจนาสยินดีที่ได้รู้จักกับโจนาสแล้วก็ยาหยีนะครับ" ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ และยื่นมือมาตรงหน้าหญิงสาวเพื่อที่จะแตะสัมผัสตุ๊กตาตัวนั้น "เอ๊ะ! นายกล้าดียังไงมาเรียกชื่อของฉัน แล้วยังจะมาเรียกชื่อโจนาสของฉันอีก" เธอกอดตุ๊กตาเพื่อนรักไว้แน่น "ไม่ให้เรียกยาหยีแล้วจะให้เรียกอะไร?" เขาเลิกคิ้วถาม และลดมือลงเมื่อเธอเมิยเฉยต่อการสานสัมพันธ์ "ไม่ต้องเรียก เพราะว่านายจะไม่ได้มาเป็นหมอหรืออะไรทั้งนั้นแหละ ออกไปจากห้องของฉันเดี๋ยวนี้" แก้วเจ้าจอมออกปากไล่อีกครั้ง "ผมรับเงินค่าจ้างจากคุณพ่อของคุณมาแล้วนะครับ แต่ดูเหมือนคุณพ่อของคุณจะเสียเงินให้ผมเปล่าๆ นะ เสียเงินให้จิตแพทย์มารักษาลูกสาวที่ป่วยเป็นโรคเอาแต่ใจ" โจนาสตัดสินใจพูดออกไปตามตรง เพราะเขาเองก็ไม่อยากที่จะเสียเวลาทำงานทำการไปกับเรื่องไร้สาระเช่นนี้ "พูดบ้าอะไรของนาย?" ใบหน้าจิ้มลิ้มบูดบึ้งเมื่อถูกอีกฝ่ายจับได้ขึ้นมา อุตส่าห์คิดว่าตนตีบทคนบ้าแตกกระจุย "ผมจะเอาเงินทั้งหมดที่รับมาไปคืนคุณพ่อคุณนะครับ ทีแรกที่ผมรับงานนี้เพราะผมฟังคำร่ำลือเกี่ยวกับตัวคุณมาแล้วผมก็นึกสงสาร แต่พอมาเจอตัวจริงเข้าวันนี้...ไม่น่าสงสารเลยสักนิด ขอตัวนะครับ" โจนาสพูดเช่นนั้นแล้วจึงหมุนตัวเดินตรงไปยังประตู ทว่าแก้วเจ้าจอมกลับวิ่งเข้ามาขวางทางชายหนุ่มไว้ได้ทัน "เดี๋ยว! นายจะไปไหน?" "ไปทำอะไรที่เป็นประโยชน์มากกว่านี้" "นายพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?" "ก็หมายความว่า...คุณมันก็แค่เด็กเอาแต่ใจ ไม่ได้บ้า แต่ว่าเอาแต่ใจจนต้องแกล้งบ้า แบบนี้อาการหนักกว่าบ้าอีกนะ โรคนี้ผมรักษาไม่ได้" โจนาสดันหัวไหล่ของคนตัวเล็กให้หลบทาง ทว่าเธอกลับทรุดตัวนั่งลงกับพื้นและร่ำไห้ออกมา "นายอย่าบอกคุณพ่อนะว่าฉันไม่ได้บ้า นะฮืออ..." แก้วเจ้าจอมสะอื้นไห้ และขยับเข้าไปกอดขานายแพทย์หนุ่มไว้เป็นการอ้อนวอน ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งยังคงกอดตุ๊กตาหมีอยู่ โจนาสทิ้งตัวนั่งลงจ้องมองคนขี้แย ทำให้เขามองเห็นแววตาที่เศร้าหมองของเด็กสาวอย่างชัดเจน มันไม่ใช่การเสแสร้ง จึงพอรู้ว่าความจริงแล้วแก้วเจ้าจอมคงมีเรื่องหนักใจอยู่ไม่น้อย อยู่ๆ กลับรู้สึกสงสัย ว่าเธอมีความทุกข์เรื่องอะไรที่อยู่ในใจเป็นแน่ "การที่คุณไปโกหกเรื่องใหญ่โตขนาดนี้มันไม่ใช่เรื่องดีนะ มันเป็นผลกระทบต่อคุณล้วนๆ" เขาพูดในขณะที่สบสายตากับหญิงสาว "ฉันไม่สนใจหรอก เพราะฉันมีเหตุผลจำเป็นต้องทำแบบนี้" "ผมไม่เข้าใจเหตุผลของคุณ มันหนักหนาถึงกับต้องแกล้งทำขนาดนี้เลยเหรอ มันไม่ใช่เรื่องดีเลยจริงๆ แล้วมันก็เป็นเรื่องที่แย่มากๆ มันบ่งบอกว่าคุณเป็นคนนิสัยแย่ขนาดไหนด้วย" แก้วเจ้าจอมทำหน้ามุ่ย เพราะตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยมีใครกล้าว่าเธอขนาดนี้มาก่อน หญิงสาวกอดตุ๊กตาหมีไว้แน่น และก้มหน้าลงซบกับเจ้าตุ๊กตาขนนุ่มของตนเอง โจนาสได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆ และถอนหายใจเฮือกใหญ่ จากนั้นจึงประคองร่างเล็กกะทัดรัดให้ยืนขึ้น "ตกลงว่าจะบอกได้หรือยังว่าเป็นอะไรกันแน่?" คนโดนถามทำตาเลิ่กลั่ก หรือว่าเธอจำเป็นที่จะต้องบอกความจริงกับเขาไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด "งั้นนายสัญญาก่อนสิว่าจะไม่บอกพ่อกับแม่ของฉัน และนายก็จะต้องเป็นจิตแพทย์ของฉัน สัญญาก่อนนะ หรือว่านายอยากได้อะไรฉันก็ยอมทั้งนั้น แต่เรื่องนี้นายต้องช่วยฉัน" แก้วเจ้าจอมส่งสายตาออดอ้อนไร้เดียงสามายังจิตแพทย์หนุ่ม ทั้งคู่จึงสบสายตากันอยู่เนิ่นนาน...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD