"ต้องขอฟังดูก่อนว่าเรื่องที่ขอให้ช่วยมันสมควรที่จะช่วยหรือเปล่า" โจนาสบอก เพราะเขาคงไม่สามารถที่จะช่วยเหลือหญิงสาวในเรื่องที่ไม่ถูกต้องได้เช่นที่เธอกำลังทำอยู่ในขณะนี้
"คือ...เอ่อ...ไม่อยากไปเรียนต่างประเทศ แต่คุณพ่อบังคับให้ไปเรียน" ริมฝีปากอวบอิ่มเบะคว่ำเมื่อต้องพูดความจริงที่น่าอายให้คนที่เธอเพิ่งเห็นหน้าเป็นครั้งแรกฟัง เพราะคนใกล้ชิดไม่มีใครที่สามารถให้คำปรึกษาได้เลยแม้แต่คนเดียว
"เรื่องแค่นี้เอง"
"เรื่องแค่นี้สำหรับนายแต่มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับฉันนะ ฉันมีเหตุผลที่ฉันไม่อยากไป" เธอเถียง
"งั้นเอาอย่างนี้นะ เรื่องนี้เราค่อยคุยกันทีหลัง ตอนนี้คุณสงบสติอารมณ์แล้วก็คิดไตร่ตรองการกระทำของตัวเองให้ดี เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะมาหาใหม่ ตอนนี้ต้องกลับไปดูบ้านพักก่อน"
"ไปด้วยได้ไหม?" หญิงสาวเอ่ยขอ ดวงตาเป็นประกายคาดหวัง
"คงไม่ได้หรอกครับ คุณพ่อกับคุณแม่ของคุณคงไม่ปล่อยให้เด็กอายุสิบเก้าที่เป็นบ้า ให้ออกไปไหนมาไหนกับจิตแพทย์ที่เพิ่งจะมาที่นี่เป็นวันแรก เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะ" โจนาสพูดเท่านั้นแล้วจึงเดินออกจากห้องนอนไปทันที ปล่อยให้แก้วเจ้าจอมมองตามหลังด้วยแววตาตัดพ้อ
ไร่เริงลม
"ที่รักคะ คุณไม่คิดจะปล่อยให้ปรายพักบ้างเหรอคะ อ๊าส์!" เสียงครวญครางของหญิงสาวดังเล็ดลอดผ่านม่านหน้าต่างออกมาในช่วงกลางวันแสกๆ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่โจนาสเดินทางมาถึงบ้านพักพอดี
"ไร่เริงรักชัดๆ" จิตแพทย์หนุ่มส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในตัวบ้าน
"โอวส์ ถ่างขาออกอีก อ่าส์!" เสียงครวญครางของสองหนุ่มสาวที่กำลังร่วมรักกันดังลั่นบ้าน โจนาสนึกรำคาญจนต้องยกมือมาปิดหูไว้
"ใหญ่จังเลยค่ะที่รัก เสียว อ๊าส์!"
"จะเสร็จอีกรอบแล้ว โอวส์"
"พร้อมกันนะคะ อ่าส์! ให้ปรายเสร็จพร้อมคุณนะ"
เสียงครางกระเส่าของหนุ่มสาวทำให้โจนาสคิดถึงรสเซ็กซ์ที่ห่างหายมาหลายเดือน อยู่ๆ ก็นึกถึงนอร่าแฟนเก่าของตน ถึงรู้ตัวว่าความเจ็บปวดที่หัวใจมันหายไปหมดแล้ว แต่กลับน่าแปลกใจที่ใบหน้าเศร้าหมองของแก้วเจ้าจอมดันผุดขึ้นมาในหัวเขาเสียอย่างนั้น
"แตกแล้ว อ่าาส์! เสียวชะมัด!" เนื้อหนังมังสากระทบกันจนเกิดเสียงดังลั่นบ้าน ในขณะที่โจนาสทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไกล เขาโดยสารเครื่องบินมาจากอังกฤษถึงกรุงเทพมหานครเมื่อช่วงเช้าและต่อเครื่องมาที่เชียงใหม่เลย จนป่านนี้เพิ่งจะได้พักสายตา
บานประตูห้องนอนถูกเปิดออกประมาณหนึ่งชั่วโมงถัดมา โจนาสเผลอหลับอยู่บนโซฟาด้วยความเหนื่อยล้า 'วัสสาน'ตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นลูกพี่ลูกน้องของตนนอนหลับอยู่
"ซวยแล้ว มาตั้งแต่ตอนไหนวะเนี่ย?" ชายหนุ่มเจ้าของเรือนกายกำยำรับกับใบหน้าหล่อคมคายมีทีท่าเลิ่กลั่ก เขาย่องเบาเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของตนเองเพื่อปลุกปรายฟ้าให้ลุกจากเตียงนอน
"ปราย! ปราย รีบใส่เสื้อผ้าแล้วออกไปจากที่นี่เร็ว"
"พี่สานหมายความว่ายังไงคะ?" หล่อนถามเสียงงึมงำเหมือนคนไม่มีแรง
"พี่โจนาสมาถึงแล้ว รีบแต่งตัวแล้วกลับบ้านไปเร็ว!"
"ไม่ค่ะ ปรายไม่กลับ พี่สานกินปรายหลายครั้งแล้ว ทำไมพี่สานถึงไม่บอกพี่โจนาสไปล่ะคะว่าเราเป็นอะไรกัน" หล่อนโวยวายน้ำเสียงต่างจากเมื่อครู่ลิบลับ เรื่องอะไรจะยอมหากวัสสานคิดจะให้หล่อนหลบๆ ซ่อนๆ ต่อไป
"แล้วจะให้บอกว่าเราเป็นอะไรกันล่ะ ในเมื่อความจริงแล้วเราไม่ได้เป็นอะไรกัน" ชายหนุ่มพูดแบบขอไปที เขาไม่ได้คิดว่าปรายฟ้าจะรู้สึกอย่างไรเสียด้วยซ้ำ
"พี่สาน! กรี๊ดดดดด!"
"ปราย! หุบปากเดี๋ยวนี้นะ" วัสสานยกมือขึ้นมาปิดปากหล่อนไว้ ทว่าตอนนี้มันคงไม่ทันเสียแล้ว
"ให้ช่วยเคลียร์มั้ย?" โจนาจยืนกอดอกพิงประตูห้องนอนอยู่อย่างถือวิสาสะ เพราะเขาเห็นว่าวัสสานไม่ได้ปิดประตู โชคดีที่ปรายฟ้ามีผ้าห่มคลุมเรือนกายเปลือยเปล่าไว้
"พี่โจนาสคะ พี่สานเขา...เขา" หล่อนทำท่าเหมือนจะร้องไห้ออกมา
"เอาล่ะ ตอนนี้ปรายกลับไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่จะจัดการเรื่องน้องชายให้" โจนาสพูดเพียงเท่านั้นก็เดินออกไป เขาไม่ลืมปิดประตูให้สองหนุ่มสาวได้มีเวลาพูดคุยกันแบบส่วนตัว จากนั้นจึงหิ้วกระเป๋าเดินทางเดินตรงไปยังห้องนอนของตนซึ่งอยู่ติดกันกับห้องนอนของวัสสาน
ข้อความ
นอร่า : 'ถึงเมืองไทยตอนไหนคะ ตอบนอร่าด้วยนะคะ เป็นห่วงคุณมากค่ะ'
โจนาส : 'ถึงได้ประมาณหกชั่วโมงแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง'
นอร่า : 'หวังว่าคุณอยู่ที่เมืองไทยคงไม่ต้องเศร้าใจเพราะนอร่าแล้วนะ'
โจนาส : 'คุณยังคงเข้าใจอะไรผิดอยู่ การที่ผมกลับมาอยู่เมืองไทยไม่ใช่เพราะคุณทิ้งผมไป แต่ผมมีเหตุผลอื่นที่มันสำคัญกว่านั้น'
นอร่า : งั้นถ้าเหงาก็โทรหานอร่าได้ตลอดนะ เรายังคงเป็นเพื่อนกันเสมอ
โจนาสอ่านข้อความนั้นแล้วก็ไม่อยากตอบกลับแฟนเก่าอีก เขาปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้วทิ้งมันลงบนเตียงนอนนุ่ม จากนั้นจึงเปิดกระเป๋าเดินทางและเอาเสื้อผ้าออกมาแขวนเข้าตู้
ไร่เริงลมเป็นไร่ที่ครอบครองพื้นที่กว่าพันไร่ในจังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่ส่วนใหญเป็นพื้นที่เพาะปลูกรวมไปถึงธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตด้วย ทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของวัสสานซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของโจนาส
ส่วนบ้านหลังนี้ที่โจนาสย้ายเข้ามาอยู่เป็นสมบัติของมารดาของเขา ทว่าสาเหตุที่วัสสานย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ก็เพียงเพื่อดูแลความเรียบร้อยภายในบ้านหลังใหญ่โตให้ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้อง เพราะแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างไกลกัน แต่ก็พูดคุยและพบปะกันบ่อยครั้ง ส่วนใหญ่วัสสานจะเดินทางไปหาโจนาสที่อังกฤษเสียมากกว่า แต่การกลับมาครั้งนี้ของโจนาสเป็นการกลับมาอยู่ที่นี่โดยถาวร ต่อไปวัสสานคงไม่ต้องเดินทางไปอังกฤษเสียบ่อยๆ
'ก๊อกๆๆ'
"เข้ามา" โจนาสขานรับ วัสสานจึงรีบเปิดประตูเข้ามาหาลูกพี่ลูกน้อง
"เมื่อกี้ผมลงไปส่งปรายฟ้าข้างล่าง แต่กลับเจอเด็กผู้หญิงผมสั้นหน้าตาน่ารักเชียว เธอบอกว่าเธอมาหาพี่โจนาส"
"อะไรนะ?" จิตแพทย์หนุ่มขมวดคิ้วยุ่ง หากผมสั้นก็คงมีแค่คนเดียวที่ตนเพิ่งไปหามา แต่จะเป็นไปได้อย่างไรที่แก้วเจ้าจอมจะตามตนมาถึงที่นี่ได้
"พี่เพิ่งมาถึงเมืองไทยวันนี้วันแรก คิดไม่ถึงว่าจะมีผู้หญิงมาหาถึงที่บ้าน"
"แล้วแกรู้จักเขาป่ะ?"
"เอ...หน้าคุ้นๆ เหมือนเด็กแถวนี้แหละ ผมว่าพี่ลงไปดูเองดีกว่า" โจนาสได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆ เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อนึกถึงความวุ่นวายในอนาคตอันใกล้นี้ หากหญิงสาวกล้าตามมาถึงที่นี่ ตนคงไม่มีทางได้อยู่อย่างสงบสุขเป็นแน่...
*วัสสาน คือคำว่า วัส-สา-นะ ที่แปลว่าฤดูฝน แต่เพื่ออรรถรสในการอ่าน นักเขียนจึงให้ตัวละครตัวนี้มีชื่อ วัส-สาน นะคะ อ่านว่า วัส-สาน ได้เลยค่พ
ขอกำลังใจผ่านคอมเมนต์ด้วยหนา❤️