"ว่าอะไรนะ? ตกลงว่าเราเป็นใครฮะ ทำไมหน้าตาคุ้นๆว้าา..."
"คุยอะไรกัน เสียงดังไปถึงห้องครัว?" เสียงดุดันของโจนาสดังขึ้นขัดจังหวะพอดี ทำให้แก้วเจ้าจอมยังไม่ได้เถียงอะไรกลับไปอีก
"อย่าบอกนะว่ายัยเด็กบ๊องผมสั้นตาโตคนนี้คือเมียใหม่พี่"
"เดี๋ยวโดนตีนกูเหอะ"
"งั้นผมขอนะ ปากดีแบบนี้ผมชอบ" วัสสานกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์พลันจ้องมองเด็กสาวตรงหน้า
"ไม่ได้ ก็เด็กผู้หญิงคนเมื่อวานไงที่มาหาพี่ที่หน้าบ้าน แกลืมแล้วเหรอ?" วัสสานครุ่นคิดครู่หนึ่ง แก้วเจ้าจอมเองก็แทบจำไม่ได้ว่าเจอวัสสานแล้วเมื่อวาน ความจริงแล้วเธอไม่ได้ใส่ใจต่างหาก
"อ๋อ มาหาพี่ทุกวันเลยเนอะ อีกหน่อยผมก็คงต้องย้ายกลับไปอยู่ที่กระท่อมท้ายไร่แล้วจริงๆ สินะ" ลูกพี่ลูกน้องพูดประชดประชัน
"ไอ้พ่อเลี้ยงวัสสานเจ้าของไร่เริงลม ถ้ามันอยากกางมุ้งนอนในกระท่อมท้ายไร่พี่ก็นับถือใจเอ็งว่ะ" โจนาสประชดกลับบ้าง
"ได้ ผมย้ายออกวันนี้เลยก็ได้ แต่ผมอยากเตือนพี่อย่างหนึ่งนะ เด็กบ๊องคนนี้มันคิดจะปล้ำพี่ฮะ พี่ต้องระวังตัวไว้ดีๆ" คำพูดของวัสสานฟังดูทะเล้นมากกว่าจริงจัง แม้แก้วเจ้าจอมจะรู้สึกขัดหูจนอยากเถียงออกไปแต่ก็ยอมอยู่เงียบๆ เพื่อตั้งใจฟังในสิ่งที่โจนาสกำลังจะพูดไป
"ฮ่าๆๆ แกหมกมุ่นเกินไปแล้ว เอะอะคิดแต่เรื่องเดียว"
"แหม พี่ก็คิดเหมือนกันนั่นแหละ แค่ไม่แสดงออกมาก็เท่านั้นเอง" คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเพราะสงสัยบทสนทนาของสองหนุ่ม เธอไม่เข้าใจในเรื่องที่พวกเขากำลังสื่อสารกันแบบอ้อมโลก
"ทีแรกก็ตั้งใจทำกับข้าวเผื่อแกหรอกนะ แต่ตอนนี้ไม่ให้กินแล้ว โทษฐานที่พูดจากวนประสาท"
"แหม อยากอยู่กับเด็กบ๊องสองต่อสองก็บอกมาตรงๆ เถอะ ผมไปก็ได้" วัสสานส่งยิ้มยวนยีไปยังโจนาส
"ออกไปเลย" เขาเอ่ยปากไล่ลูกพี่ลูกน้องไม่จริงจังนัก ร่างสูงกำยำจึงเดินตรงเข้าไปตบไหล่พี่ชายเบาๆ พร้อมทั้งกระซิบอะไรบางอย่างก่อนจะเดินออกไป
แม้แก้วเจ้าจอมจะรู้สึกสงสัยความสัมพันธ์ของสองคนนี้ แต่ก็รู้ดีว่าพวกเขารักกันมากกว่าที่จะเกลียดชังกันแม้ว่าจะกำลังเถียงกันอยู่ในตอนนี้
"อย่าไปถือสาไอ้วัสสานมันเลยนะครับ มันเป็นลูกพี่ลูกน้องของพี่หมอเอง" โจนาสเดินเข้ามาหาแก้วเจ้าจอมที่นั่งหน้าบึ้งอยู่บนโซฟา
"ไม่ได้ทะเลาะกันใช่หรือเปล่าคะ?"
"เปล่าครับ แบบนี้เรียกว่าคุยกัน"
"คุย? แล้วหยีคุยแบบนี้กับพี่หมอได้หรือเปล่าคะ?"
"ฮ่าๆๆ เด็กโง่ พี่ชอบให้หยีทำตัวน่ารักๆ มากกว่า" คำพูดของโจนาสทำให้พวงแก้มใสกลายเป็นสีชมพูระเรื่อโดยที่เธอไม่รู้ตัว เขาสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของหญิงสาวอย่างชัดเจน
"ต้องทำตัวน่ารักขนาดไหนถึงจะถูกใจพี่หมอคะ?" คำถามของเด็กสาวทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าคมคายเลือนรางลง เขารู้สึกว่าตนกำลังให้ความหวังหญิงสาวมากเกินไป
"ไม่มีอะไรมากหรอกครับ เดี๋ยวพี่กลับไปทำอาหารต่อก่อนนะ จะได้ทานมื้อเที่ยงกัน" ชายหนุ่มตัดบทและเดินกลับไปยังห้องครัว แก้วเจ้าจอมได้แต่มองตามแผ่นหลังกำยำด้วยแววตาผิดหวัง
"ผู้ชายอารมณ์ดี แต่ทำไมถึงเย็นชาเรื่องความรักจังเลย" เธอพึมพำกับตนเอง
"แล้วทำไมเราถึงเรียกว่าความรักล่ะ?" แก้วเจ้าจอมขมวดคิ้วตั้งคำถามกับตนเอง
"หรือว่าเราจะรักเขา..." ดวงตากลมโตเบิกกว้างฉายแววเป็นประกาย
"ไม่ๆๆ ไม่นะ! ไม่ใช่ เราแค่หลงใหลความหล่อของพี่หมอก็เท่านั้นเอง" หญิงสาวพูดกับตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า จากนั้นจึงทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาเพื่อปัดไล่ความคิดฟุ้งซ่านทั้งหมดออกจากหัว ทว่าวิธีการนี้มันกลับไม่ได้ผล
"ต้องลองหาข้อมูลในกูเกิล ใช่แล้ว" ร่างเล็กหยัดกายลุกขึ้นยืนและเดินไปหยิบกระเป๋าสะพายใบเล็กของตนเอง เธอล้วงมือถือออกมาเพื่อค้นหาข้อมูลบางอย่าง
ใบหน้าจิ้มลิ้มแสดงสีหน้างวยงงหลังจากใช้เวลาอ่านบทความมากมาย ทว่าสุดท้ายแล้วเธอก็เจอกับบทความที่ถูกใจที่สุด
"ถ้าจูบเขาแล้วหัวใจเต้นรัวแปลว่าเราชอบเขา..." บทความนี้ทำให้แก้วเจ้าจอมพึมพำออกมาอีกครั้งหลังจากที่อ่านจบ ทันใดนั้นโจนาสก็เดินตรงเข้ามาหาเธอหลังจากที่เขาจัดโต๊ะอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว
"ไปทานข้าวได้แล้วครับ"
"เออ...ค่ะ" เธอจ้องมองใบหน้าหล่อคมคายของจิตแพทย์หนุ่มไม่วางตา
"หน้าพี่มีอะไรติดอยู่หรือเปล่าครับ?" เขายกมือขึ้นมาลูบไล้ใบหน้าของตนเองซ้ายทีขวาที
"มะ ไม่มีค่ะ" แก้วเจ้าจอมก้าวเข้าไปหาร่างสูงหนึ่งก้าว ใบหน้าจิ้มลิ้มเกือบแนบชิดกับแผงอกแกร่ง กลิ่นกายหอมละมุนของเขาทำให้เด็กสาวอดใจไม่ไหวที่จะซบใบหน้าของตนลงบนอกแกร่ง วงแขนเรียวโอบกอดรอบเอวสอบไว้
โจนาสยืนนิ่งและอึ้งไปเล็กน้อยกับการกระทำของเด็กสาว เขาโน้มใบหน้าลงมาสูดดมกลิ่นหอมของแชมพูที่ติดอยู่บนเส้นผมสลวย จมูกโด่งเป็นสันกดลงบนศีรษะทุยอย่างลืมตัว
แก้วเจ้าจอมแหงนหน้าขึ้นไปสบสายตาใบหน้าหล่อคมคาย เธอขยับวงแขนเรียวย้ายขึ้นสูงเพื่อโอบกอดรอบลำคอของเขาไว้
"หยีจะทำอะไรครับ?" เธอไม่ตอบ และเขย่งปลายเท้าขึ้นจนใบหน้าจิ้มลิ้มเกือบอยู่ในระดับเดียวกับใบหน้าหล่อเหลาของโจนาส จากนั้นจึงค่อยๆ ประกบริมฝีปากอวบอิ่มของตนลงบนริมฝีปากของเขาเชื่องช้า
"อื้ม..." โจนาสส่งเสียงในลำคอเล็กน้อย ทว่าไม่ได้ตกใจกับการกระทำอันไร้เดียงสาของแก้วเจ้าจอม และเขายังจูบตอบเธออีกด้วย
โจนาสเปลี่ยนจากที่ยืนตัวแข็งทื่อเป็นฝ่ายรุกในไม่กี่วินาทีถัดมา ริมฝีปากหยักได้รูปบดจูบหนักหน่วงจนคนตัวเล็กอ่อนระทวย มือหนาโอบรั้งเอวบางเข้าหาแนบชิดลำตัว ปลายลิ้นร้อนสอดเข้าสู่โพรงปากนุ่มหอมอย่างง่ายดาย และควานหารสหวานไปทุกซอกมุมด้วยความโหยหิว
ความไร้เดียงสาของเด็กสาวบริสุทธิ์ ทำให้อารมณ์ดิบในกายกำยำของโจนาสปะทุเดือดง่ายดาย เพราะความไม่ประสาของเด็กสาวทำให้ชายหนุ่มผู้รักการควบคุมรู้สึกว่าตนเป็นผู้คว้าชัยชนะในครั้งนี้
"อื้อ..." เสียงครวญครางของแก้วเจ้าจอมเล็ดลอดออกมาเมื่อเขาถอนจูบออก โจนาสจ้องมองนัยน์ตาสั่นระริกคู่สวยของคนในอ้อมแขน
"อยากจูบนักไม่ใช่หรือไง ฮึ?" แม้จะรับรู้ทุกอย่างทว่าตอนนี้แก้วเจ้าจอมกลับรู้สึกว่าร่างกายของตนเหมือนถูกสาป หัวใจดวงน้อยเต้นแรงราวเสียงตีกลอง เหมือนมันกำลังจะทะลุหน้าอกออกมา เธอเชื่อว่าวินาทีนี้โจนาสคงสัมผัสได้ถึงจังหวะการเต้นหัวใจของตน เพราะลำตัวของสองหนุ่มสาวแนบชิดกันโดยไร้ช่องว่าง
"อยากจูบอีกไหม?" โจนาสเอียงคอถาม เขายิ้มออกมาด้วยแววตาแสนเอ็นดูเด็กสาวในอ้อมแขน ใบหน้าจิ้มลิ้มซบลงบนแผงอกแกร่งเพื่อซ่อนเร้นความเขินอาย เพราะตอนนี้แก้มนุ่มกลายเป็นสีแดงไปจนถึงใบหูอย่างควบคุมไม่ได้เสียแล้ว...
คุณหมอแกล้งน้องอ่าาา??? น้องชอบพี่หมอแล้วก็รุกเลยน้อง อ่านจบแล้วขอคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ปันหยีด้วยหนา❤️ ขอบพระคุณค่ะ ❤️