Chapter 3 แค่อากาศ

1223 Words
“ไม่ได้เจอตั้งนาน โตขึ้นเป็นกองเลยนะเรา” ตอนที่พูดคำว่า ‘โต’ เขาเหลือบมองทรวงอกของหล่อนที่แทบจะพุ่งออกมาจากเสื้อสีชมพูตัวนั้น พอมองดี ๆ หล่อนสวมเสื้อเอวลอยนิด ๆ อวดรอบเอวเล็กคอดเว้าจากทรวงอกและสะโพกผายอย่างเหมาะเจาะเหนือขอบกระโปรง แต่จะยังไงก็เป็นชุดสีชมพู เขาเอียนสีชมพูของยัยเด็กนี่เป็นบ้า ลูกไหมยิ้มอาย ๆ ก่อนยกมือไหว้ “สวัสดีค่ะป้ารุ่ง ลุงเอก พี่พล” ถึงแม่ของเขากับหล่อนจะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกัน แต่เพราะแม่เขาแก่เดือนกว่า เลยสอนให้ลูกไหมเรียกท่านว่าป้า ส่วนเขาก็เรียกแม่ของลูกไหมว่าน้า “ผมหิวอะ ขอเข้าไปกินอะไรได้มั้ยครับ” “จ้า เชิญจ้าเชิญ” สิ้นคำของมะลิ ชายหนุ่มก็รีบเดินจ้ำ ๆ เข้าไปในงาน ยังไงก็ต้องอยู่รอแม่กลับบ้าน หาอะไรกินให้อิ่มท้องหน่อยก็ดีเหมือนกัน เมื่อชายหนุ่มเดินเข้าไปแล้ว สี่คนวัยกลางคนก็จับกลุ่มคุยกันอย่างสนิทสนมถึงเรื่องคืนนี้จะนอนค้างที่นี่ โดยที่ขุนพลยังไม่รู้เรื่องนี้เลย “นี่ ฉันเตรียมไพ่ไว้บนห้องแล้ว เสียดาย! นีย์อยู่ตั้งเชียงใหม่ ไม่อย่างนั้นคงได้รวมแก๊งกันเหมือนตอนเรียนโรงเรียนประจำเนอะ ส่วนลูกกับสามีของเธอ ฉันก็จัดห้องนอนไว้แล้ว” มะลิกระซิบกระซาบกับรุ่งฤดี ส่วนฝ่ายชายก็พากันเดินไปจิบไวน์ขวดใหม่ที่พ่อของลูกไหมเพิ่งจะสั่งมาจากฝรั่งเศส “เดี๋ยวคืนนี้จะได้รู้กันว่าใครจะเป็นแชมป์โลกนะครับ” ทางฝ่ายชายก็จ้องจะพากันไปดูบอลแล้ว เพราะคืนนี้มีชิงแชมป์ระหว่างทีมฟุตบอลที่มนัสกับเอกลักษณ์เชียร์มาตั้งแต่เป็นหนุ่ม ๆ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นคนละทีมกัน ลูกไหมมองคนโน้นทีคนนี้ที เห็นว่าไม่มีใครสนใจหล่อนแล้ว สาวน้อยวัยสิบแปดก็ยกมือขึ้นทัดผมสีดำเข้ม สั้นเลยติ่งหูนิดเดียวของตัวเองพร้อมกับยิ้มเอียงอาย แล้วเดินตามขุนพลเข้าไปในงานเลี้ยงวันเกิด หล่อนมองเขาจากทางด้านหลัง เห็นเขาเดินไปคุยกับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยเรียนด้วยกัน ซึ่งมางานนี้ด้วยอย่างสนิทสนม ลูกไหมก็กำมือแน่นด้วยความอิจฉา ยิ่งเขาหัวเราะ จับเส้นผมยาวหยักศกของผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาดม หล่อนก็ยิ่งอยากเป็นผู้หญิงคนนั้นบ้าง! ทำไมเขาไม่เคยมองหล่อนแบบนั้น ไม่เคยยิ้มให้หล่อนอย่างจริงใจแบบนั้น ไม่เคยพูดคุยกับหล่อนสบาย ๆ โดยไม่ทำท่าอึดอัดใจเลยแม้แต่ครั้งเดียวกันนะ ทั้งที่หล่อนแอบรักเขามาตั้งแต่อายุสิบสาม ตั้งแต่เพิ่งเติบโตเป็นสาวน้อยแรกแย้ม นมเพิ่งตั้งเต้า เส้นไหมตรงนั้นเพิ่งจะขึ้นมาทำให้หล่อนรู้ว่าหล่อนไม่ใช่เด็กอีกต่อไป ก่อนหน้านั้นหล่อนก็ไม่ได้คิดอะไรกับเขาหรอก ก็แค่ลูกชายของเพื่อนแม่ที่ต้องไปเจอทุกปี ปีละสองสามครั้ง แต่พอเขาโตเป็นวัยรุ่น รูปหล่อ มาดแบดบอย หล่อนก็เริ่มใจสั่น... แบบที่ไม่เป็นกับเพื่อนร่วมชั้นผู้ชายคนไหน แล้วก็ไม่รู้สึกแบบนี้กับขุนเขา พี่ชายของเขาที่เป็นคนเพอร์เฟ็คทุกกระเบียดนิ้วด้วย หล่อนใจเต้นแรงแค่กับเขา... กับเขาคนเดียว แต่เขากลับมองผ่านหล่อนเหมือนเป็นอากาศมาตลอด... คอยดูสิ คืนนี้หล่อนจะทำให้เขาคิดใหม่ จะทำให้เขาหันมามองหล่อนให้ได้ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ลูกไหมก็จะเอาด้วยกล! “เออ หอมจริง ๆ ด้วยว่ะ” “แหงสิ นี่กลิ่นใหม่เลยนะ หาซื้อในประเทศไม่ได้ ช้อปปี้ ลาซาด้า ไม่มีขายนะจ๊ะ” หญิงสาวชม้อยชม้ายช้อนสายตามองเพื่อนร่วมห้องที่ไปเรียนต่อต่างประเทศ ไม่เจอกันตั้งแต่เรียนจบ หล่อนรู้ว่าขุนพลเป็นคนหล่อ ในโรงเรียนมีแต่พวกผู้หญิงทั้งรุ่นพี่ รุ่นเดียวกันและรุ่นน้องตามกรี๊ด ‘แววพรรณ’ เองก็ชอบเขาเหมือนกัน แต่หล่อนมีแฟนอยู่แล้ว อยู่ห้องเดียวกันด้วย เลยไม่เคยแสดงออกเลยว่า ‘อยากได้’ แค่ไหน แต่วันนี้แววพรรณมาคนเดียว มาเป็นเพื่อนแม่ แฟนหล่อนไม่ได้มาด้วยซะหน่อย ถือว่าหล่อนโสดแล้วกัน จะไปทำอะไรกับใครก็ได้...จริงมะ? “ว่าแต่คืนนี้หล่อนะ” แววพรรณลูบไล้เสื้อเชิ้ตของเขาอย่างเย้ายวน ก่อนก้มลงดอมดมกลิ่นกายหนุ่ม “หอมด้วย... ขอดมมากกว่านี้ได้ปะ” ขุนพลไม่ใช่คนซื่อใสไร้เดียงสา เขารู้ว่าเพื่อนเก่าต้องการอะไร ชายหนุ่มมองแววพรรณตั้งแต่ทรวงอกจรดต้นขาขาว ๆ ที่โผล่พ้นกระโปรงสั้นจู๋ แล้วยิ้ม ไม่เลว ถึงไม่ใช่คนสวยมาก แต่ดูก็รู้ว่า ‘ท่ายาก’ เยอะ! “เอาสิ ตรงไหนดี” เขาก้มลงกระซิบที่ใบหูของหล่อน ตั้งใจเป่าลมให้หล่อนจักจี้ หญิงสาวหัวเราะคิกคัก ทำเป็นผลักอกเขาเพื่อเล่นตัวนิดหน่อย ตอนนั้นแหละที่ชายหนุ่มเพิ่งคิดได้ว่าคนนี้มีแฟนอยู่ห้องเดียวกันนี่หว่า ชื่ออะไรวะ? อ้อ... “แล้วไอ้หนุ่มมันจะไม่ว่าเราใช่มะ?” หญิงสาวแอบเหลือกตามองบนเมื่อถูกถามหาแฟนหนุ่มของตัวเอง หอยวางอยู่บนพาน จะไปถามหาผู้ชายคนอื่นทำไมวะ หล่อนไม่คิดว่าขุนพลจะเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยขนาดนี้เลย ก็แค่เอากันขำ ๆ ตุ้บ! ซ่า! “ว้าย!” “อุ๊ย ขอโทษค่ะพี่แวว…” ลูกไหมทำท่าตกใจแบบไม่จริงจัง หล่อนเดินมาชนด้านหลังของสาวรุ่นพี่และทำน้ำหวานหกใส่เส้นผมที่ปล่อยสยายของหล่อนด้วย ลูกไหมเองก็อยากปล่อยผมยาวเหมือนกัน แต่เพราะกฎของโรงเรียนยังต้องตัดผมสั้น แววพรรณเรียนจบไปแล้ว เรียนมหาวิทยาลัยแล้วถึงไว้ผมยาวได้ ดูเป็นสาว... ลูกไหมอยากไว้ผมยาวแบบนั้นบ้างจัง “นี่มันอะไร ทำไมเดินไม่ดูทางเลย!” แววพรรณตวาดออกมาสุดเสียง ก่อนจะหันไปเห็นแขกในงานที่ส่วนใหญ่เป็นวัยกลางคนเพราะเป็นแขกของแม่ของลูกไหม ส่วนเพื่อนของลูกไหมจัดงานเลี้ยงให้ที่โรงเรียนช่วงพักเที่ยงกันแล้ว “หนูขอโทษค่ะพี่แวว หนูไม่ทันเห็นจริง ๆ” ลูกไหมยกมือไหว้ แถมยังทำน้ำตาคลอด้วย ทำให้คนในงานหันมามองกันเต็มไปหมด ก่อนจะซุบซิบกันเหมือนกับว่าแววพรรณรังแกเด็ก สาวมหา’ลัยทำเสียงฮึดฮัดในคอ ผู้ใหญ่เต็มไปหมดขนาดนี้ หล่อนจะตบเด็กก็ไม่ได้ ทำได้แค่แกล้งใจกว้างเท่านั้น “ไม่เป็นไร วันนี้วันของเธอนี่” แววพรรณพูดไปด้วย ขบฟันไปด้วย ก่อนจะหันไปชวนขุนพลอย่างออเซาะ “พลไปช่วยเราล้างผมหน่อย ดูสิเราเปื้อนหมดแล้ว”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD