แสงแดดอ่อนจากข้างนอกช่วยขับให้ห้องสว่างขึ้น บนเตียงกว้างที่แสนสบายและส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ เปมนีย์พลิกกายเปลี่ยนท่าจากนอนตะแคงเป็นนอนหงาย เสียงเพลงที่ดังคลอเบา ๆ ดึงหล่อนขึ้นมาจากอาการง่วงงุน หล่อนฝืนเปิดเปลือกตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ แววตาคู่สวยกลอกไปมายามมองเพดานแล้วตั้งสติไปพร้อมกัน พยายามคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน หล่อนกำลังงงว่านอนอยู่ที่ไหนกันแน่
“อูย…หนักหัวชะมัด”
พึมพำออกมาเบา ๆ พร้อมมือที่ยกขึ้นกุมศีรษะยามที่กำลังหันมองไปรอบกาย ทว่าการตกแต่งที่แปลกไป มุมมองในห้องที่ไม่เหมือนเดิม อีกทั้งหมอนผ้าห่มที่ไม่คุ้นเคย ก็ทำให้แววตาที่กลอกไปมาหยุดนิ่ง หล่อนเบิกตากว้างค้างอยู่อย่างนั้นราวกำลังตั้งสติ ก่อนลุกพรวดขึ้นนั่งแล้วมองไปรอบกายอีกครั้งอย่างเลิ่กลั่ก
“พี่แสน!”
หล่อนเห็นหน้าพัทธดนย์ก่อนใคร แววตาที่เต็มไปด้วยคำถามมองคนที่ยืนเอาหลังพิงหน้าต่างบานกว้างที่รูดม่านจนเห็นสวนเขียวรื่นด้านนอก ในมือของเขาถือแก้วกาแฟที่ไอควันยังคงลอยกรุ่น แววตาเข้มมองมาพลางคลี่ยิ้มส่งมาให้ ก่อนเขาจะยกกาแฟดำขึ้นจิบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่หล่อนนั้นเลิ่กลั่กไปหมดแล้ว
“ทะ…ที่นี่ที่ไหนเหรอคะ!”
“ห้องนอนพี่ยังไงล่ะครับ"
“หืม?"
คนที่อยู่ในชุดลำลองตอบหน้าตาเฉย ด้านเปมนีย์พยายามประคองหัวที่หนักอึ้งไม่ให้โคลงเคลง ทั้งที่ความจริงแทบจะโค่นลงไปนอนตามเดิม คำตอบของเขาทำให้หล่อนใจหายวาบ พยายามนึกถึงเรื่องเมื่อคืน เกิดอะไรขึ้นกันแน่
“แล้วลูกปลามานอนห้องพี่แสนได้ยังไงคะ…บ้าจริง! ทำไมจำอะไรไม่ได้เลย”
เขาหัวเราะเบา ๆ กับท่าทีเหมือนคนความจำเสื่อม มองหล่อนด้วยแววตาแปลกไปไม่เหมือนเดิม
“เธอก็เดินตามพี่มาดี ๆ นั่นแหละ แล้วเราก็…นอนเตียงเดียวกันทั้งคืน”
“หะ! ลูกปลาเดินเข้าห้องพี่แสนเองงั้นเหรอคะ”
หล่อนเบิกตากว้างอ้าปากค้าง เขาพยักหน้าหงึกหงักทำแววตาจังจริง หญิงสาวคว้าหมอนมาปิดหน้าเมื่อนึกโกรธตัวเองที่ทำไมถึงเดินเข้าห้องผู้ชายง่าย ๆ และสัญชาตญาณบางอย่างก็ทำให้ต้องโยนหมอนไปข้างตัว ก่อนก้มลงมองตัวเอง
“…..!”
หล่อนยกผ้าห่มขึ้นแล้วก้มลงมองที่ท่อนล่าง ก่อนทำหน้าเหมือนถูกผีหลอก เมื่อได้รู้ว่าตัวเองไม่ได้สวมอะไรเลย มีเพียงเสื้อนอนแขนยาวสีขาวตัวโคร่งที่คลุมท่อนบนเอาไว้ มือสั่น ๆ ยกขึ้นจับตรงสองเต้าอวบอิ่มแล้วลูบ ๆ คลำ ๆ อยู่สักพัก คนยังไม่สร่างเมาดีต้องใจหายวาบซ้ำสอง เมื่อพบว่าหล่อนโนบราทั้งล่างและบน ใบหน้าตื่นตะหนกหันไปมองคนที่ยังยืนจิบกาแฟอย่างสบายอารมณ์เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ทะ…ทำไมลูกปลาถึงแต่งตัวแบบนี้คะ เสื้อใน กางเกงใน หะ…หายไปไหนหมด!”
ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปาก เขาวางแก้วกาแฟไว้บนโต๊ะ ก่อนก้มลงหยิบบางอย่างที่กองอยู่บนพื้น
“ขอโทษนะที่รัก เธอคงใส่มันไม่ได้แล้วล่ะ”
เขาชูแพนตี้ที่ขาดวิ่นขึ้นมาตรงหน้าคนที่ยังไม่สร่างเมา หล่อนมองมาพลางเบิกตากว้าง มันดูเหมือนเศษผ้ามากกว่าจะเคยเป็นกางเกงชั้นใน
“ทะ…ทำไมมันขาดรุ่ยเลยล่ะคะ!”
“ก็มันอยากเกะกะขวางทางดีนัก พี่เป็นคนฉีกมันเองแหละ”
“หะ! อะไรนะ”
“ขอโทษนะที่หนักมือไปหน่อย เดี๋ยวพี่ซื้อให้ใหม่สักสองโหลดีมั้ย เอาไว้เผื่อมันขาดอีก”
“พี่แสน! พี่พูดอะไร”
คราวนี้หล่อนกลัวจริง ๆ ใบหน้าสวยซีดเผือด ใจหายวาบลงไปกองอยู่ตาตุ่ม พยายามนึกจนปวดหัวจี๊ด ๆ ว่าเมื่อคืนทำอะไรลงไปบ้าง
พัทธดนย์เดินเข้าไปนั่งลงบนเตียง เขาตวัดผ้าห่มออกจากร่างที่มีเพียงเสื้อของเขาปกปิดท่อนบนเอาไว้ ขณะที่เปมนีย์ทำท่ากระถดกายหนี หากแต่ก็ยังช้ากว่าสองแขนแกร่งที่ตัดร่างของหล่อนเข้าไปกอด แถมยังฝังจมูกลงบนแก้มนุ่ม ๆ แล้วสูดกลิ่นกายสาวเข้าปอดจนเนื้อแทบจะหลุดติดออกไปด้วย
“จำไม่ได้จริง ๆ ใช่ไหมว่าเมื่อคืนเรามีความสุขกันแค่ไหน”
ในอ้อมกอดอุ่น หล่อนนั่งนิ่งกลอกตาไปมา ปะติดปะต่อเรื่องเข้าด้วยกัน จากคำพูดของเขา ประกอบกับสภาพของตน ทำให้เปมนีย์รู้แล้วว่า ต้องเผลอมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขาไปแล้วแน่นอน
“หมะ..มันไม่จริงใช่มั้ยคะ!”
หล่อนพยายามหลอกตัวเอง หากแต่เขาไม่ร่วมมือด้วยเลย
“ตั้งสติหน่อยสิครับ เธอหนีความจริงไม่ได้หรอกลูกปลา”
หล่อนหันหน้าไปหาเจ้าของอ้อมกอด แค่นหัวเราะทั้งที่ใจกำลังเต้นแรง
“พี่แสนต้องอำกันแน่ ๆ จริง ๆ แล้วเราไม่ได้มีอะไรกันหรอก ใช่มั้ยคะ…”
“…..”
“ใช่มั้ย…คะ…”
หล่อนสบตากับแววตาเข้มที่แปลกไปไม่เหมือนวันวาน เสียงหัวเราะเปลี่ยนเป็นยิ้มเจื่อน อยากให้เขาพูดมันออกมาตามที่ใจอยากให้เป็น แต่เขาก็ยังคงตอกย้ำ
“เธอเป็นของพี่แล้ว นั่นคือความจริง”
‘บ้าจริง…ทำไมเธอใจง่ายขนาดนี้นะลูกปลา’
หล่อนนิ่งอึ้งเพราะกำลังช็อค เมื่อตั้งสติได้ก็พยายามบิดตัวเพื่อให้พ้นจากอ้อมกอด หากแต่เขากลับยิ่งออกแรงกอดรัดจนแน่นมากยิ่งขึ้น
“งั้น…เราลืมเรื่องนี้ไปเถอะนะคะ ถือซะว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น เราต่างก็ทำลงไปเพราะความเมา พี่แสนก็เมามาก ลูกปลาจะไม่โกรธพี่เพราะพี่คงไม่รู้สึกตัว มันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความรัก ฉะนั้น…เราไม่จำเป็นต้องสานสัมพันธ์เพื่อผูกมัดกันและกันหลังจากนี้”
เหมือนเขาจะไม่พอใจกับถ้อยคำของหล่อน แรงช้างม้ากดคนในอ้อมกอดให้นอนตะแคงลงไป เขาโถมกายตามไปกักเอาไว้ไม่หล่อนลุกหนีไปได้ เสียงเข้มเข่นรอดไรฟัน
“ไม่…พี่ไม่ได้เมา รู้ตัวดีว่าทำอะไรลงไป”
“พี่แสนเมาค่ะ”
เขาหัวเราะอยู่ในลำคอ ก่อนกระซิบชิดใบหูอ่อนนุ่ม
“คนเมามันปลุกไม่ขึ้นหรอกที่รัก คนเมาที่ไหนจะเอาเธอจนเสร็จน่ะฮึ!”
“พี่แสน! พูดอะไร”
หล่อนดิ้นขลุกขลัก เขายิ่งออกแรงกด เอาขาขึ้นพาดท่อนขาเรียวเพื่อไม่ให้หล่อนขยับได้
“เธอพูดเหมือนไม่เสียดายในสิ่งที่เสียไปเลยนะ ทำไมเหรอ การยอมรับว่าเป็นเมียพี่มันจะทำให้เธอลงไปดิ้นตายหรือไง”
“…..”
“ว่าไงล่ะลูกปลา หรือเธอมีใครอยู่ในหัวใจแล้ว”
“ลูกปลา…เอ่อ…”
ความเงียบมาห่มคลุมนิ่งนาน จนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน มือใหญ่เคลื่อนไปทาบลงบนหลังมือเล็ก แล้วสอดประสานนิ้วเข้าหากัน ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายเอ่ยทำลายความเงียบ
“เราควรคุยกันถึงอนาคตอย่างจริงจัง เพราะว่า…เมื่อคืน…พี่ไม่ได้ป้องกันอะไรเลย”
คราวนี้หล่อนตกใจอีกครั้ง เอี้ยวหน้าไปสบตาเขาด้วยแววตาเลิ่กลั่ก
“อะ…อะไรนะคะ!”
“พี่เสร็จข้างใน แล้วก็…ไม่ได้ใส่ถุงยางด้วย”
“พี่แสน! ทำไมพี่เป็นคนแบบนี้ ทำไมไม่ป้องกันคะ ถ้าลูกปลาท้องจะทำยังไง”
หล่อนทุบตีไปตามท่อนแขนแกร่งที่กอดรัดร่างตนเอาไว้ จนเขาต้องปราบพยศด้วยการจับสองแขนเรียวกดเอาไว้กับเตียง
“พี่หาถุงยางไม่เจอ”
“แล้วทำไมไม่ปล่อยข้างนอก”
“เอาออกไม่ทัน”
แววตาสั่นระริกมองใบหน้าคมคร้ามที่ทำทองไม่รู้ร้อน ทั้งที่หล่อนเครียดจนจะเป็นบ้า
“พี่แสน! ลูกปลาไม่ตลกนะคะ”
“ก็พี่เสร็จพร้อมเธอ แล้วเธอก็กดเอาไว้ไม่ให้พี่เอาออก”
เขาโทษว่ามันคือความผิดของหล่อนเสียอย่างนั้น เปมนีย์รู้แล้วว่าการเกรี้ยวกราดทำอะไรเขาไม่ได้ จึงถอน
หายใจยาวแล้วเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าจังจริง
“งั้นพี่แสนต้องไปซื้อยาคุมมาให้ลูกปลากินค่ะ ไปตอนนี้เลยด้วย ก่อนจะไม่ทัน”
“เธอจะฆ่าลูกพี่หรือไง”
หล่อนแค่นหัวเราะราวได้ฟังเรื่องตลก เมื่อเขาทำเหมือนกับว่าทำหล่อนท้องไปแล้วจริง ๆ
“ป่านนี้คงยังไม่เป็นตัวหรอกค่ะ เผลอ ๆ ลูกพี่แสนตายก่อนจะว่ายน้ำไปถึงด้วยซ้ำ”
“เธอจะสบประมาทเกินไปแล้ว ลูกพี่อาจแข็งแรงกว่าที่เธอคิด แล้วเมื่อคืนก็ปล่อยไปตั้งเยอะ ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะเข้าไปเจาะไข่เธอไม่ได้ ป่านนี้เธออาจท้องไปแล้วก็ได้ คิดให้ดีก่อนจะบอกว่าอย่ามาผูกพันกัน”
เขาขู่ฟ่อ ยกเหตุผลร้อยแปด จนเปมนีย์ที่เครียด ๆ อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
“ปล่อยเยอะก็ไม่ได้หมายถึงคุณภาพ ถ้าเชื้อไม่แข็งแรงพอกี่ล้านตัวก็ตายค่ะ”
“เธอรู้ไหม หากเทียบสัดส่วนของตัวอสุจิกับคนต่อความเร็วในการว่ายน้ำ มันสามารถว่ายน้ำได้เร็วพอ ๆ กับคนเลยนะ ป่านนี้ลูกพี่อาจเจาะเข้าไปในไข่ของเธอแล้วผสมกันเป็นตัวอ่อนแล้วก็ได้ ฉะนั้น เลิกพูดเรื่องกินยาคุมไปได้เลย”
หล่อนหุบยิ้ม มองใบหน้าคมคร้ามด้วยแววตาขึงขัง
“ไม่ ลูกปลาไม่พร้อม ไม่อยากท้องตอนนี้ด้วย”
“แต่พี่พร้อม..พี่พร้อมเลี้ยงเธอกับลูก จะถนอมริ้นไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม ยกให้เป็นแม่ทูลหัว อยากได้อะไรก็จะหามาให้ ยกเว้นดาวกับเดือน ขอแค่เธอยอมตกลงคบกับพี่ในฐานะคนรัก ทำไมเหรอลูกปลา พี่ไม่ดีตรงไหน”
แววตาสองคู่สบประสาน ก่อนที่หล่อนจะเอ่ยด้วยสีหน้าจังจริง
“ลูกปลา…ไม่ได้รักพี่”
“ลูกปลา…”
เขามองแววตาที่สั่นระริก ในขณะที่เปมนีย์ใจสั่นกับการที่ต้องเอ่ยถ้อยคำย้อนแย้งความรู้สึก เพราะความกลัวที่ฝังใจ หล่อนกลัวความรัก กลัวการผิดหวัง กลัวการนอกใจ ไม่อยากมีอนาคตแบบพิมพ์ลดาและพี่ชายของตน
“พี่แสนต้องเข้าใจนะคะ ลูกปลาไม่พร้อมมีใครทั้งนั้น และไม่อยากผูกมัดกับใครด้วย”