ร่างบอบบางถูกโยนไว้ในรถม้า นางพยายามถีบประตูเพื่อหาใครสักคนช่วยแต่มีหรือที่คนด้านนอกจะปล่อยไป ครู่ต่อมาชายฉกรรจ์เหล่านั้นกลับมาอีกหนพร้อมเชือกอีกเส้น พวกเขาใช้มันรัดเท้าของร่างบางติดกับข้อมือที่ถูกรัดไว้ตั้งแต่ทีแรก
“รอเงียบ ๆ เถิดขอรับ อีกไม่นานคุณหนูสามก็คงไม่ต้องรับรู้อะไรอีกแล้ว” ชายที่เป็นคนแบกนางขึ้นบ่ามาเปิดปากพูดด้วย ต่อให้เม่ยเซียนจะพยายามเท่าใดก็ไม่เป็นผล ยิ่งขยับเงื่อนที่รัดไว้ก็แน่นขึ้น เชือกเส้นเล็กเสียดสีเข้ากับผิวกายนางจนได้เลือด
ตุบ!
นางตกจากที่นั่งลงมาที่พื้นของรถม้า เมื่อรู้ว่าตนเองมิอาจหลุดพ้นจากที่แห่งนี้ได้หยาดน้ำตาแห่งความเจ็บปวดก็ไหลรินออกมาไม่ขาดสาย
ด้านนอกบ่าวรับใช้อีกคนตามมาสมทบ พวกเขาพาเจ้านายมาส่งที่นี่หลายครั้งจึงรู้ทางหนีทีไล่เป็นอย่างดี ขนาดที่จอดรถม้าก็ยังหามุมอับสายตาได้ จวนตระกูลเริ่นไม่เคยมีเวรยามลาดตระเวนมาจนถึงเรือนหลังทำให้มิจำเป็นต้องเกรงกลัวว่าจะมีใครผ่านมาพบเห็นเข้า เพียงแต่การจับตัวคุณหนูสามออกมาแบบนี้พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าต้องทำเช่นกัน
“หากใครจับได้คงเป็นเรื่องใหญ่แน่” บ่าวอีกคนเดินมาขนาบข้างรถม้า
“แต่ถ้าไม่ทำก็คงเป็นเรื่องใหญ่เหมือนกัน” ชายที่ยืนอยู่ก่อนตอบ
“แล้วนี่คุณชายยังไม่เสร็จอีกหรือ ขืนนานกว่านี้เกิดมีคนตามหาคุณหนูสามขึ้นมาจะว่ายังไง” เขามองลอดช่องหน้าต่างไปยังร่างบางที่ถูกมัดไว้กับพื้น
“เรื่องนั้นคงต้องรอเจ้าตัวมาตอบ” เขามองกลับไปยังทางเข้าลับด้านหลังจวนที่ไม่มีแม้แต่เงาของนายเหนือหัว
จนเวลาผ่านไปได้พักใหญ่บุรุษสูงศักดิ์จึงเดินออกมา เขามองไปยังลูกน้องและออกคำสั่งก่อนจะเดินขึ้นรถม้า
“เหตุใดต้องมองข้าด้วยสายตาเช่นนั้นเล่า” บุตรชายมหาเสนาบดีเอ่ยกับว่าที่เจ้าสาวซึ่งนอนหมดสภาพอยู่บนพื้น
“…” จากชายที่เคยเปี่ยมไปด้วยมาดของคุณชายผู้สุขุมยามนี้ต่างไปราวกับเป็นคนละคน รถม้าเคลื่อนตัวออกจากบ้านหลักสกุลเริ่นโดยที่หญิงสาวไม่รู้เลยว่าปลายทางจะเป็นที่ใด
“เจ้าคงอยากรู้สินะว่าข้ากับหลิงเอ๋อร์ทำเรื่องแบบนี้ไปทำไม” เขาแค่นหัวเราะก่อนกล่าวต่อ
“นางเป็นของข้ามานานแล้ว เจ้าคิดว่าสามีอย่างข้าจะรู้สึกเช่นไรหากภรรยารักต้องไปตบแต่งกับคหบดีที่ไหนก็ไม่รู้ เรารักกันจนข้ามเส้นของทุกสิ่งแต่มิอาจอยู่ร่วมกันได้เพียงเพราะนางเป็นลูกสาวใช้ ข้าคิดหาหนทางอยู่นานเชียวว่าจะทำยังไงหลิงเอ๋อร์ถึงจะเป็นของข้าแต่เพียงผู้เดียวไม่คิดว่าเจ้าจะกลายมาเป็นกุญแจของคำตอบนั้น” ไม่รู้ว่าโฉมสะคราญควรจะตกใจกับประโยคไหนก่อนดี พวกเขามีความสัมพันธ์เช่นนี้ลับหลังนางมานานแล้ว? หรือว่านางกำลังจะถูกกำจัดไปให้พ้นทาง
รถม้าแล่นผ่านเมืองหลวงมานานเท่าใดนางมิอาจรู้แต่ในที่สุดมันก็หยุดลงได้เสียที ร่างโปร่งที่นั่งอยู่ด้านในเปิดประตูออกพร้อมกับลากร่างบอบบางลงจากรถม้า แขนขานางถูกกระแทกจนเจ็บไปหมด
“ลาก่อนเม่ยเซียน” หลี่ป๋ายจวิ้นเอ่ยก่อนจะหันไปออกคำสั่งกับลูกน้อง
“จัดการให้เรียบร้อย”
“...ขอรับ” บ่าวชายมองหน้ากันจากนั้นจึงก้มหน้ารับคำสั่งแต่โดยดี
ร่างเล็กถูกพาขึ้นเรือโดยมีคู่หมั้นหนุ่มยืนส่งอยู่ไกล ๆ รอบด้านคือทิศใต้ของเมืองหลวงและเรือลำนี้กำลังลอยอยู่บนแม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านจากเหนือลงใต้ หากพวกเขาจะลอยแพนางไปนั่นหมายความว่าจะไม่มีใครในเมืองหานางพบ เพียงแต่สิ่งที่กลุ่มคนพวกนี้กำลังทำมันเลวร้ายเสียยิ่งกว่าที่เม่ยเซียนคาดคิดเอาไว้ ข้อเท้าของคนงามกำลังถูกรัดด้วยหินที่จะถ่วงร่างอรชรให้จมลงใต้ท้องน้ำ เริ่นเม่ยเซียนรู้ชะตากรรมของตนเองดีแต่นางถูกกดไว้แน่นมิให้เคลื่อนไหว
“คุณหนู พวกเราขออภัยด้วยนะขอรับ” เขากล่าวไว้ด้วยสีหน้ารู้สึกผิดก่อนที่จะโยนร่างนางลงแม่น้ำไป
...........................................................................
.......................................
จวนสกุลเริ่น
ถานเจ๋อเสว่ทนรอต่อไปไม่ไหว คุณหนูสามหายไปได้ครึ่งชั่วยาม (หนึ่งชั่วโมง) แล้วยังไร้วี่แววจะกลับมา บ่าวคนสนิทจึงออกจากเรือนหลักไปยังเรือนท้ายจวน ตอนที่มาถึงเป็นเวลาพอดีกับที่เจ้าของเรือนกำลังเตรียมจะเข้าห้อง บ่าวคนสนิทจึงรีบเรียกนางไว้ก่อน
“คุณหนูรอง คุณหนูสามเล่าเจ้าคะ” หญิงสาวกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาจนหอบหายใจถี่รัว นางประสานมือคารวะคุณหนูสูงศักดิ์ก่อนจะถามหาเจ้านาย
“เอ๋? น้องสามไม่ได้มาที่นี่นะ” ใบหน้าพริ้มเพรากล่าวก่อนจะเยื้องกรายเข้ามาใกล้บ่าวคนสนิทของน้องสาวและยังใจดีให้นางนั่งพักก่อน
“นางมิได้อยู่กับเจ้าหรอกรึ” หลิงเซียวถามไถ่ด้วยความเป็นกังวลด้วยปกติทั้งสองตัวติดกันเสมอเหตุใดจึงแยกกันได้
“เปล่าเจ้าค่ะ คุณหนูสามแจ้งว่าจะนำปิ่นปักผมมาให้คุณหนูรองแต่หายไปนานข้าจึงรีบมาตาม” เจ๋อเสว่เริ่มใจไม่ดี ความเหนื่อยเมื่อครู่มลายหายไปจนหมดสิ้น
“ข้ายังไม่ได้พบนางเลยเรารีบไปแจ้งท่านพ่อให้ทราบเถอะ เจ๋อเสว่เจ้าช่วยรอสักครู่ข้าขอไปสวมชุดคลุมก่อน”
“เจ้าค่ะ”
ร่างอรชรเดินเข้ามายังหอนอน นางวางปิ่นทองที่ออกไปเก็บมาเมื่อครู่ไว้ในกล่องเครื่องประดับ ปิ่นทองเล่มนั้นเป็นรูปหงส์มีอัญมณีสีชมพูหวานที่นางชอบประดับไว้เป็นระย้าคนเลือกมาให้ช่างรู้ใจเสียจริง เนตรงามจ้องไปที่ปิ่นเล่มนั้นอย่างเย็นชาก่อนจะหันไปหยิบชุดคลุมมาสวมไว้และออกจากห้องไปด้วยท่าทางเร่งรีบ
...........................................................................................
โห อิคู่หมั้นคือเลวมากกกก ทำร้ายจิตใจน้องไม่พอยังสั่งฆ่าอีก
ร๊ดคือเตรียมไม้หน้าสามฟาดหน้าแล้ว