ตัดมาที่อัญญารินทร์
เด็กสาวเข้ามาในมหาวิทยาลัยที่ใคร ๆ อยากจะเข้ามาศึกษาเล่าเรียนกันได้สักระยะแล้ว ต้องปรับตัวอย่างมากเหมือนกัน เธอเลือกที่จะนั่งที่โต๊ะม้าหินอ่อนใต้ร่มไม้ที่ร่มรื่นแห่งหนึ่ง เพื่อนั่งทบทวนบทเรียนหลังจาหมดวิชาเรียนแล้วสักพักแล้วค่อยกลับบ้าน แต่..!! บังเอิญมีเจ้าตูบตัวน้อยกำลังเดินเปะปะอยู่กลางสนามประกอบกับมีรถจักรยานยนต์กำลังแล่นเข้ามาพอดี
"เจ้าหมาน้อย แม่หนูอยู่ไหนเหรอ ทำไมปล่อยหนูไว้แบบนี้ตัวเดียว ถ้าเดินต่อไปอีกนิด รถจะชนเอานะ อยู่กับพี่ตรงนี้แหละ อ๊ะมีปลอกคอด้วยแสดงว่าจะมีเจ้าของซินะ" แต่ในขณะที่อัญญารินทร์กำลังอุ้มเจ้าตูบน้อยไว้บนตักนั้น
"ขอหมาคืนด้วยค่ะ" เสี่ยงไพเราะ กังวานใสเปล่งออกมาชั่งดูน่าฟังทำให้อัญญารินทร์หันไปมองอย่างมิอาจห้ามใจได้เลย
"ออ ค่ะ พอดีเห็นน้องเดินไปทางนั้น กลัวรถจะชนเลยอุ้มน้องไว้ คิดว่าเจ้าของคงมาตามหาแน่ ๆ น่ะค่ะ" อัญญารินทร์กล่าวตามความสัตย์
"พอดีที่บ้านไม่มีใครอยู่เลยพามาเรียนด้วย ฝากไว้กับป้าแม่บ้าน น้องคงหนีเค้ามาละคะ ขอบคุณนะคะที่ช่วยดูแลน้องให้ ขอพาน้องไปเลยนะคะ ขอบคุณค่ะ" เด็กสาวยื่นมือมารับเจ้าตูบ กล่าวขอบคุณแล้วเดินหันหลังกลับไปยังรถยนต์หรูที่จอดรอ
{หูย...รถหรูจัง ท่าทางจะรวยไม่เบาเลยนะเนี่ย ทำไมที่บ้านไม่มีคนดูเลยเหรอ ต้องพามาที่มหาวิทยาลัยด้วยเนี่ย..เฮ๊อ..} อัญญารินทร์ได้แต่คิดคำนึงในใจคนเดียว สักพัก
ปริ๊น!! เสียงแตรรถที่คุ้นเคยก็ดังกระทบโสตประสาทของเด็กสาว เธอรีบหันไปตามเสียงนั้นทันที
"คุณหนูครับ คุณพ่อให้มารับกลับบ้านครับ" ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่เข้ามาเอ่ยอย่างสุภาพกับเด็กสาว
"คุณพ่อไม่มาหรือคะ"
"คุณเปรมกิจรออยู่ที่บ้านครับ"
"งั้นหนูขอส่งข้อความบอกคุณแม่ก่อนนะคะ เผื่อกลับผิดเวลาแล้วจะได้ไม่เป็นห่วง"
"ได้เลยครับคุณหนู"
จากนั้นหญิงสาวก็ส่งข้อความทิ้งไว้ให้มารดาแล้วรีบขึ้นรถไป
@บ้านอนันตวรรณาวงษ์
"มากันแล้วค่ะคุณท่านดิฉันออกไปดูแลคุณหนูก่อนนะคะ" แม่บ้านวัยชรากระซิบบอกผู้เป็นนายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"อืมไปเถอะ พาไปกินของว่างก่อนนะ แล้วค่อยพาไปที่ห้องนั่งเล่น"
"ได้ค่ะคุณท่าน"
อีกด้าน
"สวัสดีค่ะคุณป้าแม่บ้าน"
"สวัสดีค่ะคุณหนู คุณท่านให้คุณหนูไปรับประทานของว่างก่อนนะคะ แล้วค่อยไปที่ห้องนั่งเล่นค่ะ"
"ค่ะ คุณป้า" เด็กสาวนั่งลงบนเก้าอี้ ตาก็มองไปรอบ ๆ พบแต่ความเงียบสักพักขนมเค้ก และน้ำชาก็ถูกเลื่อนมาตรงหน้าโดยใครบางคน
"ทานขนมเค้ก แล้วก็จิบชาไปก่อนนะคะลูกสาว" เป็นเปรมกิจที่เอ่ยขึ้น
"สวัสดีค่ะคุณพ่อ หนูกำลังคิดอยู่ว่าคุณพ่อให้คนไปรับหนูมาแล้วทำไมถึงไม่เจอคุณพ่อกัน"
"ก็พ่อมัวแต่ไปเตรียมขนมไว้ให้หนูไงคะ คุณพ่ออบเองกับมือเลยนะ มีคุณป้าแม่บ้านช่วยด้วยนิดหน่อย ลองชิมซิคะ"
"ค่ะ น่าอร่อยจัง..อื้ม อร่อยจริงด้วยค่ะ หนูไม่ได้กินแบบนี้บ่อย ๆ หรอกค่ะ แม่บอกว่ามันจะทำให้อ้วนแล้วก็เป็นสิว"
"เหรอ อันนี้ก็อย่าบอกคุณแม่ซิคะ ถ้ากลัวเป็นสิวก็ออกกำลังกายเยอะ ๆ พักผ่อนให้เพียงพอก็น่าจะช่วยได้นะคะพ่อว่า"
อีกด้านของผู้มาใหม่
"คุยอะไรกันคะหลานปู่ มีขนมเค้กด้วยน่าอร่อยจัง ขอปู่ลองชิมหน่อยได้มั๊ยคะ"
"ได้ค่ะ แต่นิดเดียวนะคะ คุณปู่ต้องระวังเรื่องของหวานค่ะ"
"อืม..จริงด้วยซิ...ปู่ไม่กินดีกว่า..ว่าแต่ที่มหา'ลัยเป็นไงบ้างคะ เรื่องเรียนเป็นไงบ้าง"
"ก็ดีค่ะคุณปู่ น้องเอ๋ยสนุกกับมันค่ะ แต่ไม่มีเพื่อนเลย" เด็กสาวเล่าให้ฟังอย่างแสนซื่อ
"อีกหน่อยก็คงมีเองแหละลุก หนูมีการบ้านอะไรมั๊ยคะ เอามาทำที่นี่ได้เลยนะเสร็จแล้วค่อยกลับบ้านทีเดียวเดี๋ยวปู่ให้คนไปส่งที่บ้าน"
"มีค่ะ แต่หนูจะกลับไปทำที่บ้านค่ะ ใกล้เวลาคุณแม่จะกลับแล้ว"
"เอางั้นก็ได้ลูก กินต่อเถอะนะ ปูไม่กวนแล้ว" ชายชราพูดจบก็เดินหายเข้าไปในโซนห้องนั่งเล่น
อีกมุมหนึ่งของบ้าน
"คุณพ่อว่าจะสำเร็จมั๊ยครับ พี่อันจะกล้ามาตามลูกสาวที่นี่หรือเปล่า"
"ก็คงต้องลุ้นกันล่ะ แผนล่อเสือออกจากถ้ำเนี่ยมันน่าตื่นเต้นดีนะ พ่อชักจะยังไง ๆ แล้วเนี่ย"
"คุณพ่อกลัวว่าพี่อันจะมาโวยวายกับพี่กิจเหรอครับ"
"หรือนายไม่กลัวล่ะ แล้วนายกิจจะพูดทันพี่สะใภ้ของนายมั๊ย"
"ผมว่าให้การกระทำเป็นตัวตัดสินดีกว่าครับ จะได้รู้กันไปเลยว่าพี่อันยังรักพี่กิจอยู่หรือเปล่า"
"เอางั้นเหรอ พี่ชายเราจะไม่หลอดเลือดสมองแตกอีกรอบนะ"
"ไม่หรอกครับ คุณพ่อคอยดูเปรมกิจการละครดีกว่าครับ" เปรมมนัสกล่าวยิ้ม ๆ
"เอ้า ลองอีกสักตั้งนึง ก็ทำกับเค้าไว้เยอะนิ่ โดนลูกสะใภ้ด่าแค่นี้จะเป็นไรไป" เปรมชัยได้แต่ปลงกับชีวิต
"ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ พี่สะใภ้ของผมก็พอมีคุณธรรมอยู่ อย่างมากก็แค่เชิด หรือเงียบใส่เท่านั้นแหละครับ"
อีกด้านของคนที่อยากกลับบ้านแล้ว
..คุณปู่ขา.. คุณปู่.. เสียงเจื้อยแจ้วที่ดังมาจากไกล ๆ ที่ใกล้เข้ามาทุกที
"นั่นหลานสาวคุณปู่ถามหาแล้วครับ"
"อือ..เดี๋ยวคุยหลานสาวก่อนนะ../คร้าบหลานสาว กินขนมอิ่มแล้วเหรอลูก" เปรมชัยเอ่ยขึ้นหลังจากเดินออกไปหาหลานสาวคนสวย
"ค่า อิ่มแล้วค่า จะกลับแล้ว ก็เลยจะมาลาคุณปู่ค่า..อ้าวคุณอานัทก็อยู่ หนูกลับก่อนนะคะ คุณพ่อจะนั่งรถไปกับหนูด้วยค่ะ สวัสดีค่ะคุณปู่ สวัสดีค่ะคุณอา"
"ไหว้พระเถอะลูก/หวัดดีครับสาวน้อยกลับบ้านดี ๆ นะครับ" สองพ่อลูกได้แต่สบตากันอย่างรู้ความนัย