ความเดิม-"อร่อยก็กินเข้าไปเยอะ ๆ จะได้รีบกลับไปกินยา จะได้พักผ่อน"
อีกด้านของคนมองที่ได้แต่ยิ้มสุขใจที่มารดาของเธออ่อนลงไปเยอะถึงขนาดยอมให้บิดาเธอนั่งร่วมโต๊ะกินข้าวด้วยได้
............................................
หลังจากกินข้าวด้วยกันจนอิ่มเปรมกิจยังอิด ๆ ออด ๆ ไม่ยอมกลับ ส่วนสายลับก็แอบส่งข้อความไปบ้านใหญ่และคนขับรถว่ากินข้าวอิ่มแล้วแต่ยังไม่อยากกลับเพื่อทางนั้นจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงกังวล และแอบตักอาหารและน้ำใส่กล่องไปให้พี่คนขับรถเรียบร้อย
"พี่กิจกลับบ้านได้แล้วค่ะเดี๋ยวที่บ้านจะเป็นห่วงจะได้กินยาด้วย"
"มียาก่อนนอนแค่นั้น ไม่ต้องเป็นห่วง"
"ถึงอย่างนั้นก็เถอะ พี่ควรจะกลับบ้านของพี่ได้แล้ว อันอยากพักผ่อนบ้าง"
"อันพี่อยากคุยกับอัน พี่อยากซื้อรถให้ลูกสักคัน และอยากให้อันเปลี่ยนรถคันใหม่ คนเดิมมันเก่าแล้ว"
"อันก็คิดอยู่ อันกำลังเก็บเงินดาวน์ให้ลูกค่ะ"
"แต่พี่ซื้อให้ลูกได้เลย เงินอันก็เก็บไว้นะพี่เป็นห่วงอันเป็นห่วงลูกนะ ถ้าพี่ต้องตายไปพี่ก็อยากให้อันกับลูกมีสิ่งอำนวยความสะดวกบ้าง" เปรมกิจพูดด้วยหน้าตาเศร้าสร้อยจนดูน่าสงสาร
"พี่ก็ดีขึ้นแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่เป็นอะไรหรอก อีกอย่างอันกับลูกก็ไม่ลำบากอะไร" อรัญญาพูดกลบเกลื่อนไปทั้งที่ในใจก็แอบเป็นกังวลอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
"แม่คะ" อัญญารินทร์เอ่ยขึ้นบ้างแต่หยุดไว้แค่นั้น
"เอาล่ะ อยากทำอะไรก็ทำ ตามใจ" อรัญญาพูดไปส่ง ๆ แล้วเดินขึ้นชั้นสองไป
ด้านอัญญารินทร์หันมาส่งยิ้มหวานให้บิดาและพาบิดามานั่งที่โซฟาในห้องนั่งเล่น
"คุณพ่อคะ เนี่ยแสดงว่านาง โอเค แล้วค่ะ แต่นางท่ามากไปอย่างนั้นเอง" อัญญารินทร์กระซิบกระซาบบอก
"เหรอลูกเหรอ พ่อดีใจจัง งั้นหนูต้องหัดขับรถยนต์แล้วหละ ส่วนรถของแม่พ่อจะบอกให้คนจัดการให้นะเอาขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ไปขนาดกำลังน่ารักสำหรับผู้หญิงขับเน๊าะลูกเน๊าะ"
"ค่ะคุณพ่อ" อัญญารินทร์อือออตอบรับบิดาในขณะที่นั่งโซฟาตัวเดียวกันกับบิดาและวางศีรษะทุยลงไปที่ไหล่ของบิดาในขณะที่เปรมกิจใช้อีกมือลูบผมลูกสาวอย่างเบามือ
สองพ่อลูกต่างคนต่างยิ้มในหน้าอย่างเป็นสุขโดยมีอีกคนที่ขึ้นชั้นสองไปแล้วมาแอบมองที่บันไดอย่างเงียบ ๆ
"พ่อคงต้องกลับก่อนนะ อยากไปเล่าความคืบหน้าให้คุณปู่กับคุณอานัทฟังน่ะ"
"ค่ะคุณพ่อ งั้นหนูจะไปส่ง"
จากนั้นสองพ่อลูกก็เดินจูงมือกระหนุงกระหนิงกันออกมาที่หน้าบ้านโดยมีนพดลยืนสแตนบายรออยู่ก่อนแล้ว
"เชิญครับคุณเปรมกิจ" นพดลเอ่ยพร้อมกับเปิดประตูรถรอ
"ขอบคุณค่ะพี่ ฝากดูแลคุณพ่อด้วยนะคะ" อัญญารินทร์ยกมือไหว้ขอบคุณนพดลอย่างนึกขอบคุณ
"ไม่เป็นไรครับคุณหนู มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ" นพดลกล่าวยิ้ม ๆ ในใจก็นึกว่าไม่ว่าจะรอนานสักแค่ไหนก็คุ้มที่ได้เจ้านายคนเดิมกลับมาเสียที
@บ้านอนันตวรรณาวงษ์
"นู่นพี่ชายเรามากันแล้ว" เปรมชัยเอ่ยยิ้ม ๆ
"ครับคุณพ่อ"
"ไงทานข้าวมาแล้วละซิ ยิ้มปุ้ยมาเชียว เป็นไงบ้างล่ะ" เปรมชัยเอ่ยถามลูกชายอย่างใจจดใจจ่อ
"ผมขออนุญาตอันซื้อรถให้ลูก กับเปลี่ยนรถคันใหม่ให้อันครับ"
"แล้วลูกสะใภ้พ่อว่าไงล่ะ"
"อันบอกว่า (เอาล่ะ อยากทำอะไรก็ทำ ตามใจ) แล้วก็เดินขึ้นบ้านไปเลยครับ"
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า สำเร็จครับพี่กิจ แสดงว่าพี่สะใภ้ของผมอ่อนไปมากแล้วครับ" เปรมมนัสหัวเราะก๊าก แล้วออกความเห็นบ้าง
"นายพูดเหมือนน้องเอ๋ยเลย"
"ก็คนที่เขาโกรธเป็นพ่อนี่นะ ไม่ใช่กิจเสียหน่อย" คนชราพูดจาด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แววตาดูหม่นแสงลงไป
"คุณพ่อครับ ต้องให้เวลาพี่อันเค้าสักหน่อยนะครับ คุณพ่อต้องไม่เศร้านะครับ เหมือนที่อามังกรบอกไงว่าคุณพ่อต้องให้อภัยตัวเองก่อนถึงจะเดินหน้าต่อไปได้นะครับ" เปรมมนัสเตือนสติบิดา
"อืม พ่อเข้าใจลูก พ่อไม่เป็นไร" เปรมชัยเอ่ยกับลูกชายยิ้ม ๆ
"พ่อครับ รถเมียผมเก่าแล้ว พ่อต้องออกรถให้เมียผมใหม่นะครับ แล้วน้องเอ๋ยก็ต้องมีรถไปเรียนด้วย" เปรมกิจกล่าวยิ้ม ๆ ความจริงเขาสามารถจัดการได้โดยไม่ต้องบอกบิดา เพียงแต่เขาอยากให้บิดารู้สึกดีขึ้นมาบ้างก็เท่านั้นเอง
"ได้ลูก ได้เลย เอายี่ห้อไหน สีอะไรบอกมาได้เลยเดี๋ยวพ่อจัดการให้" เปรมชัยเอ่ยอย่างยิ้มแย้มในตาเป็นประกาย
"เดี๋ยวสายลับส่งข้อมูลให้ครับ" เปรมกิจเอ่ยยิ้ม ๆ
"ใครกันล่ะลูก" เปรมชัยถึงกับขมวดคิ้วพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นอย่างนึกสงสัย
"น้องเอ๋ยครับคุณพ่อ เค้าเป็นสายลับจับคุณแม่คืนดีกันกับคุณพ่อครับ"
"โอ้ว....ดี ดี เก่งจังนะหลานปู่ ได้เลยกิจ ไม่ต้องห่วง ว่าแต่ขับรถเป็นหรือยังล่ะหลานปู่น่ะ"
"นายกรณ์กำลังหัดให้ครับ"
"เหรอ ไม่ยอมให้ใครยุ่งซินะ ก็คนของใจเค้านิ่" เปรมชัยได้แต่เอ่ยพึมพำในลำคอเบา ๆ แต่อีกคนได้ยินมันชัดเจน
"หึหึ" เปรมมนัสได้แต่หัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ในหัวก็นึกถึงใครอีกคนที่เพิ่งเจอกันไม่นานมานี้ ทำไมไม่ลืมนะ? (เปรมมนัสได้แต่บ่นตัวเองในใจ)
อีกด้านของพยาบาลหนุ่มที่หาจังหวะเข้ามาได้สักพัก
"ขออนุญาตพาคุณเปรมกิจขึ้นห้องไปกินยาแล้วพักผ่อนได้แล้วครับ" พยาบาลมานพเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นอย่างนอบน้อมแล้วเอ่ยขึ้น
"เอาซิ พยาบาลมานพ นี่ก็ว่าจะเรียกพอดีเลย" เปรมชัยกล่าวยิ้ม ๆ
...............................................