@เวลา 16.05 น.@มหาวิทยาลัยJ@คณะบริหาร
เปรมมนัสขับรถมาจอดที่หน้าคณะบริหารตามที่นัดแนะเอาไว้กับหลานสาว ชายหนุ่มพยายามมองหาหลานสาวคนสวยอยู่สักพัก นับว่าเป็นโชคดีเขาพบหญิงสาวที่ชอบมาวิ่งเล่นในหัวของเขาด้วยจึงรีบลงจากรถไปในทันที
"รออานานมั๊ยน้องเอ๋ย"
"ไม่นานค่ะคุณอา เอ่อคุณอานัทขา พอดียัยบีเพื่อนใหม่ของหนูพี่ชายเค้ายังไม่มาค่ะ หนูขอรอเป็นเพื่อนยัยบีก่อนได้มั๊ยคะ" อัญญารินทร์เอ่ยเป็นเชิงขอร้องกลาย ๆ
"ได้ซิ ว่าแต่เราหิวหรือยังล่ะ สั่งอะไรมากินระหว่างรอมั๊ย" เปรมมนัสเอ่ยอย่างกระตือรือร้นเพราะเป็นห่วงคนตัวบางที่ดูจะอิดโรยเต็มที
"ก็ดีนะคะ/ยัยบีกินอะไรก่อนมั๊ย คุณอาเราเลี้ยงเอง กว่าพี่ชายเธอจะมา" อัญญารินทร์อือออกับผู้เป็นอาแล้วหันไปถามความเห็นเพื่อนสาว
"ไม่เอาอ่ะ เราจะรอกินข้าวกับพี่เอดีกว่า เดี๋ยวอิ่มแล้วพี่เอไม่มีเพื่อนกินข้าว" กานต์ธิดาตอบไปตามความรู้สึก
อีกคนที่ได้ยินนึกฉุน ๆ อยู่ในอารมณ์ {ห่วงตัวเองก่อนเถอะยัยกุ้งแห้งเอ้ย ลมพัดจะปลิวอยู่แล้ว วัน ๆ กินอะไรบ้างเนี่ย} เปรมมนัสได้แต่บ่นคนตัวบางในใจแต่ทำอะไรไม่ได้
สักพักกานต์ธิดาได้ยินสายเรียกเข้าที่ตั้งเสียงไว้เฉพาะ
กานต์ธิดา: ค่าพี่เอ
กานต์บุรุษ: บี พี่เกิดปัญหานิดหน่อยรถเสียน่ะ กำลังเรียกช่างมารอพี่ไหวมั๊ย เอาไงดี
กานต์ธิดา: ไม่เป็นไรค่ะพี่เอ พี่เอไม่ต้องห่วงเดี๋ยวหนูกลับเอง
กานต์บุรุษ: เอางั้นก็ได้ ดูแลตัวเองดี ๆ นะ ถ้าจะเรียกแท็กซี่กลับก็ดูดี ๆ นะโทรศัพท์พกติดตัวตลอดนะพี่เป็นห่วง
กานต์ธิดา: ค่า ไม่ต้องเป็นห่วง ถ้ามีอะไรผิดปกติหนูจะรีบโทรเรียก 191 เลยค่า
กานต์บุรุษ: เออ อย่าทำพูดดีไป ถึงเวลาต้องทำให้ได้อย่างที่พูดละ งั้นแค่นี้ก่อนนะ ช่างมาล๊ะเดี๋ยวพี่ขอคุยกับช่างก่อน แล้วสัญญาณก็ถูกตัดไป
อีกด้านของคนที่ฟังอยู่
"บีกลับด้วยกันนะ เดี๋ยวเราให้คุณอาไปส่งก็ได้" อัญญารินทร์ออกความเห็นเพราะนึกเป็นห่วงเพื่อนสาวที่ต้องนั่งแท็กซี่คนเดียว แต่ทันใดนั้น
ปริ๊น!! (เสียงแตรรถของใครอีกคน)
ปึ่ก..กรึ่บ (เสียงเปิดและปิดประตูรถในจังหวะกระชั้น) "น้องเอ๋ย อามารับไปหัดขับรถครับ เสร็จแล้วจะไปส่งที่บ้านคุณปู่" เป็นปกรณ์คุณหมอหนุ่มที่ปรากฎตัวได้ทันเวลาพอดี (เพราะเพื่อนรักแอบส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือนะซี จึงรีบบึ่งมาเลย)
"เอ่อ..คือ..น้องเอ๋ยต้องไปส่งเพื่อนที่บ้านกับคุณอานัทน่ะค่ะ พอดีรถของพี่ชายเค้าเสียกลางทางยังมารับไม่ได้.." อัญญารินทร์อธิบายอึก ๆ อัก ๆ
"เอางี้ซิ เราขับรถตามกันนี่และ น้องเอ๋ยไปกับนายกร ส่วนเธอยัยกุ้งแห้งไปกับผม แล้วเราขับรถตามกันแล้วน้องเอ๋ยก็ได้หัดขับรถออกถนนใหญ่ไปด้วยโดยมีนายกรเป็นครูสอนให้ไง" เปรมนัสเอ่ยขึ้น
"เอางั้นก็ได้ค่ะ หนูจะได้ขับรถออกถนนใหญ่ด้วย น่าตื่นเต้นจัง" อัญญารินทร์เอ่ยยิ้ม ๆ นัยน์ตาเป็นประกาย
หึหึ.. "งั้นเชิญคุณอัญญารินทร์ประจำตำแหน่งพลขับได้เลยครับ" ปกรณ์หัวเราะเบา ๆ ในลำคอแล้วหันไปยกนิ้วโป้งให้เพื่อนรักอย่างนึกขอบคุณ แล้วทั้งคู่ก็ขับรถตามกันไปยังบ้านของกานต์ธิดาโดยมีเจ้าตัวเป็นคนบอกทาง
รถยนต์คันหรูทั้งสองคันมาจอดที่บ้านสองชั้นหลังเล็ก ๆ แต่น่ารักร่มรื่นหลังหนึ่งซึ่งมีรั้วรอบขอบชิด และมีไม้ดอกส่งกลิ่นหอมตลบอบอวนทั่วบริเวณบ้าน
ทั้งสี่คนลงจากรถออกมายืนใต้ร่มไม้ที่ร่มรื่นพลางสูดลมหายใจเข้าอย่างรู้สึกสดชื่น
"ถึงแล้วค่ะ ขอบคุณทุกคนนะคะที่มาส่ง" กานต์ธิดายกมือกระพุ่มไหว้ผู้ใหญ่ที่มาส่งอย่างนอบน้อม
"อืม..พี่ชายยังไม่กลับนิ่ ท่าทางจะซ่อมรถนานอยู่มั๊ง ให้รอเป็นเพื่อนมั๊ย" เปรมมนัสเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทำเอาปกรณ์ที่ฟังอยู่นึกขำในใจในความไม่เนียนของเพื่อนรัก
"อากรคะ เราอยู่เป็นเป็นยัยบีกันดีกว่าค่ะ น้องเอ๋ยไม่ไปหัดขับรถแล้วก็ได้ เอาไว้วันหลังดีกว่า" อัญญารินทร์เอ่ยเป็นเชิงขอร้อง
"แล้วแต่น้องเอ๋ยเลย อายังไงก็ได้อยู่แล้ว ใช่มั๊ยนายนัท" ปกรณ์โบ่ยไปให้เพื่อนรักแล้วกระพริบตาข้างเดียวเป็นอันรู้ความใน
"อือ ว่าแต่เจ้าของบ้านว่าไงล่ะ" เปรมมนัสเอ่ยยิ้ม ๆ
"งั้นเชิญทุกคนเข้าบ้านก่อนนะคะ บ้านอาจจะคับแคบหน่อยนะคะแต่จอดรถได้สองคันแน่นอนค่ะ" กานต์ธิดาเอ่ยยิ้ม ๆ
จากนั้นสองหนุ่มทำหน้าที่เป็นพลขับเพื่อนำรถยนต์คันหรูเข้าจอดภายในบ้านอย่างเป็นระเบียบ
ด้านกานต์ธิดาทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีหาน้ำท่าและของว่ามาให้แขก ส่วนเปรมมนัสกดโทรศัพท์สั่งอาหารบริการถึงบ้านสำหรับทุกคน
สักพักใหญ่เขาก็ได้ยินเสียงแตรรถจักรยานยนต์พร้อมกับเสียงร้องบอกของพนักงานส่งอาหารถึงบ้าน
ปื๊น ๆ อาหารมาส่งแล้วคร้าบ (เสียงจากพนักงานส่งอาหารร้องเรียกมาจากหน้าบ้าน เปรมมนัสจึงออกไปรับอาหารแล้วถือเข้ามาในบ้าน)
"กินมื้อเย็นกันดีกว่านะ" เปรมมนัสเอ่ยยิ้ม ๆ ส่วนปกรณ์หันไปสบตากับเพื่อนรักเพียงครู่อย่างรู้ความใน
"คุณอาสั่งอะไรมาคะ เดี๋ยวน้องเอ๋ยไปช่วยถือค่ะ" อัญญารินทร์เสนอตัว
อีกคนที่ฟังอยู่อยากช่วยเพื่อนจึงเอ่ยแทรกขึ้น
"ให้เจ้าของบ้านกับเจ้ามือเค้าออกไปเถอะน้องเอ๋ย หนูมาช่วยอาจัดโต๊ะรอดีกว่า" ปกรณ์กล่าวยิ้ม ๆ อย่างรู้ใจเพื่อนรัก