29.ไปมาหาสู่

1088 Words
ความเดิม "กลับเข้าบ้านไปนะลุก ส่งลุงแค่นี้แหละ" เปรมกิจกล่าวยิ้ม ๆ ส่วนคนตัวเล็กก็ทำตามอย่างว่าง่าย ........................................... ปกรณ์พาร์ท หลังจากที่พาเฮียเปรมกิจไปที่บ้านหนูเอ๋ยวันนั้นเราก็แอบไปมาหาสู่กันบ่อย ๆ จนเดี๋ยวนี้อาการของเฮียกิจก็ดีขึ้น พูดได้ชัดและเร็วขึ้น การทรงตัวถือว่าดีเยี่ยม ถ้าไม่บอกก็ไม่รู้ว่าเคยป่วยหลอดเลือดสมองแตกมาก่อน ผมย้ายมาอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพฯ แล้วมีอาจารย์หมอชักชวนมาเป็นแพทย์ที่ตรวจที่แผนกนรีเวชอย่างเดียวเลย ผมจึงมีเวลามาพี่ชายของเพื่อนรักไปนูนไปนี่ได้บ้าง และวันนี้ก็เช่นกัน เราไปช้อปปิ้งที่เพ็ทช็อปได้ของฝากที่น่าถูกใจมาฝากน้องบุญเก็บ และขนมขบเคี้ยวตามแฟชั่นที่วัยรุ่นชอบกินกันสำหรับว่าที่ภรรยาตัวน้อยของผม จากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปที่บ้านหลังเล็กที่แสนอบอุ่นโดยที่เจ้าของบ้านกำลังทำงานอย่างหัวหมุนกันเลยทีเดียว เพราะสายรายงานมาแล้ว เปิดทางให้เลย ทางสะดวก ............................................ @บ้านกาลเวหล ปกรณ์จอดรถที่หน้าประตูรั้วบ้านของคนตัวเล็ก สักพักก็เห็นคนตัวเล็กวิ่งถือกุญแจมาเปิดประตูรั้วพร้อมกับโบกมือเรียกเป็นสัญญาณบอกว่าให้เอารถเข้ามาจอดในบ้านก่อนได้ เขาจึงเลื่อนรถเข้าไปในบ้านตามคำเชื้อเชิญ จากนั้นได้จอดรถและรีบไปเปิดประตูฝั่งข้างผู้โดยสารให้คนป่วย แต่ไม่ทันเสียแล้ว เพราะคนตัวเล็กได้ไปเปิดประตูรถให้ผู้อาวุโสสูงสุดและคอยยืนประกบอยู่อย่างระแวดระวังว่าจะสะดุดหรือล้ม "สวัสดีค่ะคุณลุงเปรมกิจ สวัสดีค่ะคุณอาปกรณ์" เด็กสาวยกมือกระพุ่มไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองอย่างน่ารัก ..โฮ่ง ๆ ../ฮ่าฮ่าฮ่า บุญเก็บก็อยากทักทายคุณลุงกับคุณอาเหมือนกันใช่มั๊ยคะ นั่งให้เรียบร้อยนะคะ อย่าวุ่นวายเดี๋ยวคุณลุงจะสะดุดเอา คุณลุงป่วย สะดุดล้มแล้วจะแย่เอาได้ค่ะ ...เด็กสาวหันไปคุยกับสุนัขตัวโปรดยิ้ม ๆ "อ่ะ นี่ของฝากของบุญเก็บ แล้วก็มีของฝากของหนูด้วยนะหนูเอ๋ย" ปกรณ์ยื่นขนมและอาหารสำหรับสุนัข และขนมขบเคี้ยวสำหรับเจ้าของสุนัข "ขอบคุณค่ะ มีขนมหนูด้วยหรือคะ หนูกำลังอยากกินอันนี้อยู่พอดีเลยค่ะ" อัญญารินทร์ยิ้มจนตาหยีเพราะถูกใจขนมตรงหน้าเสียเหลือเกิน "หึหึ ชอบก็กินเลย ว่าแต่เมื่อไรสอบหรือคะ เตรียมตัวถึงไหนแล้ว" ปกรณ์เอ่ยถามพลางมองดวงหน้าของหญิงสาวอย่างหลงไหล ในขณะที่เปรมกิจได้แต่ยิ้มเอ็นดูลูกสาวจนลืมมองชายหนุ่มเพื่อนน้องชายไปว่าได้แทะโลมลูกสาวของตนด้วยสายตาเข้าให้แล้ว "เดือนหน้าก็สอบแล้วค่ะ หนูกำลังทบทวนบทเรียนที่อ่านไปแล้วค่ะ ที่เหลือก็แล้วแต่โชคชะตาแหละค่ะ" เด็กสาววัยใสเอ่ยยิ้มแต่นัยน์ตากลับเศร้าอย่างเห็นได้ชัด "หนูเอ๋ยกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเหรอคะ" ปกรณ์ถามอย่างตรงจุด "ก็ใช่ค่ะ หนูสงสารคุณแม่ค่ะ ยิ่งหนูเรียนสูงขึ้นค่าใช้จ่ายก็ยิ่งสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว" "ผมให้ทุนหนูเอ๋ยได้นะ เพราะเมื่อก่อนหนูเอ๋ยก็รับทุนจากครอบครัวของผมอยู่แล้วนี่ แค่เปลี่ยนจากรับทุนของครอบครัวสหศิลป์ปรีชา มาเป็นทุนของผม นายแพทย์ปกรณ์ สหศิลป์ปรีชา ก็แค่นั้นเอง ตกลงมั๊ย" ปกรณ์ยื่นข้อเสนอไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ในใจลุ้นแล้วลุ้นอีกจนอกแทบจะระเบิด "เอ่อ หนูว่าเอาไว้ก่อนดีกว่าค่ะ หนูอยากให้การสอบผ่านไปก่อน หนูอยากมีสมาธิการการสอบมากกว่าค่ะ อีกอย่างหนูต้องถามคุณแม่ก่อนค่ะ" อัญญารินทร์ตอบอย่างที่คิด "หนูเอ๋ยคะ หนูบอกคุณแม่ได้ค่ะ แต่คุณแม่ของหนูจะทำงานเพิ่มอีกเป็นสองเท่าหรือสามเท่าเพราะอยากให้หนูได้เรียนในที่ดี ๆ เท่าที่จะทำได้ ระยะนี้มีวันไหนที่หนูได้เจอคุณแม่ในช่วงเวลาก่อนตะวันตกดินบ้างมั๊ยคะ หรือว่าวันหยุดคุณแม่ได้อยู่กับหนูบ้างมั๊ย" ปกรณ์หว่านล้อมโดยใช้เหตผล "ไม่เคยเลยค่ะ คุณแม่น้องเอ๋ยทำงานตลอด วันหยุดก็ไม่เคยได้หยุดยังไปทำงานรับจ๊อบตลอดเลยค่ะ" เด็กสาวตอบอย่างแสนซื่อ "นั่นไงคะ ถ้าหนูเอ๋ยอยากให้คุณแม่ไม่ต้องทำงานหนักกว่าเดิม หนูเอ๋ยก็ต้องรับทุนนี้ไปนะคะ แล้วก็ไปบอกคุณแม่ให้สบายใจว่าหนูได้ทุนจากครอบครัวสหศิลป์ปรีชาให้เรียนในระดับอุดมศึกษาแล้วค่ะ คุณแม่ทำงานให้น้อยลงนะคะ" ปกรณ์พูดอย่างล้อ ๆ ทำเอาเด็กสาวหัวเราะเสียงใส รวมถึงเปรมกิจที่ฟังอยู่ด้วย "หนูเอ๋ยอยู่บ้านคนเดียวทำอาหารเป็นมั๊ยลุก" เปรมกิจเอ่ยถามอย่างนึกสงสัย "แหะ ๆ ไม่ค่อยเป็นค่ะ คุณแม่ทำไว้ให้ในตู้เย็นให้อุ่นกินเองค่ะ วันนี้คุณแม่ทำผัดผักรวมมิตรใส่ไก่ฉีกไว้ให้ค่ะคุณลุงอยากลองทานฝีมือแม่ของหนูมั๊ยคะ เมนูธรรมดา ๆ แต่อร่อยนะคะ" "........." เปรมกิจเงียบแต่ยิ้มในหน้า "งั้นรอตรงนี้ก่อนนะคะ หนูจะไปอุ่นอาหารแล้วก็เจียวไข่เพิ่มมาให้คุณลุงกับคุณอาปกรณ์ทานค่ะ รอแป๊บนะคะ" ว่าแล้วเด็กสาวก็วิ่งปรู๊ดเข้าไปในครัวและออกมาพร้อมกับอาหารที่จัดใส่ถาดใบใหญ่มาสำหรับสามคน "น่ากินจัง คิดถึงที่สุด" เปรมกิจพูดอย่างเพ้อ ๆ "อะ อะไรเหรอคะ อ๋อ..คุณลุงคงถูกห้ามไม่ให้ทานพวกอาหารผัด ๆ ทอด ๆ ใช่มั๊ยล่ะคะ เอาเป็นว่ามื้อเดียวคงไม่เป็นไรหรอกเน๊าะ เดี๋ยวหนูแอบกระซิบพยาบาลมานพให้ว่าช่วยพากายภาพหนัก ๆ หน่อยจะได้เบิร์นออกที่กินไปมื้อนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า" เด็กสาวพูดไปพร้อมกับตักผัดผักและไข่เจียวให้คนป่วยแล้วยิ้มจนตาหยี ทำเอาอีกคนที่เฝ้าสังเกตการณ์ถึงกับจุกในอกจนกินไม่ลงกันเลยทีเดียว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD