28.แอบไปหา

1290 Words
ความเดิม ..บุญเก็บเรามาปลูกต้นไม้กันเถอะ พี่เอ๋ยเห็นตรงนู้นมีที่ว่างพอจะปลูกดอกไม้ได้บ้าง พี่มีปุ๋ยหมัก ปะ ไปกัน.....(เด็กสาวคุยกับเจ้าสุนัขขนปุยแล้วชี้นิ้วมือไปยังที่มุมหนึ่งข้าง ๆ บ้าน) ..................................... ..ฮู่ ฮ่า ๆ ตุ่บตั่บ ๆ ฟุดฟิต ปุ่บปั่บ ๆ... (เจ้าสุนัขขนปุยตัวเกินอวบ วิ่งตุ่บตั่บตามเจ้านายไปยังจุดที่ให้พิกัดทันที และโกยดินขึ้นมามากมายจนดินเป็นหลุมลึกพอประมาณ) ..ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า บุญเก็บรู้ได้ยังไง เก่งมากเลย ก่อนอื่นเราต้องรองหลุมด้วยปุ๋ยมะพร้าวหมักก่อนน๊า นี่ แบบนี้ เดี๋ยวพี่เอ๋ยเอาต้นอ่อนไปใส่ในหลุมก่อน อ้าว เอาเลยบุญเก็บช่วยพี่เอ๋ยกลบดินหน่อย.. ..อื๋อ..ฟุด ฟิต ๆ ตุ่บตั่บ ๆ ปุ่บปั่บ ๆ (เจ้าสุนัขเกินอวบใช้จมูกดุดดินที่เตรียมไว้ไปกลบไว้ที่โคนต้นอ่อน) ..เก่งมาก ๆ เลยบุญเก็บ แต่จมูกน้องเปื้อนหมดเลย ต้องอาบน้ำแล้วน๊า เสร็จพอดี เดี๋ยวทำร่มให้น้องต้นไม้ก่อน.. จากนั้นก็พากันไปที่ลานเอนกประสงค์ข้าง ๆ บ้านที่ใช้เป็นที่จอดรถ และที่ตากผ้าบ้างแล้วแต่โอกาส ..รออยู่ตรงนี้นะเดี๋ยวพี่เอ๋ยไปเอาแชมพูกับผ้าขนหนูของน้องก่อนห้ามดื้อห้ามหนีน๊า.. (ว่าแล้วคนตัวบางก็วิ่งเข้าไปในบ้านอย่างเร่งรีบอยู่ในทีสักพักก็กลับมา ส่วนเจ้าสุนัขเกินอวบก็ยังนั่งหูหลูบ กระดิกหางอยู่ที่เดิม) ..โอ้ว เก่งจัง นั่งรอเลย ปะ อาบน้ำกัน..จากนั้นเด็กสาวก็หยิบสายยางเปิดน้ำค่อย ๆ รดไปที่ตัวสุนัข แต่เจ้าสุนัขขนปุยเมื่อตัวเปียกน้ำเกิดนึกสนุก สะบัดขนใส่เจ้านายจนเปียกมะล่อกมะแล่กกันทั้งคนทั้งสุนัข ..บุญเก็บแกล้งพี่เหรอ เดี๋ยวจะถูกงดขนมน๊า พี่เปียกหมดเลย นี่ นี่เลย..(เด็กสาวเทแชมพูแล้วยีขนเจ้าสุนัขเกินอวบจนเกิดฟองแล้วเล่นกันอย่างสนุกสนาน) ...................................... อีกด้านของผู้แอบมอง "เฮียกิจเป็นยังไงบ้างครับ น่ารักมั๊ย" ปกรณ์เอ่ยถามนัยน์ตาเป็นประกายด้วยความเอ็นดู "ลูกน่ารักมาก บุญเก็บก็แสนรู้" เปรมกิจพูดยิ้มที่หัวตามีน้ำหล่อเลี้ยงมาเอ่อคลอเพียงกระพริบตาก็อาจจะหยดลงมาได้ทุกเมื่อ "ครับ น้องเป็นเด็กน่ารักมาก เป็นเด็กที่รู้จักหาความสุขจากสิ่งรอบ ๆ ตัว ไม่ฟุ้งเฟ้อ รู้จักช่วยแบ่งเบาภาระแม่ด้วยอีกต่างหาก "กร เฮียไม่อยากรอแล้ว เฮียอยากเดินหน้าตอนนี้เลยเข้าไปหาหนูเอ๋ยกันเถอะเจ้าหมาตัวนั้นเป็นเพื่อนกับเฮียแล้ว" เปรมกิจพูดอย่างหมายมั่น "เอางั้นเหรอครับ เอาก็เอา อย่างดีก็แค่ฉีดยาทำแผล หึหึ" จากนั้นสองหนุ่มต่างก็ลงจากรถแล้วเดินไปที่ประตูรั้วบ้าน ส่วนเจ้าสุนัขเกินอวบเมื่อเห็นคนแปลกหน้าเดินเข้ามาใกล้เขตรั้วบ้านก็เห่าเสียงกระชั้น โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง แฮ่ โฮ่ง โฮ่ง..../เอ๋ใครมาน่ะ...บุญเก็บไปดูกันเถอะ จากนั้นเด็กสาวก็ใส่สายจูงให้กับเจ้าสุนัขเกินอวบและเดินตรงไปที่ประตูรั้วบ้านของคนตัวเล็ก "มาหาใครเหรอคะ อ้าวคุณกับคุณลุงคนนั้นนั่นเอง สวัสดีค่ะ คุณลุงมาหาเพื่อนคุยหรือคะ เชิญเข้าบ้านก่อนค่ะ น้องบุญเก็บอาบน้ำเช็ดขนเสร็จพอดี แต่น้ำนองนิดหน่อย คุณลุงเดินดี ๆ นะคะระวังจะลื่นค่ะ" อัญญารินทร์ต้อนรับด้วยอัธยาศัยไมตรี ส่วนเจ้าสุนัขเกินอวบก็ได้แต่ยืนแหงนมองหน้าเจ้านาย คล้ายกับกำลังถามว่า เจ้านายเอาไงดี ตกลงจะให้กัดหรือจะให้เล่นด้วยดี "บุญเก็บ นี่คุณลุงที่มาวันนั้นไงจำได้มั๊ย อย่างกระโจนใส่คุณลุงน๊า คุณลุงป่วยเห็นมั๊ย" อัญญารินทร์พูดกับเจ้าสุนัขเกินอวบเสียงใสส่วนอีกคนที่เป็นผู้สังเกตุการณ์ได้แต่ยกยิ้มมุมปาก จนปวดแก้มไปหมดแล้ว "เฮียครับผมช่วยประคองดีกว่านะครับ เดี๋ยวจะลื่นล้มแล้วจะแย่เอา คราวนี้กู่ไม่กลับแน่ ๆ" หลังจากอมยิ้มจนปวดแก้มอยู่นานปกรณ์หันไปประคองเปรมกิจเพื่อป้องกันไว้ก่อนว่าผู้ป่วยจะไม่ลื่นล้ม ส่วนคนตัวเล็กรีบวิ่งเข้าไปในบ้านไปเปิดบ้านเปิดพัดลมไว้รอและเชื้อเชิญให้ชายต่างวัยเข้าไปนั่งให้สบายก่อน ส่วนปกรณ์นึกตำหนิคนตัวเล็กอยู่พอประมาณ .................................................... ปกรณ์พาร์ท ผมนึกตำหนิน้องหนูเอ๋ยอยู่นิดนึงตรงที่ทำไมถึงไว้ใจคนแปลกหน้า เชื้อเชิญให้เข้าบ้านได้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองอยู่บ้านคนเดียว นี่ถ้าเจอคนไม่ดีจะทำยังไง จากนั้นก็ปั้นหน้ายิ้มแย้มต่อ .................................................... "อยู่คนเดียวหรือลุก" เปรมกิจเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบไปสักพัก "ค่ะหนูอยู่บ้านอ่านหนังสือ หนูอ่านเสร็จแล้วนะคะ แต่ก็เบื่อ ๆ ค่ะ ก็เลยมาปลูกต้นไม้ฝั่งนู้นที่เห็นน่ะค่ะ แล้วนี่...ผู้ช่วยไปช่วยขุดดินก็เลยจมูกเลอะ ก็เลยต้องอาบน้ำให้เค้าหน่อยค่ะ เลยเปียกไปหมดเลย แต่เจ้านี่สะอาดแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า" อัญญารินทร์เล่าไปยิ้มไปหัวเราะไปส่วนคนฟังก็ได้แต่ยิ้มไปตามมุมมองของตัวเอง มุมมองความคิดของเปรมกิจ → โถ่ลูกเอ๊ย คงเหงาซิท่า ถึงได้หานู่นหานี่ทำ ต่อไปพ่อจะไม่ยอมให้มันเป็นแบบนี้แล้วลุก มุมมองความคิดของปกรณ์ → เด็กหนอเด็ก ต่อไปหนูจะเล่นเป็นเด็กแบบนี้ไม่ได้แล้วน๊า หนูจะต้องเป็นสะใภ้ใหญ่ของป๊าเฮียแล้ว ..................................................... "หนูก็ตัวเปียกเหมือนกันนี่ลูก ไม่ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียใหม่ล่ะ ไม่คันบ้างเหรอ นี่รอยบุญเก็บสะบัดขนใส่ใช่มั๊ยนี่ ขนหมายังติดผมอยู่เลย ลุงไม่รบกวนเวลาหนูแล้วหละลูกหนูจะได้อาบน้ำอาบท่าเสียใหม่ เอาไว้วันหลังลุงจะมาคุยด้วยใหม่นะ" เปรมกิจพูดยิ้มพร้อมกับวางมือลงบนศีรษะลูกสาวโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลยว่าคน ๆ นั้นอยู่ในฐานะอะไร "เอ่อค่ะ ขอบคุณคุณลุงมากเลยค่ะที่แวะมาคุยกับหนู หนูจะรอนะคะ ช่วงนี้หนูอ่านหนังสือเตรียมสอบโควต้าเข้ามหาวิทยาลัยค่ะ หนูอยู่บ้านทุกวันค่ะ" อัญญารินทร์บอกออกไปอย่างไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงไว้ใจคนแปลกหน้าได้ถึงเพียงนี้ ด้านคนที่มาสังเกตการณ์ได้แต่เงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี ปกรณ์ได้แต่คิดในใจ "เห็นทีจะต้องพาคนป่วยกลับเสียทีนะ หนูอยู่บ้านคนเดียวก็ระวังตัวปิดบ้านปิดช่องให้ดีนะอย่าไว้ใจใครให้เข้าบ้านง่าย ๆ ล่ะ" ปกรณ์บอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ตาจ้องมองดวงหน้าของคนที่คิดถึงไว้เหมือนต้องการจะเก็บไว้ในส่วนลึก "ค่ะสวัสดีค่ะคุณลุง สวัสดีค่ะคุณอา" อัญญารินทร์ยกมือกระพุ่มไหว้ชายทั้งสองอย่างนอบน้อมขณะเดินตามชายทั้งสองเพื่อมาปิดประตูรั้วบ้านโดยมีเจ้าสุนัขเกินอวบเดินขนปลิวตามมาด้วย "กลับเข้าบ้านไปเถอะลุก ส่งลุงแค่นี้แหละ" เปรมกิจกล่าวยิ้ม ๆ ส่วนคนตัวเล็กก็ทำตามอย่างว่าง่าย

Read on the App

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD