33.เจ็บแต่จบ

1062 Words
ความเดิม อีกด้านของคนทีออกมาจากข้างในบ้าน "อะไรนะคะ เรื่องมันเป็นยังไงกันหรือคะคุณแม่ น้องเอ๋ย งง ไปหมดแล้ว!!!!!????" ............................................. ตัดมาที่อรัญญาเมื่อเห็นว่าลูกสาวออกมาจากในบ้านเป็นการขัดคำสั่งจึงเปล่งเสียงดุเสียงเข้ม "น้องเอ๋ย ออกมาทำไมลูก เข้าไป มันไม่ใช่เรื่องของเด็ก เดี๋ยวพวกเค้าก็ไปแล้ว/ ออกไป ไม่งั้นฉั๊นจะแจ้งตำรวจฐานบุกรุกเคหสถานที่เจ้าบ้านไม่ได้ยินยอมต้อนรับ ออกไปเดี๋ยวนี้" ประโยคแรกอรัญญาดุลูกสาวเสียงเข้ม ประโยคหลังเธอตวาดแขกผู้มาเยือนจนน่าขนลุก "คุณแม่ ทำไมคุณแม่ดุ ทำไมคุณแม่ก้าวร้าวแบบนี้ละคะ น้องเอ๋ยไม่เคยเห็นคุณแม่เป็นแบบนี้มาก่อนเลย" อัญญารินทร์ประท้วงมารดาพร้อมกับหลั่งน้ำตาออกมาจนน่าสงสาร .·´¯`(>▂▂▂▂▂<)´¯`·. .·´¯` อีกด้านของผู้มาใหม่ "ลงมาที่พ่อเถอะ อย่าไปลงที่ลูกและหลานของพ่อเลย พ่อขอยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว" เสียงประกาศกร้าวจากเปรมชัยผู้เป็นบิดาของเปรมกิจ และปู่ของเด็กสาวอัญญารินทร์ ทำเอาทุกคนอยู่ในความเงียบสงบไปชั่วขณะ "ใจเย็น ๆ เถอะหนู ค่อย ๆ พูด ค่อย ๆ จากัน ทุกอย่างมีทางแก้เสมอนะ คิดถึงลูกให้มาก ๆ" เป็นกรพัฒน์ที่กล่าวขึ้นอย่างนุ่มนวล "ฮื่อ.......ฮื่อ ๆ แล้วในวันที่หนูเจ็บมีใครเห็นใจหนูบ้างมั๊ยละคะ วันที่หนูอุ้มท้องน้องเอ๋ยอย่างยากลำบากมีใครจุนเจือหนูบ้าง...ไม่มีเลย...แล้วตอนนี้จะมาเรียกร้องหาความรับผิดชอบทำไม หนูผ่านจุดนั้นมาแล้ว ผ่านมาด้วยดีซ๊ะด้วย แต่พวกคุณซิ คงทุกข์ใช่มั๊ย ร้อนรนใช่มั๊ยถึงได้วิ่งโร่มาที่นี่ น่าสมเพชจริง ๆ ฮึ่ก..." ฟุ่บ!!!!! อรัญญาพูดเพ้อเหมือนคนเสียสติ และล้มทั้งยืนแต่โชคดีที่ปกรณ์รีบมารับไว้ทันเวลาพอดี "คุณแม่ คุณแม่เป็นอะไรไป ทำไมคุณแม่ไม่เหมือนคุณแม่คนเดิมของน้องเอ๋ย ฮรึ่ก...คุณแม่..น้องเอ๋ยรักคุณแม่ที่สุดนะคะ น้องเอ๋ยจะอยู่กับคุณแม่ จะไม่ไปไหน หนูไม่มีพ่อก็ได้ ฮือ..คุณอาช่วยแม่หนูด้วย" อัญญารินทร์เฝ้าพร่ำบอกผู้เป็นมารดาที่ในตอนนี้นอนตัวเกร็งหน้าซีดไปหมดแล้ว "อัน อัน ฟื้น อัน พี่รักอันนะ" เป็นเสียงของเปรมกิจที่พยายามพร่ำบอกแม่ของลูกด้วยหัวใจที่สั่นไหว เขากลัวเหลือเกิน เขากลัวว่าคนตัวเล็กจะเป็นแบบเดียวกันกับเขา "เฮียกิจไม่ต้องห่วงนะครับ ผมเป็นหมอ พี่สะใภ้แค่เป็นลม อาจจะพักผ่อนน้อย แล้วก็เครียด เดี๋ยวผมจะพาพี่เค้าเข้าไปพักในบ้านก่อน/ น้องเอ๋ยคะไปเปิดประตูบ้านให้อาที อาจะพาคุณแม่ของน้องเอ๋ยไปปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อน ถ้าไม่ดีขึ้นค่อยว่ากันอีกที" ประโยคแรกปกรณ์พูดกับพี่ชายที่นับถือ ประโยคหลังเขาบอกกับคนของใจพร้อมกับส่งสายตาให้กำลังใจอีกทาง "ได้ค่ะ ทางนี้เลยค่ะ" อัญญารินทร์รีบสับเท้าไปที่ประตูพร้อมกับเข้าไปจัดที่จัดทางเพื่อให้คนตัวโตพามารดาของเธอไปนอนดูอาการบนโซฟาตัวยาวกลางบ้าน จากนั้นปกรณ์ก็ทำการตรวจร่างกายคนที่นอนหมดสติเบื้องต้น "เป็นยังไงบ้างนายกร ต้องเรียกรถมั๊ย" เป็นกรพัฒน์ที่เอ่ยถามอย่างกังวล "ชีพจรเต้นเร็วไปหน่อยครับ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะครับ/น้องเอ๋ยคะ อาอยากได้ผ้าขนหนูมาหน้าเช็ดตาให้คุณแม่ของหนูค่ะ" ปกรณ์เอ่ยกับคนตัวเล็กอย่างนุ่มนวล "ได้ค่ะ รอแป๊บนะคะ" ว่าแล้วคนตัวเล็กก็รีบสับเท้าขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านสักพักก็ลงมาพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเล็กสองผืนและกะละมังใบเล็ก จากนั้นเธอก็ช่วยคนตัวโตเช็ดหน้าเช็ดตาและเนื้อตัวให้ผู้เป็นมารดาอย่างเบามือ จนคนป่วยเริ่มขยับตัว "...อืม..น้องเอ๋ย..นี่แม่หลับไปเหรอลูก พวกนั้นกลับไปหรือยัง?" อรัญญาพูดกับลูกสาวเสียงเบาหวิว "แม่คะ ไปโรง'บาลกันมั๊ยคะ คุณแม่ดูไม่ดีเลย" อัญญารินทร์พูดอย่างชั่งใจ "แม่ดีขึ้นแล้วค่ะ" "อัน อันเป็นยังไงบ้าง พี่ใจหายหมดเลย" เปรมกิจเอ่ยขึ้นบ้าง "พ่อขอโทษ อรัญญา พ่อขอโทษ ยกโทษให้ตาแก่เจ้ายศเจ้าอย่างในวันนั้นได้มั๊ย พ่อยอมแล้ว" เปรมชัยเอ่ยขึ้นขณะที่นั่งลงบนโซฟาเดี่ยวด้านตรงข้ามโซฟาตัวยาวซึ่งคนตัวเล็กนอนอยู่ "อึ้..ฟุ่บ..(อรัญญาพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นโดยมีอัญญารินทร์ช่วยประคองอีกแรง) หนูไม่มีโทษจะยกให้ใครแล้วค่ะ เพราะหนูไม่ได้โทษใคร หนูโทษตัวหนูเองที่ไม่ได้เกิดมาในตระกูลผู้ดีมีเงิน ไม่ได้ร่ำรวยล้นฟ้า หนูมิบังอาจค่ะ คุณท่านพาคุณกิจกลับไปเถอะค่ะ ป่านนี้ไม่ได้เวลาทานข้าวทานยาไปแล้วเหรอคะ หนูเองก็จะพักผ่อนเหมือนกัน" อรัญญาบอกเสียงราบเรียบและเริ่มเย็นลงบ้างแล้ว "ได้ลูก แล้วพ่อจะพาตากิจมาเยี่ยมอีกนะ รักษาสุขภาพบ้าง ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายของน้องเอ๋ย พ่อจะรับผิดชอบเอง หลานปู่ทั้งคน หนูก็เหมือนกันนะต้องรักษาสุขภาพอยู่เป็นกำลังใจให้ลูกชายและหลานของพ่อด้วยล่ะ งั้นพ่อไปก่อน พักผ่อนให้ดีเถอะนะ" เปรมชัยกล่าวราบเรียบและหันไปสบตากับกรพัฒน์เพียงครู่แล้วพากันเดินออกไป "ผมกลับก่อนนะครับพี่อัน/อากลับก่อนนะคะน้องเอ๋ย ดูแลคุณแม่ดี ๆ ถ้ามีอาการผิดปกติโทรหาอาได้ทันทีเลยนะคะ" ปกรณ์เดินออกไปอย่างห่วง ๆ แต่ต้องตัดใจเพราะไม่อยากเร่งรัดผู้เป็นมารดาของคนตัวเล็กจนเกินไป บางทีการลบรอยแผลเป็นอาจต้องแลกด้วยความเจ็บและต้องใช้เวลา "ขอบคุณค่ะคุณอา" อัญญารินทร์กล่าวขอบคุณผู้มีพระคุณพร้อมกับยกมือกระพุ่มไหว้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD