“เหมียว เหมียว” แม่แมวน้อยเหมือนฟังภาษามนุษย์เข้าใจ แต่ก็เหลียวหันกลับไปมองแมวเปอร์เซียเพศผู้ที่วิ่งเล่นด้วยกันเมื่อครู่ แล้วตอนนี้ แมวเพศผู้ก็วิ่งตามมา จากนั้น เจ้าเหมียวขนฟูฟ่องสองตัวก็เข้าไปเคลียคลอกันพร้อมส่งเสียง
“เหมียว เหมียว”
ทาสแมวอย่างนาราไม่รู้ว่าสองแมวกำลังสื่อสารอะไรกัน แต่จากสายตาดูเหมือนว่าแมวสาวของเธอมันกำลังเขินแมวตัวผู้
‘แมวแก่แดด’
นาราบอกให้ถ้วยฟูรีบกลับบ้าน “มาเร็วๆ เรา มัวแต่เขินผู้อยู่นั่น ตัวบิดหมดแล้วถ้วยฟู”
“เหมียว เหมียว”
แมวน้อยสีขาวเอียงคอมองทาสสาว อยากจะบอกกับมนุษย์สาวเหลือเกินว่ามันไม่ได้กำลังเขินแมวตัวผู้ อาการแบบนี้มันแค่ขี้เกียจเดิน และกำลังร่ายมนตร์ใส่ทาสแมวให้อุ้มกลับบ้าน แต่ดูเหมือนทาสแมวนางนี้จะเข้าใจอะไรยากสักนิด ส่งสายตาปริบๆ นางทาสก็ไม่ค่อยเข้าใจ เหมียวน้อยจึงนอนหงายกลิ้งไปมา เอียงคอมองก็แล้ว เอียงจนคอจะหักทาสสาวก็ขยับมาดูใกล้ๆ ก้มมองแล้วถามขึ้น
“ถ้วยฟูเป็นอะไร”
จนแมวน้อยพ่นลมหายใจกับความไม่เก็ตของนางทาส
‘นุด ไม่เข้าใจเหรอ อยากให้อุ้มกลับ’
‘โธ่ นุดผู้เข้าใจไรยาก แมวเซ็ง’
แต่แล้วก็มีเสียงของหญิงสาวดังแหวกอากาศขึ้นมา “ยี้ ลุงคะ ปล่อยแมวสกปรกเข้ามาในบ้านได้ยังไง เดี๋ยวก็เป็นพาหะเอาเชื้อโรคมาติดคุณออสการ์หรอก”
ทำให้นาราเงยขึ้นไปมองแล้วต้องหน้าเจื่อนเมื่อเห็นสาวสวยรูปร่างราวกับนางแบบสวมชุดเดรสสีส้มขับผิวขาวเดินเร็วๆ ปราดมาอุ้มแมวสีเทาที่กำลังป้วนเปี้ยนเคลียคลอกับแมวเหมียวของเธอ
ปารารินจ้องแมวหนุ่มตัวโปรดของนักธุรกิจหนุ่ม เจ้าของบ้านหลังนี้ “ออสการ์ มี้บอกแล้วไม่ใช่เหรอคะว่าอย่าไปเล่นกับแมวบ้านๆ ได้ตรวจโรคหรือเปล่าก็ไม่รู้ เดี๋ยวมันจะเป็นพาหะนำโรคมาทำให้ออสการ์ของมี้ป่วยอีก”
ฟังแล้วก็รู้ว่า ออสการ์เป็นแมวตัวโปรดของเจ้าของบ้านหลังนี้ นาราหน้าเจื่อนลงเล็กน้อยที่เห็นคนเหยียดแมวคนอื่นมองตรงมาที่เธออย่างสำรวจ สายตานั้นมองราวกับว่าเธอคือพาหะนำเชื้อโรคเข้ามาในบ้านหลังนี้ไม่ต่างจากแมว แต่ในเมื่อแมวที่เธอดูแลเป็นคนบุกรุกเข้ามา คนสวยจึงพยายามข่มอารมณ์ขัดเคืองใจ ก้มลงไปอุ้มเจ้าเหมียวของตัวเองขึ้นมา แล้วเงยขึ้นมองเจ้าของบ้าน
“คุณเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ใช่ไหมคะ ฉันขอโทษค่ะที่แมวของฉันมันวิ่งเข้ามาในบ้านคุณ วันหลังจะดูแลให้ดีขึ้น”
ปารารินไม่พอใจที่เห็นแมวตัวอื่นมาเข้าใกล้คุณออสการ์เพราะเกรงว่าชาร์ลส์จะไม่พอใจ เพราะออสการ์เป็นแมวที่ได้รับอนุญาตให้นอนร่วมเตียงกับเขาด้วยในบางครั้ง แม้แต่เธอที่ทำงานใกล้ชิดกับเขาในตำแหน่งเลขาฯ ส่วนตัวยังไม่มีโอกาสได้ขึ้นไปนอนบนเตียงของชายหนุ่มเลยสักครั้ง
“เห็นแก่ความตาถึงของเธอ ครั้งนี้ ฉันจะไม่ว่า ต่อไปก็ดูแลแมวของเธอให้ดี อย่าให้มายุ่มย่ามที่นี่อีก”
ปารารินพอใจอยู่ลึกๆ ที่หญิงสาวเจ้าของแมวเอ่ยคำขอโทษก่อนแล้วยังคิดว่าเธอเป็นเจ้าของบ้าน อย่างว่าราศีคุณนายเฮอร์นันเดส คงจะจับ หลังจากพลาดตำแหน่งสะใภ้ ‘ตระกูลวราริศ’ แล้วยังกระเด็นออกจากบ้าน หญิงสาวจึงคิดว่าต้องสร้างความยิ่งใหญ่ให้ตัวเอง ด้วยการจับผู้ชายตรงปก หล่อ รวย ครบสูตรอย่าง ‘ชาร์ลส์ สราวิน เฮอร์นันเดส’ ให้อยู่หมัด เพื่อเป็นการตบหน้าพวกวราริศ ต่อให้ ‘เตชัส วราริศ’ จะหมางเมินเธอไปคว้าผู้หญิงจนๆ มาเป็นสะใภ้วราริศ แต่คนอย่างปารารินต้องหาผู้ชายคนใหม่ให้ได้ดีกว่าเขา
“ค่ะ” นาราสะกดความไม่พอใจเอาไว้
“เอาเถอะ ครั้งนี้ ฉันให้อภัย เธอพาแมวเธอกลับไปได้แล้ว”
นาราพยักหน้าหงึกๆ กำลังจะพาแมวกลับบ้าน แต่แล้วดวงตากลมโตก็ขยายกว้างขึ้นเมื่อมองไปที่แมวเปอร์เซียเพศผู้ที่ถูกอุ้มอยู่ในอ้อมกอดของปาราริน แม้นารายังไม่รู้เรื่องของแมวอีกมาก แต่อาการแมวปวดฉี่ ดูไม่ผิดแน่ เพราะมารดามอบหน้าที่สอนน้องถ้วยฟูขับถ่ายเป็นที่เป็นทางให้เธอ
ทาสแมวจำเป็นจึงมองออกว่าแมวผู้ดีสีเทามันกำลังปวดฉี่ โดยปกติแล้ว แมวผู้ดีในบ้านเศรษฐีมักจะถูกฝึกเรื่องการขับถ่ายให้ลงบนกระบะทรายที่เตรียมไว้ ไม่ฉี่เรี่ยราด แต่นี่มันกำลัง...
“คุณคะ แมวคุณ...”
“ทำไมเหรอ” ปารารินกอดออสการ์ไว้แน่น เหลือบตามองนาราอย่างไม่พอใจ
“ฉันว่าคุณรีบปล่อยแมวลงก่อนเถอะค่ะ ฉันเตือนด้วยความหวังดี” นาราลอบคิดว่าแม่สาวคนนี้เคยเลี้ยงแมวหรือเปล่า ถึงดูอาการแมวไม่ออก
ปารารินเหยียดยิ้ม “ยุ่งอะไรด้วย ฉันจะกอดออสการ์ไว้ทั้งวันก็เรื่องของฉัน แมวตัวนี้เป็นสายพันธุ์ที่ถูกคัดเลือก และได้รับการตรวจโรคทุกเดือน ไม่เป็นพาหะนำโรคให้ฉันหรอก”
“ฉันไม่ได้หมายความว่าแมวที่คุณอุ้มอยู่เป็นพาหะ แต่ว่า...” นาราลอบยิ้ม เมื่อคิดอีกที ปากดีแบบนี้ ให้โดนสักทีก็ดีเหมือนกัน “ช่างเถอะค่ะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
พอคล้อยหลังนารา เสียงกรีดร้องก็ดังลั่น เมื่อแมวที่ปารารินเพิ่งการันตีว่ามันมาจากสายพันธุ์คัดพิเศษ ถูกเลี้ยงอย่างดีเยี่ยม กำลังฉี่รดเธอเพราะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ออสการ์กำลังมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบทำให้มันฉี่ราดใส่ปาราริน
“กรี๊ดดดด ไอ้แมวบ้า!” ปารารินที่ไม่ได้ชอบแมว แต่พยายามผูกมิตรกับมันไว้ เพราะ ‘ชาร์ลส์ สราวิน เฮอร์นันเดส’ เอ็นดูมันมาก จึงเผลอโยนมันลงกับพื้นและเป็นจังหวะที่นาราหันกลับมามองพอดี
ดวงตากลมโตเบิกโพลง ถึงแม้ว่าเธอเองจะไม่ใช่ทาสแมวโดยสายเลือดแต่ก็ไม่เคยทำรุนแรงกับสัตว์เลี้ยงแบบที่แม่สาวตรงหน้ากำลังทำ
เมื่อเห็นแมวหนุ่มที่เหมือนกำลังป่วยถูกโยนลงพื้นนาราก็รีบเดินเข้าไปย่อตัว ดูอาการของมันสลับกับมองคนเต้นผางๆ เหมือนคนบ้า
“ไอ้แมวบ้า ยี้ ฉี่แก เปรอะชุดฉันหมด”
ชาร์ลส์เดินออกมาเพราะได้ยินเสียงร้องโอดครวญ และแทบไม่อยากเชื่อสายตา ดวงตาคู่คมทอประกายกร้าว
“ผมว่าคุณต่างหากที่บ้า เสร็จงานแล้ว ก็ออกไปจากบ้านผมได้แล้ว”