EP.08
“มองแบบนี้ หวังจะกินหรือเปล่าคะ”
มาลีหันมองเจ้าของเสียงหวานปนเยาะที่ดังอยู่ข้างกาย ก่อนจะผินหน้ากลับหันมองไปยังจุดเดิม ดั่งไม่ได้ให้ความสนใจกับเจ้าของคำพูดนั้นเลยสักนิด
“คุณมาลี! ไม่ได้ยินฉันพูดด้วยเหรอคะ”
มาลีหันกลับมามองนีน่าเพียงนิด เอียงคอหน่อยๆ อมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะพูดพาซื่อ “คุณนีน่าพูดกับฉันเหรอคะ”
“ก็ใช่สิ! ฉันยืนอยู่กับเธอ แล้วจะให้ฉันพูดกับใครล่ะ”
มาลียิ่งฉีกยิ้มหวานเมื่อคำว่า ‘คุณ’ เปลี่ยนเป็นเธอตามอารมณ์พวยพุ่ง และท่าทางผงะเล็กน้อยของนีน่าก็ทำให้หล่อนรู้สึกดีขึ้นไปอีก เมื่อครู่เรื่องชุดก็ใจฟูมาแล้วครั้งหนึ่งที่ทำให้นางแบบสาวสวยว้าวุ้นใจได้ แต่ตอนนี้นีน่าเหมือนจะเปิดศึก แล้วหล่อนควรสู้ไหม ในเมื่ออยู่ด้วยกันสองต่อสอง
“มาลีก็คิดว่าคุณนีน่าพูดกับแม่ซื้อเสียอีก”
“แม่ซ้งแม่ซื้ออะไรของเธอ พูดอะไรไม่รู้เรื่อง”
“อุ๊ย! ขอโทษทีค่ะ ฉันลืมไปว่าคุณนีน่าเป็นลูกครึ่งอาจจะไม่เข้าใจคำว่าแม่ซื้อ เอาเป็นว่าฉันไม่ได้พูดก็แล้วกันนะคะ”
“เธอหมายความว่ายังไง แม่ซ้งแม่ซื้ออะไร พูดมาให้ดีๆ นะมาลี”
“ก็บอกแล้วไงคะ ว่าถือว่าฉันไม่ได้พูดก็แล้วกัน โอเคนะคะ เข้าใจตรงกันใช่ไหม”
มาลีพูดอย่างเหลืออด นึกแปลกใจที่หล่อนน่าจะควบคุมกิริยาได้มากกว่านี้ คำที่ควรยั้งได้กลับโพล่งออกไปจนหมด
“แหม... พอไม่ได้อยู่ต่อหน้าคุณไฟนี่ ลายดอกออกพร้อยเลยนะ”
“นี่คุณนีน่าจะหาเรื่องฉันเหรอคะ”
มาลีถามตรง เพราะใบหน้าลอยไปลอยมาพร้อมคำพูดส่อเสียดไม่หยุดแบบนี้ นีน่าต้องการเล่นงานหล่อนไม่เลิกแน่
“อุ๊ย! ปากดีเสียด้วย แบบนี้สิฉันชอบ ตกลงว่าเธออยากกินคุณไฟจริงๆ ใช่ไหม”
“อยากกินเหรอคะ”
มาลียิ้มเพราะความคิดสนุกๆ กำลังพรั่งพรูในสมอง “อยากกินแบบไหนกันนะ แบบนี้หรือเปล่า” จิ้มขนมเค้กที่ตัดแต่งไว้เป็นชิ้นขนาดพอคำใส่ปากก่อนจะเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย ดวงตากลมโตมีแววสนุกเมื่อเห็นใบหน้าของนีน่าที่มองมา
“นี่เธอยั่วประสาทฉันใช่ไหม”
“เปล่าเลยค่ะ ก็คุณนีน่าบอกว่าฉันอยากกิน ฉันก็เลยกินให้ดูไงคะว่ากินแบบนี้หรือเปล่า อร่อยจริงๆ เลย ถ้าคุณนีน่าหิว... มากินด้วยกันไหมคะ ของเยอะเลย แบ่งๆ กันได้”
“เชอะ! ทำมาเป็นกินเค้กกลบเกลื่อน คนอย่างเธอก็คงกินได้แค่เค้กชิ้นละไม่กี่บาทเท่านั้นแหละ ส่วนเค้กก้อนโต เธอคงได้แค่อยาก แต่ไม่มีโอกาสได้กิน เพราะคนที่เป็นเจ้าของเค้กน่ะคือฉัน ฉันจะกินทั้งวันทั้งคืน กินอย่างเอร็ดอร่อย และคนอย่างฉัน ก็ไม่แบ่งให้ใครกินด้วย”
“แบบว่าไม่ให้สุนัขรับประทานน่ะเหรอคะ”
“เอ๊ะ! นั่งนี่! ปากดีนักนะ เห็นหงิมๆ ที่แท้แรดเงียบ สงบปากสงบคำรอวันนี้มานานแล้วสิ”
“อุ๊ยๆๆๆ คุณนีน่าพูดจาไม่สุภาพเลยนะคะ ปากดีสุดๆ เลยค่ะ ต่อหน้าพี่ไฟ คุณนีน่าก็ดูเป็นผู้ดี้ผู้ดี นี่สงบปากสงบคำรอวันนี้มานานแล้วใช่ไหมคะ”
“นี่เธอเมาใช่ไหมเนี่ย” นีน่าถาม สายตามองเหยียดเลขาฯ ของอัคนี
“มิน่าถึงจะโพล่งพูดออกมาหมด น้ำเมานี่มันละลายแอ๊บเธอจริงๆ”
“ฉันเมาเหรอคะ” มาลีทำหน้าครุ่นคิด “อ้อ... นี่เป็นอาการของคนเมา โห... ถ้ารู้ว่าเมาแล้วเป็นแบบนี้ ฉันเมาไปนานแล้วค่ะ ชอบจริงๆ เลย คิดอะไรก็พูดได้หมด”
“งั้นเธอก็บอกมาสิ! ว่าเธอรู้สึกยังไงกับฉัน ทำเป็นแอ๊บแบ้วประสานงานสับรางสาวๆ ให้บอสของเธอ ความจริงแล้วเธอคิดยังไงกันแน่”
“ก็คิด... เอ... เอาจริงเหรอคะ คุณนีน่าอนุญาตให้ฉันพูดเองนะ โอเคค่ะ งั้นฉันไม่เกรงใจ ฉัน... โคตะระรังเกียจคุณเลยค่ะ คุณแรดมากกกกก... ผู้หญิงอะไรมานอนเอากับผู้ชายที่บริษัทเขา เอากันอยู่บนหัวคนอื่น ออฟฟิศน่ะชั้นที่ 29 นะ แล้วคนข้างล่างล่ะ ไม่สนใจใครเลยเหรอ สนุกกันมาก... มีความสุขมาก... เอากันเสร็จแล้วก็ทิ้งถุงยางอนามัยไว้เกลื่อนห้องให้ฉันต้องคอยตามเก็บอะ คุณมันน่ารังเกียจที่สุด แล้วชุดนี่! ใส่ครั้งเดียว แม่เจ้า!!! ซื้อไปได้สามแสน! ใส่แล้วมันเหาะได้ไหม ใส่แล้วผู้ชายสนใจคุณไหม ก็ไม่ใช่ นี่! หกร้อยยี่สิบเอ็ดบาท ผู้ชายตรึม! เพราะอะไรรู้ไหม เพราะสดกว่าไง อิอิ... โอย! มันจริงๆ เลย วู้!! นี่ถ้าฉันรู้ว่าเมาแล้วพูดได้แบบนี้นะ ฉันเมาไปนานแล้ว ชอบจริงๆ เลย วุ้ย! อยากเมาอีก”
นีน่าสั่นเป็นเจ้าเข้า ไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้ “อีบ้า! ฉันจะฟ้องคุณไฟว่าแกพูดแบบนี้ใส่ฉัน”
“อ๋อเหรอคะ ไปฟ้องเลยค่ะ เขาบอกว่าอย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา คุณว่าฉันไม่ได้นะคะ ฉันเมา แต่คนเมาพูดอะไรก็ไม่ผิดหรอก พูดจริงด้วย อิอิ... แล้วคุณก็อนุญาตให้ฉันพูดเอง”
“แก... นังมาลี ฉันรู้ว่าแกไม่เมาจริงหรอก แกถือข้ออ้างมาด่าฉัน ถ้าแกเมา แกคงไม่ยืนหน้าระรื่นอยู่ตรงนี้หรอก”
“ตามสบาย... อยากคิดอะไรอยากพูดอะไรพูดเลย! ทำเลย! แต่ไปพูดไกลๆ ตรงนี้หน่อยนะคะ อย่ามายุ่งกับฉัน อย่ามาบังด้วย ฉันจะมองบอสสุดหล่อ มองพี่ไฟของฉัน”