บทที่ 5

1106 Words
นาราภัทรพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะรับคำ ทำให้นิลนาราลอบยิ้มอยู่ในใจ “นาราจะช่วยพี่เพิร์ลเองค่ะ จะให้นาราทำยังไง พี่เพิร์ลบอกนารามาสิคะ” นิลนาราเอื้อมมือไปหยิบซองเอกสารสีขาวซึ่งปิดผนึกเรียบร้อย ที่วางอยู่บนโต๊ะกระจกหน้าโซฟา จากนั้นก็ยื่นให้น้องสาว “พี่เขียนจดหมายถึงริคคาร์โด้ เล่าถึงความจำเป็นที่พี่ไม่สามารถทำตามที่เขาต้องการได้ พี่อยากให้นาราเอาจดหมายและแหวนหมั้นวงนี้ไปคืนให้กับริคคาร์โด้ด้วย” ทั้งจดหมายและแหวนเพชรวงงามถูกยัดเข้ามาในมือของนาราภัทร เท่านั้นยังไม่พอ ผู้เป็นพี่สาวยังสวมกอดน้องสาวไว้แน่น ขณะเอ่ยบอกต่อให้นาราภัทรต้องตกใจอีกครั้ง “นาราต้องบินไปอิตาลีพรุ่งนี้ เครื่องออกตอนห้าทุ่มนะจ้ะ” นาราภัทรดันตัวพี่สาวออกห่าง พร้อมกับถามเสียงหลง “อะไรนะคะ ไปอิตาลีพรุ่งนี้?” “ใช่จ้ะ นาราต้องไปอิตาลีพรุ่งนี้” นิลนาราย้ำคำอีกครั้ง “จะไปได้ยังไงคะ นารายังไม่มีตั๋วเครื่องบินเลยนะคะ” นาราภัทรค้านออกมา โดยไม่รู้เลยว่าพี่สาวเตรียมทุกอย่างไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว “พี่จองตั๋วเครื่องบินไว้ให้นาราแล้วจ้ะ และพี่รู้ด้วยว่าวีซ่ากับพาสปอร์ตของนารายังไม่หมดอายุ นาราสามารถบินไปอิตาลีในวันพรุ่งนี้ได้เลยจ้ะ” นิลนารารู้ว่าน้องสาวต้องหาเหตุผลมาอ้าง เธอจึงรีบดักคอน้องสาวไว้ทุกทิศทาง ยังไงๆ ก็ต้องให้น้องสาวเป็นตัวแทนนำจดหมายฉบับนี้ ไปส่งถึงมือของดอนริคคาร์โด้ให้จงได้ พอถูกนิลนาราดักทางไว้หมดแล้ว นาราภัทรก็ได้แต่อ้ำอึ้ง เอ่ยบอกเหตุผลกับพี่สาวไม่เต็มเสียงนัก “แต่...แต่...นารามีสอนนะคะพี่เพิร์ล” “ก็ลากิจสิจ้ะ นาราสอนโรงเรียนเอกชน สามารถลางานได้ง่ายจะตายไป ยังไงๆ ทางโรงเรียนก็หาครูคนอื่นมาสอนแทนได้อยู่แล้ว” “แต่...แต่...” นาราภัทรเริ่มรู้สึกไม่อยากทำตามที่รับปากกับพี่สาว เพราะในตอนแรกเธอไม่นึกว่าจะต้องช่วยพี่สาวด้วยวิธีนี้ และไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ว่าต้องเดินทางไปยังดินแดนอัซซูรีในวันพรุ่งนี้ เมื่อน้องสาวเกิดอาการลังเล ทำท่าจะปฏิเสธในการส่งจดหมาย นิลนาราจึงงัดไพ่ใบสุดท้ายมาใช้ ซึ่งเธอเชื่อว่าจะต้องได้ผลอย่างแน่นอน “ถ้านาราลำบากใจ ไม่อยากช่วยพี่ก็ไม่เป็นไร พี่จะหอบลูกในท้องทนนั่งบนเครื่องบินแคบๆ บินไปอีกซีกโลกเพื่อไปหาริคคาโด้ร์เอง แม้จะแพ้ท้องมากแค่ไหนพี่ก็ยอมทำ เพราะพี่ไม่ยอมตกเป็นเมียน้อยของเขาอย่างแน่นอน” ขณะคร่ำครวญบอกน้องสาวเสียงสั่นเครือ มือเล็กก็เอื้อมไปคว้าซองจดหมายกับแหวนเพชรคืนมาจากน้องสาว ทว่านาราภัทรรีบดึงมือหนีเสียก่อน “ก็ได้ค่ะ นาราจะไปอิตาลีเอง พี่เพิร์ลไม่ต้องไปหรอก กำลังแพ้ท้องอยู่ด้วย เดินทางไกลคนเดียวจะเป็นอันตรายได้” ประโยคนั้นทำเอานิลนาราคลี่ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ โผเข้าไปสวมกอดน้องสาวไว้แน่น โดยไม่ลืมรำพันขอบคุณน้องสาวด้วย “ขอบใจนารามากนะจ้ะ ที่ยอมทำเพื่อพี่ ถ้าไม่มีนารา พี่ต้องตายแน่ๆ เลย” “ไม่เป็นไรค่ะ เพื่อพี่เพิร์ล นาราทำได้ทุกอย่างค่ะ” นาราภัทรสวมกอดพี่สาวไว้แน่นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะดันตัวออกช้าๆ “นาราขอไปเตรียมเอกสารการเดินทาง และก็จัดกระเป๋าก่อนนะคะ” “ให้พี่ไปช่วยจัดกระเป๋าไหมจ๊ะ” นิลนาราอาสาช่วยน้องสาว ตอนนี้เธอกำลังอารมณ์ดีเพราะมีคนทำหน้าที่ส่งจดหมายให้กับตนแล้ว นาราภัทรลุกขึ้นยืน แล้วเอ่ยปฏิเสธ “ไม่ต้องหรอกคะ นาราจัดกระเป๋าเองได้ พี่เพิร์ลไปพักผ่อนเถอะนะค่ะ พี่เพิร์ลยังดูเพลียๆ อยู่เลย” จากนั้นหญิงสาวก็หันไปมองทาง มารดา พร้อมกับบอกท่านอีกคน “คุณแม่ก็ไปพักผ่อนเถอะค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องของพี่เพิร์ลนะคะ นาราจะเป็นคนแก้ไขสถานการณ์นี้เองค่ะ” “จ้ะลูก” คุณกุลธรารับคำ โดยไม่ได้มองสบตากับลูกสาวคนเล็ก “นาราขอตัวก่อนนะคะ” นาราภัทรยิ้มให้มารดาและพี่สาวอีกครั้ง ก่อนจะเดินขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนของตัวเอง โดยไม่รู้เลยว่าคล้อยหลังเธอไปแล้ว ผู้เป็นมารดากับพี่สาวต่างก็จับมือกันคลี่ยิ้มด้วยความดีใจเมื่อแผนการสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี “นารายอมไปอิตาลีแล้ว เพิร์ลดีใจจังเลยค่ะคุณแม่ ตอนนี้เพิร์ลได้แต่ภาวนาให้ดอนริคคาร์โด้รับแหวนคืนและยกเลิกการหมั้นระหว่างเราสองคน” “เมื่อนาราไปถึงบ้านของดอนริคคาร์โด้แล้ว เพิร์ลจะถามข่าวคราวของมาคอส จากน้องไหม” นิลนาราถึงกับนิ่งเงียบไปหลายนาที ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่ค่ะ เพิร์ลไม่อยากรู้ เพิร์ลไม่อยากรับรู้ถึงชีวิตของเขา แต่เพิร์ลมั่นใจว่าป่านนี้เขาคงแต่งงานและมีลูกน้อยให้เชยชม เขากำลังมีความสุขกับครอบครัวของเขา และเพิร์ลก็ควรยินดีกับเขาด้วยใช่ไหมคะ คุณแม่” กุลธรายกมือลูบเบาๆ ไปบนศีรษะของลูกสาว ก่อนจะดึงร่างบางให้ซบกับอกอันแสนอบอุ่น ขณะเอ่ยปลอบไปว่า “แม่รู้ว่าการมีความรักแค่เพียงฝ่ายเดียว มันทำให้เราเจ็บปวดเสียใจมาก แต่ความรักเป็นสิ่งสวยงาม เป็นเครื่องจรรโลงใจของมนุษย์ทุกคน แม่ไม่อยากให้เพิร์ลปิดกั้นหัวใจของตัวเอง หากมีใครสักคนเข้ามาในชีวิต แม่ก็อยากให้เพิร์ลลองเปิดใจกับความรักอีกสักครั้ง” “ค่ะ คุณแม่ เพิร์ลจะไม่ปิดกั้นหัวใจของตนเอง แต่ตอนนี้เพิร์ลไม่มีใคร เพิร์ลอยากรักษาบาดแผลในหัวใจให้สมานซะก่อน และคงต้องใช้เวลานานกว่าแผลนั้นจะหายดี” นิลนาราซบหน้าลงกับอกของมารดา แน่นอนว่าต้องใช้เวลาเนิ่นนานกว่าเธอจะลืมมาคอสได้ หรืออาจลืมไม่ได้เลยตลอดทั้งชีวิตก็เป็นได้...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD