พ่ายรักเจ้าสาววันไนท์ฯ
16
สามเดือนต่อมา
"ไม่มีลูกของเราแล้วพี่เจตต์ไม่ต้องมาดูแลมิราอีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ ภาระหน้าที่ของพี่เจตต์ต่อไปนี้จบลงเพียงเท่านี้พอค่ะ"
เจตต์รู้สึกอึ้งไปวันนี้เขาตั้งใจพามิราไปดินเนอร์นอกบ้าน เมื่อมาเจอคำพูดนี้แทนความรู้สึกไม่ต่างอะไรกับคนที่โดนไล่ออกจากงานเลย
"ได้ไงกัน มิราคือเมียพี่นะ"
"มิราหายดีแล้วใช้ชีวิตปกติได้แล้วค่ะ"
มิรามองหน้าเจตต์ยิ้มให้เขาเล็กน้อย อย่างน้อยที่ผ่านมาเจตต์ก็ทำหน้าที่ได้ดี
"พี่ยังหวังอยู่ว่ามิราจะย้ายมาอยู่กับพี่ด้วยซ้ำไป ไม่เคยคิดว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้"
เจตต์ยิ้มหยันประชดตัวเอง
" มิรากะว่าจะย้ายกลับไปอยู่ที่อเมริกา"
เจตต์รู้สึกตกใจซ้ำสองเมื่อได้ยินคำว่าเธอจะจากไป
"แล้วเรื่องของเราล่ะ?"
เจตต์ถามมิราด้วยน้ำเสียงอ่อนโรยราอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวจริงๆ
"ผ่านมาหลายเดือนขนาดนี้แล้ว พี่เจตต์ยังไม่ได้รู้สึกอะไรกับมิราเป็นพิเศษใช่มั้ยคะ สรุปเราไม่สามารถไปต่อกันได้ อีกอย่างเราก็ไม่มีลูกให้ต้องคอยทำหน้าที่พ่อและแม่กันอีกต่อไปแล้ว ถ้าพี่เจตต์พร้อมก็มาหย่ากันเถอะค่ะ"
มิราฝืนยิ้มในขณะที่พยายามกัดฟันพูดเรื่องหย่าออกมา สามเดือนมานี้เธอต้องเข้มแข็งมากๆที่ต้องเสียลูกในท้องไป และก็พยายามทำใจได้ในที่สุด และอยากปล่อยเจตต์ไปสักที เธอไม่อยากเป็นเรื่องไร้สาระในชีวิตของเขาอีกแล้ว
หลายเดือนมานี้เจตต์ต้องเหนื่อยดูแลเธอทั้งๆที่เขาควรจะได้ทำงานเต็มที่อย่างที่เขาเคยได้เอ่ยกับเลขาตอนที่อยู่กับเธอที่เชียงราย มิราคิดมาตลอดว่าทุกวันนี้เจตต์ก็ยังคิดแบบนั้น
เธอรู้สึกว่าไม่มีความสุขเลย เรื่องนั้นมันคอยรบกวนจิตใจเธอตลอดเวลา เพราะคนอย่างมิราไม่ใช่คนที่เอาเปรียบใครได้ แม้กระทั่งเรื่องของความรักก็ตาม
"ขอเวลาพี่อีกสักหน่อยนะ แต่พี่ยังยืนยันกับมิราว่าพี่อยากให้มิราไปอยู่กับพี่เหมือนเดิม"
เจตต์คิดแบบนั้นจริงๆเพราะทุกวันเขาคิดว่านี้มิราคือส่วนนึงในชีวิต อาจจะเป็นความเคยชินก็เป็นไปได้ เหมือนสิ่งของที่ถูกใจจนไม่อยากจะเสียให้คนอื่นไป
"เราไม่สามารถอยู่กันได้ โดยที่เราไม่ได้รักกันค่ะ"มิรายังยืนยันคำเดิม
เจตต์ไม่รู้ว่าจะตอบมิราอย่างไร ในใจเขานั้นรู้สึกดีกับเธอมากเหลือเกิน เพียงแต่ไม่แน่ใจว่ามันเป็นคำว่ารักหรือไม่ กลัวว่าเวลาผ่านไปแล้วมันไม่ใช่ หากว่าบอกเธอไปว่ารัก แล้ววันนึงรู้ตัวว่ามันไม่ใช่ขึ้นมา คนที่จะเจ็บปวดคือมิราเองและเขาก็จะกลายเป็นคนโกหก
แต่ ณ วินาทีนี้ เขายังอยากอยู่ใกล้ๆได้ดูแลเธอทั้งสภาพจิตใจและร่างกาย มิราเสียลูกไปเขาก็เสียใจไม่ต่างไปกับเธอ และก็อยากบอกกับมิรามากๆว่าที่ผ่านมาเขารู้สึกมีความสุขที่ได้ใช้เวลาร่วมกับเธอถึงแม้ว่าจะเป็นเวลาสั้นๆก็ตาม
แต่คนปากแข็งคนนี้ไม่กล้าที่จะเอ่ยออกไปจริงๆ
"แล้วมิราล่ะ รู้สึกกับพี่อย่างไร?"
"ผู้หญิงอย่างมิราคงไม่ยอมพลีกายให้ใครง่ายๆถ้าไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาหรอกค่ะ"
มิราพูดออกมาเสียงแผ่วเบาเพียงแค่นั้นเจตต์ก็รู้แล้วว่ามิราคิดอย่างไรกับเขา
"มิราคือว่าพี่...."
เจตต์จะเดินเข้ามาหาแต่มิราเดินถอยหลังหนีเขา
"อย่าค่ะ "
มิราไม่อยากให้เขาเข้าใกล้เธออีกแล้ว ร่างกายและจิตใจของเธอยังไม่พร้อมที่จะบอบช้ำไปมากกว่านี้อีก ถึงจะแกล้งทำเป็นเข้มแข็งแค่ไหนบางครั้งมันก็ไม่ไหวจริงๆ
"พรุ่งนี้เจอกันที่เขตค่ะ วันนี้พี่เจตต์กลับไปเถอะ"
เจตต์เม้มปากสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะค่อยๆพ่นออกมาอย่างช้า ไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับชีวิตในตอนนี้
"ได้ ถ้าหากมิราต้องการแบบนั้นก็ได้"
พูดจบเจตต์ก็เดินออกไปจากห้อง มิรายังคงนั่งตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น เธอแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าท้ายที่สุดเจตต์จะเลือกเธอเสียอีก แต่ผู้ชายที่รักอิสระเสรีแบบเขาไม่สมควรมีใครอยู่ข้างกายให้เจ็บปวดจริงๆ
ความรักของมิราไม่สามารถทลายกำแพงความไม่พอของเจตต์และไม่สามารถเข้าไปถึงจิตใจที่เย็นชารักใครไม่เป็นของเขาได้แม้แต่นิด เจตต์ยังคงเป็นเจตต์คนเดิม และคงจะเป็นตลอดไป
"ลาก่อนค่ะพี่เจตต์"
มิราปล่อยให้น้ำตาไหลหลั่งรินลงมาเต็มสองแก้มนวล ตั้งใจว่าจะร้องไห้ให้หนักๆให้กับความเจ็บปวดครั้งนี้อย่างเต็มที่ ที่เหลือก็ปล่อยให้วันเวลาทำหน้าที่เยียวยา
"ฮือ ๆ แต่มันก็เจ็บมากจริงๆนะ"
มิราฟุบหน้าลงบนฝ่ามือ ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาเต็มที่ราวกับท่อประปาแตก
"มิรา!"
พนาเดินเข้ามาในห้องเพราะได้ยินเสียงร้องไห้ เนื่องจากประตูห้องเปิดอยู่จึงได้ยินชัดเจน
"นายเจตต์กลับไปแล้วเหรอ?"
ไม่ได้ยินเสียงตอบจากมิรา
"เป็นอะไร ร้องไห้เหรอ?"
พนานั่งลงข้างๆมิรา มิราเธอผงกหัวขึ้นมองพนาพร้อมกับรอยเปื้อนของน้ำตาที่นองตา
"ไอ้เจตต์มันทำอะไรน้อง?"
พนาดึงน้องสาวเข้ามากอดอย่างรู้สึกสงสารจับใจอีกใจก็รู้สึกเคืองเจตต์ขึ้นมาทันที แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่านี้นอกจากคอยเยียวยาซัพพอร์ตความรู้สึกของมิราเท่านั้น
"พี่เจตต์ไม่ได้ทำอะไรมิราค่ะ มิราแค่ขอหย่ากับพี่เจตต์เอง แต่มิราเจ็บ เจ็บมากเหลือเกินค่ะพี่พนา"
"เจ็บก็ร้องออกมา ถ้าไม่อยากหย่าก็ไม่ต้องหย่า"
"ต้องค่ะ ต้องหย่า พี่เจตต์ไม่ได้รักมิรามาตั้งแต่ต้น มิราไม่ควรเห็นแก่ตัว เราควรจะปล่อยเขาไป"
"คุณพ่อคงไม่ยอม"
"มันเลยจุดนั้นมาแล้วค่ะถ้ามิราไม่ท้อง งานแต่งงานก็คงไม่เกิดขึ้น เพราะอย่างไรเสียคนอย่างพี่เจตต์ก็ไม่มีวันยินดีแต่งงานกับมิราอยู่แล้ว ที่เขาแต่งเพียงเพื่อรอวันหย่าและที่เขาเต็มใจก็เพราะว่ามิราท้อง..เพียงแค่นั้นเองค่ะ"
"ช่างมันเถอะ ช่างมันไม่ต้องพูดแล้ว มิรายังมีพี่อยู่พี่จะอยู่ข้างๆน้องไม่ทิ้งไปไหนแน่นอน เพราะฉะนั้นแล้วมิราจะต้องกลับมายิ้มได้ให้เร็วที่สุดนะรู้มั้ย?"
พนาปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของมิราออกอย่างแผ่วเบาภายในใจก็รู้สึกเจ็บปวดไม่ต่างกัน
"มิราโชคดีที่สุดที่มีพี่ชายที่แสนดีอย่างพี่พนาค่ะ"
มิราโผเข้ากอดพนาอีกครั้ง ที่พึ่งทางกายทางใจทั้งแต่เล็กจนโตก็มีเพียงพนาพี่ชายของเธอคนเดียวเท่านั้น ถึงแม้จะทะเลาะกันไปบ้างเพราะความดื้อรั้นของเธอ แต่มิราก็ไม่เคยรักพนาน้อยลงไปเลย....และอีกเรื่องที่มิราไม่เคยรู้มาก่อน
'ความลับก็ให้มันเป็นความลับตลอดไปเถอะ'
พนาถอนหายใจออกมา ที่เขาเชื่อฟังผู้เป็นบิดาและมารดามากกว่าลูกชายปกติทั่วๆไปกว่าบ้านอื่นๆก็คือ เขาเป็นแค่ลูกบุญธรรม เรื่องนี้มิราไม่เคยรับรู้ และพนาก็อยากให้เรื่องนี้เป็นความลับตลอดไป
@@@
"เอกสารพยานพร้อมมั้ยครับ?"
เจ้าหน้าที่ของเขตถามขึ้น เนื่องจากการหย่าต้องมีพยานฝั่งละหนึ่งคน วันนี้มิราพาพนาส่วนเจตต์พาณดลมา ใบหน้าของเขาที่เคยมองมิราอย่างอ่อนโยน กลับแสดงความเย็นชา เมินเฉยออกมาแทน มิราเห็นแล้วก็นึกสะท้านวาบเข้าไปถึงข้างในหัวใจของเธอ
"ครบแล้วครับ"
"แล้วมีทรัพย์สินอะไรที่ต้องตกลงกันมั้ยครับ?"
"ไม่มีครับ/ค่ะ"
พูดพร้อมกัน พร้อมกับยื่นเอกสารทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ ผ่านไปประมาณสิบนาที เจ้าหน้าก็เอาใบสำคัญหย่ามาให้เซ็น มิรามองกระดาษตรงหน้าด้วยมือที่สั่นเทา อยู่ๆน้ำตามันก็ไหลร่วงลงมา
"ถ้าไม่พร้อมหย่า ค่อยมาวันหลังก็ได้นะครับ"
เจ้าหน้าที่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นน้ำตาของหญิงสาว
"พร้อมค่ะพร้อม"มิรายกมือขึ้นปาดน้ำตา
เจตต์ปรายตามามองนิดหน่อย แต่ก็หันกลับไปใบหน้าภายใต้แว่นตาดำของเขาไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ มิราสัมผัสได้ถึงความเย็นชาห่างเหินจากเขา เจตต์เป็นคนเซ็นมันลงไปก่อนเป็นคนแรก มิราหันไปมองเขานิดหน่อยเธอก็เป็นฝ่ายเซ็นลงไปบ้าง
เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว
"มิรากลับกันเถอะ"
พนาลุกจากเก้าอี้ตรงหน้าห้องมาตามมิรา ส่วนเจตต์กับณดลออกไปก่อนหน้านี้แล้วโดยไม่รอที่จะพูดคุยอะไรกับมิราเลยสักคำ
"เขากลับไปแล้วเหรอคะ?"
"อืม ปล่อยมันไปเถอะ สักวันมันจะเสียใจที่เสียมิราน้องของพี่ไป"
"ไม่หรอกค่ะ ดีใจมากกว่า ไปเถอะค่ะมิราอยากไปเตรียมของเดินทางกลับวอชิงตันแล้ว"
"รออีกสักสองวันได้มั้ย?"
"ทำไมคะ?"
มิราเลิกคิ้วถามพนาอย่างประหลาดใจ
"พี่จะไปด้วย ไปส่งมิราและก็ถือโอกาสนี้ไปเยี่ยมคุณพ่อกับคุณแม่ด้วย"
มิราคลี่ยิ้มออกมาอย่างดีใจที่ครอบครัวของเธอจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานๆอีกครั้งในรอบหลายปี
"คุณพ่อคุณแม่คงดีใจที่พี่พนาไปหา พี่พนาคือความภูมิใจของนรากุลค่ะ"
"คนที่สำคัญที่สุดคือมิราต่างหากรู้มั้ย กลับกันเถอะ..มา"
พนายื่นมือมาจับมือน้องสาวไว้ก่อนจะพาเดินจูงไปขึ้นรถเพื่อกลับบ้าน
'จบสิ้นกันสักทีเรื่องวุ่นวาย'
น้องแค่อยากได้ยินคำว่ารักป่ะ พี่เจตต์ก็คบหญิงเยอะไปจนแยกไม่ออกถึงความรู้สึกที่มีต่อน้อง งั้นก็มูฟออนจ้าา