ตอนที่15

1563 Words
พ่ายรักเจ้าสาววันไนท์ฯ 15 "ท้องได้ยังไง พี่จำได้ว่าพี่ป้องกันตลอด?" ทันทีที่เจอหน้าเอวาเจตต์ไถ่ถามเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างไม่รีรอที่จะเสียเวลาแม้แต่สักนาทีเดียว "คืนนั้นพี่เจตต์เมามาก พี่จำได้เหรอคะว่าป้องกันแล้ว" ต่อหน้าเจตต์เอวายังคงสวมบทบาทหญิงสาวผู้อ่อนหวานอ่อนโยนเหมือนเดิม แต่ใช่ว่าคนอย่างเจตต์จะรู้ไม่ทัน เพียงแต่ไม่อยากถือสาหาความกับมารยาร้อยเล่มเกวียนเนื่องจากเขาไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว ผู้หญิงอย่างเอวาก็จัดอยู่ในหมวดผู้หญิงทั่วๆไปที่เขาพบเจอ แสวงหากับเธอก็เพียงความสุขทางร่างกายเท่านั้น "ถ้าไม่มั่นใจ ตรวจดีเอ็นเอก็ได้นะคะ" "ช่างเถอะ" เจตต์เสยผมขึ้นพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้โซฟาขาอีกข้างถูกยกขึ้นพาดในท่าไขว่ห้าง ตอนนี้เจตต์อยู่ในห้องคอนโดของเอวาที่เขาเป็นคนซื้อให้เอง จะเรียกว่าเป็นรังรักเก่าของเขากับเอวาก็ว่าได้ "พี่เจตต์จะให้เอาออกมั้ย?" "ไม่ต้อง! เอาเป็นว่าเธออยู่ในพื้นที่ของเธอไป" แขนอีกข้างของเจตต์วางอยู่ตรงที่เท้าแขนของโซฟา มือกุมส่วนที่อยู่หางคิ้วเหนือกระดูกแก้มอย่างใช้ความคิด "แล้วเมียพี่ล่ะ?" เอวาช้อนตาขึ้นมองหน้าเจตต์ มือของเธอเริ่มเลื่อนมาจับมือของเขาอย่างช้าๆ แต่เจตต์ขยับมือหนี สร้างความเจ็บปวดอยู่ข้างในใจของเอวาลึกๆ คนเคยเป็นที่หนึ่งอยู่ๆก็ถูกสลัดทิ้ง จึงไม่แปลกที่จะแค้นเคืองว่าที่ภรรยาของเจตต์อยู่มากที่เป็นสาเหตุต่อความสัมพันธ์ของเธอและเจตต์ "เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่พี่จะพบเขา พี่เชื่อว่ามิราจะเข้าใจ เธอก็อยู่ของเธอไปนะเอวา คลอดลูกเมื่อไหร่พี่จะให้เงินเธอก้อนหนึ่งจะไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศก็ได้ถ้าเธอต้องการ แต่ลูกเธอต้องทิ้งไว้ที่นี่พร้อมกับการเซ็นยินยอมยกลูกให้พี่" พูดจบเจตต์ก็ยืนขึ้น "พี่ไม่รักวาแล้วจริงๆเหรอคะ" เอวาเข้าไปกอดเจตต์จากข้างหลัง "เธอก็น่าจะรู้ว่าพี่ไม่เคยรักใคร" เจตต์ปลดมือเรียวสวยของเอวาออก "แต่พี่รักเค้าใช่มั้ย?" เจตต์ไม่ตอบคำถามนี้ "หยุดโทรหาพี่ มีอะไรติดต่อผ่านเลขาเท่านั้น อย่าได้คิดทำอะไรที่มันเกินตัว ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่เหลืออะไรในชีวิต" เจตต์ได้รับคำบอกเล่ามาจากณดลแล้วว่าเอวาไปพูดอะไรไว้บ้าง "งั้นเอวาขอให้พี่ทำเพื่อลูกด้วยการมาทำหน้าที่พ่อของเขาอาทิตย์ละครั้งได้มั้ยคะ?" ถึงแม้ในใจเจตต์จะไม่อยากทำ แต่ถ้าขึ้นชื่อว่าลูกเขาก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธ แม้จะดูน่าขำไปนิดที่เด็กสองคนเลือกที่จะมาเกิดพร้อมๆกันจนมันดูบังเอิญอย่างไม่น่าเชื่อ แต่จะให้ทำอย่างไรได้ เรื่องตรวจดีเอ็นเอเขาทำอยู่แล้ว แค่ไม่อยากพูดไปก็เท่านั้น "อืม แล้วจะติดต่อมาเอง" @@@ งานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสถูกจัดขึ้นในโรงแรมหรูระดับห้าดาวแห่งหนึ่ง ท่ามกลางแขกเหรื่อระดับกิตติมศักดิ์มากมายทั้งในและต่างประเทศส่วนมากแล้วไม่ใช่เป็นแขกของบ่าวสาวสักเท่าไหร่ แปดสิบเปอร์เซ็นต์ก็เป็นแขกของผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งนั้น. เจ้าบ่าวเจ้าสาวยืนเด่นสง่าอยู่บนเวที กำลังรินแชมเปญลงใส่แก้วที่เรียงซ้อนขึ้นไปเป็นทาวเวอร์ เริ่มจากชั้นบนสุด แชมเปญค่อยๆ ไหลไล่ระดับลงมา เป็นภาพที่สวยตรึงตาไม่น้อยเลย ทั้งคู่ยิ้มให้กันทำเหมือนกับว่าเป็นคู่รักที่รักกันมาแต่ชาติปางก่อน เพียงเพราะให้ช่างภาพได้สรรค์สร้างภาพที่สวยงามออกมาเพียงเท่านั้น ในใจเจ้าบ่าวไม่รู้จะรู้สึกอย่างไร แต่สำหรับมิราแล้วงานแต่งคืนนี้คืองานแต่งที่เกิดจากความรักของเธอที่มอบให้เจ้าบ่าวอย่างแท้จริง "แก้วของเจ้าสาวครับ" พนักงานเดินถือแก้วของเจ้าสาวมาให้ เป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ "พี่บอกทางเวดดิ้งออแกไนเซอร์เองครับ ว่าของเจ้าสาวให้หาน้ำอย่างอื่นมาทดแทนการดื่มแชมเปญ" "ขอบคุณนะคะที่ใส่ใจ" มิรายิ้มให้สามีที่ถูกต้องตามกฏหมายของเธอด้วยรอยยิ้มอ่อนหวานพอๆกับชุดเจ้าสาวที่เธอใส่ คืนนี้มิราเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อยสวยสง่าและบริสุทธิ์ผุดผ่องที่สุดที่เจตต์เคยได้พบเจอมา เมื่อแขกทุกคนมีแก้วแชมเปญอยู่ในมือแล้วก็เริ่มชูแก้วขึ้นเพื่อเป็นการดื่มฉลองให้บ่าวสาวพร้อมๆกันท่ามกลางเสียงปรบมือแสดงความยินดีของผู้คนในงาน มุมมืดมุมหนึ่งข้างเวที เอวายืนจ้องแก้วเครื่องดื่มของมิราไม่วางตา รอยยิ้มอ่อนอย่างมีเลศนัยน์ผุดขึ้นบนใบหน้างดงามที่ถูกประทินโฉมมาอย่างดี แม้ไม่ได้ถูกรับเชิญให้เข้ามาในงานก็ตาม มิราเหลือบไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งในชุดแดงเพลิงถ้าเธอจำไม่ผิดผู้หญิงคนนั้นคือ... "มีอะไรรึเปล่า?" เจตต์ถามขึ้นเมื่อมิราเอี้ยวตัวหันไปข้างหลังจนสุด "ปละ เปล่าค่ะ มิราคงตาฝาด" "ลงไปทักทายแขกข้างล่างกันเถอะ" เจตต์กุมมือของมิราไว้แล้วพาเดินลงไปเพื่อทักทายบรรดาแขกเหรื่อและเพื่อนฝูง "ยินดีด้วยนะน้องมิรา" "ขอบคุณนะคะพี่ณดล มิรามีความลับจะบอก" มิราเอามือป้องปากกระซิบที่ข้างหูณดล "มิราน่ะ จำพี่ณดลได้ตั้งแต่แรกเห็นเลยค่ะ แต่กลับจำพี่เจตต์ไม่ได้" ทั้งคู่หัวเราะออกมาเบาๆพร้อมกับ "คุยอะไรกับเจ้าสาวของฉัน" เจตต์หันมาเห็นทั้งคู่กระซิบกระซาบหัวเราะคิกคักกันก็รู้สึกหึงขึ้นมาเล็กน้อยแบบไม่รู้ตัว "คุยเรื่องความหลังค่ะ เมื่อก่อนมิรากับพี่ณดลค่อนข้างจะสนิทกัน" "จริงเหรอไอ้ณดล" "จริง ทำไมอิจฉาเหรอวะ?" ณดลถามกลับด้วยท่าทียียวนกวนประสาทเจตต์เล่นๆ "เออ ไปเลยๆ ไปหาสาวๆบ้างไป จะได้มีเมียกับเค้าซะที" เจตต์บุ้ยไบ้ไล่ณดลไปตรงกลุ่มที่มีเหล่าสาวสวยยืนอยู่ สายตาของพวกเธอจับจ้องมองมาไม่หยุดถ้าเป็นเจตต์ตอนโสดคงได้สอยไปสักคนสองคนแล้ว "ไม่เอาอ่ะอีกสักพักก็จะกลับแล้วล่ะ" ณดลทำหน้าเซ็งๆเมินสาวสวยที่ส่งสายตาเชิญชวนมา จนพวกหล่อนเปลี่ยนเป็นค้อนใส่แทน ณดลไม่ใช่พวกออกแนวเจ้าชู้เลยถูกสงสัยถึงรสนิยมทางเพศของเขาอยู่เสมอ ระยะเวลาในงานผ่านไปจนใกล้ที่จะได้เวลาปิดงานแล้ว จริงๆเมื่อเช้าจัดพิธีแบบคริสต์ในโบสถ์ไปแล้วหนึ่งรอบ ส่วนช่วงค่ำก็เหลือเพียงแค่พิธีเลี้ยงฉลองเท่านั้น "อุ้ย! ปวดท้องค่ะ" มิรากุมท้องตัวงอด้วยความเจ็บปวด "ปวดมากมั้ย?" "ค่ะ พามิราไปห้องพักหน่อยได้มั้ยคะ?" มิราทำหน้าเหยเกรู้สึกปวดท้องมากขึ้นๆตามลำดับ "คุณพ่อคุณแม่รับแขกที่เหลือกันไปก่อนนะครับ พอดีมิราไม่สบาย ผมพาน้องไปพักก่อน" เจตต์หันไปบอกผู้เป็นบิดาและมารดาที่ยืนรับแขกอยู่ข้างๆ "ไปเถอะ ไม่น่าจะมีอะไรแล้วล่ะ ที่เหลือเดี๋ยวพ่อกับแม่เป็นคนจัดการเอง มิราท้องอยู่คงเหนื่อยมาก วันนี้ทั้งวันแล้ว" "ครับ" เจตต์และณดลช่วยกันพามิราออกมาจากห้องเลี้ยงฉลองตรงไปห้องพักของโรงแรมที่จัดเอาไว้ให้ในทันที "โอ้ย ไม่ไหวแล้วค่ะ " หน้าของมิราเริ่มซีดเผือด "ไอ้เจตต์เลือด!" เลือดไหลซึมออกมาเปื้อนชุดเจ้าสาวเต็ม "ไปโรงบาลกัน อดทนนะมิรา" เจตต์ช้อนยกร่างในชุดเจ้าสาวของมิรามาอุ้มไว้ ณดลวิ่งไปเตรียมรถ ทุกอย่างดูวุ่นวายสับสนอลหม่านไปหมด มิราเมื่อเห็นเลือดถึงกับเป็นลมหมดสติไปในทันที "มิรา!" เจตต์กระวนกระวายรู้สึกเป็นห่วงมิราและลูกในท้องอย่างที่สุด ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นถึงได้กลายมาเป็นแบบนี้ ท่ามกลางความวุ่นวาย หญิงสาวคนหนึ่งยืนมองเหตุการณ์ด้วยสายตาเยือกเย็น ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่เธอวางไว้ไม่มีผิด "จัดการเธอมันง่ายซะยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก" รอยยิ้มเยาะหยันผุดขึ้นมาอย่างผู้ชนะ เมื่อแน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็รีบเดินออกไปทันที เพราะตอนนี้แขกเหรื่อในงานก็เริ่มทะยอยกลับกันแล้ว เกรงว่าจะมีใครมาพบเจอเข้าแล้วแผนทุกอย่างจะแตก โดยเฉพาะคนของเจตต์
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD