พ่ายรักเจ้าสาววันไนท์
7
"เป็นอะไรครับบอส ทำไมถึงได้ทำหน้าเซ็งแบบนั้น?"
ณดลถามขึ้นในขณะที่นั่งอยู่ที่ไนท์คลับแห่งหนึ่ง ซึ่งวันนี้เขาลางาน เจตต์จึงลากเขาออกมาตอนพลบค่ำแบบนี้
"นี่ไอ้ณดลเวลาอยู่นอกเวลางานฉันบอกหลายรอบแล้วว่าให้พูดกันธรรมดาเลิกคีฟลุคเป็นลูกน้องที่เชื่อฟังสักที วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์จะเล่นด้วย"
"เออ!..ไอ้บ้ากาม เป็นไงเมื่อคืน หน้าถึงได้ไม่สบอารมณ์แบบนั้น"
ณดลคือเพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกันมาพอเรียนจบก็ออกมาทำงานเป็นเลขาของเจตต์ ซึ่งฐานะทางบ้านของณดลไม่ค่อยดีนักก็ได้เจตต์ช่วยเหลือจนได้เรียนจบมาด้วยกันจากเมืองนอก โดยที่ณดลไม่ต้องจ่ายค่าเทอมเองสักบาท อาศัยทำงานให้เจตต์เป็นการตอบแทน
"เอ้าว่ายังไง ซดเข้าไปให้มากๆหน่อยนั่นน่ะไม่ใช่น้ำเปล่านะเว้ย"
"หล่อนหนีกลับตั้งแต่ยังไม่ย่ำรุ่ง ไม่เอาเงินสักบาท และก็ยังไม่รู้ด้วยว่าหล่อนชื่ออะไร?"
"ก็เลยมานั่งเซ็ง ถามจริงๆตอนเธอก้าวขาเข้าไปในห้องนายมัวทำอะไรอยู่ ถึงได้ไม่มีเวลาซักประวัติขนาดนั้น"
ณดลถามด้วยสายตาวาววับ ยังคงจับจ้องเจตต์อย่างไม่วางตา รู้ดีว่าเจตต์รู้สึกอย่างไรแต่แค่ไม่รู้ตัวเท่านั้น
"มองไรวะ เดี๋ยวก็ท้องหรอก"
"เอ้ย!ฟ้าจะผ่ากลางคืน เห็นฉันมีรสนิยมแบบนี้ก็ไม่ได้ชอบผู้ชายนะเว้ย!"
ณดลทำหน้าแขยง เขาเป็นผู้ชายแฟ่ชั่นจัดก็จริง แต่เขายังคงนิยมชมชอบผู้หญิงเหมือนเดิม
"ก็นึกว่าจะเปลี่ยนใจ จะได้ลองดู ถ้าอยากเปลี่ยนก็บอก ฉันพร้อมเสมอ"
เจตต์หัวเราะออกมาเบาๆกับท่าทางกลัวจริงจังของณดล
"พอเลยๆก่อนที่จะขนลุกไปมากกว่านี้ อย่าเปลี่ยนเรื่อง ฉันว่านะนายน่ะหลงรักผู้หญิงคนนี้เข้าแล้วล่ะ..ใช่มั้ย?"
ณดลชี้หน้าเจตต์อย่างจับผิด เจตต์นิ่งอึ้งช็อตฟิลไปครู่หนึ่ง เพราะเขาไม่เคยคิดถึงเรื่องของความรู้สึกรักใคร่อะไรกับใครเลย ถ้าถามว่ารักเป็นอย่างไรเขาแทบจะไม่รู้จักมันด้วยซ้ำ
ถ้าเคยเอ่ยออกไปก่อนหน้านี้ก็เพียงเพราะเอาใจผู้หญิงเท่านั้น คนอย่างเขาไม่เคยเชื่อในความรัก เพราะผู้หญิงเหล่านั้นสุดท้ายแล้วก็ต้องการเพียงเงินทองจากเขาเท่านั้น รักเงินสิไม่ว่า
"อะไรวะ? ฉันไม่...ฉันไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นหรอกน่า"
"ไม่คิดแล้วทำไมมานั่งทำหน้าเซ็งเหมือนคนกำลังอกหักยังไงยังงั้น"
เจตต์เม้มปาก นั่งจ้องแก้วบรั่นดีในมือนิ่ง พรางครุ่นคิดถึงความรู้สึกที่มีต่อหญิงสาววันไนท์สแตนด์ของเขา
'หรือว่าเรา เราจะชอบหล่อนเข้าแล้วจริงๆ ไม่หรอก ไม่ใช่ เป็นไปไม่ได้'
สองเดือนต่อมา
"มิรา อยู่ในห้องหรือเปล่า?"
เสียงเรียกของพนาดังอยู่หน้าห้องนอน
"เข้ามาได้เลยค่ะพี่พนา มิราไม่ได้ล็อก"
พนาเปิดประตูเข้ามาข้างในเห็นผู้เป็นน้องสาวกำลังนั่งคีย์แป้นพิมพ์อยู่บนหน้าจอแล็ปท็อปอย่างขะมักเขม้น
"ยังเขียนหนังสืออยู่เหรอคุณนักเขียน?"
"กลับมาเขียนเล่นๆค่ะ เผื่อว่าจะรุ่ง สมองจะได้ไม่ว่าง"
"ก็พี่บอกแล้วว่าให้ไปทำงานกับเจ้าเจตต์มันดู เห็นว่ารับผู้จัดการฝ่ายการตลาดอยู่"
"ไม่เอาค่ะ ไม่อยากทำ มิราจะขอพี่พนาไปพักที่ไร่องุ่นของเราสักเดือนได้มั้ยคะ ช่วงนี้มิรารู้สึกไม่ค่อยสบายเลย น่าจะเป็นเพราะอากาศและมลพิษที่กรุงเทพแน่เลยค่ะ"
"ได้สิ เอาไว้คุณพ่อคุณแม่กลับมาเรื่องกำหนดงานแต่งก่อนค่อยไปนะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง"
"แต่งไปก็ดีเหมือนกันค่ะ จะได้จบๆ"
มิราเอ่ยอย่างปลงใจ
"ทำไมดูช่วงนี้ดูซอฟท์ๆลง แถมไม่หนีเที่ยวด้วย มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่า โกรธพี่หรือโกรธคุณพ่อคุณแม่"
มิราวางมือจากแป้นพิมพ์หันมายิ้มให้ผู้เป็นพี่ชาย
"เปล่าหรอกค่ะ มิราแค่รู้สึกไม่ค่อยสบายจริงๆ อาหารเป็นพิษบ่อยด้วย น่าจะอากาศร้อนค่ะ เลยอยากนั่งตากแอร์เย็นๆที่บ้านดีกว่า"
"ไปหาหมอหรือยัง ให้พี่พาไปมั้ย?"
พนาเอ่ยถามน้องสาวด้วยความเป็นห่วง ยัยตัวแสบที่เคยต่อต้านต่อปากต่อคำเขาทุกเรื่องดูเรียบร้อยขึ้นจนเขาอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้
"ไม่ค่ะ พักเยอะๆก็น่าจะอาการดีขึ้น"
"งั้นพี่ไปทำงานก่อนนะ อ้อ ลืมบอก พรุ่งนี้ไปรับคุณพ่อคุณแม่ที่สนามบินด้วยกันมั้ย?"
"ไปสิคะ มารับมิราด้วยนะ"
"โอเค งั้นพี่ไปก่อนนะ"
พนาลูบหัวน้องสาวก่อนจะเดินออกจากห้องไป ลับหลังพนามิราถึงกับพ่นลมหายใจออกมา ก่อนจะรู้สึกพะอืดพะอมขึ้นอีกครั้ง แล้วรีบวิ่งพุ่งเข้าห้องน้ำไป
"คลื่นไส้จะแย่ กินอะไรเข้าไปนะ"
มิรากำลังนึกสงสัยอาการป่วยของเธอ ซึ่งเป็นมาเกือบสองอาทิตย์แล้ว กินอะไรเข้าไปก็อ้วกออกมาหมด
"หรือว่า...ไม่หรอกเราคงไม่โชคร้ายขนาดนั้น ท้องกับคนเจ้าชู้ประตูดินแบบนั้นคงไม่มีทางรับลูกในท้องของเราแน่ๆ ทำแท้ง โอไม่นะ! เรารักเด็กมากทำไม่ลงหรอก เอาเถอะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดอย่างมากก็แค่โดนตัดออกจากกองมรดก"
มิราพยายามคิดให้กำลังใจตัวเอง ในตอนนี้เธอยังไม่กล้าแม้แต่จะซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ เหตุเพราะกลัว กลัวความจริงจะปรากฏออกมาว่าเธอท้องกับคุณวันไนท์คนนั้น ไม่สิ ไม่ใช่วันไนท์แล้ว สองครั้งสองคราขนาดนี้ก็ต้อง ทูไนท์
มิรากระตุกยิ้มออกมา เจอเรื่องเครียดขนาดนี้รู้สึกว่าตัวเองยังจะมีอารมณ์ขันอีก
หญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำนั่งคิดเรื่องนี้วนไปวนมาอยู่บนเตียงนอน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เพื่อโทรหาพี่ชาย
(ฮะโหลมีอะไร?)
"พี่พนาคะ มิราอยากเจอคุณเจตต์ค่ะ"
(จะไปพูดอะไรกับหมอนั่น ถึงได้อยากเจอขึ้นมา พรุ่งนี้ค่ำๆก็ได้เจอกันแล้ว ผู้ใหญ่ทางฝั่งโน้นจะมารับประทานอาหารค่ำที่บ้านเรา)
"อย่างนั้นเหรอคะ โอเคค่ะ เอาไว้มิราค่อยคุยกับเขาพรุ่งนี้ก็ได้"
(นอนพักผ่อนเถอะ เมื่อครู่พี่เห็นหน้าตาเราซีดมากๆ)
"น่าจะเป็นเพราะหน้าสดมากกว่าค่ะ 555"
(พี่ก็ว่า งั้นก็รีบไปอาบน้ำแต่งหน้าแต่งตาให้ดูสดใส แล้วลงมาหาอะไรกินซะนะ พี่ต้องไปแล้ว บาย)
มิราวางสายจากพี่ชาย แล้วหันไปมองนาฬิกา
'คงจะไปเจอเขาวันนี้ไม่ทันแล้วจริงๆ พรุ่งนี้ค่อยลากเขามาคุยกันเป็นการส่วนตัวตอนคุณพ่อคุณแม่เผลอดีกว่า'
มิราตั้งใจจะชวนเจตต์ไปตรวจสุขภาพด้วยกัน เพราะเธอไม่อยากเอาเปรียบเขา หากว่าเธอกำลังตั้งครรภ์จริงๆจะได้บอกเขาตรงๆ และเตรียมตัวรับโทษทัณฑ์จากผู้เป็นบิดาและมารดาซะเลยทีเดียว
หลังจากนั้นมิราตั้งใจว่าจะไปใช้ชีวิตอยู่ในไร่สักพัก อย่างน้อยก็หลบหน้าหลบตาออกจากผู้คน
ส่วนเรื่องที่จะบอกพ่อของเด็กหรือไม่ มิราตัดสินใจแล้วว่า'ไม่'เพราะดูเหมือนเขาตั้งใจจะแต่งงานเอามากๆ มิราไม่อยากจะไปเป็นส่วนเกินหรือว่าตัวถ่วงในชีวิตของเขา
จะคุณวันไนท์หรือทูไนท์ก็คือคู่หมั้นนั่นแหละลูกสาว มารอลุ้นกันค่ะ พรุ่งนี้เขาจะเจอกันในฐานะ คู่หมั้นแล้ว ☺