ตอนที่6

1929 Words
พ่ายรักเจ้าสาววันไนท์ฯ 6 "อ๊า~ จะ...ทำอะไร?" มิรารีบหดขาเมื่อหน้าของเขาเริ่มเลื่อนต่ำลงไป "ผมอยากจะชิมน้ำหวานของคุณ" "อะ...อะไรคือน้ำหวาน" "เดี๋ยวก็รู้" เจตต์เปลี่ยนใจช้อนร่างบางอุ้มขึ้นมาในอ้อมกอดแทน "อุ้ย!" มิรากอดเขาแน่นเมื่อเขายกร่างของเธอไว้ในอ้อมแขนแล้วเดินพาเข้าห้องนอนไปอย่างช้าๆ ในขณะที่ทั้งตัวของเธอเหลือเพียงกางเกงในแพนตี้สีดำตัวเดียวเท่านั้น มิรารู้สึกว่าตัวของเธออ่อนปวกเปียกไปหมดเหมือนคนที่ไม่มีเรี่ยวแรงอะไร นอกจากจะพึ่งพิงพละกำลังจากเขาเท่านั้น "นอนเฉยๆทำตามที่ผมบอกก็พอ" มิราหลับตาพริ้ม เขายกเธอมาวางที่ปลายเตียงนอน ขาทั้งสองข้างถูกเขาแยกออก แพนตี้ตัวจิ๋วก็โดนเขาเขี่ยออกเพียงปลายนิ้ว ริมฝีปากอุ่นไต่จูบจากหน้าท้องแบนราบจนถึงต้นขาขาวเนียน เจตต์ปรายตาขึ้นมองหญิงสาวเป็นระยะๆ เธอยังคงหลับตาพริ้ม มีเสียงครางออกมาบ้างเป็นครั้งคราวแต่แผ่วเบาจนเกือบไม่ได้ยิน นิ้วยาวที่สุดของเขาแหวกเข้าไปตรงกลางของกลีบเกสรดอกไม้ที่มีน้ำหวานไหลเจิ่งนอง เนื่องจากโดนเล้าโลมจากภมรตัวผู้อย่างเขา "อ๊า สะ..." เหมือนมิราพยายามจะสะกดกลั้นไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกมา "ปล่อยอารมณ์ออกมาเถอะ รู้สึกอย่างไรก็พูดออกมา" "ฉันเสียว" มิราบอกเขาตรงๆ "เดี๋ยวคุณจะเสียวมากกว่านี้อีก" เจตต์ไม่รอช้า เขาซุกหน้าเข้าไปกลางรอยแยกที่มีนิ้วของเขาทำหน้าที่ชักเข้าชักออกจากรูร่อง ทันทีที่ปลายลิ้นอุ่นของเขาแตะลงไปตรงจุดสยิว "โอว~ เสียวว ได้โปรดอย่าทรมานฉันเลย ได้โปรดเถอะค่ะ ช่วยฉันด้วย" เจตต์ไม่ฟัง เขายังคงใช้ลิ้นเล็มเลียกระดกตรงส่วนนั้นอย่างเร็วรัว พร้อมกับนิ้วที่ทำหน้าที่สำรวจรูร่องน้ำหวานยิ่งไหลออกมามากขึ้น เท่ากับว่าอารมณ์ของเธอโดนปลดปล่อยจนเกือบจะถึงขีดสุดแล้ว มิราทำหน้าเหยเกบิดเบี้ยวอย่างเสียวซ่านถึงใจกับรสรักที่เขาเล้าโลม เป็นความรู้สึกที่เธอไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน มันช่างวิเศษเหลือเกิน "อ๊า....ฉันแตกแล้ว" ร่างบางสั่นกระตุกสองสามครั้งคาปากของเขา หญิงสาวขยับสะโพกหนีลิ้นของเขาทันทีที่ถึงจุดหมายปลายทาง "พอเสร็จแล้วก็ทิ้งกันเลยนะ" มิรายิ้มเขินให้เขาที่มองเธอด้วยสายตาเร่าร้อน มิราเพิ่งจะเข้าใจว่าการเสร็จสมถึงสวรรค์ชั้นเจ็ดความรู้สึกมันมีความสุขแบบนี้นี่เอง "จะทำอะไรคะ?" มิราชะโงกหัวขึ้นมาเมื่อเขาจับสะโพกของเธอขยับเข้าหาพร้อมกับถอดเสื้อผ้าของตัวเองโยนลงไปกองอยู่ข้างเตียง จนเห็นหุ่นและกล้ามเป็นมัดๆไม่ว่าจะซิกแพคหรือแปดแพคมองยังไงก็ดูเซ็กซี่ไปหมด ยิ่งมองอารมณ์ปรารถนาของเธอก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง "มันยังไม่จบ" เจตต์ดึงแก่นใหญ่ขนาดใหญ่ที่แข็งเต็มที่ของเขาออกมา มิราถึงกับเบิกตาโพลงกับความใหญ่ของมัน ว่าทำไมกลับไปครั้งก่อนเธอถึงได้เจ็บตรงจุดสงวนไปหลายวัน ก็เพิ่งจะgetก็ตอนนี้เอง "มันจะเจ็บมั้ยคะ?" มิราถามอย่างกังวล "เจ็บนิดเดียว แค่ทำตัวให้สบายๆห้ามเกร็ง อีกสักพักคุณก็จะเข้ากับมันได้" เจตต์บอกในขณะที่หยิบขวดเจลหล่อลื่นทาลงไปตรงส่วนนั้น เพื่อเพิ่มความหล่อลื่นและลดความเจ็บปวดจากขนาดของเขา และร่องที่ยังแคบสนิทของเธอ เจตต์ค่อยๆป้อนเจ้ามังกรของเขาเข้าไปอย่างระมัดระวัง มิราหลับตาพริ้มอีกครั้งพยายามทำใจให้สบายๆไม่เกร็งอย่างที่เขาบอก แม้หนทางของรูร่องจะเข้าไปลำบากแต่เจตต์ก็นำมันเข้าไปจนสำเร็จ "อาส์ เขาไปสุดแล้วล่ะ ผมจะเริ่มขยับทีละนิดก่อนนะ" เจตต์จัดท่าจัดทางให้ร่างของเขากับเธอผนึกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ก่อนที่จะเริ่มขยับจังหวะอย่างระวังเหมือนเดิม เป็นครั้งแรกที่เขาทะนุถนอมผู้หญิงแบบนี้ กลัวว่าเธอจะเจ็บและไม่มีความสุขที่ได้ร่วมรักกับเขา "เจ็บมั้ย?" "นิดหน่อยค่ะ" มิราเริ่มกอดรั้งเขาแน่นอย่างหาที่ยึดเหนี่ยวเมื่อเขาเริ่มถาโถมเข้ามา เจตต์เปลี่ยนขยับมาจากท่ามาตรฐานมาเป็นท่านั่ง มือทั้งสองข้างจับสะโพกของเธอไว้และสอนหญิงสาวให้เป็นคนลองขย่มเองบ้าง พั่บ ๆ ๆ "เก่งมาก...อืม..เสียว" เจตต์บอกความรู้สึกของตัวเองออกมา เสียงจังหวะของเนื้อกระทบเริ่มดังมากขึ้น เมื่อเขาตั้งรับช่วยเพิ่มจังหวะให้รัวเร็วและแรงมากกว่าเดิม "เสียว ซี้ด..." เสียงครางของทั้งคู่ดังกระหึ่มไปทั่วทั้งห้อง พั่บ ๆ เจตต์ประคองหน้าสวยของมิราเข้ามาหา ยิ้มใส่ตาหยาดเยิ้มคู่นั้นที่เต็มไปด้วยความใคร่เสน่หา เขาประกบจูบแลกลิ้นเข้าไปในช่องปากนุ่ม กวาดหาความหวานอย่างดูดดื่มเร่าร้อน "อื้อ~ " มิรายังคงครางอยู่ในลำคอ "ร่องคุณตอดมาก โอว~" เจตต์รีบขยับจังหวะเป็นเร็วขึ้น "โอว คุณฉันเสียว..อื้อ โอ้ย" ร่างของมิรากระตุกตอดของเขาอีกครั้ง มิรารู้สึกได้ว่ามีน้ำอุ่นๆฉีดเข้ามาในร่องรัก เหงื่อเม็ดเล็กๆเริ่มผุดขึ้นประปรายจนเปียกชุ่มไปทั้งร่าง "อีกแป๊บ..ผมก็แตกแล้ว ขอแช่ไว้แป๊บนะ" เจตต์กอดร่างของมิราไว้แน่น ยามได้ร่วมรักกับเธอตอนมีสติครบถ้วนราวกับว่าเขาได้โบยบินอยู่กลางท้องนภา ตัวของเขารู้เบาหวิวเหมือนนอนอยู่บนปุยเมฆไร้ซึ่งน้ำหนักใดๆ ความรู้สึกแบบนี้เขาไม่เคยรู้สึกกับคู่นอนคนไหนมาก่อน ชายหนุ่มจุมพิตลงบนหน้าผากมนก่อนจะค่อยๆถอดถอนเจ้าแก่นกายออกมา แล้วลุกขึ้นเข้าห้องน้ำไป ปล่อยให้ร่างบางของมิรานอนสงบนิ่งพร้อมกับความเพลียอยู่ภายใต้ผ้าห่ม มิราได้ยินเสียงสายน้ำไหลในห้องน้ำ ดูเหมือนคนข้างในกำลังอาบน้ำชำระร่างกาย หญิงสาวนอนพักเหนื่อยอยู่ประมานยี่สิบนาทีก็ลุกขึ้นมา เพราะเธออยากจะกลับไปนอนที่บ้านมากกว่า "จะไปไหน?" เจตต์ออกมาทันพอดี ในมือของเขากำลังถือเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่เพื่อมาให้หญิงสาวสวมใส่แทนชุดนอน ซึ่งขนาดเสื้อของเขาสามารถใช้แทนชุดนอนได้อย่างสบายๆ "ฉันจะกลับบ้าน" "คืนนี้ผมซื้อบริการคุณแล้วนะ" "คุณไม่ได้บอกว่าจะให้ฉันค้าง" "ผมเพิ่มให้อีกแสนนึง นอนค้างที่นี่" "วิปลาสไปแล้วเหรอคะ มีเงินก็ใช้เงินฟาดหัวไปทั่ว" "แล้วเอามั้ยล่ะ?" มิรานิ่งคิดอย่างไตร่ตรองที่คิดนี่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเงินเลย 'ที่จริงคืนนี้พี่พนาก็ไม่อยู่ นอนค้างกับเขาก็คงไม่มีเสียหายอะไร ถึงจะเสียหายก็คงไม่มากไปกว่านี้แล้วล่ะ' มิราอมยิ้มออกมาเมื่อคิดได้แบบนี้ "ก็ได้ค่ะ" เจตต์ถึงกับถอนลมหายใจออกมาโล่งอกที่หญิงสาวไม่กลับ คืนนี้เขาต้องนอนกอดเธอให้ได้เสียเป็นล้านก็ยอม เป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาลงทุนเยอะที่สุดและเจตต์ก็รู้สึกว่าเธอคนนี้เอาชนะเขาในเรื่องการอัพค่าตัวได้สำเร็จ สรุปว่าต่างคนต่างก็คิดกันไปเองทั้งนั้น ซึ่งแท้ที่จริงแล้วในหัวมิราไม่ได้มีเรื่องเงินเลยแม้แต่น้อย "คุณชื่ออะไร?" เจตต์นึกได้ว่ายังไม่ได้ถามเธอเรื่องชื่อ เอากันเสร็จไปสองครั้งสองคราแล้วยังไม่ได้รู้จักชื่อเสียงเรียงนามกันเลย ผู้หญิงคนนี้ทำเขาแทบคลั่งถึงขนาดไม่ยอมถามชื่อถามแส่กันก่อนเลยทีเดียว "ฉันค่อยบอกตอนเช้านะคะ" "เอาอย่างนั้นเหรอ ก็ได้" ในขณะที่มิราไม่ได้อยากรู้เรื่องชื่อของเขาเลย เพราะตอนนี้เธอยังไม่อยากให้เขารู้จักชื่อจริง นามสกุลจริง เพราะนามสกุลของเธอดังมากในเมืองไทย เกรงว่าเขาจะรู้เรื่องแล้วจะสืบจนรู้ว่าเธอมีคู่หมั้นแล้ว คิดมาถึงตรงนี้ก็ปวดจี๊ดๆที่หน้าอกข้างซ้าย จะทำอย่างไรดีกับเรื่องแต่งงาน "จริงๆแล้วผมกำลังจะแต่งงาน" "ว่าอะไรนะคะ?" มิรารู้สึกช็อกเมื่อได้ยินเรื่องนี้ "ผมมีคู่หมั้นแล้ว กำลังจะแต่งงานในไม่กี่เดือนข้างหน้า คุณจะว่าอะไรมั้ย ถ้าหากผมอยากจะเลี้ยงดูคุณในฐานะผู้หญิงของผม ผมจะให้ทุกอย่างที่คุณต้องการ" ในขณะที่มิราพยายามปิดบังเรื่องคู่หมั้นแต่เจตต์กลับสารภาพเรื่องแต่งงานออกมาแล้วมาขอเลี้ยงดูเธอในฐานะ "เมียเก็บ?" "ความจริงแล้ว " "ไม่ต้องชักแม่น้ำทั้งห้าหรอกค่ะ เมียเก็บก็คือเมียเก็บ" มิรารู้สึกเสียใจที่รู้แบบนี้ เธออุตส่าห์คิดจริงจังกับเขาแท้ๆ คิดถึงขั้นอยากจะล้มเลิกงานแต่งงานหากว่าเขาจริงจังกับเธอ "เอาไว้ค่อยคุยเรื่องนี้เถอะค่ะ ฉันอยากจะนอนแล้ว" มิราไม่อยากพูดอะไรออกมาอีก เธอหยิบเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งที่เขาเอามาให้สวมคลุมลงไปบนร่างเปลือยแล้วนอนลงหันหลังให้เขา 'ทำไม รู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังจะไม่พอใจนะ' เจตต์คิดในใจแต่ไม่ได้ถามออกมาตรงๆ เขามั่นใจว่าข้อเสนอของเขาหญิงสาวต้องรับแน่นอน เพราะคนเห็นแก่เงินแบบเธอเป็นไปไม่ได้ที่ไม่อยากได้เงินก้อนโตจากเขา เพราะไม่ต้องออกไปทำงานหาลูกค้าตามผับตามบาร์ให้เหนื่อย เขาล้มตัวลงนอน สอดมือเข้าไปกอดกระชับเอวคอดให้ขยับเข้ามาแนบชิดเขามากขึ้น ปลายจมูกของเขาก็จรดอยู่ตรงเรือนผมสลวยหอมกรุ่น เขาจุมพิตลงไปเบาๆ มิรารู้สึกได้ว่าเขาปฏิบัติกับเธออย่างอ่อนโยน 'อย่าไปซึ้งเชียวมิรา เขาก็คงจะทำแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน..คนไม่รู้จักพอ' เมื่อคิดได้แบบนี้น้ำตาเจ้ากรรมมันก็เริ่มไหลรื้นล้นขอบตาออกมาอย่างไม่อาจกลั้น 'กลับเข้าไปเลยนะ ฉันไม่อยากร้องไห้ขี้แยเป็นคนขี้แพ้ หลังจากคืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายของเธอแล้วมิรา เธอก็มีคู่หมั้นเหมือนกันไม่ใช่เหรอ อย่ายอมเขาสิ เขามีได้เธอก็มีได้...กล้าดียังไงจะให้ลูกสาวท่านทูตอย่างฉันมาเป็นเมียเก็บนาย หวังสูงเกินไปแล้ว' มิรานอนเถียงกับตัวเองอยู่ในใจ แต่ก็แอบปาดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด จนเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ โดยที่ปล่อยให้คนตัวใหญ่นอนกกกอดอย่างไม่ได้ขัดขืนและขัดใจ เพราะเธอคิดว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย...ที่จะยอมให้เขาทำแบบนี้แล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD