พ่ายรักเจ้าสาววันไนท์ฯ
6
"อ๊า~ จะ...ทำอะไร?"
มิรารีบหดขาเมื่อหน้าของเขาเริ่มเลื่อนต่ำลงไป
"ผมอยากจะชิมน้ำหวานของคุณ"
"อะ...อะไรคือน้ำหวาน"
"เดี๋ยวก็รู้"
เจตต์เปลี่ยนใจช้อนร่างบางอุ้มขึ้นมาในอ้อมกอดแทน
"อุ้ย!"
มิรากอดเขาแน่นเมื่อเขายกร่างของเธอไว้ในอ้อมแขนแล้วเดินพาเข้าห้องนอนไปอย่างช้าๆ
ในขณะที่ทั้งตัวของเธอเหลือเพียงกางเกงในแพนตี้สีดำตัวเดียวเท่านั้น
มิรารู้สึกว่าตัวของเธออ่อนปวกเปียกไปหมดเหมือนคนที่ไม่มีเรี่ยวแรงอะไร นอกจากจะพึ่งพิงพละกำลังจากเขาเท่านั้น
"นอนเฉยๆทำตามที่ผมบอกก็พอ"
มิราหลับตาพริ้ม เขายกเธอมาวางที่ปลายเตียงนอน ขาทั้งสองข้างถูกเขาแยกออก แพนตี้ตัวจิ๋วก็โดนเขาเขี่ยออกเพียงปลายนิ้ว ริมฝีปากอุ่นไต่จูบจากหน้าท้องแบนราบจนถึงต้นขาขาวเนียน
เจตต์ปรายตาขึ้นมองหญิงสาวเป็นระยะๆ เธอยังคงหลับตาพริ้ม มีเสียงครางออกมาบ้างเป็นครั้งคราวแต่แผ่วเบาจนเกือบไม่ได้ยิน นิ้วยาวที่สุดของเขาแหวกเข้าไปตรงกลางของกลีบเกสรดอกไม้ที่มีน้ำหวานไหลเจิ่งนอง เนื่องจากโดนเล้าโลมจากภมรตัวผู้อย่างเขา
"อ๊า สะ..."
เหมือนมิราพยายามจะสะกดกลั้นไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกมา
"ปล่อยอารมณ์ออกมาเถอะ รู้สึกอย่างไรก็พูดออกมา"
"ฉันเสียว"
มิราบอกเขาตรงๆ
"เดี๋ยวคุณจะเสียวมากกว่านี้อีก"
เจตต์ไม่รอช้า เขาซุกหน้าเข้าไปกลางรอยแยกที่มีนิ้วของเขาทำหน้าที่ชักเข้าชักออกจากรูร่อง ทันทีที่ปลายลิ้นอุ่นของเขาแตะลงไปตรงจุดสยิว
"โอว~ เสียวว ได้โปรดอย่าทรมานฉันเลย ได้โปรดเถอะค่ะ ช่วยฉันด้วย"
เจตต์ไม่ฟัง เขายังคงใช้ลิ้นเล็มเลียกระดกตรงส่วนนั้นอย่างเร็วรัว พร้อมกับนิ้วที่ทำหน้าที่สำรวจรูร่องน้ำหวานยิ่งไหลออกมามากขึ้น เท่ากับว่าอารมณ์ของเธอโดนปลดปล่อยจนเกือบจะถึงขีดสุดแล้ว
มิราทำหน้าเหยเกบิดเบี้ยวอย่างเสียวซ่านถึงใจกับรสรักที่เขาเล้าโลม เป็นความรู้สึกที่เธอไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน มันช่างวิเศษเหลือเกิน
"อ๊า....ฉันแตกแล้ว"
ร่างบางสั่นกระตุกสองสามครั้งคาปากของเขา หญิงสาวขยับสะโพกหนีลิ้นของเขาทันทีที่ถึงจุดหมายปลายทาง
"พอเสร็จแล้วก็ทิ้งกันเลยนะ"
มิรายิ้มเขินให้เขาที่มองเธอด้วยสายตาเร่าร้อน มิราเพิ่งจะเข้าใจว่าการเสร็จสมถึงสวรรค์ชั้นเจ็ดความรู้สึกมันมีความสุขแบบนี้นี่เอง
"จะทำอะไรคะ?"
มิราชะโงกหัวขึ้นมาเมื่อเขาจับสะโพกของเธอขยับเข้าหาพร้อมกับถอดเสื้อผ้าของตัวเองโยนลงไปกองอยู่ข้างเตียง จนเห็นหุ่นและกล้ามเป็นมัดๆไม่ว่าจะซิกแพคหรือแปดแพคมองยังไงก็ดูเซ็กซี่ไปหมด ยิ่งมองอารมณ์ปรารถนาของเธอก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง
"มันยังไม่จบ"
เจตต์ดึงแก่นใหญ่ขนาดใหญ่ที่แข็งเต็มที่ของเขาออกมา มิราถึงกับเบิกตาโพลงกับความใหญ่ของมัน ว่าทำไมกลับไปครั้งก่อนเธอถึงได้เจ็บตรงจุดสงวนไปหลายวัน ก็เพิ่งจะgetก็ตอนนี้เอง
"มันจะเจ็บมั้ยคะ?"
มิราถามอย่างกังวล
"เจ็บนิดเดียว แค่ทำตัวให้สบายๆห้ามเกร็ง อีกสักพักคุณก็จะเข้ากับมันได้"
เจตต์บอกในขณะที่หยิบขวดเจลหล่อลื่นทาลงไปตรงส่วนนั้น เพื่อเพิ่มความหล่อลื่นและลดความเจ็บปวดจากขนาดของเขา และร่องที่ยังแคบสนิทของเธอ
เจตต์ค่อยๆป้อนเจ้ามังกรของเขาเข้าไปอย่างระมัดระวัง มิราหลับตาพริ้มอีกครั้งพยายามทำใจให้สบายๆไม่เกร็งอย่างที่เขาบอก แม้หนทางของรูร่องจะเข้าไปลำบากแต่เจตต์ก็นำมันเข้าไปจนสำเร็จ
"อาส์ เขาไปสุดแล้วล่ะ ผมจะเริ่มขยับทีละนิดก่อนนะ"
เจตต์จัดท่าจัดทางให้ร่างของเขากับเธอผนึกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ก่อนที่จะเริ่มขยับจังหวะอย่างระวังเหมือนเดิม เป็นครั้งแรกที่เขาทะนุถนอมผู้หญิงแบบนี้ กลัวว่าเธอจะเจ็บและไม่มีความสุขที่ได้ร่วมรักกับเขา
"เจ็บมั้ย?"
"นิดหน่อยค่ะ"
มิราเริ่มกอดรั้งเขาแน่นอย่างหาที่ยึดเหนี่ยวเมื่อเขาเริ่มถาโถมเข้ามา เจตต์เปลี่ยนขยับมาจากท่ามาตรฐานมาเป็นท่านั่ง มือทั้งสองข้างจับสะโพกของเธอไว้และสอนหญิงสาวให้เป็นคนลองขย่มเองบ้าง
พั่บ ๆ ๆ
"เก่งมาก...อืม..เสียว"
เจตต์บอกความรู้สึกของตัวเองออกมา เสียงจังหวะของเนื้อกระทบเริ่มดังมากขึ้น เมื่อเขาตั้งรับช่วยเพิ่มจังหวะให้รัวเร็วและแรงมากกว่าเดิม
"เสียว ซี้ด..."
เสียงครางของทั้งคู่ดังกระหึ่มไปทั่วทั้งห้อง
พั่บ ๆ
เจตต์ประคองหน้าสวยของมิราเข้ามาหา ยิ้มใส่ตาหยาดเยิ้มคู่นั้นที่เต็มไปด้วยความใคร่เสน่หา เขาประกบจูบแลกลิ้นเข้าไปในช่องปากนุ่ม กวาดหาความหวานอย่างดูดดื่มเร่าร้อน
"อื้อ~ "
มิรายังคงครางอยู่ในลำคอ
"ร่องคุณตอดมาก โอว~"
เจตต์รีบขยับจังหวะเป็นเร็วขึ้น
"โอว คุณฉันเสียว..อื้อ โอ้ย"
ร่างของมิรากระตุกตอดของเขาอีกครั้ง มิรารู้สึกได้ว่ามีน้ำอุ่นๆฉีดเข้ามาในร่องรัก เหงื่อเม็ดเล็กๆเริ่มผุดขึ้นประปรายจนเปียกชุ่มไปทั้งร่าง
"อีกแป๊บ..ผมก็แตกแล้ว ขอแช่ไว้แป๊บนะ"
เจตต์กอดร่างของมิราไว้แน่น ยามได้ร่วมรักกับเธอตอนมีสติครบถ้วนราวกับว่าเขาได้โบยบินอยู่กลางท้องนภา ตัวของเขารู้เบาหวิวเหมือนนอนอยู่บนปุยเมฆไร้ซึ่งน้ำหนักใดๆ ความรู้สึกแบบนี้เขาไม่เคยรู้สึกกับคู่นอนคนไหนมาก่อน
ชายหนุ่มจุมพิตลงบนหน้าผากมนก่อนจะค่อยๆถอดถอนเจ้าแก่นกายออกมา แล้วลุกขึ้นเข้าห้องน้ำไป ปล่อยให้ร่างบางของมิรานอนสงบนิ่งพร้อมกับความเพลียอยู่ภายใต้ผ้าห่ม
มิราได้ยินเสียงสายน้ำไหลในห้องน้ำ ดูเหมือนคนข้างในกำลังอาบน้ำชำระร่างกาย
หญิงสาวนอนพักเหนื่อยอยู่ประมานยี่สิบนาทีก็ลุกขึ้นมา เพราะเธออยากจะกลับไปนอนที่บ้านมากกว่า
"จะไปไหน?"
เจตต์ออกมาทันพอดี ในมือของเขากำลังถือเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่เพื่อมาให้หญิงสาวสวมใส่แทนชุดนอน ซึ่งขนาดเสื้อของเขาสามารถใช้แทนชุดนอนได้อย่างสบายๆ
"ฉันจะกลับบ้าน"
"คืนนี้ผมซื้อบริการคุณแล้วนะ"
"คุณไม่ได้บอกว่าจะให้ฉันค้าง"
"ผมเพิ่มให้อีกแสนนึง นอนค้างที่นี่"
"วิปลาสไปแล้วเหรอคะ มีเงินก็ใช้เงินฟาดหัวไปทั่ว"
"แล้วเอามั้ยล่ะ?"
มิรานิ่งคิดอย่างไตร่ตรองที่คิดนี่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเงินเลย
'ที่จริงคืนนี้พี่พนาก็ไม่อยู่ นอนค้างกับเขาก็คงไม่มีเสียหายอะไร ถึงจะเสียหายก็คงไม่มากไปกว่านี้แล้วล่ะ'
มิราอมยิ้มออกมาเมื่อคิดได้แบบนี้
"ก็ได้ค่ะ"
เจตต์ถึงกับถอนลมหายใจออกมาโล่งอกที่หญิงสาวไม่กลับ คืนนี้เขาต้องนอนกอดเธอให้ได้เสียเป็นล้านก็ยอม เป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาลงทุนเยอะที่สุดและเจตต์ก็รู้สึกว่าเธอคนนี้เอาชนะเขาในเรื่องการอัพค่าตัวได้สำเร็จ
สรุปว่าต่างคนต่างก็คิดกันไปเองทั้งนั้น ซึ่งแท้ที่จริงแล้วในหัวมิราไม่ได้มีเรื่องเงินเลยแม้แต่น้อย
"คุณชื่ออะไร?"
เจตต์นึกได้ว่ายังไม่ได้ถามเธอเรื่องชื่อ เอากันเสร็จไปสองครั้งสองคราแล้วยังไม่ได้รู้จักชื่อเสียงเรียงนามกันเลย ผู้หญิงคนนี้ทำเขาแทบคลั่งถึงขนาดไม่ยอมถามชื่อถามแส่กันก่อนเลยทีเดียว
"ฉันค่อยบอกตอนเช้านะคะ"
"เอาอย่างนั้นเหรอ ก็ได้"
ในขณะที่มิราไม่ได้อยากรู้เรื่องชื่อของเขาเลย เพราะตอนนี้เธอยังไม่อยากให้เขารู้จักชื่อจริง นามสกุลจริง เพราะนามสกุลของเธอดังมากในเมืองไทย เกรงว่าเขาจะรู้เรื่องแล้วจะสืบจนรู้ว่าเธอมีคู่หมั้นแล้ว
คิดมาถึงตรงนี้ก็ปวดจี๊ดๆที่หน้าอกข้างซ้าย จะทำอย่างไรดีกับเรื่องแต่งงาน
"จริงๆแล้วผมกำลังจะแต่งงาน"
"ว่าอะไรนะคะ?"
มิรารู้สึกช็อกเมื่อได้ยินเรื่องนี้
"ผมมีคู่หมั้นแล้ว กำลังจะแต่งงานในไม่กี่เดือนข้างหน้า คุณจะว่าอะไรมั้ย ถ้าหากผมอยากจะเลี้ยงดูคุณในฐานะผู้หญิงของผม ผมจะให้ทุกอย่างที่คุณต้องการ"
ในขณะที่มิราพยายามปิดบังเรื่องคู่หมั้นแต่เจตต์กลับสารภาพเรื่องแต่งงานออกมาแล้วมาขอเลี้ยงดูเธอในฐานะ
"เมียเก็บ?"
"ความจริงแล้ว "
"ไม่ต้องชักแม่น้ำทั้งห้าหรอกค่ะ เมียเก็บก็คือเมียเก็บ"
มิรารู้สึกเสียใจที่รู้แบบนี้ เธออุตส่าห์คิดจริงจังกับเขาแท้ๆ คิดถึงขั้นอยากจะล้มเลิกงานแต่งงานหากว่าเขาจริงจังกับเธอ
"เอาไว้ค่อยคุยเรื่องนี้เถอะค่ะ ฉันอยากจะนอนแล้ว"
มิราไม่อยากพูดอะไรออกมาอีก เธอหยิบเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งที่เขาเอามาให้สวมคลุมลงไปบนร่างเปลือยแล้วนอนลงหันหลังให้เขา
'ทำไม รู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังจะไม่พอใจนะ'
เจตต์คิดในใจแต่ไม่ได้ถามออกมาตรงๆ เขามั่นใจว่าข้อเสนอของเขาหญิงสาวต้องรับแน่นอน
เพราะคนเห็นแก่เงินแบบเธอเป็นไปไม่ได้ที่ไม่อยากได้เงินก้อนโตจากเขา เพราะไม่ต้องออกไปทำงานหาลูกค้าตามผับตามบาร์ให้เหนื่อย
เขาล้มตัวลงนอน สอดมือเข้าไปกอดกระชับเอวคอดให้ขยับเข้ามาแนบชิดเขามากขึ้น
ปลายจมูกของเขาก็จรดอยู่ตรงเรือนผมสลวยหอมกรุ่น เขาจุมพิตลงไปเบาๆ มิรารู้สึกได้ว่าเขาปฏิบัติกับเธออย่างอ่อนโยน
'อย่าไปซึ้งเชียวมิรา เขาก็คงจะทำแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน..คนไม่รู้จักพอ'
เมื่อคิดได้แบบนี้น้ำตาเจ้ากรรมมันก็เริ่มไหลรื้นล้นขอบตาออกมาอย่างไม่อาจกลั้น
'กลับเข้าไปเลยนะ ฉันไม่อยากร้องไห้ขี้แยเป็นคนขี้แพ้ หลังจากคืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายของเธอแล้วมิรา เธอก็มีคู่หมั้นเหมือนกันไม่ใช่เหรอ อย่ายอมเขาสิ เขามีได้เธอก็มีได้...กล้าดียังไงจะให้ลูกสาวท่านทูตอย่างฉันมาเป็นเมียเก็บนาย หวังสูงเกินไปแล้ว'
มิรานอนเถียงกับตัวเองอยู่ในใจ แต่ก็แอบปาดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด จนเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ โดยที่ปล่อยให้คนตัวใหญ่นอนกกกอดอย่างไม่ได้ขัดขืนและขัดใจ เพราะเธอคิดว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย...ที่จะยอมให้เขาทำแบบนี้แล้ว