ตอนที่7

1351 Words
พ่ายรักเจ้าสาววันไนท์ 7 "เป็นอะไรครับบอส ทำไมถึงได้ทำหน้าเซ็งแบบนั้น?" ณดลถามขึ้นในขณะที่นั่งอยู่ที่ไนท์คลับแห่งหนึ่ง ซึ่งวันนี้เขาลางาน เจตต์จึงลากเขาออกมาตอนพลบค่ำแบบนี้ "นี่ไอ้ณดลเวลาอยู่นอกเวลางานฉันบอกหลายรอบแล้วว่าให้พูดกันธรรมดาเลิกคีฟลุคเป็นลูกน้องที่เชื่อฟังสักที วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์จะเล่นด้วย" "เออ!..ไอ้บ้ากาม เป็นไงเมื่อคืน หน้าถึงได้ไม่สบอารมณ์แบบนั้น" ณดลคือเพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกันมาพอเรียนจบก็ออกมาทำงานเป็นเลขาของเจตต์ ซึ่งฐานะทางบ้านของณดลไม่ค่อยดีนักก็ได้เจตต์ช่วยเหลือจนได้เรียนจบมาด้วยกันจากเมืองนอก โดยที่ณดลไม่ต้องจ่ายค่าเทอมเองสักบาท อาศัยทำงานให้เจตต์เป็นการตอบแทน "เอ้าว่ายังไง ซดเข้าไปให้มากๆหน่อยนั่นน่ะไม่ใช่น้ำเปล่านะเว้ย" "หล่อนหนีกลับตั้งแต่ยังไม่ย่ำรุ่ง ไม่เอาเงินสักบาท และก็ยังไม่รู้ด้วยว่าหล่อนชื่ออะไร?" "ก็เลยมานั่งเซ็ง ถามจริงๆตอนเธอก้าวขาเข้าไปในห้องนายมัวทำอะไรอยู่ ถึงได้ไม่มีเวลาซักประวัติขนาดนั้น" ณดลถามด้วยสายตาวาววับ ยังคงจับจ้องเจตต์อย่างไม่วางตา รู้ดีว่าเจตต์รู้สึกอย่างไรแต่แค่ไม่รู้ตัวเท่านั้น "มองไรวะ เดี๋ยวก็ท้องหรอก" "เอ้ย!ฟ้าจะผ่ากลางคืน เห็นฉันมีรสนิยมแบบนี้ก็ไม่ได้ชอบผู้ชายนะเว้ย!" ณดลทำหน้าแขยง เขาเป็นผู้ชายแฟ่ชั่นจัดก็จริง แต่เขายังคงนิยมชมชอบผู้หญิงเหมือนเดิม "ก็นึกว่าจะเปลี่ยนใจ จะได้ลองดู ถ้าอยากเปลี่ยนก็บอก ฉันพร้อมเสมอ" เจตต์หัวเราะออกมาเบาๆกับท่าทางกลัวจริงจังของณดล "พอเลยๆก่อนที่จะขนลุกไปมากกว่านี้ อย่าเปลี่ยนเรื่อง ฉันว่านะนายน่ะหลงรักผู้หญิงคนนี้เข้าแล้วล่ะ..ใช่มั้ย?" ณดลชี้หน้าเจตต์อย่างจับผิด เจตต์นิ่งอึ้งช็อตฟิลไปครู่หนึ่ง เพราะเขาไม่เคยคิดถึงเรื่องของความรู้สึกรักใคร่อะไรกับใครเลย ถ้าถามว่ารักเป็นอย่างไรเขาแทบจะไม่รู้จักมันด้วยซ้ำ ถ้าเคยเอ่ยออกไปก่อนหน้านี้ก็เพียงเพราะเอาใจผู้หญิงเท่านั้น คนอย่างเขาไม่เคยเชื่อในความรัก เพราะผู้หญิงเหล่านั้นสุดท้ายแล้วก็ต้องการเพียงเงินทองจากเขาเท่านั้น รักเงินสิไม่ว่า "อะไรวะ? ฉันไม่...ฉันไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นหรอกน่า" "ไม่คิดแล้วทำไมมานั่งทำหน้าเซ็งเหมือนคนกำลังอกหักยังไงยังงั้น" เจตต์เม้มปาก นั่งจ้องแก้วบรั่นดีในมือนิ่ง พรางครุ่นคิดถึงความรู้สึกที่มีต่อหญิงสาววันไนท์สแตนด์ของเขา 'หรือว่าเรา เราจะชอบหล่อนเข้าแล้วจริงๆ ไม่หรอก ไม่ใช่ เป็นไปไม่ได้' สองเดือนต่อมา "มิรา อยู่ในห้องหรือเปล่า?" เสียงเรียกของพนาดังอยู่หน้าห้องนอน "เข้ามาได้เลยค่ะพี่พนา มิราไม่ได้ล็อก" พนาเปิดประตูเข้ามาข้างในเห็นผู้เป็นน้องสาวกำลังนั่งคีย์แป้นพิมพ์อยู่บนหน้าจอแล็ปท็อปอย่างขะมักเขม้น "ยังเขียนหนังสืออยู่เหรอคุณนักเขียน?" "กลับมาเขียนเล่นๆค่ะ เผื่อว่าจะรุ่ง สมองจะได้ไม่ว่าง" "ก็พี่บอกแล้วว่าให้ไปทำงานกับเจ้าเจตต์มันดู เห็นว่ารับผู้จัดการฝ่ายการตลาดอยู่" "ไม่เอาค่ะ ไม่อยากทำ มิราจะขอพี่พนาไปพักที่ไร่องุ่นของเราสักเดือนได้มั้ยคะ ช่วงนี้มิรารู้สึกไม่ค่อยสบายเลย น่าจะเป็นเพราะอากาศและมลพิษที่กรุงเทพแน่เลยค่ะ" "ได้สิ เอาไว้คุณพ่อคุณแม่กลับมาเรื่องกำหนดงานแต่งก่อนค่อยไปนะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง" "แต่งไปก็ดีเหมือนกันค่ะ จะได้จบๆ" มิราเอ่ยอย่างปลงใจ "ทำไมดูช่วงนี้ดูซอฟท์ๆลง แถมไม่หนีเที่ยวด้วย มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่า โกรธพี่หรือโกรธคุณพ่อคุณแม่" มิราวางมือจากแป้นพิมพ์หันมายิ้มให้ผู้เป็นพี่ชาย "เปล่าหรอกค่ะ มิราแค่รู้สึกไม่ค่อยสบายจริงๆ อาหารเป็นพิษบ่อยด้วย น่าจะอากาศร้อนค่ะ เลยอยากนั่งตากแอร์เย็นๆที่บ้านดีกว่า" "ไปหาหมอหรือยัง ให้พี่พาไปมั้ย?" พนาเอ่ยถามน้องสาวด้วยความเป็นห่วง ยัยตัวแสบที่เคยต่อต้านต่อปากต่อคำเขาทุกเรื่องดูเรียบร้อยขึ้นจนเขาอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ "ไม่ค่ะ พักเยอะๆก็น่าจะอาการดีขึ้น" "งั้นพี่ไปทำงานก่อนนะ อ้อ ลืมบอก พรุ่งนี้ไปรับคุณพ่อคุณแม่ที่สนามบินด้วยกันมั้ย?" "ไปสิคะ มารับมิราด้วยนะ" "โอเค งั้นพี่ไปก่อนนะ" พนาลูบหัวน้องสาวก่อนจะเดินออกจากห้องไป ลับหลังพนามิราถึงกับพ่นลมหายใจออกมา ก่อนจะรู้สึกพะอืดพะอมขึ้นอีกครั้ง แล้วรีบวิ่งพุ่งเข้าห้องน้ำไป "คลื่นไส้จะแย่ กินอะไรเข้าไปนะ" มิรากำลังนึกสงสัยอาการป่วยของเธอ ซึ่งเป็นมาเกือบสองอาทิตย์แล้ว กินอะไรเข้าไปก็อ้วกออกมาหมด "หรือว่า...ไม่หรอกเราคงไม่โชคร้ายขนาดนั้น ท้องกับคนเจ้าชู้ประตูดินแบบนั้นคงไม่มีทางรับลูกในท้องของเราแน่ๆ ทำแท้ง โอไม่นะ! เรารักเด็กมากทำไม่ลงหรอก เอาเถอะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดอย่างมากก็แค่โดนตัดออกจากกองมรดก" มิราพยายามคิดให้กำลังใจตัวเอง ในตอนนี้เธอยังไม่กล้าแม้แต่จะซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ เหตุเพราะกลัว กลัวความจริงจะปรากฏออกมาว่าเธอท้องกับคุณวันไนท์คนนั้น ไม่สิ ไม่ใช่วันไนท์แล้ว สองครั้งสองคราขนาดนี้ก็ต้อง ทูไนท์ มิรากระตุกยิ้มออกมา เจอเรื่องเครียดขนาดนี้รู้สึกว่าตัวเองยังจะมีอารมณ์ขันอีก หญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำนั่งคิดเรื่องนี้วนไปวนมาอยู่บนเตียงนอน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เพื่อโทรหาพี่ชาย (ฮะโหลมีอะไร?) "พี่พนาคะ มิราอยากเจอคุณเจตต์ค่ะ" (จะไปพูดอะไรกับหมอนั่น ถึงได้อยากเจอขึ้นมา พรุ่งนี้ค่ำๆก็ได้เจอกันแล้ว ผู้ใหญ่ทางฝั่งโน้นจะมารับประทานอาหารค่ำที่บ้านเรา) "อย่างนั้นเหรอคะ โอเคค่ะ เอาไว้มิราค่อยคุยกับเขาพรุ่งนี้ก็ได้" (นอนพักผ่อนเถอะ เมื่อครู่พี่เห็นหน้าตาเราซีดมากๆ) "น่าจะเป็นเพราะหน้าสดมากกว่าค่ะ 555" (พี่ก็ว่า งั้นก็รีบไปอาบน้ำแต่งหน้าแต่งตาให้ดูสดใส แล้วลงมาหาอะไรกินซะนะ พี่ต้องไปแล้ว บาย) มิราวางสายจากพี่ชาย แล้วหันไปมองนาฬิกา 'คงจะไปเจอเขาวันนี้ไม่ทันแล้วจริงๆ พรุ่งนี้ค่อยลากเขามาคุยกันเป็นการส่วนตัวตอนคุณพ่อคุณแม่เผลอดีกว่า' มิราตั้งใจจะชวนเจตต์ไปตรวจสุขภาพด้วยกัน เพราะเธอไม่อยากเอาเปรียบเขา หากว่าเธอกำลังตั้งครรภ์จริงๆจะได้บอกเขาตรงๆ และเตรียมตัวรับโทษทัณฑ์จากผู้เป็นบิดาและมารดาซะเลยทีเดียว หลังจากนั้นมิราตั้งใจว่าจะไปใช้ชีวิตอยู่ในไร่สักพัก อย่างน้อยก็หลบหน้าหลบตาออกจากผู้คน ส่วนเรื่องที่จะบอกพ่อของเด็กหรือไม่ มิราตัดสินใจแล้วว่า'ไม่'เพราะดูเหมือนเขาตั้งใจจะแต่งงานเอามากๆ มิราไม่อยากจะไปเป็นส่วนเกินหรือว่าตัวถ่วงในชีวิตของเขา จะคุณวันไนท์หรือทูไนท์ก็คือคู่หมั้นนั่นแหละลูกสาว มารอลุ้นกันค่ะ พรุ่งนี้เขาจะเจอกันในฐานะ คู่หมั้นแล้ว ☺
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD