พ่ายรักเจ้าสาววันไนท์ฯ
10
"พามิราไปพักที่ไร่ของเราหน่อยค่ะ พี่พนา"
"ไปวันนี้เลยเหรอ?"
"อีกเป็นเดือนกว่าจะแต่งงาน มิราอยากจะไปพักผ่อนสูดอากาศบริสุทธิ์ ช่วงนี้ปลายฝนต้นหนาวอากาศกำลังดีเลยค่ะ"
"ไม่บอกคนอื่นเหรอ?"
คนอื่นพนาคงหมายถึงเจตต์ พี่ชายมิราคงยังงอนเจตต์อยู่จึงไม่พูดชื่อออกมาตรงๆ
"ไม่ค่ะ"
มิราตอบแบบไม่มองหน้าพี่ชาย ส่วนผู้เป็นบิดาและมารดาของทั้งคู่บินกลับไปวอชิงตันแล้ว เนื่องจากต้องไปแจกการ์ดที่โน่น บินกลับมาอีกทีก็อาทิตย์สุดท้ายก่อนที่งานจะเริ่ม
ซึ่งงานจัดแบบชาวคริสต์ เพราะครอบครัวของมิรานับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ รวมทั้งครอบครัวทางฝั่งเจ้าบ่าวก็คริสต์เหมือนกัน
"มีอะไรกับนายเจตต์หรือเปล่า เรื่องทั้งหมดไม่ได้เป็นความจริงใช่มั้ย หรือว่าหลานของพี่ไม่ใช่ลูกของมัน"
"ลูกของเขาค่ะ"
มิรารีบแก้ตัวก่อนที่เรื่องจะไปกันใหญ่
"มิรา รักนายเจตต์มั้ย?"
พนาถามออกมาตรงๆ คนถูกถามถึงกับน้ำตาซึม
"อืม"
มิราพยักหน้ารับตามความเป็นจริง
"งั้น ไอ้เจตต์มันไม่ได้รักน้องของพี่ใช่มั้ย?"
"มิราไม่รู้"
น้ำตาตกทันทีที่ตอบคำถามของพี่ชาย
"ไปเก็บของสิ พี่ไปส่งที่สนามบิน "
"ขอบคุณนะคะพี่พนาที่ให้มิราไป"
พนาอนุญาตเพราะเห็นว่าน้องคงอยากไปมากจริงๆ และอยากให้ไอ้บ้าแถวนี้รู้จักรู้สึกรู้สาซะบ้างถ้ามิราหายไปจริงๆ
"เดี๋ยวพอไปถึงเชียงรายแล้วพี่จะให้ผู้จัดการไร่ออกมารับ ส่วนเรื่องบ้านพักก็ไม่มีอะไรต้องจัดเยอะ มีแม่บ้านคอยทำความสะอาดอยู่แล้ว มิราเคยไปนี่นา ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม อยู่ให้สบายใจสักอาทิตย์สองอาทิตย์ค่อยกลับมานะ"
พนาเดินเข้าไปกอดปลอบน้องสาวเบาๆไม่มีคำพูดใดที่เอ่ยถามออกมาตอกย้ำให้มิราต้องเจ็บปวดอีก
เรื่องของความรักมันพูดยาก อีกอย่างเจตต์เจ้าชู้และมีผู้หญิงเยอะมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว จริงๆเขาควรจะขัดขวางงานแต่งงานด้วยซ้ำ
แต่ก็ขัดผู้เป็นบิดาได้ที่ไหนกัน ก็หวังเพียงว่าเจตต์จะเลิกนิสัยเจ้าชู้ประตูดินซะที...แค่นี้จริงๆที่เขาต้องการ
"แล้วนี่ไอ้เจตต์มาหาบ้างมั้ย หลังจากออกจากโรงพยาบาล"
"มิราบอกเขาว่าไม่ต้องมาบ่อยเองค่ะ มิราเกรงใจ คนเคยเป็นอิสระ ไหนจะเมียเก็บเมียบำเรอของเขาอีกมากมาย"
"พี่จะไปบอกให้มันเลิก"
"อย่านะคะ เราตกลงกันว่าจะอยู่แบบพ่อและแม่ของลูกเท่านั้น พี่เจตต์เขาไม่ผิดอะไรค่ะ นะคะพี่พนา"
มิราดึงแขนของพี่ชายเอาไว้ เพราะถึงอย่างไรเรื่องนี้เจตต์ก็ไม่ผิดเธอเองที่ไม่รู้จักป้องกัน และเรื่องความรักก็ไม่อาจจะบังคับใจกันได้ นอกจากเขาไม่รัก ก็ไม่ได้อยากจะทำให้เขาเกลียด
@@@
"ไม่ต้องตามสืบ..สืบใคร มีคนเป็นร้อยที่บอสให้ตามสืบประวัติส่วนตัว"
ณดลเอ่ยถามซ้ำวันนี้เจตต์มาทำงานวันแรก หลังจากที่หายหน้าหายตาไปเฝ้าไข้คู่หมั้นอยู่ที่โรงพยาบาลนานเกือบอาทิตย์
"ไม่ต้องตามสืบเรื่องผู้หญิงคนนั้นแล้ว..คนที่ให้ตามสืบเป็นพิเศษนั่นแหละ"
"ทำไม ตัดใจได้แล้วเหรอครับบอส"
"หล่อนคือคู่หมั้นของฉันเอง"
"อะไรนะ เธอคือ...คือน้องมิราอย่างนั้นเหรอ?"
สายตาณดลหม่นลงนิดหน่อยเมื่อได้ยินแบบนั้น
"มิราตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว บังเอิญชะมัดที่เป็นคู่หมั้นกันไม่งั้นไม่รู้ว่าจะพาลูกฉันหนีไปไหน"
เจตต์นั่งลงบนโต๊ะทำงาน หยิบแฟ้มที่วางกองพะเนินอยู่บนโต๊ะออกมาเปิดเพื่อเริ่มเคลียร์งานให้เสร็จเขาตั้งใจจะไปหามิราเย็นนี้
"มิราท้องเหรอ?"
"ใช่ เป็นอะไรรึเปล่า เมาค้างเหรอ?"
เจตต์ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าณดลดูสติเลื่อนลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแปลกๆ
"เปล่า รีบเคลียร์งานเถอะ ฝ่ายบัญชีทวงเอกสารอนุมัติรายจ่ายโครงการก่อสร้างทินราชแกรนด์วิวเฟสสองมาหลายรอบล่ะ เพราะได้เวลาจ่ายเงินผู้รับเหมางวดแรกแล้ว"
ณดลเปลี่ยนเรื่องมาพูดเรื่องงานแทน พักเรื่องในใจที่มันควรจะเก็บเอาไว้ในใจเหมือนเดิม มิราสาวน้อยคนนั้นที่เขาแอบเก็บเอาไว้ข้างในมาเนิ่นนาน
คืนนั้น...เอะใจแล้วแท้ๆว่าทำไมหล่อนหน้าตาคุ้นๆนัก โตแล้วสินะ
"นายน่ะ ไม่มีแฟนบ้างเหรอณดล หรือว่า...นายชอบ"
"อะไรเล่า?"
ณดลอึกอักเป็นวัวสันหลังหวะเพราะเคยแอบชอบมิรามาก่อน ก่อนเจตต์ซะอีก แต่คนแบบเขาจะไปควรค่าอะไร มิราเป็นถึงลูกสาวท่านทูต เหมาะกับเจตต์ที่สุดแล้ว
"เออ แล้วเรื่องคืนนั้นนายอย่าไปใส่ใจเลยนะ พวกนั้นมันก็แค่พวกปากเสีย ฉันน่ะ ไม่ได้คิดแบบนั้นเลย"
ณดลถอนหายใจออกมา เจตต์ช่างพูดออกมาได้จังหวะกับที่เขากำลังคิดเรื่องนี้อยู่แท้ๆ
"ไม่ได้คิดอะไร ฉันชินแล้วล่ะ ก็จริงอย่างที่พวกนั้นพูด ฉันก็เป็นขี้ข้าจริงๆ ความจริงแล้วนายไม่ต้องต้องพยายามทำตัวเป็นเพื่อนกับฉันก็ได้"
พูดจบณดลก็เดินออกจากห้องไป
"ไม่คิดแล้วทำไมเหมือนงอน ไหนว่าไม่คิดไง!"
เจตต์ตะโกนตามหลังณดลไป รู้สึกเป็นห่วงความรู้สึกณดลขึ้นมาทันที
เวลาเจอเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาลัยพร้อมกัน ณดลมักจะโดนบูลลี่อยู่เสมอ ว่าเป็นขี้ข้าของเจตต์ บ้างก็พูดว่าณดลพยายามทำตัวเทียบกับเจตต์ ทั้งๆที่ไม่มีอะไรเทียบได้เลย แม้ปากณดลบอกว่าไม่คิดมาก แต่ในใจเขารู้ดีว่าณดลคิด
"เจอพวกมันอีกคราวหน้า ฉันจะต่อยปากพวกมันแทนนายเอง"
@@@
บ้านนรากุล
เจตต์ขับรถหรูราคาแพงเข้ามาในรั้วบ้านของบ้านนรากุลพร้อมกับของบำรุงครรภ์มากมาย
"มาหาใคร?"
ทันทีที่เขาก้าวลงจากรถ ก็เจอกับหน้าตาถมึงตึงของอาจารย์พนาที่ยืนรออยู่แล้ว
"มิราอยู่มั้ย?"
"ไม่อยู่"
"แกยังโกรธฉันอยู่เหรอ?"
เจตต์ถามออกมาตรงๆ ที่เห็นเพื่อนเขายังหน้าบูดบึ้ง
"ถ้ายังโกรธก็ต่อยอีกสิวะ ต่อยเลยเอาที่นายสบายใจ ฉันบอกแล้วไงว่าขอโทษ"
ผัวะ!ๆ
"อุ๊บ ฮึก!"
หมัดของพนาเหวี่ยงลงไปบนหน้าของเจตต์อีกสองตุ๊บ ร่างของเจตต์ร่วงลงไปกองกับพื้นเลือดไหลกลบปากแต่โชคดีหน่อยที่ฟันยังอยู่ครบ
เจตต์ซู้ดปากด้วยความเจ็บแปลบรีบเช็ดเลือดที่ไหลกลบปากออก แต่ไม่ได้สนใจที่จะตอบกลับพนาแม้แต่นิด
"นายร้องขอเองนะ"
"พอใจก็บอกมาได้แล้วว่ามิราไปไหน?"
เจตต์ดันล่างของตัวเองให้ลุกขึ้น เขาพยายามทรงตัวขึ้นยืนเพื่อเผชิญหน้ากับพนา
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่อยู่"
คนหน้าตึงตอบเสียงห้วน
"บอกฉันเถอะว่ามิราไปไหน?"
"เมียของนายเยอะแยะ จะร้องหาน้องของฉันไปทำไม?"
"เมียที่ไหนกัน เลิกไปหมดแล้ว"
พนาหันขวับมาทางเจตต์ทันทีที่ได้ยินว่าเขาเลิกกับผู้หญิงเหล่านั้นไปหมดแล้ว
"พูดจริง"
ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ
"เออ ทีนี้บอกได้ยังว่ามิราไปไหน?"
"ไม่"
"เอ๊ะ!ไอ้พนา"
พอเมียหายก็ว้าวุ่นเลย พี่พนาของเราก็แสบซะด้วย???