คิมหันต์ยังคงนั่งอยู่ในรถ ทุกทีที่เขาแอบมาดูเธอ เขาจะใช้รถคันอื่นที่ไม่ค่อยโดดเด่น แต่วันนี้รีบมากเพราะร้อนใจ จึงไม่มีเวลาขับไปเปลี่ยนรถที่คอนโด คิมหันต์ลดกระจกลงนิดหน่อย หยิบบุหรี่ออกมาจุดสูบ พลางคิดหาคำพูดดีๆเพื่อคุยกับเธอ ไม่อยากทะเล่อทะล่าไปแล้วโมโหใส่ ยังไงตอนนี้เขากับเธอก็ยังไม่ได้ตกลงเป็นอะไรกันสักอย่าง
“ไม่ต้องมาส่งก็ได้นะคะ”
เสียงหวานๆติดเหวี่ยงนิดหน่อย ของคนที่คิมหันต์นึกว่าอยู่ในบ้านดังแว่วอยู่ไม่ไกล สายตาคู่คมมองผ่านกระจกข้างตัวรถ แล้วสบทอยู่ในใจ ยี่หวาไม่ได้อยู่ในบ้าน แต่เพิ่งไปไหนมาไม่รู้ กับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้อีกนั่นแหละ
“เราตกลงเป็นแฟนกันแล้วนะ จะปล่อยให้กลับมาเองได้ไง”
ยี่หวาไม่ได้สนใจคนที่ยืนเผชิญหน้าเท่าไหร่ ริมฝีปากสวยแย้มยิ้มดีใจ เมื่อเห็นรถของใครสักคนจอดอยู่ไม่ไกลจากหน้าบ้าน โชคดีที่ฉัตรชัยตัวสูงกว่าจนบังร่างเธอไว้มิด ไม่อยากให้คนที่น่าจะนั่งอยู่ในรถ เห็นรอยยิ้มเธอตอนนี้เลย เดี๋ยวเขาจะเข้าใจผิดว่าเธอยิ้มให้คนตรงหน้า
“กลับบ้านดีๆนะคะ”
ยี่หวารีบไล่ ไม่อยากแก้ความเข้าใจผิดของฉัตรชัยนัก เพราะเธอยังต้องเล่นบทคนรักของเขาต่อไปอีกนานทีเดียว
ฉัตรชัยคือผู้ถือหุ้นคนใหม่ของต้นสังกัดเธอ เขายื่นข้อเสนอมาหลายอย่าง เธอไม่ได้อยากรับไว้ แต่ก็เลี่ยงไม่ได้เหมือนกัน
“ขอเข้าไปข้างในนะ”
ฉัตรชัยมองเข้าไปในบ้านเดี่ยวชั้นเดียวที่เงียบเชียบ ตีราคาบ้านคร่าวๆ ไม่น่าจะต่ำกว่าสิบล้าน ไม่รู้ว่าเธออยู่กับใครบ้าง แต่นั่นเป็นโอกาสอันดีให้เขารวบหัวรวบหางเธอ
“กลับไปเถอะค่ะ”
ยี่หวากอดอกมองนิ่งๆ ใช้สายตากดดันจนกว่าจะได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เธอถูกสอนให้อยู่ด้วยภาพลักษณ์ร้ายๆ และเป็นคนร้ายๆ เธอว่ามันดีนะ เพราะโลกนี้ไม่ได้มีแค่คนดียังไงล่ะ
“อย่าลืมเก็บเรื่องแต่งงานไปคิด”
ฉัตรชัยไม่อยากยอมแพ้หรอก ถ้าเขาอยากได้อะไรเขาก็ต้องได้ แต่เพราะเธอพิเศษกว่าคนอื่นๆ เขาถึงได้ยอมอ่อนให้เธอเกินครึ่ง ร่างสูงสมชายชาตรี ขยับตัวเตรียมออกเดิน แต่ยังไม่ได้ก้าวไปไหน ก็คว้าคนตรงหน้าเข้ามาจูบ
เพราะเขาทำทุกอย่างเร็วมาก ยี่หวาจึงไม่มีโอกาสได้ปัดป้อง มือเล็กยกขึ้นมากั้นแผ่นอกแกร่งไว้ เม้มปากลงแน่น ให้เขาสัมผัสเพียงด้านนอก ดวงตาหวานหลับลงช้าๆ เมื่อเห็นผู้ชายอีกคนออกมายืนพิงหลังเข้ากับตัวรถ ไม่อยากให้เขาเห็นภาพแบบนี้เลย แต่ยังไงก็คงต้องเห็น เพราะเธอยังมีความจำเป็นที่ต้องคบกับฉัตรชัยอยู่
“ตัดสินใจได้เมื่อไหร่ก็โทรมานะ”
ฉัตรชัยประทับริมฝีปากลงบนแก้มขาวนวล จ้องมองใบหน้าสวยที่ตัวเองหลงใหลอยู่นาน ก่อนจะส่งยิ้มไปให้คนหน้าบึ้ง ก็เห็นจนชินแล้วนะ แต่อยากให้เธอยิ้มให้เขาเหมือนก่อนหน้านั้นมากกว่า รอยยิ้มเหมือนดีใจกับอะไรสักอย่าง ตรึงใจเขาจนไม่อยากปล่อยเธอเลย
ยี่หวาหมุนตัวเตรียมเข้าบ้าน ทันทีที่ฉัตรชัยก้าวเท้าไปขึ้นรถ เธอไม่รู้เหตุผลที่คิมหันต์มาที่นี่ รู้ว่าเขาเป็นแฟนคลับตัวเองเพราะเขาคิดตามไอจีหลักเธออยู่ แต่ไม่คิดว่าเขาจะรู้ลึกขนาดตามมาถึงบ้านเธอได้
ร่างสมส่วนสั่นนิดๆ เมื่อบ้านที่เคยเปิดง่ายๆ กลับไม่สามารถไขกุญแจเข้าไปได้ เพราะมือไม้อันสั่นเทาของเธอ
“มาคุยกันหน่อย”
คิมหันต์ยังยืนอยู่ที่เดิม มือคีบบุหรี่ม้วนที่สามออกจากปาก ก่อนจะทิ้งลงไปบนพื้น ใช้เท้าขยี้บุหรี่จนดับ เหมือนพยายามระงับความหึงหวงลงไปด้วย
“…” ยี่หวาทำหูทวนลม ตั้งสมาธิให้อยู่กับกุญแจในมือ ควบคุมร่างกายไม่ให้สั่น ควบคุมความรู้สึกนึกคิด ไม่ให้หวนคิดถึงเรื่องในคืนนั้น
ตุบ!
“อ่า!”
ใบหน้าสวยที่ปกติมักจะทำหน้าบึ้งตึงขึ้นสีแดงก่ำ เมื่อเผลอคิดถึงสัมผัสวาบวาบของครั้งแรก ค่ำคืนเร่าร้อนอ่อนหวาน ตราตึงใจไม่เคยลืมเลือน ยิ่งคิดถึงยิ่งรู้สึกวาบหวาม ร้อนผ่าวลามไปทั่วร่างกาย
“ฉันว่าเธอไม่ได้หูหนวก”
คิมหันต์ก้าวไปยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง เสื้อผ้าที่เธอใส่วันนี้ดูแปลกตา เพราะเธอสวมเสื้อผ้ามิดชิดทั้งที่อากาศในกรุงเทพร้อนอบอ้าว รู้ว่าขี้หนาว แต่หนาวเกินไปหรือเปล่า หรือต้องการซ่อนอะไรไว้กันแน่
“อย่ามาคุกคามกันนะคะ” ยี่หวาไม่กล้าหันกลับไป และนั่นถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับตัวเอง เธอสามารถใช้น้ำเสียงหยาบกระด้างกับเขาได้ แต่ถ้าหันกลับไปเธอทำแบบนั้นไม่ได้แน่ เพราะรู้สึกแพ้เขาทุกอย่าง
“คุกคาม? กับผัวเรียกว่าคุกคาม แล้วกับไอ้นั่นที่ยอมให้มันจูบเรียกอะไร สมยอม?”
มือหนาจับไหล่เล็กไว้แน่น บีบลงไปแรงๆด้วยความโกรธ ผู้หญิงอะไรไม่รักนวลสงวนตัว ปล่อยให้มันจับมันจูบอยู่ได้ น่าโมโห!
“เขาเป็นแฟนจับบ้างจูบบ้างจะเป็นอะไร อีกหน่อยก็คงทำอะไรที่มากกว่านั้น” มันไม่ใช่คำตอบสำหรับคนที่อยู่ด้านหลัง แต่เป็นคำพูดที่พูดกับตัวเองมากกว่า บางทีเธออาจจะต้องลงเอยกับฉัตรชัย เพราะฉะนั้นเรื่องแบบนั้นก็ต้องทำใจไว้เสียตั้งแต่ตอนนี้
“สำหรับเธอ ฉันเป็นควายสินะ!”
“คุณคะ ปล่อย ตะ ตรงนี้มัน”
ยี่หวาจับมือที่กำลังขย้ำหน้าอกตัวเองไว้แน่น ถึงที่นี่จะไม่มีนักข่าว แต่นี่มันหน้าบ้านนะ ถ้ามีคนผ่านมาเห็น เธอก็แย่สิ หรือต้องให้มีคนผ่านมาดี เขาถึงจะหยุด
“ทำไม กับมันยังจูบตรงนี้ได้ กับฉันก็ต้องได้เหมือนกัน” คิมหันต์ออกแรงขย้ำที่มือ มืออีกข้างดึงรั้งร่างเล็กในชิดกับแผ่นอก โก้งตัวก้มลงเพื่อให้มือเอื้อมลงไปถึงกลางกายสาว
ปึ่ก!
“โอ้ย!”
“ก็บอกแล้วไงคะ ว่าให้ปล่อย”
ยี่หวากระทืบส้นสูงลงบนรองเท้าของเขาแรงๆ จนเขาปล่อย หันกลับไปเผชิญหน้าด้วยดวงตาวาวโรจน์ เธอโกรธเขาแล้ว ทำอะไรไม่คิดถึงจิตใจเธอเลย
“นี่กล้าทำร้ายร่างกายฉัน” คิมหันต์อยากจะโกรธ แต่พอเห็นหน้าเหวี่ยงๆของเธอ ที่มีน้ำใสเกาะพราวตามแพขนตากลับรู้สึกอ่อนลง
แพ้มาก เขาแพ้อะไรแบบนี้ที่สุด!
“กลับไปเถอะค่ะ ฉันไม่รู้จักคุณ”
“หา?”
“กลับไปค่ะ”
“ไม่รู้จักนี่นะ”
คิมหันต์เป็นงง อยู่ๆก็กลายเป็นคนไม่รู้จัก ทั้งที่เพิ่งกอดเพิ่งจับนมไป ไหนจะคืนนั้นที่ได้กันอีก สรุปว่าเธอไม่รู้จักเขาเหรอ เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้นเลย
“ค่ะ”
“ฉันชื่อคิมหันต์”
“ค่ะ แล้วยังไง”
ยี่หวาเกือบยิ้ม แต่ต้องทำหน้าบึ้งไว้เหมือนเดิม เลือกเมินเฉยต่อการแนะนำตัวของคนตรงหน้า เขาคงไม่รู้ว่าเธอรู้จักเขาดีทีเดียว เธอรู้จักเขาพอสมควร ผ่านการติดตามไอจีของเขา
คิมหันต์คือผู้ชายที่เธอติดตามมาได้สักพักแล้ว พอๆกับที่เขาติดตามแอคเค้าท์ไอจีหลักของเธออยู่ เพียงแต่เธอใช้แอคเค้าท์อีกอันติดตามเขาเงียบๆ แอบส่องไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเขา จนรู้สึกกับเขามากกว่าที่ควรรู้สึก