“นี่คุณ! บอกว่าไม่ใช่ไงคะ”
โต๊ะของคิมหันต์เงียบกริบ เมื่อเห็นว่าเธอคนนั้นลุกขึ้นตะโกนลั่นใส่หน้าผู้ชายที่กำลังนั่งเบียดตัวลงบนโซฟาตัวเดียวกัน ใบหน้าสวยดูโกรธจัด คิมหันต์เห็นว่าเธอกำมือแน่น ไหล่สั่นนิดหน่อย ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วโกรธหรือกลัวผู้ชายที่กำลังคุกคามเธออยู่
“เป็นดาราแล้วหยิ่งเหรอวะ” ผู้ชายคนที่ถือวิสาสะนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกัน พูดพลางเบะปาก ก็แค่ทักทายเพราะเห็นว่าเป็นดาราเท่านั้นแหละ แต่นิสัยแบบนี้ไม่ไหวเลย
“ฉันจะเป็นยังไงก็เรื่องของฉัน แต่สิ่งที่คุณทำมันคือการคุกคาม ถอยไปตอนที่ยังพูดดีๆ!” ยี่หวากำมือแน่น เธอนับหนึ่งถึงสิบในใจรอบที่สาม แต่มันไม่ดีขึ้นเลย กำปั้นพร้อมทำงานเต็มที่ ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ยอมถอยออกไป
“จะทำอะไร? คนในนี้เยอะแยะ อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะทำอะไรฉัน” ร่างสูงดึงเธอให้นั่งลงข้างๆ เบียดกายเข้าไปใกล้จนไหล่ชิด เขามันคนธรรมดา มีข่าวกับเธอสิยิ่งดัง ส่วนเธอเป็นดารามีข่าวแบบนี้ขึ้นมา มีแต่เสียกับเสีย
พรึ่บ!
คิมหันต์เดินมาทิ้งตัวนั่งกั้นกลางระหว่างยี่หวากับไอ้หน้าด้าน ผู้หญิงเขาไม่เล่นด้วยยังทำตัวหน้ารำคาญ คิมหันต์ผลักผู้ชายคนนั้นออกห่าง มือหนาคว้าคอเสื้อมากำไว้แน่น ก้มหน้ากระซิบเสียงเบา ก่อนจะปล่อยให้ไอ้นั่นลนลานเดินจากไป
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนยี่หวาไม่ทันตั้งตัว ตกใจกับการมาของเขาไม่เท่าไหร่ แต่ตกใจกับการจากไปของผู้ชายคนนั้นมากกว่า เขาสองคนคุยอะไรกัน ทำไมผู้ชายคนนั้นดูกลัวจนลนลานขนาดนั้น แต่ดีแล้วที่เขามา เพราะเธอไม่รู้ว่าจะสามารถแก้ปัญหาตรงหน้าได้ดีแค่ไหน
คิมหันต์หันหน้าไปยิ้มให้คนที่นั่งมองเขาด้วยตากลมโต รู้สึกดีขึ้นมาทันทีที่เห็นแบบนั้น ไฟโทสะจากความหึงหวงเพราะผู้ชายคนเมื่อกี้ ถูกดับลงเพียงแค่เห็นหน้าของเธอใกล้ๆ ถ้าได้จับได้คลำด้วย คงดีมากกว่านี้
เพี๊ยะ!
ยี่หวาฟาดมือลงไปบนฝ่ามือที่ยื่นมาใกล้ ส่งสายตาดุๆจ้องกลับไป เมื่อผู้ชายที่มาช่วย เริ่มออกลายเสือไม่ต่างจากผู้ชายคนเมื่อกี้
“อุ้ย! โทษทีมือมันไปเอง แฮะๆ!” คิมหันต์ยิ้มเก้อ เมื่อเจอสายตาดุๆ มือไวใจเร็วจนเสียเรื่อง อุตส่าห์ได้มานั่งใกล้ชิดคนที่ฝันถึงมาหลายเดือน ร่างกายเขากลับเตลิดจนทำทุกอย่างพัง
“ขอโทษเช่นกันค่ะ มือมันไปเอง” ยี่หวาตอบกลับด้วยคำพูดไม่ต่างกันนัก คิดว่าจะหลอกเธอด้วยท่าทางใสซื่อเหรอ เธอได้ยินหมดแล้วเถอะ ว่าก่อนหน้านั้นเขาพูดอะไรกับเพื่อนบ้าง
“วันนี้ไม่มีถ่ายละครเหรอ” คิมหันต์ชวนคุย เขาไม่รู้ว่าควรพูดไหม แต่อยากรู้ อยากถามอะ อยากรู้ทุกความเป็นไปในชีวิตเธอ
“ถ้ามีจะนั่งเสนอหน้าอยู่ตรงนี้ไหมค่ะ” ยี่หวายกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ป่วยการที่จะปฎิเสธว่า เธอไม่ใช่เธอ ใช่! เธอคือยี่หวาที่เขากับเพื่อนพูดถึงอย่างสนุกสนาน ยี่หวาที่เป็นดารา ดาราที่กำลังยกเหล้าขึ้นดื่มเหมือนดื่มน้ำอยู่ตอนนี้
“ไม่มีงานเหรอ” คิมหันต์ถามอีกครั้งอย่างเป็นห่วง ปกติดาราแบบเธอต้องมีงานแน่นจนไม่มีเวลาพัก แต่เขาเห็นเธอหายไปจากหน้าจอสักพักแล้ว ไม่มีทั้งงานแสดง และงานถ่ายแบบ ก็มีบ้างแต่ไม่เยอะเหมือนช่วงแรกๆ
“คุณนี่ขี้เสือกจัง” ยี่หวามองคนที่ขยับตัวออกไปนั่งห่างเธอนิดหน่อย สำรวจใบหน้าหล่อเหลาไปด้วย ก่อนจะพ่นลมหายใจ ปากเธอไปไวกว่าสมองอีกแล้ว น่าจะใช้คำพูดกับเขาดีกว่านี้ แต่เพราะเธอต้องการใช้คำพูดพวกนี้ไล่เขาออกไป ยิ่งเธอทำตัวร้ายเท่าไหร่ ยิ่งไล่เขาไปง่ายเท่านั้น
“ก็อยากรู้จัก”
“อยากรู้ด้วยใช่ไหม ว่าลีลาเด็ดไหม” ดวงตากลมโตวูบไหวเพียงคู่ ก็กลับมาเป็นปกติ มองใบหน้าตกใจนิ่งๆ เพื่อรอคำตอบ
“เพื่อนมันแซวเล่น”
“แต่ฉันอยากรู้นะ ว่าคุณลีลาเด็ดไหม” ยี่หวาพูดเสียงเบาลง ไม่รู้เพราะเธอเมาหรือเพราะเขามานั่งอยู่ตรงนี้ เวลาที่เธอกำลังต้องการพอดี แต่เธอคิดว่ามันน่าจะทั้งสองอย่าง ถ้าไม่ใช่เขาเธอคงไม่กล้พูดแบบนี้แน่
“ถ้าไม่เปลี่ยนใจ ก็มาที่นี่”
แม้จะตกใจนิดหน่อยกับคำพูดของเธอที่เขาไม่คิดว่าจะได้ยิน แต่คิมหันต์ก็ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว วางนามบัตรที่มีที่อยู่คอนโดของตัวเองลง เสร็จแล้วก็เดินไปนั่งรวมกลุ่มกับเพื่อน รอดูเงียบๆว่าเธอจะเอายังไงต่อ
ยี่หวานั่งดื่มต่อ จนเหล้าในขวดเล็กที่สั่งมาหมดลง เพื่อเพิ่มระดับแอลกอฮอล์ในเลือดให้มีมากกว่าเดิม เธอกำลังจะทำเรื่องที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต แต่ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไปเด็ดขาด
มือเล็กหยิบกระดาษแผ่นเล็กขึ้นมาสำรวจดู ว่า “ที่นี่” ที่เขาพูดถึงมันอยู่ตรงไหน คอนโดมิเนี่ยมราคาแพงอยู่ไม่ไกลจากร้านนี้ แต่เธอจะมีความสามารถขับรถไปถึงไหม นี่สิ ที่เป็นปัญหา ไหนจะต้องหลบผู้คนออกไปอีก เธอยังไม่อยากมีข่าวอะไรแบบนี้ออกไปซะด้วย
“กูว่าน้องเขาไม่ไปหรอก”
กางเขนพูด เพราะดูจากสิ่งที่ยี่หวากำลังทำ เพื่อนเขาเอาความมั่นหน้ามาจากไหน ที่บอกว่าเธออยากรู้ว่ามันลีลาเด็ด ไม่ใช่โดนเธอไล่กลับมา แล้วมาตู่ว่าเธอชวนไปทำเรื่องอย่างว่า เพื่อหนีหน้าไปซ่อนความอับอายหรอกใช่ไหม
“ก็หวังว่าแบบนั้น”
คิมหันต์มองใบหน้าสวยที่ดูไม่มั่นใจเป็นครั้งแรก เขาไม่ชอบใบหน้าที่ดูคิดไม่ตกของเธอเลย เหมือนเธอกำลังลังเลว่าจะเอายังไง มากกว่าจะพุ่งเข้าใส่ตรงๆ แต่เขาไม่หวังให้เธอทำแบบนั้นจริงๆหรอกนะ อยากเริ่มรู้จักกันแบบปกติมากกว่า
“เห้ย! นั่นจะไปไหนวะ” จิราอุทานเสียงดัง เมื่อเป้าหมายของเพื่อนลุกขึ้นเดินโซเซจากไป โดยไม่เอาอะไรไปด้วยสักอย่าง ทิศทางที่มุ่งไปคือทางออกหลังร้าน มากกว่าเป็นห้องน้ำซะด้วย ไม่ใช่ว่าจะกลับไปทั้งแบบนั้นหรอกนะ
“ตามไปดิ!”
กางเขนกระทุ้งศอกเข้าสีข้างเพื่อน ให้รีบลุกตามเธอไป คิมหันต์เดินไปคว้ากระเป๋าของเธอมาถือ เดินตามไปในทิศทางที่เธอเดินนำไปก่อนด้วยความเร่งรีบ ปล่อยหน้าที่จ่ายเงินค่าเหล้าของเธอ ให้เพื่อนช่วยจัดการ
ดวงตาคู่คมมองซ้ายขวา เพื่อหาคนเมาที่เดินออกมาก่อน เมื่อเห็นเธอยืนพิงสะโพกอยู่ข้างประตูรถคันหรู ใกล้ๆรถของเขาที่จอดอยู่ ก็สาวเท้าเข้าไปหา ด้วยความเร็วเหมือนวิ่ง
“ขับกลับไม่ไหว” ยี่หวาพูดจบก็ยื่นมือออกไปขอกระเป๋าตัวเอง ค้นหากุญแจรถอยู่นาน ก่อนจะโดนคว้าข้อมือเข้าไปนั่งในรถอีกคันที่จอดอยู่ข้างๆ
เฟอรารี่สีแดง! เหมาะกับผู้ชายอย่างเขามากทีเดียว
“คิดดีแล้วใช่ไหมที่ทำแบบนี้”
“ทำไม ลีลาคุณไม่เด็ดอย่างที่โม้ไว้เหรอ”
คิมหันต์อยากจะใช้ปากตัวเองปิดปากช่างเน็บแนมของเธอนัก คนเขาอุตส่าห์เป็นห่วงถึงผลพ่วงที่จะตามมา ยังมีหน้ามาพูดล้อเลียนเขาอีก เธอคิดอะไรอยู่กันแน่ รู้ไหมว่าเรื่องนั้นคืออะไร เธอจะยอมทอดกายให้เขาเชยชมจริงเหรอวะ
“ทำไมป๊อด?”
“เงียบน่า” คิมหันต์ปราบเบาๆ สายตาพยายามโฟกัสที่เส้นทางตรงหน้า มากกว่าคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาต้องจัดการเรื่องต่อจากนี้ยังไง ตอนนี้ในหัวเขามีแต่ความไม่สบายใจเต็มไปหมด
หึ! ยี่หวาพ่นลมหายใจออกไปเบาๆ กำมือสั่นสะท้านไว้แน่นไม่ให้เขามองเห็น ทั้งที่ดื่มไปเยอะมาก แต่เหมือนไม่ได้เมาอย่างที่ตั้งใจให้เป็น แบบนี้ก็แย่นะสิ เธออยากทำทุกอย่างในคืนนี้แบบไม่มีสติ ไม่อยากจดจำสัมผัสของเขาเลย เพราะเธอกลัวว่าหัวใจตัวเองจะหวั่นไหวและจดจำสัมผัสของเขาได้ขึ้นใจ