“เห้อ! ปากหมาอีกแล้ว”
คิมหันต์ถอนหายใจ ขับรถออกไปจากหน้าบ้านเธอด้วยความรวดเร็ว ในหัวตีกันวุ่นวาย ต้องทำยังไง ถึงจะเปลี่ยนนิสัยตัวเองได้
คิมหันต์ต่อโทรศัพท์หาพธู เพื่อนที่ดูเรียบร้อยที่สุดในกลุ่ม เพื่อขอคำชี้แนะ วิธีการพูด และการวางตัวให้เหมาะสม ถ้าต้องการคบกับเธอแบบจริงจัง เขาคิดว่าตัวเองต้องเปลี่ยน พธูคือทางเลือกเดียวที่เขามี
[ว่าไงคิม]
“พธู กูว่ากูต้องเปลี่ยนตัวเองแบบจริงจัง”
คิมหันต์กดเปิดสปิคเกอร์โฟน แล้วโยนโทรศัพท์ลงบนเบาะที่ยี่หวาเคยนั่ง สายตามองถนนอย่างจริงจัง เพราะไม่คุ้นทางขับไปบ้านใหม่ของพธู
[อืม เข้ามาที่บ้านสิ]
“กำลังไป นี่กูต้องลงเรียนไหม”
[ไม่ต้อง ตอนนี่คอร์สเต็มหมดแล้ว เดี๋ยวสอนให้พิเศษ]
“ขอบใจ ไปตอนนี้เลยนะ”
คิมหันต์ขับรถเร็วขึ้น ปล่อยให้พธูทำหน้าที่กดวางสายให้ เขาต้องเปลี่ยนตัวเองให้ได้ก่อน ถึงจะกล้าเข้าหาเธอ ถ้ายังไม่ตรงกับเสปคเธอแบบนี้ มีหวังเธอได้หนีไปซบอกคนอื่นแน่
คิมหันต์มาถึงบ้านใหม่ของพธูโดยที่ไม่หลงทาง แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช้เวลานานเกือบชั่วโมง เพราะบ้านพธูอยู่แถบปริมณฑล การเดินทางสะดวกสบาย แต่ไกลไปหน่อย
ลงจากรถได้ ก็เห็นพธูยืนรออยู่หน้าประตูทางเข้าบ้านขนาดสามชั้น ที่ทำเป็นโรงเรียนสอนมารยาทด้วย คิมหันต์เดินเข้าไปใกล้ พธูรีบยื่นกระดาษให้ เขาจึงรับมาอ่านอย่างงงๆ
“แก่เกินจะสอนแล้ว เอาไปอ่านแล้วปรับแก้เอา” พธูพูดจบก็เดินนำเข้าบ้าน การเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ใช่จะทำก็ทำได้ทันที ต้องมีใจอยากจะทำด้วย
“ยากจังวะพธู ผู้หญิงชอบคำพูดหวานหูพวกนี้เหรอ”
คิมหันต์เบ้ปาก ถ้าเขาต้องพูดอย่างที่พธูลิสต์ตัวอย่างมาให้อย่างในเอกสารพวกนี้ มีหวังยี่หวาเป็นเบาหวานแน่ๆ แต่ละคำเลี่ยนๆทั้งนั้น
“อย่าคิดว่าตัวเองชอบพูดคำหยาบ แล้วคนอื่นจะต้องชอบฟังด้วย คำพูดพวกนั้นคือมารยาทในการพูด มันก็เหมือนเวลาที่คิมคุยเรื่องธุรกิจนั่นแหละ มันก็ต้องเลือกใช้คำเหมือนกัน” พธูนั่งอธิบายอย่างใจเย็น บนโซฟาสีดำสนิท โดยมีแมวพันธุ์บริทิชช็อตแฮร์กระโดนขึ้นมานอนบนตักอย่างเคยตัว
“แล้วมันจะได้ผลเหรอวะ” คิมหันต์ยังไม่ค่อยมั่นใจ ว่าเขาเปลี่ยนแล้ว ทุกอย่างจะถูกใจยี่หวา
“ไม่ลองก็ไม่รู้ใช่ไหม ถ้าไม่อยากทำจะดั้นด้นมาถึงนี่ทำไม”
ใบหน้าหล่อเหลาติดจะเรียบเฉย แต่คิมหันต์ที่เป็นเพื่อนรู้ดีว่ามันซ่อนความรำคาญไว้เยอะมากแค่ไหน พธูวางตัวดี เพราะเป็นครูสอนมารยาทและปรับบุคลิก ไม่ค่อยแสดงออกทางสีหน้า แต่เพื่อนที่คบกันมานานหลายปีแบบเขารู้ดี ว่ามันมีอะไรซ่อนอยู่ข้างในบ้าง
“มีหลักสูตรเร่งรัดไหม”
“เคยใช้วิธีลัดแล้วนี่ ผลเป็นยังไงล่ะ” พธูถามกลับ คิมหันต์ช่างไม่มีความอดทนเอาซะเลย
“ยังต้องรายงานผลให้ฟังอีกเหรอ” เรื่องในคืนนั้นไม่ต้องเล่า เขาคิดว่าเพื่อนทุกคนคงรู้ดี แม้เขาจะได้ตัวเธอ แต่ได้แค่ตัวเท่านั้น ไม่เคยได้อะไรมากไปกว่านั้นอย่างที่หวังไว้เลย
“อืม งั้นก็น่าจะรู้ว่าควรทำยังไง”
พธูไม่ใช่คนขี้เสือก ถ้าเพื่อนไม่อยากเล่า เขาก็ไม่อยากรู้ ถึงแม้จะรู้อยู่แล้ว ว่าระหว่างเพื่อนกับดาราสาวคนนั้น ไปถึงขั้นไหนแล้วก็ตาม
สามวันต่อมา
คิมหันต์ทำตามคำแนะนำในกระดาษที่เพื่อนอุตส่าห์ให้มา แม้จะไม่ชอบใจเนื้อหาด้านใน แต่เขาก็ปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัดมาสามวันแล้ว อะไรที่คิดว่าง่ายก็ดูยากไปหมด เหมือนต้องเป็นคนอื่นอยู่เสมอ อยากจะเลิกทำ แต่พอคิดถึงใบหน้าหวานฉ่ำ ก็ต้องตั้งใจให้มากขึ้น
“ครับ ตกลงตามนั้นนะครับคุณเลิศสิน”
คิมหันต์วางสายจากลูกค้าที่โทรมาติดต่องาน มันก็ดีแหละ การพูดจาสุภาพขึ้น ส่งผลดีหลายอย่าง ลูกค้าเรื่องมากอย่างเลิศสินยังแปลกใจ ซ้ำยังยอมเซ็นสัญญาง่ายๆ เพียงเพราะคำพูดพวกนั้น
“เห็นไหมว่ามันดี”
พธูเดินมาคุยกับเพื่อนที่มาอาศัยอยู่บ้านตัวเองตั้งแต่คืนนั้น และเป็นเขาเองที่ไม่อนุญาตให้คิมหันต์ไปไหน จนกว่าจะวางตัวดีขึ้น ตอนนี้การพูดจาของคิมหันต์ดีขึ้นนิดหน่อย อารมณ์ก็เย็นลงมาก รวมทั้งการวางตัวด้วย ดูสุขุมขึ้น น่าจะเริ่มใกล้เคียงเสปคของยี่หวาแล้วมั้ง
“อือ เห้ย ครับ”
“กับเพื่อนพูดปกติก็ได้ เราไม่ได้คิดมากอะไร เราชอบที่คิมเป็นคิมแบบนี้” พธูหันใบหน้าไปทางอื่น เมื่อเผลอใส่ความรู้สึกของตัวเองลงไปในคำพูด
“ขอบใจ” คิมหันต์ยิ้มให้อย่างรู้กัน เขาไม่ถือสาหรอก เพราะรู้ว่าพธูเป็นอะไร! แบบไหน! เขายังคงทำตัวปกติ และพธูเองพยายามทำตัวปกติเช่นเดียวกัน แม้จะยากกว่าเขาที่ไม่รู้สึกอะไรแบบนั้นเลยก็เถอะ
“เพิ่งเคยเห็นคิมสนใจผู้หญิงมากขนาดนี้”
“ไม่เคยคิดเหมือนกัน ว่าจะสนใจเธอได้ขนาดนี้”
คิมหันต์หัวเราะ เขาไม่รู้จริงๆนะ ตอนแรกแค่ชอบเธอในฐานะแฟนคลับ พอได้เจอก็รู้อยากรู้จัก จนอยากเลื่อนฐานะเป็นคนรู้ใจ และยิ่งได้ครอบครองยิ่งอยากเป็นเจ้าของเธอแค่คนเดียว
“สู้ๆนะ คิมทำได้แน่”
พธูยิ้มกว้างให้กำลังใจ เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้ชายตรงหน้าอีกแล้ว แค่รู้สึกชอบ ตอนนี้ทุกอย่างเหลือไว้เพียงฐานะเพื่อนเท่านั้น ที่พูดคือหวังให้เพื่อนมีความสุขจากใจจริง
“ถ้ามาขอคำแนะนำบ่อยๆ อย่ารำคาญล่ะ นี่ก็ไม่รู้ว่าต้องจีบผู้หญิงยังไง” คิมหันต์ไม่กล้าใช้กูมึงกับพธูอีก นั่นเพราะเกรงใจพธูด้วย และเพราะอยากเปลี่ยนตัวเองจริงๆ ถึงพยายามไม่พูดแบบที่เคยพูด
“ยินดี ตอนนี้น่าจะเริ่มสอบได้แล้วมั้ง”
“ไม่กล้าอะ วันนั้นไล่น้องลงจากรถด้วย”
คิมหันต์คิดถึงความผิดของตัวเองแล้วทำหน้าสลดลง เขาไม่กล้าเสนอหน้าไปหาเธอเลย วันนั้นไล่เธอลงจากรถ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเธอโกรธ และน้อยใจเขามากแค่ไหน ป่านนี้หาผัวใหม่แล้วมั้ง
“ยิ่งโกรธยิ่งต้องเข้าหา นิสัยผู้หญิงเป็นแบบนั้นล่ะ อย่าปล่อยให้โกรธนาน เดี๋ยวจะน้อยใจพาลไปเรื่องอื่นด้วย”
พธูแนะนำ เขาอยู่กับผู้หญิงมาทั้งชีวิต รู้นิสัยผู้หญิงดีกว่านิสัยผู้ชาย จึงกล้าแนะนำเพื่อนไปแบบนั้น
“อ่า งั้นไปเลยนะ”
“ลุยเลย”
คิมหันต์คว้ากุญแจรถจากไปทันที ขับรถออกไปจากบ้านที่เปิดเป็นโรงเรียนสอนมารยาทด้วยความรวดเร็ว จุดมุ่งหมายคือสตูดิโอถ่ายแบบกลางเมืองที่ยี่หวาถ่ายงานอยู่ คิมหันต์เลือกแวะร้านดอกไม้ ได้ดอกกุหลาบสีแดงหนึ่งดอกติดมือไปด้วย
ดอกไม้ที่เธอเคยให้สัมภาษณ์ว่าชอบมากที่สุด!