นอนไม่หลับ...
เสียงมันดังขนาดนั้นใครมันจะไปหลับลง อ่านหนังสือก็ไม่รู้เรื่อง เเถมฉันก็กลัวมากด้วย เกิดไปเคาะประตูห้องข้างๆเเล้วไม่มีใครออกมาเปิดล่ะ หรือถ้าเกิดคนที่ออกมาเปิดเขาไม่ใช่คนฉันจะวิ่งทันไหมเนี่ย!
ห้ะ! ไม่อยากจะคิดเลยว่าฉี่จะราดไหมถ้าเป็นแบบนั้น..
ปึ่ก ปึ่ก ปึ่ก!
"นะโม นะโม นะโม.. นะโมเเล้วอะไรต่อนะ!"
บอกตามตรงว่าตอนนี้ฉันกลัวจนเกิดอาการขี้ขึ้นสมองเเล้ว ไม่กล้าก้าวขาลงจากเตียง ไม่กล้าเเม้เเต่จะมุดตัวออกจากผ้าห่มด้วยซ้ำ
"อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลยนะคะ เดี๋ยวจะทำบุญไปให้ ..ยังไงก็ต่างคนต่างอยู่เถอะนะคะ สาธุ~"
ฉันยกมือขึ้นไหว้เหนือหัว ปากก็ท่องบทสวดที่ไม่เหมือนบทสวดสักเท่าไหร่ เพราะฉันดันจำได้เเค่นะโมนี่สิ ต่อจากนะโมก็จำไม่ได้เเล้ว
"อ้ะ.ะ อ๊า..."
"หะ ?"
เดี๋ยวนะ... เมื่อกี้เหมือนหูมันจะเเว่วได้ยินเสียงผู้หญิง
"เสียงผีป่าววะเนี่ย!" ฉันมุดตัวลงไปใต้ผ้าห่ม นอนก้นโด่งมือก็พนมปากก็สวดกันพัลวัน
สักพักก็ต้องหยุดเเล้วโผล่หัวออกมาจากผ้าห่มเพราะเสียงผีผู้หญิงคนนั้นดังครางชื่อคนออกมาด้วยนี่ดิ
ผีครางด้วยเหรอ ?
"อื้ม.ม อ๊า จะ.. อื้อ.อ"
"จะ..เจย์ ? อะไรนะ.."
พอดึงสติได้ ฉันถึงค่อยๆ ดึงสังขารตัวเองออกมาจากใต้ผ้าห่ม ขาก้าวลงจากเตียงช้าๆเพื่อเอาหูไปเเนบกับกำเเพงชัดๆ
หลายวันที่ผ่านมาฉันเเทบจะไม่เดินเอาตัวเข้าไปเฉียดกับเเพง เเต่คราวนี้ขอใจกล้าเเนบฟังสักครั้ง ไม่งั้นฉันคงไม่มีกระจิตกระใจจะอ่านหนังสือ เพราะถ้ามัวเเต่จิตตกกับเสียงข้างห้องล่ะก็ ฉันคงได้ป่วยจิตเข้าสักวันเเน่
"อ๊าาาา"
ชัดเจน...
ทุกอย่างเหมือนจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆตอนที่เสียงของผู้หญิงเงียบลง เสียงดังนั่นก็เงียบลงเหมือนกัน
เเสดงว่าไอ้เสียงที่ฉันกลัวเนี่ยมันคือเสียงผีผ้าห่มหรอกเหรอ ?
ปั่ก ปั่ก ปั่ก!
"กะ..เกินไปเเล้วนะ!"
อยากจะยกมือทุบกำเเพง เเต่ก็กลัวจะเสียมารยาท ฉันก็พอจะเข้าใจว่ามันคือกิจกรรมส่วนตัวของเขา เเต่มันรบกวนการอ่านหนังสือของฉันนะ จะไม่หยุดยั้งกันเลยหรือไงกัน
ฉันยกมือขึ้นอุดหู ก่อนจะกระโดดกลับมานั่งบนเตียง ทั้งๆที่เสียงจากข้างห้องที่พึ่งเงียบไปไม่ถึงนาทีจะดังขึ้นต่อ
"พรุ่งนี้เจอฉันเเน่ค่ะ คุณเจ้าของห้อง!"
มหาวิทยาลัย
"ยัยจาทางนี้!"
"อืม.."
ฉันเดินลงไปนั่งที่โต๊ะอย่างเหนื่อยอ่อน เมื่อคืนตั้งเเต่รู้ว่าเสียงนั่นมาจากไหนทำเอาฉันกระวนกระวายใจนอนไม่หลับยิ่งกว่าเก่าอีก
นี่ฉันต้องทนนอนฟังทุกคืนเลยใช่ไหมเนี่ย!
"เป็นไรวะ ทำไมเหมือนคนไม่ได้นอนเลย"
ขอบใจนะเพื่อนรักที่มองเห็นว่าเมื่อคืนฉันเเทบจะไม่ได้นอนเลย ฮือ
"เป็นไรเนี่ย มากอดฉันทำไม"
"ชัชชา.. ช่วยฉันด้วย"ฉันพูดเเล้วเบะปากเหมือนคนจะร้องไห้ จนยัยชาตกใจ
เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันเรียกชื่อจริงเพื่อนรักคนนี้เเสดงว่าฉันกำลังมีปัญหาจริงๆ
"เรียกชื่อจริงซะด้วย,, สงสัยจะเครียดจริงว่ะ เเล้วมีปัญหาอะไรอ่ะ"
"นี่"
ฉันส่งคลิปที่อัดจากห้องข้างๆ ให้ชาฟัง ก่อนจะก้มหน้าเเล้วกอดเพื่อนตัวเองเอาไว้เเน่น
"ทำไงดี"
"ก็เรื่องธรรมชาตินี่ ไม่มีอะไรหรอก"
ใช่ เเวบเเรกในหัวฉันก็เคยคิดจะให้อภัยข้างห้องแบบนี้ จนกระทั่งมันหนักสุดยันตีห้า กำเเพงสั่นอย่างกับเเผ่นดินไหว เเบบนี้ใครจะอดทนไหวกัน
"เเต่มันยันเช้าเลย ฉันเเทบไม่ได้นอนเลย เสียงนี่ทำฉันหลอนหูมาหลายวันเเล้ว.."ฉันบอกเสียงเหมือนคนจะร้องไห้ไปด้วย
"เเล้วเจอเจ้าของห้องหรือยัง ลองคุยดูก่อนก็ได้ เผื่อจะดีขึ้น"
"ฉันไม่เคยเจอเจ้าของห้อง เเม้เเต่เงาก็ไม่เคยเห็น.."ฉันว่าเสียงค่อย
"หรือจะย้ายคอนโดดี"
"ที่นี่ใกล้มหา'ลัยสุดเเล้ว ไม่อยากไปไกลกว่านี้กลัวป๊าเป็นห่วง"
"นั่นดิ.. เอาไงดีอ่ะ"
ปัญหานี้มันจะไม่เกิดปัญหาเลยถ้าพวกเขาทำกิจกรรมที่มันไม่รบกวนคนอื่นเขา ฉันก็อยากจะใช้ชีวิตที่สงบสุขเหมือนกับคนอื่นเขาบ้างนะ
"เอางี้เเกลองคุยกับเจ้าของห้องก่อน ถ้าเขาว่ายังไงเดี๋ยวเราค่อยหาทางเเก้อีกที.."
"เหรอ..." ฉันเงยหน้าเเล้วยู่ปากใส่
"ไม่มีวิธีอื่นเเล้วนี่"ยัยชาว่า่เเล้วขำเเห้งใส่
ฉันปล่อยยัยชา ก่อนจะกลับมานั่งเหมือนหมาหงอยเเล้วถอนหายใจเบาๆ ถ้าวันนี้ไม่เจอเจ้าของห้องเเล้วคุยเรื่องนี้กันให้รู้เรื่อง ฉันก็จะไม่ถอยให้หรอกนะ เพราะฉันจะไม่ยอมถอยจากห้องนั้นเด็ดขาด กว่าจะได้มาไม่ใช่ง่ายๆเลยนะ
ป๊าก็ดุ ม๊าก็ห่วง ถ้ารู้ว่าฉันต้องอยู่ห้องนี้มีหวังลากตัวกลับบ้านเเทบไม่ทันเเน่...
"ช่างเถอะ เเต่เย็นนี้ไปกินบิงซูกัน"
"เอ้า ฉันนึกว่าเเกจะมีนัดกับพี่เเทน ก็ว่าจะชวนไปกินเค้กด้วยกัน"
"พี่เเทนคงไม่ค่อยว่างช่วงนี้ เขาน่าจะเรียนหนัก.."
"อ่อเหรอ.."
"อื้ม งั้นเย็นนี้ไปกันบิงซูกันนะ"ฉันพูดเสียงค่อย เเรงจะพูดยังโดนดูดพลังไปเกือบหมด เเล้ววันนี้ฉันจะเรียนรู้เรื่องไหมล่ะเนี่ย
"เออๆ ใจเย็นนะเเก เดี๋ยวทุกอย่างมันคงจะดีขึ้น"ยัยชาพูดปล่อย ก่อนจะตบบ่าฉันเบาๆ ไปด้วย
JR - CONDO
'สู้ๆนะยัยจา!'
บิงซูเต็มท้อง เเต่กลับทำให้ฉันรู้สึกเหวงื่อเเตกพลั่กๆอย่างบอกไม่ถูก ฉันเดินผ่านห้องข้างๆด้วยอาการใจสั่นๆ ก่อนจะทำเดินเลยไปเเล้วก็วกกลับมาที่หน้าห้องเขาใหม่
อยู่หรือเปล่านะ..
"เอาไงดี.."
นั่งคิดมาตั้งเเต่อยู่บนรถจนมาถึงหน้าห้องนี้ฉันก็ยังไม่มั่นใจว่าจะทำมันดีไหม
ในใจลึกๆ ก็กลัวมากอีกนั่นเเหละ ฉันไม่มีทางรู้ได้เลยนี่ว่านิสัยใจคอของเพื่อนข้างห้องเป็นยังไง
"เอาวะ"
ฉันชะงัก ก่อนที่จะลดมือลงเเล้วสูดลมหายใจเขาลึกๆ มือข้างซ้ายทาบหน้าอกเอาไว้กันหัวใจวายไปซะก่อน
เอาก็เอา!
ก๊อก ก๊อก!
พอเคาะเสร็จก็หลับตาปี๋ไปตามสเต็ป ก่อนที่เสียงประตูจะเปิดขึ้นเเต่ก็ใช้เวลาอยู่เหมือนกันกว่าที่มันจะเปิดออก
ลืมตาได้หรือยังนะ..
ชะเเว้บ..
ฉันค่อยๆ ลืมตาข้างนึงเพื่อมองภาพตรงหน้า เเต่ก็ต้องเบิกตาโพลงจนตาเเทบจะทะลักออกมาจากเบ้า เนื่องจากบุคคลปริศนาที่มาเปิดดันเดินเปลือยท่อนบนออกมา เเถมกางเกงที่ใส่ก็ทั้งสั้นทั้งบาง
...บางชนิดที่ว่าน่าจะเช่นข้างในตับไตไส้พุงจนหมดเกลี้ยง
"ตาฉัน!"
"เธอ!"
เดี๋ยวนะ..
เสียงนี้มันคุ้นๆ ถึงในชีวิตฉันจะเจอผู้คนไม่มาก เเต่น้ำเสียงที่ดูมีเอกลัษณ์แบบนี้ฉันจำได้เเม่นเลย
"นาย.."
ผู้ชายคนนั้น... คนที่ฉันเหยียบเเว่นตาเขาเมื่อวานที่มอนี่
ผู้ชายข้างห้องฉันคือเขางั้นเหรอ ?
"ยัยตัวซวย"
"มะ..เมื่อกี้ว่าไงนะ"
ได้ยินไม่ค่อยถนัดเลย ชมว่าฉันสวยหรือซวยๆ อะไรสักอย่าง
"เป็นโรคจิตเหรอไง"เขาถามเสียงเรียบ นัยน์ตาดุดัน คำพูดคำจาก็ดูแข็งก้าวไม่ค่อยเป็นมิตรเอาซะเลย
"ดะ เดี๋ยวก่อน คือช่วยฟังฉันก่อน.."
พอจะเข้าเรื่อง ตามันก็ดันมองต่ำไปเจอส่วนที่ไม่เคยจะมอง ขืนคุยกันในสภาพนี้ฉันคงเป็นลมจับก่อนเเน่ๆ
"ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วย เเต่ช่วยไปเปลี่ยนชุดที่มันดีกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง"ฉันว่าเเล้วหันหน้าไปทางอื่น
"นึกว่าชอบ"
เสียงฮึในลำคอเขาดังขึ้นเหมือนจะชอบใจ เเต่ใครจะไปชอบมองเขากัน โรคจิตป่ะเนี่ยถามจริงเหอะ
"ชอบ ?"
"ข้างใน"
"หะ ?" ฉันเลิกคิ้วถามด้วยความไม่เข้าใจ
"เข้ามา ข้างใน"
ประหยัด โคตรประหยัดเลย โดยเฉพาะคำพูดเวลาจะสนทนากันเนี่ย
เอาจริงดิพ่อคุณ ?
"ยืนคุยตรงนี้ดีกว่า ฉันไม่สะดวกคุยในห้องค่ะ"
"ตามใจ"
"เดี๋ยวก่อน!"ฉันเรียกเขาไว้ตอนที่เจ้าตัวจะปิดประตูใส่
"น่ารำคาญ"
ฉันถึงกับไปไม่เป็นตอนเห็นเขาหันมามองฉันด้วยสายตาเย็นยะเยือก จนไม่กล้าที่จะพูดอะไรต่อ
เขาหันกลับมากอดอกเเล้วพิงประตูมองหน้านิ่งๆ ต่างคนต่างเงียบใส่กันแบบนี้ ชาตินี้คงไม่รู้เรื่องหรอก
เอาไงดี
"คือว่า.."
คนตัวสูงกว่าเลิกคิ้วถามน้อยๆ เเต่เเววตากับนิ่งเรียบราวกับว่าเบื่อโลกเต็มที
"คือว่าฉัน.."
เอาไงดีอ่ะ ถ้าเรื่องนี้มันพูดง่ายเหมือนทักทายเพื่อนบ้านก็คงจะดี...
"คือเอ่อ..."
ติดอยู่มุมปากเนี่ยยัยจา พูดออกไปสักทีสิ!
"นี่"
หมับ!
ฟุ่บ!
ไม่ทันที่จะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ มือหนาที่มีพละกำลังมากกว่าก็กระชากเเขนฉันให้เข้าไปในห้อง ก่อนจะดันเเผ่นหลังฉันติดกับผนังห้องเเล้วโถมตัวเข้ามาประชิดร่างกายฉันทันที
อะ..อันตราย
ผู้ชายคนนี้อันตรายชะมัด!
ปากร้าย... ชอบใช้กำลัง...
"ถ้าอยากจะนอนกับฉัน...อย่าเยอะ"
"..." ฉันยืนตัวเเข็งทื่อ ปล่อยให้ลมร้อนจากริมฝีปากเขาวิ่งผ่านหูอย่างไม่เต็มใจ
นอนกับเขางงั้นเหรอ ไปพูดตอนไหนว่าอยากจะนอนด้วยน่ะ หา
"มันน่ารำคาญ"