EPISODE 2 :: เพื่อนข้างห้อง

1707 Words
นอนไม่หลับ... เสียงมันดังขนาดนั้นใครมันจะไปหลับลง อ่านหนังสือก็ไม่รู้เรื่อง เเถมฉันก็กลัวมากด้วย เกิดไปเคาะประตูห้องข้างๆเเล้วไม่มีใครออกมาเปิดล่ะ หรือถ้าเกิดคนที่ออกมาเปิดเขาไม่ใช่คนฉันจะวิ่งทันไหมเนี่ย! ห้ะ! ไม่อยากจะคิดเลยว่าฉี่จะราดไหมถ้าเป็นแบบนั้น.. ปึ่ก ปึ่ก ปึ่ก! "นะโม นะโม นะโม.. นะโมเเล้วอะไรต่อนะ!" บอกตามตรงว่าตอนนี้ฉันกลัวจนเกิดอาการขี้ขึ้นสมองเเล้ว ไม่กล้าก้าวขาลงจากเตียง ไม่กล้าเเม้เเต่จะมุดตัวออกจากผ้าห่มด้วยซ้ำ "อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลยนะคะ เดี๋ยวจะทำบุญไปให้ ..ยังไงก็ต่างคนต่างอยู่เถอะนะคะ สาธุ~" ฉันยกมือขึ้นไหว้เหนือหัว ปากก็ท่องบทสวดที่ไม่เหมือนบทสวดสักเท่าไหร่ เพราะฉันดันจำได้เเค่นะโมนี่สิ ต่อจากนะโมก็จำไม่ได้เเล้ว "อ้ะ.ะ อ๊า..." "หะ ?" เดี๋ยวนะ... เมื่อกี้เหมือนหูมันจะเเว่วได้ยินเสียงผู้หญิง "เสียงผีป่าววะเนี่ย!" ฉันมุดตัวลงไปใต้ผ้าห่ม นอนก้นโด่งมือก็พนมปากก็สวดกันพัลวัน สักพักก็ต้องหยุดเเล้วโผล่หัวออกมาจากผ้าห่มเพราะเสียงผีผู้หญิงคนนั้นดังครางชื่อคนออกมาด้วยนี่ดิ ผีครางด้วยเหรอ ? "อื้ม.ม อ๊า จะ.. อื้อ.อ" "จะ..เจย์ ? อะไรนะ.." พอดึงสติได้ ฉันถึงค่อยๆ ดึงสังขารตัวเองออกมาจากใต้ผ้าห่ม ขาก้าวลงจากเตียงช้าๆเพื่อเอาหูไปเเนบกับกำเเพงชัดๆ หลายวันที่ผ่านมาฉันเเทบจะไม่เดินเอาตัวเข้าไปเฉียดกับเเพง เเต่คราวนี้ขอใจกล้าเเนบฟังสักครั้ง ไม่งั้นฉันคงไม่มีกระจิตกระใจจะอ่านหนังสือ เพราะถ้ามัวเเต่จิตตกกับเสียงข้างห้องล่ะก็ ฉันคงได้ป่วยจิตเข้าสักวันเเน่ "อ๊าาาา" ชัดเจน... ทุกอย่างเหมือนจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆตอนที่เสียงของผู้หญิงเงียบลง เสียงดังนั่นก็เงียบลงเหมือนกัน เเสดงว่าไอ้เสียงที่ฉันกลัวเนี่ยมันคือเสียงผีผ้าห่มหรอกเหรอ ? ปั่ก ปั่ก ปั่ก! "กะ..เกินไปเเล้วนะ!" อยากจะยกมือทุบกำเเพง เเต่ก็กลัวจะเสียมารยาท ฉันก็พอจะเข้าใจว่ามันคือกิจกรรมส่วนตัวของเขา เเต่มันรบกวนการอ่านหนังสือของฉันนะ จะไม่หยุดยั้งกันเลยหรือไงกัน ฉันยกมือขึ้นอุดหู ก่อนจะกระโดดกลับมานั่งบนเตียง ทั้งๆที่เสียงจากข้างห้องที่พึ่งเงียบไปไม่ถึงนาทีจะดังขึ้นต่อ "พรุ่งนี้เจอฉันเเน่ค่ะ คุณเจ้าของห้อง!" มหาวิทยาลัย "ยัยจาทางนี้!" "อืม.." ฉันเดินลงไปนั่งที่โต๊ะอย่างเหนื่อยอ่อน เมื่อคืนตั้งเเต่รู้ว่าเสียงนั่นมาจากไหนทำเอาฉันกระวนกระวายใจนอนไม่หลับยิ่งกว่าเก่าอีก นี่ฉันต้องทนนอนฟังทุกคืนเลยใช่ไหมเนี่ย! "เป็นไรวะ ทำไมเหมือนคนไม่ได้นอนเลย" ขอบใจนะเพื่อนรักที่มองเห็นว่าเมื่อคืนฉันเเทบจะไม่ได้นอนเลย ฮือ "เป็นไรเนี่ย มากอดฉันทำไม" "ชัชชา.. ช่วยฉันด้วย"ฉันพูดเเล้วเบะปากเหมือนคนจะร้องไห้ จนยัยชาตกใจ เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันเรียกชื่อจริงเพื่อนรักคนนี้เเสดงว่าฉันกำลังมีปัญหาจริงๆ "เรียกชื่อจริงซะด้วย,, สงสัยจะเครียดจริงว่ะ เเล้วมีปัญหาอะไรอ่ะ" "นี่" ฉันส่งคลิปที่อัดจากห้องข้างๆ ให้ชาฟัง ก่อนจะก้มหน้าเเล้วกอดเพื่อนตัวเองเอาไว้เเน่น "ทำไงดี" "ก็เรื่องธรรมชาตินี่ ไม่มีอะไรหรอก" ใช่ เเวบเเรกในหัวฉันก็เคยคิดจะให้อภัยข้างห้องแบบนี้ จนกระทั่งมันหนักสุดยันตีห้า กำเเพงสั่นอย่างกับเเผ่นดินไหว เเบบนี้ใครจะอดทนไหวกัน "เเต่มันยันเช้าเลย ฉันเเทบไม่ได้นอนเลย เสียงนี่ทำฉันหลอนหูมาหลายวันเเล้ว.."ฉันบอกเสียงเหมือนคนจะร้องไห้ไปด้วย "เเล้วเจอเจ้าของห้องหรือยัง ลองคุยดูก่อนก็ได้ เผื่อจะดีขึ้น" "ฉันไม่เคยเจอเจ้าของห้อง เเม้เเต่เงาก็ไม่เคยเห็น.."ฉันว่าเสียงค่อย "หรือจะย้ายคอนโดดี" "ที่นี่ใกล้มหา'ลัยสุดเเล้ว ไม่อยากไปไกลกว่านี้กลัวป๊าเป็นห่วง" "นั่นดิ.. เอาไงดีอ่ะ" ปัญหานี้มันจะไม่เกิดปัญหาเลยถ้าพวกเขาทำกิจกรรมที่มันไม่รบกวนคนอื่นเขา ฉันก็อยากจะใช้ชีวิตที่สงบสุขเหมือนกับคนอื่นเขาบ้างนะ "เอางี้เเกลองคุยกับเจ้าของห้องก่อน ถ้าเขาว่ายังไงเดี๋ยวเราค่อยหาทางเเก้อีกที.." "เหรอ..." ฉันเงยหน้าเเล้วยู่ปากใส่ "ไม่มีวิธีอื่นเเล้วนี่"ยัยชาว่า่เเล้วขำเเห้งใส่ ฉันปล่อยยัยชา ก่อนจะกลับมานั่งเหมือนหมาหงอยเเล้วถอนหายใจเบาๆ ถ้าวันนี้ไม่เจอเจ้าของห้องเเล้วคุยเรื่องนี้กันให้รู้เรื่อง ฉันก็จะไม่ถอยให้หรอกนะ เพราะฉันจะไม่ยอมถอยจากห้องนั้นเด็ดขาด กว่าจะได้มาไม่ใช่ง่ายๆเลยนะ ป๊าก็ดุ ม๊าก็ห่วง ถ้ารู้ว่าฉันต้องอยู่ห้องนี้มีหวังลากตัวกลับบ้านเเทบไม่ทันเเน่... "ช่างเถอะ เเต่เย็นนี้ไปกินบิงซูกัน" "เอ้า ฉันนึกว่าเเกจะมีนัดกับพี่เเทน ก็ว่าจะชวนไปกินเค้กด้วยกัน" "พี่เเทนคงไม่ค่อยว่างช่วงนี้ เขาน่าจะเรียนหนัก.." "อ่อเหรอ.." "อื้ม งั้นเย็นนี้ไปกันบิงซูกันนะ"ฉันพูดเสียงค่อย เเรงจะพูดยังโดนดูดพลังไปเกือบหมด เเล้ววันนี้ฉันจะเรียนรู้เรื่องไหมล่ะเนี่ย "เออๆ ใจเย็นนะเเก เดี๋ยวทุกอย่างมันคงจะดีขึ้น"ยัยชาพูดปล่อย ก่อนจะตบบ่าฉันเบาๆ ไปด้วย JR - CONDO 'สู้ๆนะยัยจา!' บิงซูเต็มท้อง เเต่กลับทำให้ฉันรู้สึกเหวงื่อเเตกพลั่กๆอย่างบอกไม่ถูก ฉันเดินผ่านห้องข้างๆด้วยอาการใจสั่นๆ ก่อนจะทำเดินเลยไปเเล้วก็วกกลับมาที่หน้าห้องเขาใหม่ อยู่หรือเปล่านะ.. "เอาไงดี.." นั่งคิดมาตั้งเเต่อยู่บนรถจนมาถึงหน้าห้องนี้ฉันก็ยังไม่มั่นใจว่าจะทำมันดีไหม ในใจลึกๆ ก็กลัวมากอีกนั่นเเหละ ฉันไม่มีทางรู้ได้เลยนี่ว่านิสัยใจคอของเพื่อนข้างห้องเป็นยังไง "เอาวะ" ฉันชะงัก ก่อนที่จะลดมือลงเเล้วสูดลมหายใจเขาลึกๆ มือข้างซ้ายทาบหน้าอกเอาไว้กันหัวใจวายไปซะก่อน เอาก็เอา! ก๊อก ก๊อก! พอเคาะเสร็จก็หลับตาปี๋ไปตามสเต็ป ก่อนที่เสียงประตูจะเปิดขึ้นเเต่ก็ใช้เวลาอยู่เหมือนกันกว่าที่มันจะเปิดออก ลืมตาได้หรือยังนะ.. ชะเเว้บ.. ฉันค่อยๆ ลืมตาข้างนึงเพื่อมองภาพตรงหน้า เเต่ก็ต้องเบิกตาโพลงจนตาเเทบจะทะลักออกมาจากเบ้า เนื่องจากบุคคลปริศนาที่มาเปิดดันเดินเปลือยท่อนบนออกมา เเถมกางเกงที่ใส่ก็ทั้งสั้นทั้งบาง ...บางชนิดที่ว่าน่าจะเช่นข้างในตับไตไส้พุงจนหมดเกลี้ยง "ตาฉัน!" "เธอ!" เดี๋ยวนะ.. เสียงนี้มันคุ้นๆ ถึงในชีวิตฉันจะเจอผู้คนไม่มาก เเต่น้ำเสียงที่ดูมีเอกลัษณ์แบบนี้ฉันจำได้เเม่นเลย "นาย.." ผู้ชายคนนั้น... คนที่ฉันเหยียบเเว่นตาเขาเมื่อวานที่มอนี่ ผู้ชายข้างห้องฉันคือเขางั้นเหรอ ? "ยัยตัวซวย" "มะ..เมื่อกี้ว่าไงนะ" ได้ยินไม่ค่อยถนัดเลย ชมว่าฉันสวยหรือซวยๆ อะไรสักอย่าง "เป็นโรคจิตเหรอไง"เขาถามเสียงเรียบ นัยน์ตาดุดัน คำพูดคำจาก็ดูแข็งก้าวไม่ค่อยเป็นมิตรเอาซะเลย "ดะ เดี๋ยวก่อน คือช่วยฟังฉันก่อน.." พอจะเข้าเรื่อง ตามันก็ดันมองต่ำไปเจอส่วนที่ไม่เคยจะมอง ขืนคุยกันในสภาพนี้ฉันคงเป็นลมจับก่อนเเน่ๆ "ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วย เเต่ช่วยไปเปลี่ยนชุดที่มันดีกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง"ฉันว่าเเล้วหันหน้าไปทางอื่น "นึกว่าชอบ" เสียงฮึในลำคอเขาดังขึ้นเหมือนจะชอบใจ เเต่ใครจะไปชอบมองเขากัน โรคจิตป่ะเนี่ยถามจริงเหอะ "ชอบ ?" "ข้างใน" "หะ ?" ฉันเลิกคิ้วถามด้วยความไม่เข้าใจ "เข้ามา ข้างใน" ประหยัด โคตรประหยัดเลย โดยเฉพาะคำพูดเวลาจะสนทนากันเนี่ย เอาจริงดิพ่อคุณ ? "ยืนคุยตรงนี้ดีกว่า ฉันไม่สะดวกคุยในห้องค่ะ" "ตามใจ" "เดี๋ยวก่อน!"ฉันเรียกเขาไว้ตอนที่เจ้าตัวจะปิดประตูใส่ "น่ารำคาญ" ฉันถึงกับไปไม่เป็นตอนเห็นเขาหันมามองฉันด้วยสายตาเย็นยะเยือก จนไม่กล้าที่จะพูดอะไรต่อ เขาหันกลับมากอดอกเเล้วพิงประตูมองหน้านิ่งๆ ต่างคนต่างเงียบใส่กันแบบนี้ ชาตินี้คงไม่รู้เรื่องหรอก เอาไงดี "คือว่า.." คนตัวสูงกว่าเลิกคิ้วถามน้อยๆ เเต่เเววตากับนิ่งเรียบราวกับว่าเบื่อโลกเต็มที "คือว่าฉัน.." เอาไงดีอ่ะ ถ้าเรื่องนี้มันพูดง่ายเหมือนทักทายเพื่อนบ้านก็คงจะดี... "คือเอ่อ..." ติดอยู่มุมปากเนี่ยยัยจา พูดออกไปสักทีสิ! "นี่" หมับ! ฟุ่บ! ไม่ทันที่จะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ มือหนาที่มีพละกำลังมากกว่าก็กระชากเเขนฉันให้เข้าไปในห้อง ก่อนจะดันเเผ่นหลังฉันติดกับผนังห้องเเล้วโถมตัวเข้ามาประชิดร่างกายฉันทันที อะ..อันตราย ผู้ชายคนนี้อันตรายชะมัด! ปากร้าย... ชอบใช้กำลัง... "ถ้าอยากจะนอนกับฉัน...อย่าเยอะ" "..." ฉันยืนตัวเเข็งทื่อ ปล่อยให้ลมร้อนจากริมฝีปากเขาวิ่งผ่านหูอย่างไม่เต็มใจ นอนกับเขางงั้นเหรอ ไปพูดตอนไหนว่าอยากจะนอนด้วยน่ะ หา "มันน่ารำคาญ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD