รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของครองฤทธิ์ระบายทั่วหน้าเมื่อเห็นสีหน้าและแววตาครุ่นคิดอย่างรู้สึกผิดของสีตลา
“เธอทำให้คุณแม่ฉันช็อก แต่ท่านก็ยังใจดี เดินทางมาสู่ขอเธอตามประเพณี โฉนดที่ดิน เธอก็ได้คืนจากคุณลุงหมอวินัยไปแล้ว เพราะเธอทำให้ฉันแต่งงานกับเธอได้แล้วย้ายกลับมาบนดอย คราวนี้ทีฉันบ้าง คุณแม่ฉัน ท่านอยากอุ้มหลาน แล้วยื่นคำขาดว่าระหว่างฉันกับยัยพลอย ใครมีหลานให้ท่านอุ้มได้ก่อน ท่านจะยกโรงพยาบาลวนารมย์ธานีให้เป็นของขวัญหลาน เพราะฉะนั้น เธอต้องท้องลูกของเรา เพราะฉันไม่มีทางปล่อยให้โรงพยาบาลแรกที่พ่อกับแม่สร้างมาด้วยสมองและสองมือถูก ‘นายตฤน’ ที่พยายามทำตัวเป็นปลิงเกาะน้องสาวฉันได้มันไปหรอก
ครองฤทธิ์รู้ว่าลุงหมอวินัย พี่ชายของพ่อ เป็นพ่อหม้ายเพราะภรรยาถูกรถชนตายไปตั้งแต่เขาอายุได้แปดขวบ หมอวินัยจึงรับลูกเลี้ยงซึ่งเป็นลูกของน้องสาวภรรยามาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมและส่งเสียให้เล่าเรียน รักเหมือนลูกแท้ๆ แต่ไม่คิดเลยว่าลุงของเขาจะเชียร์ให้ลูกเลี้ยงมาตกล่องปล่องชิ้นจีบน้องสาวเขา ซึ่งหมอพลอย น้องสาวเขามีนิสัยแตกต่างจากนายตฤนคนนั้นที่มีอาชีพเป็นวิศวกรปิโตรเลียม ชีวิตกับการเจาะขุดน้ำมันกลางทะเล
เขาไม่รู้เลยว่ายัยพลอยไปคบกับมันตอนไหน ทั้งเวลาและทุกสิ่งทุกอย่างของสองคนนั่นสวนทางราวกับขั้วบวกกับขั้วลบ แต่จู่ๆ มารดาก็ส่งข่าวมาว่ายัยพลอยจะหมั้นกับนายตฤน และแม่น้องสาวตัวดียังโทร.มาเซ้าซี้ขอวิธีผลิตทายาทอย่างเร่งด่วนจากเขาอีก
ครองฤทธิ์โคลงศีรษะไปมาพลางกวาดสายตามองสาวสวยตรงหน้าอย่างจับผิด “ถ้าเธอไม่ร่วมมือกับลุงวินัยไปหลอกแม่ฉันก่อน ว่าฉันได้เธอเป็นเมียแล้วทิ้งขว้างหนีกลับกรุงเทพฯ จนเธอต้องหอบผ้าไปตามผัว คุณแม่คงไม่บังคับให้ฉันต้องรับผิดชอบเธอหรอก”
สีตลาเถียงเขาไม่ออกเพราะสิ่งที่เขาพูดมา มันถูกต้องทุกอย่าง
“เธอรู้จักคำว่ากรรมไหม ก. = การกระทำที่เลวร้ายของเธอไง ร. = ระวังดีๆ ล่ะ มันกำลังตามเธออยู่ อีก ร. = รวดเร็วทันใจ และสุดท้าย ม. = มันกำลังตามทวงเธอให้ใช้หนี้มันเร็วๆ นี้”
เขาพูดมาซะขนาดนี้ สีตลาเดาได้ว่าค่ำคืนนี้มีอะไรพิเศษแน่ แต่จะว่าเธอก่อกรรมไว้กับเขาคนเดียวก็ไม่ถูก เขาก็ดันฉลาดรู้ทันญาติผู้ใหญ่คนเดียวของตัวเอง แล้วกำลังหลอกกลับ ไม่ยอมถูกโกง
สีตลามองหน้าเขาเคืองๆ เธอไม่ใช่คนโง่ทำไมจะดูไม่ออก อ้าปากโชว์ลิ้นให้เธอดูขนาดนี้ ผู้ชายคนนี้มีแผนร้ายอะไรอีก นี่หรือคนดีที่สังคมต้องการ
‘ไข้ฮาก แหวะ’ (อยากอ้วก แหวะ)
สีตลาแอบประชดคนมั่นหน้ามั่นหนวดที่ยืนกอดอกมองเธอราวกับรู้ว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่า
“อ้ายครองฤทธิ์อู้มาต๋ามซื่อก่ะได้ จะใจ้หื้อสีตลายะอะหยัง” (พี่ครองฤทธิ์พูดมาตามตรงก็ได้จะใช้ให้สีตลาทำอะไร)
“ฉลาด ดีมาก งั้นฉันไม่พูดอ้อมค้อมให้เสียเวลา ฉันอยากมีลูกเร่งด่วนแซงหน้ายัยพลอย เธอช่วยเป็นแม่ของลูกให้ฉันที”
“หา!” สีตลาลองมองประเมินด้วยสายตา สีหน้าเขาจริงจังไม่ได้พูดเล่น และคนอย่างเขาก็ไม่ใช่คนที่ชอบพูดเล่น
แม่คนดูเซื่องๆ เวลาถูกเขาแกล้งว่าชอบทำหน้าซึมๆ แต่เอาจริงๆ สีตลาเป็นผู้หญิงฉลาดรู้เท่าทันภายใต้สีหน้าท่าทางนิ่งๆ
“ฉันอยากให้เธอแกล้งท้อง เธอต้องท้องตัดหน้าหมอพลอยน้องสาวฉัน เหตุผลเพราะฉันต้องการโรงพยาบาลวนารมย์ธานี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในเครือวนารมย์ คุณแม่จะมอบโรงพยาบาลแห่งนี้ให้กับหลานคนแรก”
สีตลามองสบตาเขาก่อนถาม พร้อมให้คะแนนติดลบสิบอยู่ในใจ เมื่อก่อน เธอคิดว่าเขามาทำงานบนดอยเพราะปณิธานอันแรงกล้าทิ้งความศิวิไลซ์มาช่วยรักษาผู้คนบนดอย แต่เวลานี้ เธอคิดผิดไปมั้ง แต่อีกความคิดหนึ่งก็ผุดแทรก ในเมื่อมีคนจ้องฮุบเอาสมบัติของครอบครัวเขาไปด้วยการหลอกน้องสาวเขาไปเป็นพวก และคนๆ นั้นก็เป็นคนที่เขาเคารพมากเสียด้วยเพราะเป็นลุงแท้ๆ ถ้าเป็นเธอล่ะ เธอจะทำแบบเขาหรือเปล่า สีตลายังคิดไม่ตก แต่ปัญหาคือเธอกำลังถูกลากให้ไปอยู่ในแผนการนี้ด้วย ใครจะไปคิดว่าหมอที่สวมเสื้อกาวน์สีขาวสะอาด อีกด้านก็มีมุมมืดดำ
‘จ๋อมโจ๋รในคราบนักบุญ’ (วายร้ายในคราบนักบุญ)
“ว่าไง อย่าคิดเยอะ ฉันต้องการคำตอบ”
สีตลาถลึงตามองเขา “แกล้งต๊อง ก่ะคือต๊องบะแต๊น่ะก่ะ” (แกล้งท้อง ก็คือท้องไม่จริงน่ะสิ)
“ใช่ แกล้งท้อง ภาษาชาวบ้านคือโกหกว่าท้องไง” ครองฤทธิ์มองหน้าแม่ตัวแสบอย่างนึกหมั่นไส้ “หรือถ้าเธอไม่อยากแกล้งท้อง จะให้แนบเนียนกว่านั้น เธอจะลองท้องดูสักครั้งไหม มีลูกให้ฉันสักคน แล้วจากนั้นค่อยแยกย้าย ทางใครทางมัน แบบนี้เนียนมากกว่าไหม” ครองฤทธิ์ผุดรอยยิ้มร้ายกาจ
ตรงข้ามกับสีตลาที่รีบกัดฟันตอบเขาไป “บะเจ้า ต๊องแต๊ ข้าเจ้าบะสะดวก” (ไม่ค่ะ ท้องจริง ฉันไม่สะดวก)
สีตลาเสียงแข็ง ใบหน้านวลร้อนผ่าว ถ้าท้องจริงนั่นก็หมายความว่าเธอกับเขาต้องมีซัมธิงกันจริงๆ ให้ตาย เธอไม่ยอมให้เขาเอากระบอกไฟฉายทั้งด้ามยัดเยียดเข้าไปในอุ้งเชิงกรานเด็ดขาด สีตลาจำได้ดีถึงคำอวดอ้างสรรพคุณของเขาในห้องตรวจวันนั้น ฟังแล้วชวนขนลุก ถ้าจะใหญ่ขนาดนั้น ให้เขาเก็บไปใช้กับเมียตัวจริงของเขาก็แล้วกัน