วาคิน

1239 Words
เชอร์รีน พาร่างกายบอบช้ำของตัวเองลงมานั่งทานอาหารเช้ากับพวกลูกชาย ถึงแม้จะสั่งทานในห้องได้ แต่เธอก็รู้สึกว่าจะเป็นการเสียมารยาทถ้าไม่ลงมาทาน เพราะวันนี้เป็นวันที่เจ้าพ่อกลับมาบ้าน และเขาจะไม่อยู่อีก 1 อาทิตย์ การนั่งกินข้าวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ผู้เอ่ยวาจาคนแรกก็จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าพ่อ “เชอร์รีน ระหว่างนี้ถ้าเธอจะไปไหนมาไหนให้ใช้รถของบ้าน แต่ถ้าเธออยากขับเองก็ไปเรียนขับรถ จะได้ขับไปมหาลัยได้” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่แฝงไปด้วยการออกคำสั่ง “ค่ะ” เชอร์รีนไม่รู้จะพูดอะไรเพราะกลัวพูดไม่ถูกใจและโดนทำร้ายอีก แค่นี้เธอก็บอบช้ำพอสมควรแล้ว ที่หน้าเธอยังมีรอยฝ่ามืออยู่เลย “ถึงจะเรียนคนละที่กัน แต่วาคินเป็นคนที่พึ่งพาได้ เธอสามารถพึ่งพาเขาได้” เขาหันมองหน้าวาคินลูกชายคนโต น้ำเสียงเจือไปด้วยการออกคำสั่งผู้เป็นลูกชายพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ นี่คือเหตุผลที่เขาทำดีกับเธอสินะ เชอร์รีนได้แต่คิดในใจ “แล้วเจ้าวายุ เห็นว่าเรียนอยู่ที่เดียวกันไม่ใช่หรอ” เขาหันไปถามลูกชายคนเล็กด้วยท่าทีอ่อนลง เหมือนเขาจะรักหมอนี่มากหรือเปล่าทำไมทำเสียงอ่อนเสียงหวานใส่ลูกชายคนเล็กขนาดนั้นล่ะ เชอร์รีนได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ “เรียนที่เดียวกันแต่คนละคณะครับป๊า และผมก็ไม่รับฝากเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบนี้ด้วย อายคนอื่นตายชัก” เขาพูดแล้วมองเหยียดมายังเชอร์รีนอย่างแรง ทำเอาเชอร์รีนเจ็บใจจนกำมือแน่น แต่ก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรไป “น้อยๆ หน่อย วายุ อย่างน้อยเขาก็เมียแต่งป๊า ดูแลเขาด้วย” เจ้าพ่อพูดขึ้นมานิ่งๆ แต่น้ำเสียงข่มขู่อย่างแรงจนพวกเราสามคนกลัว “ใครสน” เขาพึมพำเบาๆ แล้วนั่งทานข้าวต่อ “ใครสนนายล่ะ เชอร์รีนกวนบาทากลับไป” ทำเอาน้องเล็กถึงกับสะอึกและไม่กล้าพูดต่อเพราะกลัวพ่อดุ . . เจ้าพ่อออกจากบ้านไป เหลือเพียงความโล่งใจให้เชอร์รีน การกระทำดิบเถื่อนของเขาเมื่อคืนส่งผลให้เชอร์รีนหวาดกลัวอย่างหนัก แต่เธอมีทางเลือกซะที่ไหนกันล่ะ ยังไงก็ต้องทนอยู่จนกว่าเจ้าพ่อจะเบื่อและยอมปล่อยเธอไป เธอนั่งมอง มือถือเครื่องใหม่ บัตรเครดิตใบหรู สมุดบัญชีธนาคารที่บอกตัวเลขสูงลิ่ว และเงินสดมากมายที่กองอยู่ให้เธอใช้อย่างไม่มีจำกัด แต่หัวใจของเชอร์รีนกลับว่างเปล่า ไม่มีแม้กระทั่งแรงที่จะดีใจกับสิ่งเร้าพวกนี้ ทั้งๆ ที่ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงกระโดดโลดเต้นและออกไปใช้มันอย่างมีความสุข น้ำใสๆ ค่อยๆ รินรดออกมาจากดวงตากลมโตสีน้ำตาล แต่เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอก็รีบปาดน้ำตาจากหางตาทันทีแล้วขานรับเสียงนั้น “เชอร์รีน ผมมาดูเอ่อ ช่วยเปิดประตูให้หน่อยได้มั้ยครับ” น้ำเสียงที่อบอุ่นปานแสงอาทิตย์ที่เหมือนจะช่วยเยียวยาหัวใจได้ชัวครู่ดังขึ้น เธอเปิดประตูให้อย่างไว้เนื้อเชื่อใจเพราะเป็นเสียงของ วาคิน ผู้แสนอ่อนโยน เขาเดินมาพร้อมกับกล่องปฐมพยาบาลกล่องเล็กๆ และเดินเข้าประตูมาโดยถือวิสาสะ เขานั่งลงบนเตียงใหญ่ของเธอแล้วเรียกเธอมานั่ง “มานั่งสิ ให้ผมดูแผลให้นะครับ” คำพูดแสนสุภาพอ่อนโยนมันช่วยเยียวยาหัวใจอันบอบช้ำของเชอร์รีนจนเธอแทบจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่แล้วเดินเข้าไปนั่งข้างหน้าเขาแต่โดยดี เขาสังเกตเห็นแม้กระทั่งรอยแดงจากมุมปาดของเธอสินะ เชอร์รีนได้แต่คิดในใจแล้วน้ำตาที่เก็บกักไว้ก็ดันร่วงมาไม่หยุด ชายหนุ่มมองเธอด้วยสายตาเวทนาอย่างยิ่งยวดและส่ายหัวกับชะตากรรมของเธอ เธอยังสาวและสวยควรได้ใช้ชีวิตและโบยบินอย่างอิสระ แต่กลับถูกพ่อของเขาทำร้ายถึงเพียงเพียงนี้ เขาค่อยๆ ลูบไปที่แผลบนปากของเธอ “เจ็บมากมั้ย” เขาถามอย่างอ่อนโยนและห่วงใย “เจ็บค่ะ” ไม่รู้ผีอะไรเข้าสิงเชอร์รีนถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เจ็บขนาดนั้นแต่เธอแค่อยากอ้อนเขาและอยากใช้เขาเป็นที่พักพิงใจ เธอจึงตอบไปแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง เชอรีนเป็นผู้หญิงที่สวยมากๆ คนหนึ่ง การตกผู้ชายสักคนไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอ แต่เหนือสิ่งอื่นใดเชอร์รีนแค่ต้องการใครสักคนที่คอยเป็นที่พักใจให้เธอเท่านั้นเอง เมื่อรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้อบอุ่น เธอแค่คิดอยากจะพึ่งพารอยยิ้มแสนอบอุ่นนั่น อย่างน้อยก็แค่ในช่วงเวลาเลวร้ายในบ้านหลังนี้ มือใหญ่ค่อยๆ ทายาให้เธออย่างเบามือ และเลื่อนลงมาต่ำเรื่อยๆ ยิ่งลงมาถึงส่วนใต้ร่มผ้าก็ยิ่งเผยให้เห็นร่องรอยที่ถูกทารุณ เขาสงสารเธอจับใจ และเถียงไม่ได้ว่าเมื่อคืนเสียงกรีดร้องของเธอยังดังก้องหู และดังไปทุกส่วนของโสตปราสาทของเขา อึก…เขากลืนน้ำลายลงคอเมื่อเธอเปิดเสื้อออกทั้งหมด เผยให้เห็นบราเซียลายลูกไม้สีดำ ตอนนี้รอยแดงของเธอมันไม่ได้ดึงดูดสายตาเขามากกว่าสองเต้าใหญ่ยักษ์ที่กำลังล่อสายตาคู่นั้นของเขา ความอยากแล่นผ่านสายตาทะลุเข้าไปยังกึ่งกลางร่างกาย ปลุกเร้าความเป็นชายอย่างไม่น่าเชื่อ เธอขาวและสวย เธอน่ากินไปทั้งตัวแม้ร่างกายจะบอบช้ำ และแดงไปหมด เขารีบสลัดความต้องการของตัวเองทิ้งเมื่อร่างเล็กเริ่มหน้าแดงกับการจ้องมองของเขาไม่วางตา และเขาก็หลบสายตาลงนิดหน่อย ค่อยๆ ใช่มือป้ายยาแล้วทาเบาๆ ตามรอยแดงมากมาย อ๊ะ∼ เสียงร้องครางของแม่เลี้ยงทำให้เขาตื่นตัวขึ้นอีกครั้งแต่เขาก็ต้องรีบพยายามข่มตัวเองและทายาให้เร็วที่สุด “เจ็บหรือเปล่าครับ” เขาถามทั้งที่มือยังสั่น แถมใจตอนนี้ก็สั่นมากกับใบหน้าสวยๆ และหุ่นยั่วอารมณ์นี่ “นิดหน่อยค่ะ เอ่อ คุณวาคินคะ ถ้าคุณไม่สะดวกฉันทาเองก็ได้นะคะ” เธอมองหน้าเขาที่กำลังพยายามข่มตัวเองอย่างทรมาน มองแล้วเธอก็อดสงสารเขาไม่ได้จึงถามออกไปแบบนั้น “ให้ผมทำเถอะครับ” สีหน้าของเขารู้สึกผิดอย่างเห็นได้ชัด จริงๆ เขาไม่ใช่คนทำร้ายเธอ แต่เขากลับรู้สึกผิดแทนผู้เป็นพ่อเสียเต็มประดา “งั้นข้างหลังค่ะ” เชอร์รีนถอดเสื้อออกเผยให้เห็นรอยเต็มหลังไปหมด “พระเจ้า เชอร์รีน” เขาเอ่ยชื่อเธอพลางตกใจกับร่องรอยเต็มหลังของเธอ น้ำเสียงของวาคินเจือไปด้วยความสงสาร ความเวทนา และความหื่นกระหายของชายหนุ่ม ถึงแม้ตัวจะมีแต่รอยแดง แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าแม่เลี้ยงของเขาคนนี้น่ากินไปทั้งตัว . .
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD