“ช่วงนี้เชอร์ไม่ค่อยเห็นคุณเข้าเรียนเลย คุณโอเคมั้ยคะ”
เชอร์รีนถามขึ้นมาด้วยความสงสัยภายใต้อ้อมกอดของชายร่างใหญ่ที่กำลังกอดเธออย่างอบอุ่นหลังจากเสร็จภารกิจกันไปหลายยก
“อืม ถ้าไม่ไหวก็คงต้องดรอปแหละ ช่วงนี้ต้องดูแลหลายอย่างเลย มันยังไม่เข้าที่อ่ะเชอร์”
เขาพูดอย่างหนักใจดูเหมือนเขาก็กำลังพยายามอย่างสุดตัวเพื่อให้ทุกอย่างเข้าที่ แต่มันอาจจะต้องใช้เวลาจริงๆ ตัวเขาเองก็ยังแทบไม่มีเวลามาหาเธอเลยด้วยซ้ำ
“งั้นเหรอคะ ยุ่งสินะคะ” เธอพูดเสียงอ่อยและบางเบาราวกับลูกแมวน้อยที่กำลังอ้อนเขา
“ก็ยุ่ง แต่มีเวลาให้เธอเสมอนะเชอร์รีนถ้าต้องการฉันก็โทรหาได้เลย”
เขาพูดย้ำคำที่เขามักพูดกับเธอเสมอ แต่เชอร์รีนเกรงใจเขาเกินกว่าจะโทรหาอยู่แล้ว เธอไม่อยากรบกวนเวลาของเขาและได้แต่ทนเก็บความคิดถึงไว้
“มีอะไรให้เชอร์ช่วยบ้างมั้ยคะ พวกการเงินหรือบัญชีเชอร์ก็ช่วยดูได้นะ” เธออาสาอย่างกระตือรือร้นและอยากช่วยจากใจจริงเพราะอย่างน้อยเรื่องพวกนี้เธอก็เป็นคนที่พวกเขาควรไว้ใจที่สุด
“ช่วงนี้ยังไม่มีอะไรให้ดู เธอทำตัวสบายๆ ไปก่อนนะ ไม่ต้องห่วง ฉันกับพี่วาคินยังไหว ถ้าวันไหนต้องการให้เธอเข้าไปดูแล้วฉันจะบอกนะ จุ๊บ” เขาจุ๊บมาที่หน้าผากและยิ้มให้กับท่าทีกระตือรือร้นที่จะแบ่งเบาภาระของเธอ
เชอร์รีนเชื่อว่าพวกเขาคือครอบครัวและอยากแบ่งเบาจริงๆ หลายอย่างที่เจ้าพ่อสอนให้เธอก็พอทำเป็นบ้างและถ้าได้ทำจริงๆ มันก็ไม่น่ายากเพราะพื้นฐานถูกสอนมาอย่างดี แต่มันเร็วไปสำหรับวายุที่จะให้เธอมาเดินบนทางพวกนี้
พวกเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของเชอร์รีนมากกว่าอะไร และการกันเธอให้ออกห่างจากเส้นทางที่พวกเขากำลังเดินอยู่เป็นสิ่งที่พวกทำต้องทำ
“วันนี้กลับบ้านมั้ย” เขาถามเธออย่างอ่อนโยน
“ไม่ค่ะ เชอร์ว่าจะนอนที่นี่” เธอรู้ดีว่าเขายังต้องไปทำงานต่อ และไม่คิดจะงอแงเขา
“เธอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมากนะเชอร์ แต่บางครั้งก็อ้อนฉันบ้างก็ได้” เขายิ้มให้เชอร์รีนเหมือนกำลังรู้ว่าเธอพยายามไม่งอแงเพื่อให้เขาไม่สบายใจ
“เชอร์โอเคค่ะ เชอร์เข้าใจคุณ” เธอยิ้มให้เขาเบาๆ แล้วใช้จมูกโด่งซุกไปที่แก้มเขาทำเอาคนโดนหอมหน้าแดงขึ้นมาดื้อๆ
“น่ารักจัง” เขายิ้มแล้วจูบมาที่ริมฝีปากบางอย่างแสนรัก
.
.
วายุไปแล้ว เชอร์รีนเดินลงมาทำงานต่อ แล้วพวกเพื่อนๆ ของเธอก็มานั่งเล่นที่คลับตามคำชวนของเธอ ทำให้เธอหายเหงาและปรับตัวได้เรื่อยๆ
จะว่าไปก็ไม่ได้เจอวาคินมาหลายวันแล้วเหมือนกัน งานของวาคินแลดูจะยุ่งกว่าวายุซะอีก เพราะด้วยความที่เป็นลูกชายคนโต เขาจึงต้องยึดตำแหน่งหัวหน้าแก๊งไปโดยปริยาย
เขามักไม่ค่อยอยู่กับที่ แต่เขาก็จะโทรหาเชอร์รีนเสมอ ทำให้ไม่รู้สึกคิดถึงมาก แต่เธอก็คิดถึงเขาอยู่ดี เชอร์รีนกลายเป็นผู้หญิงโลภมาก ทั้งๆ ที่พึ่งห่างจากวายุไม่ถึงชั่วโมงแท้ๆ
เธอเรียกบริกรมาสั่งงานและบอกให้เขาดูแลพวกเพื่อนๆ ของเธอไม่ให้ขาดตกบกพร่อง และเธอกำลังมุ่งหน้าไปยังบ่อน ที่คิดว่าวาคินน่าจะอยู่ที่นั่น ด้วยความคิดถึงอย่างยิ่งยวดทำให้เธออยากเจอเขาขึ้นมาซะดื้อๆ
รถหรูจอดที่ตึกแห่งหนึ่ง ซึ่งมองภายนอกมันก็เป็นตึกที่มีสถานที่เริงรมย์ และพวกโต๊ะสนุก แต่จริงๆ แล้วที่ชั้นใต้ดินมันเปิดเป็นกาสิโนขนาดใหญ่ รายได้หลักของบ้านมาจากที่นี่ วาคินเคยเล่าให้เธอฟังคร่าวๆ
เธอไม่เคยมาที่นี่แต่พอรู้ว่ามันมีโครงสร้างยังไงจากการฟังที่วาคินเคยเล่าให้ฟัง เธอเดินเข้าไปอย่างเก้ๆ กังๆ และพยายามมองหาคนที่เธอพอคุ้นหน้าคุ้นตา
และเธอก็เจอเขา เขาเป็นมือขวาของเจ้าพ่อ และเป็นลูกน้องที่ไว้ใจได้ที่เจ้าพ่อพาไปไหนมาไหนด้วยเสมอ และเหมือนเขาจะจำเธอได้ เขารีบตรงปรี่เข้ามาหาเชอร์รีน
“นายหญิง นายหญิงมาที่นี่ทำไมครับ” เขาตกใจจนตาเหลือกเมื่อเห็นเป็นเชอร์รีนจริงๆ ทีแรกเขามองจากไกลๆ คิดว่าไม่ใช่และไม่คิดว่าเธอจะมาที่นี่ แต่พอเดินเข้ามาเขาก็ต้องตกใจว่าเป็นเชอร์รีนจริงๆ
“พอดีเชอร์เอ่อ… ฉันมาหาคุณวาคินค่ะ” เชอร์รีนพูดพร้อมกับวางมาดเก้ๆ กังๆ
“ครับเดี๋ยวผมนำทางให้” เขาพูดแล้วผายมือใส่ผู้เป็นนายหญิงของบ้าน
กลิ่นบุหรี่ลอยคละคลุ้งอยู่ภายในห้องที่มีแต่นักเล่นพนันชายหญิง การแต่งตัวของพวกเขามองก็รู้ว่าเป็นพวกมีระดับ สายตาของพวกเขาจับจ้องร่างบางในเดรสสีดำอย่างไม่วางตา เธอเดินผ่านกลุ่มคนเหล้านั้น ผ่านไปหลายห้องจนถึงห้องสุดท้าย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ผมเองครับนาย เสียงของมือขวาเอ่ยขึ้นดุดัน เพื่อบอกว่าเขาต้องการพบผู้เป็นนายใหญ่
“เข้ามา”
น้ำเสียงดุดันและไม่เหลือเค้าคนอ่อนโยนให้เห็น เธอแอบตกใจที่วาคินคนอ่อนโยนคนนั้นใช้น้ำเสียงดุดันขนาดนี้ แต่เธอก็ใจดีสู้เสือเดินตามมือขวาเข้าไป
เมื่อเข้าไปเธอก็ต้องตกตะลึง ภายในห้องมีผู้หญิง 2 คนกำลังนัวเนียอยู่กับวาคินผู้ชายที่เธอคิดถึง ถึงขนาดต้องถ่อตัวเองมาหาถึงที่ พวกผู้หญิงพวกนี้แทบไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอยู่ คนหนึ่งนั่งตัก อีกคนโอบอยู่ที่คอของเขา
ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้เชอร์รีนถึงกับตะลึงและจุกไปทั้งอกทำไมกันนะ
“เชอร์” เขาตกใจมากและรีบผลักพวกผู้หญิงพวกนั้นถอยออกไปทันที
“เชอร์มารบกวนสินะคะ” เธอพูดน้ำเสียงเย็น มันเย็นมากจนคนฟังรู้สึกเสียวสันหลังวาบ เขาหน้าเสียแล้วรีบลุกจากเก้าอี้ตัวแพงทันที
“ขอให้มีค่ำคืนที่แสนหวานค่ะ” เชอร์รีนพูดเสียงเย็นแล้วหันหลังกำลังจะเดินออกประตูไป แต่ร่าใหญ่รีบวิ่งมาคว้าแขนไว้ก่อนแล้วกอดจากด้านหลัง
“เชอร์มาได้ไงครับ” เขาพยายามไม่พูดถึงเรื่องของผู้หญิงที่เขากำลังนัวเนียอยู่และชวนเธอคุยเรื่องอื่นแทน พลางส่งสายตาบอกลูกน้องให้พาพวกผู้หญิงพวกนี้ออกไป
“มาไม่ได้หรือคะ” เชอร์รีนทำน้ำเสียงเย็นชาสุดๆ ในใจรู้สึกปวดแปลบ ถึงแม้จะพอเข้าใจว่าพวกผู้ชายก็ต้องเป็นแบบนี้แต่พอเจอต่อหน้ามันกลับทำให้หัวใจดวงน้อยๆ เจ็บปวดมากมากมาย
“ไม่เอาสิอย่าทำเสียงเย็นแบบนั้นสิครับ”
คนตัวโตสัมผัสได้ถึงความเย็นชาและเริ่มง้องอนเธอ