“เป็นไงเจ้าขาข้าวผัดมะเขือปะเทศอร่อยไหม”
เด็กชายตัวกลมหันไปถามเด็กหญิงแก้มป่อง ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น อยากรู้เหลือเกินอาหารที่บิดาทำให้เพื่อนตัวน้อยกินเป็นอย่างไรบ้าง
จันทร์เจ้าขาถูกสอนมา ถ้าข้าวเต็มปากห้ามพูดเด็ดขาด ต้องเคี้ยวให้เสร็จก่อนถึงจะพูดได้
เด็กหญิงเคี้ยวข้าวกลืนลงท้องเรียบร้อย ถึงได้ให้คำตอบปองคุณที่กำลังรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ
“อร่อยมากเลยใจฟู เจ้าขาชอบข้าวผัดมะเขือปะเทศ”
แม่หนูแก้มกลมเรียกชื่อมะเขือเทศตามเพื่อน ทำให้มารดาต้องรีบแก้ไขความเข้าใจผิด เด็กสองคนนี้ชักจะไปกันใหญ่แล้ว ก่อนจะลงมากินข้าวก็สอนไปรอบหนึ่ง ยังจะมามะเขือปะเทศอีก
“เดี๋ยวลูกเอาใหม่นะคะ เขาไม่ได้เรียกมะเขือปะเทศ เขาเรียกมะเขือเทศ”
“มะเขือเทศ” / “มะเขือเทศ”
เด็กสองคนพร้อมใจกันออกเสียง คราวนี้ถูกต้องทำให้พ่อแม่ยิ้มชื่นใจโล่งอกไปนิด กลัวว่าจะจำได้แค่ตอนนี้พรุ่งนี้ลืมเหมือนเดิม กลายเป็นมะเขือปะเทศโดยเฉพาะปองคุณ
“เก่งมากครับ ต่อไปต้องพูดให้ถูก มะเขือเทศ ไม่ใช่ มะเขือปะเทศ” คุณพ่อของเด็กชายเอ่ย เอ็นดูเด็กหญิงจันทร์เจ้าขาพานพูดผิดไปด้วยเลย
“เจ้าขาจะพูดให้ถูกค่ะคุณพ่อ”
จันทร์เจ้าขาพยักหน้าจริงจัง ต่อไปเจ้าขาจะพูดให้ถูก
“ใจฟูก็เหมือนกันคับ มะเขือปะ เอ๊ย มะเขือเทศ” เกือบไปแล้ว ดีที่เปลี่ยนคำพูดได้ทัน เด็กชายตัวกลมยิ้มแป้นดีใจที่ตนเองพูดถูก ไม่อย่างนั้นต้องมุดโต๊ะกินข้าวหนีแน่เพราะเขินเพื่อน
“เก่งมากค่ะ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จ ตอนบ่ายเรามาเริ่มเรียนภาษาไทยกันเลยนะคะใจฟู”
“คับ ใจฟูจะตั้งใจเรียน เจ้าขาเรียนด้วยไหม”
“เจ้าขาเก่งแล้วไม่ต้องเรียน ใช่ไหมคะแม่แม่”
“ใช่ค่ะ แต่เจ้าขาจะให้ใจฟูเรียนคนเดียวเหรอลูก”
“เจ้าขาเรียนเป็นเพื่อนใจฟูนะ ใจฟูอยากมีเพื่อน”
“ได้สิ เจ้าขาจะเรียนเป็นเพื่อนใจฟูเอง”
เด็กสองคนตกลงเรื่องเรียนเสร็จเรียบร้อย ก็รีบจัดการกินข้าวในจานของตนเองจนหมดเกลี้ยง
พ่อครัวจำเป็นยิ้มหน้าบานกันเลยทีเดียว หลังจากได้รับคำชมจากลูกค้าตัวน้อยซึ่งมาพร้อมกับการยกนิ้วโป้งให้ บ่งบอกถึงความพอใจ ไม่เว้นแม้กระทั่งช้องมาศยังเอ่ยปากชม
‘อร่อยมากค่ะ อร่อยจนนึกว่าได้กินฝีมือเชฟระดับประเทศ’
จอมทัพตัวแทบจะลอยไปติดเพดาน ดีใจยิ่งกว่าตอนได้รับรางวัลนักธุรกิจดีเด่น เพราะความจริงแล้วความฝันของเขาคือการเป็นเชฟ แต่ต้องสานต่อธุรกิจครอบครัวเลยไม่ได้ทำตามฝัน
หลังจากมื้อเที่ยงผ่านพ้นไปอย่างมีความสุข ก็ถึงเวลาที่ต้องเรียน จอมทัพเดินนำสองแม่ลูกมาที่ห้องนันทนาการของลูกชาย ข้างในมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ มุมของเล่น เตียงนอนทำให้คนเพิ่งเคยเห็นอย่างจันทร์เจ้าขา ร้องว้าวดีใจยกใหญ่
“ใจฟูตั้งใจเรียนนะครับ พ่อจะไปทำงานต่อ”
คุณพ่อนั่งยองๆ บอกลูกชาย
“คับคุณพ่อ ใจฟูจะตั้งใจเรียน”
เด็กน้อยพยักหน้ารับ ไม่อิดออดอย่างเช่นที่ผ่านมา
“คุณจอมไม่ต้องห่วงนะคะ เดี๋ยวช้องดูแลใจฟูเอง”
“ครับ ผมฝากด้วย”
เมื่อจอมทัพหายออกไปจากห้อง ช้องมาศก็เริ่มทำการสอนเด็กชายปองคุณ โดยเริ่มสอนจากพยัญชนะ ก ถึง ฮ ก่อนลำดับแรกตามที่คุณพ่อของเจ้าหนูต้องการ
เด็กชายปองคุณเคยเรียนมาบ้างแต่ยังจำไม่ค่อยได้ ช้องมาศจึงตัดสินใจสอนใหม่ทั้งหมด ใช้วิธีสอนเหมือนกับที่ตนเองเคยสอนลูกสาว ตอนนี้จันทร์เจ้าขาจำได้หมดทุกตัว หลับตาท่องก็ยังได้
“ใจฟูท่องตามนะครับ”
“คับแม่แม่”
“ก เอ๋ย ก ไก่ ข ไข่อยู่ในเล้า”
“ทำไม ข ไข่ต้องอยู่ในเล้าคับแม่แม่”
“ก็ไข่เกิดจากแม่ไก่ แล้วแม่ไก่อยู่ที่ไหน เจ้าขารู้ไหมคะ”
“รู้ค่า แม่ไก่อยู่ในเล้า”
“เล้าเป็นยังไง ใจฟูไม่รู้จัก”
เด็กชายตัวน้อยถามด้วยความใสซื่อทำให้คุณครูอมยิ้มเอ็นดู ค่อยๆ อธิบายเรื่องเล้าไก่ให้ลูกศิษย์ฟังอย่างใจเย็นโดยมีจันทร์เจ้าขาคอยเสริม ราวกับเคยเห็นของจริงมาแล้ว อันที่จริงเด็กน้อยเคยเห็นผ่านตาในยูทูบต่างหาก
“เข้าใจหรือยังคับใจฟู”
“เข้าใจแล้วคับ ต่อๆ ใจฟูชอบ”
“ฃ ขวดของเรา ค ควายเข้านา”
“เอ๊ะ ควายเป็นยังไงคับ”
“ควายเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งครับ มีเขาสองข้างตัวสีดำ คล้ายๆ กับวัว”
“วัว? ใจฟูคุ้นๆ วัว อ้อ Cow ใช่ไหมคับ”
“ใช่แล้วครับ เดี๋ยวเอาไว้ว่างๆ แม่แม่พาใจฟูกับเจ้าขาไปดูของจริงดีไหม”
“ดีค่า”
“ดีคับใจฟูอยากเห็น”
บทเรียนของเด็กชายปองคุณ ดำเนินไปพร้อมกับคำถาม สงสัยทุกอย่าง สงสัยทุกเรื่อง สมกับเป็นเด็กฉลาด
ช้องมาศเข้าใจแล้ว ทำไมครูคนก่อนหน้าถึงพากันลาออก เพราะเด็กชายตัวกลมขยันถาม กว่าจะจบถึงพยัญชนะ ฮ นกฮูก คุณครูคนใหม่รู้สึกคอแห้งกันเลยทีเดียว
เมื่อเรียนครบช้องมาศก็เอาแบบฝึกหัดมาให้เด็กชายลองเขียน
“ใจฟูเขียนตามเส้นนี้นะครับ ค่อยๆ เขียนไม่ต้องรีบ”
คุณครูยื่นดินสอกับสมุดแบบฝึกหัด ซึ่งมีเส้นประให้เด็กนักเรียนลองลากตาม
“คับ ใจฟูจะตั้งใจเขียน เจ้าขาเขียนด้วยไหม”
“เจ้าขามีอันนี้ เจ้าขาเขียนเหมือนกัน”
เด็กชายปองคุณพยักหน้าให้เด็กหญิงจันทร์เจ้าขา ก่อนจะลงมือฝึกเขียนในสมุดของตนเอง จันทร์เจ้าขาก็ตั้งใจเขียนไม่ต่างจากปองคุณทำให้ห้องที่มีเสียงเจื้อยแจ้วเงียบสงบขึ้นมาทันตา
จอมทัพแอบเดินมาดูลูกชาย เห็นลูกตั้งใจเรียนก็อดปลื้มใจไม่ได้ ตั้งแต่จ้างครูมาสอน เขายังไม่เคยเห็นครูคนไหน สามารถทำให้ปองคุณอยู่นิ่งได้เลย ช้องมาศเก่งจริงๆ
“คุณหนูน้อยตั้งใจเรียนมากเลยค่ะคุณหนู”
ป้าเจียมเดินมาทางนี้พอดีเลยเข้ามาพูดคุยกับจอมทัพ คนแก่อายุห้าสิบกว่ายิ้มหน้าบานไม่ต่างจากคนหนุ่ม ชื่นใจที่ได้เห็นคุณหนูน้อยตั้งใจเรียน
“ครับ ผมหวังว่าใจฟูจะตั้งใจเรียนแบบนี้ไปตลอด” เขาหวังว่าลูกจะไม่ดีแตก แต่คิดว่าไม่หรอกเพราะปองคุณชอบช้องมาศมาก ถึงขั้นยอมเรียกแม่ต้องถูกใจขนาดไหนคิดดู
“หนูช้องเป็นครูโรงเรียนอนุบาลมาก่อน สอนได้อยู่แล้วค่ะ”
ป้าเจียมเชื่อมั่นในตัวช้องมาศ
“ผมยังไม่ได้ถามเธอเลยทำไมถึงลาออก” ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น ประวัติที่อยู่ในมือบอกว่า ช้องมาศเคยทำงานที่ไหน ตำแหน่งอะไร แต่ไม่ได้ระบุสาเหตุของการลาออก
เธอเองก็ไม่ได้เล่าให้ฟังอย่างละเอียด บอกแค่ว่าเคยสอนเด็กอนุบาลแล้วลาออกเท่านั้น
“เท่าที่ป้ารู้มา หนูช้องเคยบอกว่าเธอโดนผู้บริหารโรงเรียนลวนลาม เลยลาออกค่ะ แต่เรื่องจริงเป็นยังไงป้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะ ไม่กล้าถามมาก”
“ถ้าโดนลวนลามจริงก็น่าสงสารเธอนะครับ”
“ป้าว่าโดนจริงแหละค่ะ ถ้าไม่มีอะไรร้ายแรงหนูช้องจะลาออกทำไม ลูกก็ยังเล็ก”
“เอาไว้ว่างๆ ผมค่อยถามเธอ เผื่อมีอะไรช่วยได้”
จอมทัพหันกลับไปมองข้างในห้องอีกครั้ง ก่อนจะเอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า แล้วโทร.ไปบอกลูกน้องให้หาข้อมูลโรงเรียนที่ช้องมาศเคยทำงาน รวมถึงข้อมูลการลาออก ถ้ามันผิดปกติเขาพร้อมยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ
ป้าเจียมแอบอมยิ้มเล็กน้อย หลังจากสังเกตพฤติกรรมของเจ้านาย ปกติจอมทัพไม่เคยให้ความใส่ใจคุณครูของลูกชายมากขนาดนี้ ช้องมาศผิดไปจากทุกคนมันน่าแปลกมากเหลือเกิน