ตอนที่ 6

1401 Words
หญิงสาวเดินคอตกออกมาจากห้องการเงินเมื่อทราบค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่จะต้องเคลียร์ให้จบภายในสัปดาห์นี้ สองแสนแปดหมื่นกว่าบาท ทำไมมันถึงมากมายแบบนี้นะ ทำไมทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มันจะต้องแลกมาด้วยเงินตราด้วย ร่างอรชรทรุดฮวบลงบนเก้าอี้สีน้ำเงินภายนอกอาคารของโรงพยาบาล ตอนนี้ในสมองของหล่อนกำลังเครียด กำลังสับสน และกำลังจะระเบิด ทั้งค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในตอนนี้ และคำพูดของคุณหมอเกี่ยวกับการรักษาขาทั้งสองข้างของลุงทองดี การใช้กระดูกเทียมเพื่อทำให้ลุง ทองดีกลับมาเดินใหม่ได้อีกครั้ง มันต้องแลกด้วยเม็ดเงินจำนวนมหาศาลเลยทีเดียว เม็ดเงินที่ไม่รู้ว่าหล่อนจะไปหามันมาได้จากที่ไหน แต่หล่อนก็ยอมแพ้ไม่ได้หรอก ไม่มีทางยอมแพ้ ต่อให้ต้องเหนื่อยจนสายตาแทบขาด หล่อนก็จะต้องตอบแทนพระคุณของลุงทองดี ดวงฤดีผุดลุกขึ้นยืน หล่อนสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจเดินทางไปหาผู้หญิงคนนั้นตามนามบัตรที่ให้เอาไว้ทันที ไม่นาน มอเตอร์ไซค์รับจ้างก็พาหล่อนมาหยุดตรงที่หน้าบ้านเรือนไทยหลังหนึ่ง หล่อนก้าวลงจากรถก่อนจะเอ่ยถามคนขับรถอย่างงงๆ “ที่นี่ใช่บ้านในนี้จริงหรือคะ” หล่อนส่งนามบัตรใบเล็กๆ ให้กับคนขับดู “ใช่สิ ที่นี่แหละ ไม่ผิดหรอก” เมื่อเห็นคนขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างยืนยัน ดวงฤดีก็หันไปมองบ้านเรือนไทยนั้นอีกครั้ง ก่อนจะหันมาจ่ายเงินค่ารถให้กับผู้ชายที่ติดเครื่องรออยู่ “นี่จ้ะลุง ค่าโดยสาร เอ่อ ว่าแต่ลุงพอจะรู้จักเจ้าของบ้านหลังนี้ไหมจ๊ะ” คนฟังส่ายหน้าดิก “ไม่รู้จักหรอก รู้แต่ว่ารวยมาก และก็มีลูกสาวเยอะมาก...” “ลูกสาวเหรอจ๊ะ” ดวงฤดีทวนคำอย่างงงงวย คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะรีบขอตัวไปทำมาหากินของตัวเองต่อ “ใช่... เอาเป็นว่าถ้าหนูมีธุระก็เข้าไปเถอะ ลุงจะรีบไปทำงานต่อแล้ว” ลุงพูดจบก็ขับมอเตอร์ไซค์จากไปทันที ทิ้งให้ดวงฤดียืนเกาะรั้วมองบ้านเรือนไทยหลังงามตรงหน้าอย่างสับสนเพียงลำพัง ดวงฤดียืนลังเลสองจิตสองใจอยู่นานก็ต้องสะดุ้งเมื่อมีเสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้น “มาหาใคร...” “เอ่อ คือ...” หญิงสาวไม่รู้จะบอกว่ามาหาใครดี จึงยื่นนามบัตรในมือของตัวเองให้กับผู้หญิงที่อยู่ในรั้วตรงหน้า ผู้หญิงคนนั้นก้มลงมองนามบัตรก่อนจะรีบเปิดประตูให้กับหล่อนทันที “แขกของคุณพริ้งนี่เอง เข้ามาสิ คุณพริ้งอยู่ข้างใน” ผู้หญิงที่หล่อนพบวันนั้นชื่อพริ้งนี่เอง ดวงฤดีขมวดคิ้วอย่างขบคิด ก่อนจะก้าวเข้ามาภายในอาณาจักรของบ้านทรงไทยหลังงาม “เดินเข้าไปในห้องโถงค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะไปเรียนคุณพริ้งให้ว่าคุณ...” “ฤดีค่ะ ดวงฤดี...” ดวงฤดีรีบแนะนำตัวเองเมื่อผู้หญิงตรงหน้าแสดงความต้องการอยากรู้จัก “งั้นเชิญคุณดวงฤดีนั่งในนี้ตามสบายนะคะ อีกไม่นาน คุณพริ้งเธอจะมาพบค่ะ” หญิงคนนั้นเดินออกไปแล้ว ดวงฤดีจึงทรุดกายลงนั่งบนโซฟานุ่ม หล่อนกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องก็พบแต่ความหรูหรา ที่นี่คือซ่องจริงๆ หรือเปล่านะ ถ้าใช่... แล้วทำไมมันถึงแตกต่างจากซ่องของเจ๊ใหญ่ที่หล่อนเคยอยู่มาเกือบสามปีนักนะ “นึกแล้วว่าหนูจะต้องมา...” เสียงคุ้นหูดังขึ้นทำให้ดวงฤดีต้องหันไปมอง และก็ได้เห็นว่าผู้หญิงเจ้าของเสียงนั้นคือคนคนเดียวกับคนที่หล่อนเคยคุยด้วยเมื่อวันก่อน “คุณน้า...” “เรียกน้าว่าพริ้งเถอะ” คนพูดทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตรงกันข้ามกับหล่อน จากนั้นก็กวาดตามองหล่อนอย่างละเอียดลออ “ดีใจนะที่หนูมา...” ใครว่าหล่อนอยากมากันล่ะ แต่นี่มันคือวิธีสุดท้ายที่มีให้เลือกต่างหาก “ฤดีไม่ได้เต็มใจหรอกค่ะ แต่ฤดีไม่มีทางเลือก...” “ถ้าเราเกิดมาจนก็อย่าไปฝันถึงทางเลือกเลย ทางเลือกมันมีเอาไว้ในเฉพาะคนที่มีเงินเท่านั้นแหละ เอาเป็นว่าหนู... จะเริ่มงานเมื่อไหร่” คำถามของสตรีกลางคนตรงหน้าทำให้ดวงฤดีถึงกับหน้าซีดเผือด หล่อนตั้งใจมาแล้วว่าจะทำอาชีพนี้ แต่พอถึงเวลาจริงๆ ก็อดหวาดกลัวไม่ได้ “น้า... มีงานอื่นให้หนูทำไหมคะ” “งานอื่นหรือ” “ค่ะ น้า... ฤดีไม่อยากขายตัว” คู่สนทนาของหล่อนระบายลมหายใจออกมาจากปากเบาๆ ก่อนจะจ้องหน้าของหล่อนนิ่งนาน “ไม่มีผู้หญิงคนไหนในโลกนี้อยากขายตัวหรอก แต่เราไม่มีทางเลือก เราเกิดมาจน...” “ฤดีเข้าใจค่ะ แต่ฤดี... ฤดีกลัว...” ในที่สุดความเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวที่ตัวเองเพียรพยายามฉาบมันไว้บนใบหน้าเสมอก็ถูกล้างด้วยคราบน้ำตาจนจางหาย หล่อนน้ำตาซึมไหลออกมา “ฤดี... อยากทำงานอย่างอื่น น้า... พอจะมีงานอื่นให้ฤดีทำไหมจ๊ะ” คนฟังกระแทกลมหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย “งานอื่นน่ะมีอยู่แล้ว ตั้งหลายอย่าง แต่เงินมันไม่ดีหรอกนะ กว่าจะได้หยิบเงินหมื่นมันก็เป็นเดือนๆ นั่นแหละ” ความหวังของดวงฤดีเหี่ยวแฟบลงในพริบตา หล่อนรอได้ที่ไหนกันล่ะ สองแสนแปดหมื่นเงินจำนวนนี้หล่อนจะต้องหาให้ได้ภายในอาทิตย์นี้ หากหาไม่ได้ ลุงทองดีจะต้องถูกไล่ออกจากโรงพยาบาลทั้งๆ ที่ยังไม่หายป่วยอย่างแน่นอน “น้าให้เวลาตัดสินใจก็แล้วกัน ถ้าจะทำ... ก็บอกมา แต่ถ้าไม่ทำก็ออกไปจากที่นี่ซะ” “คือฤดี...” หญิงสาวอึกอัก แม้จะสะอิดสะเอียนกับอาชีพที่ถูกใส่พานให้ตรงหน้าแค่ไหน แต่หล่อน... หล่อนก็จำเป็นต้องทำ ไม่มีทางเลือกสำหรับคนจนอย่างหล่อนจริงๆ “ฤดี... ฤดีจะทำค่ะ” คู่สนทนาของหล่อนระบายยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจออกมา “ถ้าตกลงจะทำ... คืนนี้ก็เริ่มงานได้เลย” “คืนนี้เลยหรือคะ คือว่าฤดี...” หล่อนยังไม่ได้ตระเตรียมของที่จะเอาตัวรอดจากการรับแขกเลยนี่นา เพราะถึงหล่อนจะยอมตกลงทำอาชีพนี้ แต่หล่อนก็ไม่จำเป็นที่จะต้องนอนกับผู้ชายบ้ากามพวกนั้นจริงๆ นี่ หล่อนก็แค่ใช้มารยาหญิงและจากนั้นก็ปลดทรัพย์ นี่แหละคือสิ่งที่เพิ่งจะผุดขึ้นในสมองของหล่อนเมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมานี่เอง “ถ้าอยากได้เงินเร็วๆ และเงินดีๆ ก็ต้องเริ่มขึ้นนี้แหละ เพราะคืนนี้แขกวีไอพีเงินหนาจะเรียกใช้บริการจากเรา...” “แล้วจะให้ฤดีเริ่มงานตอนไหนคะ” “เย็นนี้... ก่อนสองทุ่มจะมีรถมารับหนูไปยังสถานที่ที่ลูกค้าต้องการพบ” ท่าทางเป็นการเป็นงานของคู่สนทนาทำให้ดวงฤดีพอจะเดาได้ว่าผู้หญิงคนนี้คงจะคร่ำหวอดอยู่ในวงการโลกีย์นี้มาเป็นเวลานาน “งั้น... ฤดีขอตัวออกไปเตรียมของก่อนนะคะ แล้วจะกลับเข้ามาตอนเย็น...” “เตรียมของ? เตรียมของอะไร ที่นี่มีให้หมดทุกอย่าง” ท่าทางสงสัยของคู่สนทนาวัยกลางคนทำให้ดวงฤดีต้องรีบแก้ตัว “เอ่อ ฤดีหมายถึง... จะรีบไปเตรียมของให้กับลุงทองดีที่โรงพยาบาลน่ะจ้ะ เสร็จแล้วจะรีบกลับมา ไม่เบี้ยวแน่นอนจ้ะ...” หญิงสาวลุกขึ้น ปั้นยิ้มกว้างให้กับคู่สนทนา “ก็ได้ แต่อย่ากลับมาเย็นนักล่ะ เพราะหนูต้องกลับมาขัดเนื้อขัดตัว เข้าใจไหม” “เข้าใจจ้ะน้า... งั้นเดี๋ยวหนูจะรีบมานะจ๊ะ” พูดจบดวงฤดีก็เผ่นแน่บออกจากห้องโถงและมุ่งหน้าออกไปจากบ้านเรือนไทยหลังงามอย่างรวดเร็ว เพริศพริ้งมองตามไปด้วยความสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชม เด็กสาวคนนี้สวยมาก ถ้าเอามาขัดสีฉวีวรรณให้ดีๆ รับรองขายได้อีกนานเลยทีเดียว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD