EP 18 : ปฏิกิริยาของคนเป็นพ่อ

2075 Words
พลั้งรักมาเฟียร้าย : ตอนที่ 18 "ฉันจะไปทะเลใกล้ๆแถวนี้ คุณจะไปไหนคะ" ฉันท้วงขึ้นเมื่อเห็นเขาเลี้ยวไปอีกทางไม่ใช่ทะเลที่ฉันคิดไว้ตอนแรก รถสปอร์ตคันหรูของจัสตินขับออกจากคอนโดได้สักพักใหญ่ โดยที่ฉันต้องมารถเขาอยู่ดีเพราะเจ้าตัวแสบที่นั่งบนตักตอนนี้ติดจัสตินจนฉันหาทางปฏิเสธไม่ได้ ตลอดทางที่ผ่านมาฉันไม่ได้คุยกับเขาเลยมีแต่เสียงอันดากับจัสตินที่ดังเจื้อยแจ้วมาตลอดทาง อันดามักถามโน่นถามนี่ตามประสาเด็กและฉันได้ตอบคำถามลูกบ้างเป็นบางครั้งเพราะคนข้างๆจะแย่งตอบก่อนตลอด ที่น่าแปลกก็คือจัสตินไม่มีอารมณ์หงุดหงิดให้ฉันได้เห็นเลย ต่อให้ความอยากรู้ของอันดามีล้นจนเกินขอบเขต "มีหน้าที่นั่งก็นั่งเฉยๆ ถึงเดี๋ยวก็รู้เอง" น้ำเสียงเข้มตอบกลับหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ สายตาคมยังจับจ้องอยู่กับถนนเบื้องหน้า "ทำไมคุณลุงจัสตินกับแม่นับดาวไม่พูดกันดีๆละคะ" คำพูดของอันดาทำเอาทั้งฉันและจัสตินเงียบโดยปริยาย บรรยากาศในรถกลับมาเงียบจนได้ยินเสียงลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศ อันดาก็ไม่ยอมพูดคุยกับใครหลังจากพูดประโยคนั้น นานหลายนาทีที่ทุกคนเงียบ ฉันรับรู้ได้ว่าคนบนหน้าตักเหมือนจะเคลิ้มจนหลับไปแล้ว ไม่แปลกที่อันดาจะเพลียเพราะตื่นตั้งแต่ตีห้าแถมยังปลุกฉันอีกด้วย พอเด็กน้อยเจออากาศเย็นภายในรถก็หลับเป็นธรรมดา คำพูดของอันดาฉันใส่ใจทุกคำแต่ก็ยังบอกลูกไม่ได้ว่าทำไมฉันกับเขาถึงไม่พูดดีๆใส่กัน หมับ จัสตินเอื้อมมือไปประคองหัวอันดาที่กำลังจะสัปหงกอย่างทันท่วงที เขาสังเกตเห็นอันดาเคลิ้มมาสักพักแล้ว ที่เงียบไปเป็นเพราะไม่อยากให้อันดาเห็นว่าเขากับนับดาวเถียงกัน อยู่ดีๆก็เกิดความคิดที่แปลกประหลาดตั้งแต่มาเจออันดา แต่ถ้าในรถคันนี้มีนับดาวแค่คนเดียวเขาคงเถียงกับเธอจนโมโหด้วยความเดือดดาลไปแล้ว "ขอบคุณ" ฉันชำเลืองมองใบหน้าคมคายเพียงนิดเมื่อเขาเอื้อมมือมารองหัวอันดาไว้ ก่อนที่ฉันจะค่อยๆอุ้มอันดาให้นอนในท่าขวางแขนของฉันประคองหัวอันดาไว้ และเท้าของอันดาก็ชนกับประตูรถสปอร์ตพอดี จนฉันต้องมองหน้าจัสตินอีกรอบเพราะกลัวว่าเขาจะบ่น รถคันนี้ฉันไม่รู้มูลค่าแต่การที่มีรองเท้าเลอะฝุ่นเลอะดินไปโดนรถสำหรับคนรักรถคงไม่พอใจ แต่เขากลับนิ่งเฉยไม่ได้บ่นอะไร "ถ้าง่วงก็นอน หน้าตาเธอก็เหมือนง่วงไม่ต่างจากอันดานะ" "ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ฉันดูแลตัวเองได้และดูแลตัวเองมาตลอดอยู่แล้ว ถ้าคุณเอ็นดูอันดามันคือเรื่องที่ดีที่ลูกของฉันมีคนรักหลายคน แต่กับฉันคุณไม่จำเป็นต้องมาทำดีด้วย ที่ฉันยอมคุณขนาดนี้เป็นเพราะอันดาไม่ใช่อาลัยอาวรณ์คุณ คุณรู้ดีว่าฉันมีแฟนแล้ว และตัวคุณเองก็คงมีผู้หญิงข้างกายเหมือนกัน ฉันไม่เคยอยากให้อันดาเข้าใกล้คุณแต่ในเมื่อมันห้ามความรู้สึกของอันดาไม่ได้ฉันก็จะทำตามใจลูก" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเพราะกลัวอันดาตื่น แต่เน้นหนักทุกคำพูด ดวงตากลมโตหันออกไปนอกกระจกรถไม่สนใจว่าเขาจะรู้สึกยังไง แต่เชื่อว่าต่อให้พูดแรงขนาดไหนคนอย่างจัสตินก็ไม่มีความรู้สึกอะไร "หึ..." จัสตินหัวเราะในลำคอออกมาเบาๆ เขารู้สึกชอบนับดาวเวอร์ชันนี้ เธอเด็ดขาดทั้งคำพูดและการกระทำ หลายชั่วโมงผ่านไป รถสปอร์ตคันหรูขับเข้ามาจอดในบ้านพักหลังหนึ่ง ซึ่งแถวนี้จะมีบ้านเป็นหลังๆแบ่งอาณาเขตอย่างชัดเจน หน้าบ้านของทุกคนหันหน้าเข้าทะเล ฉันไม่รู้ว่าบ้านหลังนี้ของเขาเองหรือว่าบ้านเช่า แต่คงไม่สะดวกถ้าฉันต้องใช้ชีวิตอยู่กับเขาที่นี่หนึ่งคืนเต็มๆ "ฉันกับลูกอยากพักโรงแรมธรรมดา ย้ำว่าฉันกับลูก คุณจะมาหาอันดาก็ได้แต่ฉันขอความเป็นส่วนตัว" "เธอรู้ตัวไหมว่าตัวเองเป็นคนเรื่องมาก ตั้งแต่ฉันเจอผู้หญิงมาไม่เคยมีใครเรื่องมากเท่าเธอมาก่อน ต่อให้เป็นนับดาวเด็กนักศึกษาแพทย์ก็ไม่เคยเรื่องมากขนาดนี้ หรือว่าเธอกำลังเรียกร้องความสนใจจากฉันกันแน่ ไม่โดนฉันกระแทกนานพยศไม่เลิก" "คุณจัสติน!" ฉันตวาดเสียงดังลั่นจนลืมไปซะสนิทว่าอันดายังคงหลับอยู่ในอ้อมแขน แต่คำพูดของเขามันเกินจะทนไหว "อื้อ ออ...แม่นับดาวทะเลาะกับลุงจัสตินอีกแล้วเหรอคะ" อันดาค่อยๆลืมตาขึ้นพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงีย “เปล่าค่ะแม่ไม่ได้ทะเลาะกับลุงจัสตินเลย แม่แค่เรียกชื่อลุงจัสตินเฉยๆค่ะ คนเก่งเราถึงทะเลกันแล้วนะคะ” “ว้าว…ทะเลเป็นแบบนี้นี่เอง อันดาอยากเล่นน้ำทะเลค่ะ” ความงัวเงียหายเป็นปลิดทิ้งเมื่ออันดาผงกหัวขึ้นจากท่อนแขนของแม่และเห็นทะเลอยู่ตรงหน้า “โกหกหน้าตาย” จัสตินพูดขึ้นเบาๆก่อนจะเปิดประตูลงรถไป เขาสังเกตเห็นดวงตากลมโตกำลังมองเขาตาขวางแต่ทำเป็นไม่สนใจ ปึก ร่างสูงเดินอ้อมมาเปิดประตูรถฝั่งคนนั่งให้นับดาว ทำให้เธอเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยความไม่พอใจอีกครั้ง “ฉันเปิดประตูให้อันดา” พรึบ อันดากระโดดลงจากรถทันทีหลังจากประตูเปิดออก เด็กสาวตัวน้อยมองทะเลตรงหน้าด้วยรอยยิ้มและกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “แม่นับดาวขา…อันดาอยากเล่นทะเล” “เดี๋ยวไปเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำก่อนนะคะ แล้วแม่จะพามาเล่น” ฉันเดินเข้ามาหาลูกน้อยด้วยรอยยิ้ม “ไม่ได้! ไม่เห็นเหรอไงว่าแดดกำลังร้อน” จัสตินพูดเสียงดังด้วยความไม่พอใจ “นี่คุณ! ฉันตั้งใจจะมาพักผ่อนกับลูก แต่คุณก็ขัดพวกเราทุกอย่าง อะไรของคุณนักหนา ไม่เห็นเหรอว่าอันดาหน้าเสียแค่ไหน” ฉันเดินเข้ามาใกล้จัสตินและพูดให้ได้ยินกันแค่สองคน เพราะไม่อยากทะเลาะให้ลูกเห็นแล้ว และสีหน้าอันดาก็เปลี่ยนไปทันทีเมื่อถูกขัด “แล้วเธอไม่เห็นเหรอไงว่าแดดมันแรงแค่ไหน” “ให้อันดาได้จุ่มเท้าก็ยังดี และบอกเหตุผลเขาไม่ได้เหรอคะ ฉันไม่ใจดำให้ลูกเล่นน้ำจนไม่สบายหรอกค่ะ อันดาเป็นลูกฉัน ฉันรู้ดีว่าต้องทำยังไง นี่เป็นครั้งแรกของอันดาที่ได้เห็นทะเลอย่าพึ่งขัดได้ไหม” สายตาคมจ้องมองคนตัวเล็กสลับกับเด็กสาวตัวน้อยที่ยืนทำหน้าละห้อยอยู่ไม่ไกล “เล่นแค่ริมชายฝั่งก่อนนะอันดา เอาไว้เย็นๆลุงจะพาลงไปเล่นน้ำอีกรอบ” “โอเคค่ะ” อันดาตอบกลับมาเสียงแหลม สีหน้าเปลี่ยนไปต่างตอนแรกอย่างสิ้นเชิง “ถ้าอยากเปลี่ยนชุดให้อันดา เดินตรงไปหน้าบ้านมีโซนล้างตัว ห้องอาบน้ำอยู่ ของของเธอกับอันดาเดี๋ยวฉันยกเข้าบ้านเอง และไม่ต้องพูดมากเธอมีหน้าที่ดูแลลูก” จัสตินพูดจบก็เดินไปหยิบของหลังรถทันทีปล่อยให้สองแม่ลูกมีเวลาอยู่ด้วยกัน ฉันไม่ได้เถียงอะไรเขากลับ และเลือกหาชุดว่ายน้ำและครีมกันแดดของอันดาในกระเป๋าและเดินออกไปตามทางที่เขาบอก ฉันไม่ได้ถืออะไรติดมือมาเลยนอกจากของอันดาเพราะเขาหยิบไปเองทั้งหมดแม้แต่กระเป๋าเสื้อผ้าฉัน “เย้ๆ เย้ๆ อันดาได้เล่นน้ำทะเลแล้ว อันดาจะก่อกองทรายด้วยค่ะ แม่นับถ่ายรูปอันดาเยอะๆนะคะ อันดาจะเอาไปอวดคุณยาย” เด็กสาวในชุดบิกินี่เด็กสีชมพูหวานแหววกำลังตื่นเต้นดีใจที่ได้เล่นน้ำทะเลและก่อกองทราย "แม่ให้เล่นครึ่งชั่วโมงนะคะ แล้วค่อยลงมาเล่นใหม่ตอนเย็น เราค้างที่นี่กันหนึ่งคืนอันดาจะเล่นตอนไหนก็ได้แต่ไม่ใช่ตอนแดดแรงๆแบบนี้รู้ไหมลูก" ตอนแรกฉันก็ไม่อยากอยู่ที่นี่ แต่เมื่อเห็นความสุขของลูก เห็นรอยยิ้มของอันดา ทำให้ฉันยอมที่จะนอนที่นี่ มันคงยากถ้าฉันจะไปหาบ้านเช่าเอง อีกอย่างคงไม่ได้อยู่ติดทะเลขนาดนี้ "ค่ะ" มือเล็กโกยทรายริมทะเลด้วยรอยยิ้ม ฉันยืนมองลูกน้อยที่กำลังเพลิดเพลินกับการก่อกองทรายก็ระบายยิ้มออกมาจนหุบไม่ได้ "ถ้าไม่คิดจะทำอะไรก็ยืนถือไว้เฉยๆ" จัสตินเดินมาจากด้านหลังพร้อมกับยัดร่มคันใหญ่ใส่มือเธอโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ก่อนจะนั่งยองๆก่อทรายกับอันดา หลังจากเก็บของเสร็จก็ลงมาหาสองคนแม่ลูกที่ริมชายหาดทันที เขาไม่เคยคิดอยากเล่นน้ำทะเล ไม่เคยคิดที่จะก่อกองทราย ต่อให้มีบ้านพักตากอากาศอยู่ริมทะเลแต่ก็ไม่เคยลงเล่นสักครั้ง นี่ถือเป็นครั้งแรกของเขาเหมือนกันที่ได้ก่อกองทรายหน้าบ้านพักตัวเอง ฉันยืนถือร่มบังแดดให้ทั้งสองคน มองสองคนเล่นทรายกันโดยที่ไม่ได้พูดอะไร มือหนากับมือเล็กช่วยกันก่อเจดีย์ทราย ฉันมองภาพทั้งสองคนอย่างเงียบๆ มันคือภาพครอบครัวที่ฉันเคยวาดฝันไว้ตั้งแต่ตอนที่คบกับเขา แต่ทุกอย่างมันก็พังทลายลงเพราะตัวจัสตินเอง ไม่คิดว่าวันนี้จะได้เห็นภาพนี้ด้วยตาตัวเอง แต่สุดท้ายฉันก็รีบสลัดความคิดพวกนั้นออกจากหัวมันคงไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว ฉันตัดสินใจคบกับพี่นนท์ไปแล้ว "ทีหลังหาชุดที่มิดชิดกว่านี้ให้อันดาใส่ ต่อให้อันดาเป็นเด็กสามขวบ แต่ก็เป็นผู้หญิง เธอจะให้ลูกใส่บิกินี่แบบนี้ไม่ได้" จัสตินพูดขึ้นทั้งที่มือหนายังช่วยอันดาก่อกองทราย "อันดาลูกฉัน และชุดนี้ก็น่ารักด้วย คนโตๆยังใส่บิกินี่กันได้เลยค่ะ" "แต่ฉันไม่ชอบ" ใบหน้าคมคายเงยขึ้นมาสบตากับคนตัวเล็กที่ยืนกลางร่มอยู่ด้วยสีหน้าไม่พอใจและหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นชุดของอันดา "คะ?" ฉันถึงกับเอียงคอด้วยความสงสัย อยู่ดีๆเขาก็พูดเหมือนหวงลูกสาวของฉันราวกับตัวเองเป็นพ่อที่หวงลูก แต่พอฉันทำหน้าสงสัยเขากลับไม่สนใจและก้มลงไปก่อทรายกับอันดาตามเดิม อยู่ดีๆหัวใจดวงน้อยก็เต้นระส่ำกลัวว่าเขาจะรู้ความจริงแล้ว "ตอนเย็นแม่นับดาวเปลี่ยนชุดแบบอันดาแล้วมาเล่นทะเลด้วยกันนะคะ เมื่อวานแม่นับบอกว่าจะใส่คู่กับอันดาอย่าลืมสัญญานะคะ" อันดาชวนผู้เป็นแม่ด้วยรอยยิ้มตามประสาเด็ก "เดี๋ยวตอนเย็นแม่เปลี่ยนมาเล่นน้ำทะเลกับอันดาค่ะ แต่แม่ว่าตอนนี้เราควรหยุดเล่นได้แล้วนะ ไปล้างตัวแล้วกินข้าวกันดีกว่า" ฉันรับรู้ได้ถึงสายตาของใครบางคนที่จับจ้องฉันตั้งแต่อันดาพูดจบ ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรเหมือนกันได้แต่ปั้นหน้ายิ้มให้กับลูกสาว "ลุงก็จะเล่นน้ำทะเลด้วยเหมือนกัน ลืมลุงไปแล้วเหรอไง" "ไม่ลืมค่ะ เราจะเล่นด้วยกันสามคนเลย"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD