EP 17 : มาตามสัญญา

2218 Words
พลั้งรักมาเฟียร้าย : ตอนที่ 17 ช่วงดึกวันเดียวกัน "พรุ่งนี้กูไม่ว่าง มึงเข้าไปเช็คของที่โกดังแทนกูด้วย" "ครับ?" วินตันแสดงความแปลกใจออกมาเพราะพรุ่งนี้เจ้านายหนุ่มไม่มีตารางงานหรือนัดแนะกับใครที่ไหน "แค่ทำตามที่กูสั่ง พรุ่งนี้กูจะไปต่างจังหวัดจะขับรถไปเองให้พวกมันตามไปห่างๆก็พอ" "ผมจะสั่งคนของเราให้ครับ ว่าแต่กับคุณคาร่านายจะเอายังไงกับเธอต่อครับ เห็นเธอพยายามตามนายไปทุกที่เลย" ไม่กี่วันมานี้เขาเห็นเจ้านายหนุ่มไม่สนใจพริตตี้สาวคนนั้นแล้ว แต่กลับสนใจคนที่ทำงานอยู่โรงพยาบาลแทน "เบื่อ" จัสตินตอบมาเพียงสั้นๆ เพราะตอนนี้เขารู้สึกเบื่อหญิงสาวที่เคยร่วมเตียงคนเก่าแล้ว และก็ไม่มีความจำเป็นต้องใส่ใจเธออีก "ผมจะกันเธอออกให้ครับ" สายตาคมทอดยาวออกไปราวกับกำลังคิดถึงเรื่องบางอย่างอยู่ บรรยากาศในห้องทำงานภายในคฤหาสน์หรูเงียบสงัดจนได้ยินเสียงเข็มนาฬิกาเดินเป็นจังหวะที่สม่ำเสมอ วินตันยืนอยู่ไม่ห่างจากเจ้านายหนุ่มคอยลอบมองใบหน้าคมคายอยู่เป็นระยะ "มึงมีอะไรอยากพูดกับกูไหม" สายตาคมตวัดมามองลูกน้องคนสนิท ใบหน้าเรียบนิ่งไม่มีแม้แต่ความรู้สึกแต่แฝงไปด้วยความอำมหิตที่เหมือนกำลังคาดคั้นนักโทษ "การที่นายเข้าหาคุณนับดาวเป็นเพราะแก้เหงาระหว่างรอผู้หญิงคนใหม่จริงเหรอครับ" วินตันเว้นช่วงคำพูดเพราะเห็นสายตาของเจ้านายหนุ่มจับจ้องไม่วางตา "ถ้านายคิดจะเล่นๆกับเธอเหมือนคุณคาร่าอย่าดึงอันดาเข้ามาเกี่ยวด้วยเลยครับ เมื่อสามปีก่อนนายทิ้งคุณนับดาวคนเดียวก็จริง แต่ตอนนี้นายจะทิ้งทั้งคุณนับดาวกับอันดาเลยนะครับ ผมเห็นความใสซื่อในแววตาคู่นั้นของอันดาก็อดสงสารไม่ได้ ถ้านายใหญ่ไม่พอใจลงโทษผมได้ครับ" วินตันก้มหัวให้เจ้านายหนุ่มอย่างรู้สึกผิด แต่กลับรู้สึกดีที่ได้พูดออกไปตรงๆ "มึงจะไปไหนก็ไปเถอะ กูว่าจะเคลียร์งานอีกนิดหน่อย" จัสตินกลับมาก้มหน้าอ่านเอกสารตรงหน้าทำเหมือนไม่ได้ใส่ใจสิ่งที่วินตันพูด แต่เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องปิดลงด้วยฝีมือของลูกน้องคนสนิท ใบหน้าคมคายก็เงยขึ้นอีกครั้ง แผ่นหลังแกร่งพิงพนักเก้าอี้ก่อนจะปรายตามองประวัติของนับดาวที่ตั้งอยู่บนโต๊ะอีกครั้ง สายตาคมกริบคู่นั้นเลื่อนสายตาไปที่คำว่าอันดา ข้างๆกันมีเอกสารใบสูติบัตรของอันดาที่เว้นว่างชื่อของผู้เป็นพ่อไว้ มีเพียงชื่อของนับดาวที่ระบุว่าเป็นแม่ เขาพึ่งได้เอกสารชุดนี้จากวินตันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน อยู่ดีๆก็อยากรู้เรื่องราวของอันดาขึ้นมาหลังจากที่ได้พูดคุยกับเด็กผู้หญิงคนนั้น ภายในห้องนอนขนาดปานกลางของคอนโดใจกลางเมือง บรรยากาศภายในห้องมืดสนิทมีเพียงแสงจากโคมไฟส่องแสงสว่างเท่านั้น "พออันดาได้จับมือของคุณลุงจัสตินเหมือนอันดาได้จับมือพ่อเลยค่ะ" คำพูดของอันดาวนเวียนอยู่ในหัวตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ ต่อให้เวลาผ่านไปนานแค่ไหนฉันก็ยังจำคำพูดและแววตาของลูกสาวได้ดี ฉันไม่ได้อยากกีดกันพ่อกับลูก แต่สิ่งที่จัสตินทำในอดีตมันยังฝังลึกอยู่ในใจฉันมาจนถึงปัจจุบัน ฉันเชื่อว่าถ้าตอนนั้นถ้าอุ้มท้องไปบอกว่าท้องกับเขา เขาคงไม่มีทางเชื่อ และอาจจะดูถูกฉันกลับมาให้ฉันเจ็บปวดมากกว่านี้ก็ได้ ต่อให้ตอนนี้เขารู้ว่าอันดาเป็นลูกแท้ๆของตัวเอง ฉันก็ยังไม่ไว้ใจเขาอยู่ดี เขาไม่เคยเลี้ยงอันดาตั้งแต่อยู่ในท้องจนถึงตอนนี้ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการเลี้ยงลูกเป็นแบบไหน มันคงเป็นไปได้ยากถ้าจะให้อันดาเรียกเขาว่าพ่อ "แม่นับดาว" "หื้ม...ยังไม่หลับอีกเหรอคะคนเก่ง" ฉันหลุดออกจากภวังค์ความคิดเมื่อได้ยินเสียงงัวเงียของลูกน้อยเรียก พลางก้มมองร่างเล็กที่นอนอยู่ในอ้อมอกด้วยความแปลกใจ ทั้งที่ตอนนี้เกือบจะตีหนึ่งแล้ว "อันดาฝันว่าแม่นับดาว ลุงจัสติน และอันดา นอนอยู่บนเตียงเดียวกันค่ะ เราทั้งสามคนกำลังหัวเราะด้วยค่ะ" "อันดาขา...ตอนนี้ดึกมากแล้วนะลูก เอาไว้ค่อยคุยกันพรุ่งนี้ดีกว่าเนอะ พรุ่งนี้อันดาจะได้ไปเที่ยวทะเลคืนนี้ต้องพักผ่อนเยอะๆนะคะ"ฉันพูดพร้อมกับตบก้นลูกน้อยไปด้วย ไม่ใช่ไม่คิดกับคำพูดของอันดาแต่ฉันไม่อยากให้ลูกเพ้อฝันไปมากกว่านี้ พอมันไม่ใช่อย่างที่อันดาคาดหวัง คนที่เสียใจที่สุดก็หนีไม่พ้นตัวอันดาเอง "ก็ได้ค่ะ พรุ่งนี้คุณลุงจัสตินจะมารับเราแต่เช้าเลยใช่ไหมคะ" "แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ไม่คุยกันแล้วนะ หลับตาได้แล้วค่ะคนเก่ง" ทุกอย่างอยู่ในความเงียบเมื่อฉันพูดจบ ไม่นานก็ได้ยินเสียงลมหายใจของอันดาเข้าออกสม่ำเสมออีกครั้งบ่งบอกว่าเด็กน้อยหลับไปแล้ว ดวงตากลมโตทอดสายตามองออกไปท่ามกลางความมืด ทั้งที่วันนี้เหนื่อยล้าแต่ไม่มีความรู้สึกง่วงเลยสักนิด เรื่องราวต่างๆวนอยู่ในหัวตลอดเวลา ต่อให้ข่มตาหลับก็เห็นแต่ภาพเหตุการณ์ต่างๆมากมาย ไม่ใช่แค่เรื่องจัสติน แต่เป็นเรื่องของพี่นนท์ด้วย ช่วงเช้าของวันใหม่ หญิงสาวร่างบางกำลังหมุนตัวเช็คความเรียบร้อยของตัวเองอยู่หน้ากระจกเงา ใบหน้าหวานถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางแบบบางเบา เข้ากับชุดเดรสสายเดี่ยวสีขาวยาวไปจนถึงตาตุ่ม ผมลอนสวยรับกับใบหน้าหวานอย่างลงตัว ริมฝีปากถูกเคลือบด้วยลิปสติกสีชมพูระเรื่อคลี่ยิ้มบางๆ เครื่องสำอางสามารถกลบรอยคล้ำใต้ตาได้เป็นอย่างดีเพราะฉันแทบไม่ได้นอนเลย ครืด ครืด ครืด.. เสียงโทรศัพท์แผดเสียงดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆก่อนจะปรากฏตัวของเด็กแสบตัวน้อยที่อยู่ในชุดเดรสสีขาวความยาวพอดี ถักเปียสองข้างเพิ่มความน่ารักขึ้นไปอีก แต่ใบหน้าจิ้มลิ้มบึ้งตึงกำลังถึอโทรศัพท์มาให้ฉัน และเมื่ออันดาส่งโทรศัพท์ให้รูปที่ฉันตั้งไว้สำหรับเจ้าของเบอร์เด่นหราอยู่ตรงหน้า ไม่แปลกที่อันดาจะแสดงสีหน้าไม่พอใจ ถึงอันดาจะอ่านชื่อคนโทรเข้ามาไม่ออกแต่เห็นรูปก็รู้ได้ว่าเป็นใคร "ฮัลโหลค่ะพี่นนท์" (พี่มาถึงโรงพยาบาลแต่เขาบอกว่านับลาหยุดหนึ่งวัน ทำไมพี่ไม่รู้เรื่องนี้เลย) "มันค่อนข้างฉุกละหุกนิดหน่อยค่ะ นับเองก็พึ่งเขียนใบลาเมื่อวานเอง" (เกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า หรือเกี่ยวกับแม่ของนับและอันดา บอกพี่ได้นะเดี๋ยวพี่ลางานไปได้เลย) "ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงขนาดนั้นค่ะ พอดีนับอยากมีเวลาอยู่กับอันดาเต็มๆสักวัน เลยว่าจะพา..." หมับ มือเล็กๆของอันดาปิดปากฉันไว้แน่น ใบหน้าจิ้มลิ้มส่ายหัวเบาๆ และใช้นิ้วชี้แตะที่ริมฝีปากตัวเองไว้ บ่งบอกว่าไม่ต้องการให้คนในสายรับรู้ (จะพาอันดาไปไหนล่ะ ให้พี่พาไปไหม นับจะได้ไม่ต้องขับรถ พี่เองก็อยากใช้เวลาอยู่กับอันดาเหมือนกัน เราเป็นแฟนกันแล้วนะนับดาว พี่อยากให้นับมีเรื่องอะไรบอกพี่เป็นคนแรกๆบ้าง) "เอ่อ...คือ...ไม่ได้จะพาไปไหนไกลหรอกค่ะ แค่เดินห้างแถวนี้และว่าจะพาเล่นของเล่นในห้างนิดหน่อยค่ะ นับเลยใช้วันลาพักร้อนเพื่ออยู่กับอันดา นับขอโทษนะคะที่ไม่ได้บอกพี่นนท์แต่เห็นว่าพี่นนท์ยุ่งๆนับเลยไม่อยากรบกวนค่ะ เอาไว้เราค่อยเจอกันแล้วนับจะชดเชยให้นะคะ" ฉันต้องโกหกคำโตเพราะเด็กแสบเลยจริงๆ ฉันไม่รู้ว่าจัสตินจะมาตามสัญญาที่ให้ไว้กับอันดาไหม แต่ถ้าพี่นนท์มาเจอจัสตินสนิทสนมกับอันดาฉันเองก็เห็นใจพี่นนท์เหมือนกัน (ก็ได้ครับ ถึงจะแอบน้อยใจนิดๆแต่พี่ก็เคารพในการตัดสินใจของนับ เอาไว้เจอกันครับ) "พอใจยังคะตัวแสบ ร้ายนักนะ" ฉันพูดกับอันดาหลังจากกดวางสายจากพี่นนท์ นับวันอันดายิ่งแสบขึ้นเรื่อยๆไม่รู้ติดนิสัยรู้มากมาจากใคร ยิ่งความเจ้าเล่ห์และท่าทางที่สื่อออกมาเมื่อกี้ฉันไม่เคยสอน "ไปกันค่ะ ป่านนี้คุณลุงจัสตินมารอแล้ว" อันดาทำหน้าเฉไฉแถมยังเปลี่ยนเรื่องไปดื้อๆ "ถ้าลงไปไม่เจอลุงจัสตินแม่จะขับรถไปเอง โอเคไหมคะ" เพราะนี่พึ่งจะแปดโมงเช้าคนอย่างจัสตินไม่น่ามาเร็วขนาดนั้น อีกอย่างเขาไม่ชอบรอใคร ทุกคนต้องเป็นฝ่ายรอเขา ฉันเชื่อว่าจัสตินไม่มีความอดทนมากพอที่จะรอใครได้ อย่างน้อยฉันก็มีความหวังลึกๆได้แต่ภาวนาอยู่ในใจ รู้ว่าอันดาอาจผิดหวังแต่เชื่อว่าพออันดาเห็นทะเลก็จะลืมทุกอย่างไปเอง "โอเคก็ได้ค่ะ" อันดาทำหน้าสลดลงเพราะกลัวว่าลุงจัสตินจะยังไม่มา ฉันและอันดาพากันเดินออกจากห้อง โดยที่ให้อันดาเดินนำหน้าไม่ได้จูงมือเหมือนทุกครั้งเพราะมือของฉันเต็มไปด้วยของใช้ของกินพะรุงพะรัง ฉันเตรียมอาหารไปเผื่ออันดาหิวระหว่างทาง ทั้งกระเป๋าเสื้อผ้าของเราสองคนแม่ลูกอีกสองใบ ส่วนใหญ่จะเป็นของเจ้าแสบทั้งนั้น ฉันยิ้มให้กับท่าทางกระโดดโลดเต้นของลูกสาวตัวน้อย ติ๊ง... ประตูลิฟต์เปิดออกเมื่อสองสาวแม่ลูกลงมาถึงชั้นเป้าหมาย ทุกคนเห็นต่างอมยิ้มเพราะทั้งสองคนแต่งตัวคล้ายกัน "คุณลุงจัสติน" เสียงของอันดาตะโกนลั่นล็อบบี้ของคอนโดทำให้ฉันเงยหน้าไปมองชายหนุ่มที่อยู่ในชุดสีขาวสะอาดตาทั้งเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงสามส่วนสีเดียวกันค่อนข้างแปลกตาไปกว่าทุกครั้งที่เจอ ทุกอย่างที่คิดไว้ตอนแรกแตกสลายหายไปจนหมด เขามารอฉันกับลูกอยู่ก่อนแล้ว และไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ลูกสาวตัวน้อยวิ่งไปหาเจ้าของชื่อนั้นราวกับสมหวังที่ได้เจอเขา แต่กับตัวฉันเองไม่มีความรู้สึกอะไรนอกจากแปลกใจและไม่รู้จะทำตัวยังไง เราไม่ได้เป็นอะไรกัน แถมยังอยู่ในฐานะแฟนเก่า ฉันตั้งปณิธานกับตัวเองไว้ว่าจะเกลียดผู้ชายที่ชื่อจัสตินไปตลอดชีวิตมันคงยากที่จะทำตัวสนิทสนมและคงอึดอัดไม่น้อยถ้าต้องนั่งรถไปกับเขา สายตาคมมองเด็กสาวที่วิ่งมาหาเขาด้วยรอยยิ้มก่อนจะปรายตามองหญิงสาวร่างบางที่ยืนอยู่ไม่ไกล การแต่งตัวของเธอแปลกตากว่าทุกครั้งนับดาวโตขึ้นมากจริงๆ เธอสลัดคาบเด็กเรียนแพทย์ออกไปจนหมด แต่ก็ต้องรีบหันกลับมามองเด็กสาวตัวน้อยที่วิ่งมาจับมือเขาไว้แน่น "อันดาดีใจที่คุณลุงจัสตินจะไปเที่ยวทะเลกับอันดาค่ะ" "ก็นัดกันไว้แล้วนิ่ จะผิดสัญญาได้ไงล่ะ" "ถ้านายอยากไปด้วยก็ขับตามมาละกัน ฉันจะขับรถไปกับอันดาเอง" "โห่..." เสียงโห่ของอันดาดังพอที่จะรู้ว่าเขาไม่อยากให้ฉันทำแบบนี้ "ตลกสิ้นดี" พรึบ "คุณจัสติน" ฉันตวาดเสียงดังลั่นเมื่ออยู่ดีๆมือหนาก็เข้ามากระชากของในมือฉันไปทั้งหมดโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว "ไปกันอันดา รถคันสีแดงนั่นรถลุงเอง" จัสตินไม่ได้สนใจท่าทางเกรี้ยวกราดของนับดาว แต่กลับถือของและพาอันดาไปที่รถของตัวเอง ปล่อยให้นับดาวยืนไม่พอใจอยู่คนเดียว "นั่นลูกฉันใช่ไหม" ฉันบ่นพึมพำกับตัวเองเมื่อเห็นท่าทางอันดาที่ดูดีใจและเดินตามจัสตินไปทั้งที่ทั้งคู่พึ่งเจอกันเมื่อวาน ฉันไม่ได้ดีใจที่เห็นอันดาเข้ากับจัสตินได้ เพราะฉันยังไม่ไว้ใจเขา ไม่รู้ว่าทำไมถึงเข้ามาในชีวิตฉันกับลูก และยังเข้ากับอันดาได้ง่ายขนาดนั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD