บทที่9
ตัวแสบ แซ่บถึงทรวง
บ้านพยัคฆ์เมฆา
ฉันโบกมือลาว่าที่คู่หมั้นจนรถของเขาขับออกพ้นตัวบ้าน ฉันก็ยกยิ้มมุมปากแล้วหันกลับมา ไอ้น้องชายชั่วมันก็ยืนล้วงกระเป๋ามองหน้าฉันพร้อมกับพยักหน้าให้ลูกน้องส่งถุงเสื้อผ้ามาให้ฉัน
“แรดมาก ถ้าพ่อเบย์รู้โดนอีกแน่!”
“ก็อย่าบอกสิ แต่ขอบใจนะที่ช่วย”
“จะเอาคนนี้จริงๆ เหรอ เจ้ดูไม่เหมาะกับเขาเลย เขาดูเป็นคนดีเกินไป ส่วนเจ้แรด!”
“ไอ้โบ๊ท!!!”
“มีอะไรกัน”
ฉันยกถุงจะฟาดมันแต่พ่อไบร์ทดันเดินมาซะก่อน แต่ดูเหมือนพ่อจะตกใจที่เห็นฉันแต่งตัวเรียบร้อย ท่านยกมือทาบอกราวกับหัวใจจะวาย
“นี่วิญญาณคุณย่ามาเข้าสิงลูกพ่อหรือเปล่า เบล เบลเป็นอะไรไปลูก” แค่เห็นการแต่งตัวของลูกสาวผู้เป็นพ่อก็ถึงกับวิ่งมาจับตัวลูกสาวหมุนไปหมุนมาจนลัลลาเบลกลอกตามองบนเช่นเดียวกับลูกชายที่หัวเราะลั่น
“เบลเองค่ะพ่อไบร์ท พอดีเบลอยากลองแต่งตัวเรียบร้อยบ้าง”
พ่อไบร์ททำตาโตพร้อมกับเบะปากใส่ฉัน ทำไมพ่อไม่เชื่อเหรอ ฉันเนี่ยใสใสเลยนะ
“ไม่ใช่ว่าเห็นพี่วาโยนั่งอยู่กับเพื่อนแล้ววิ่งเข้าร้านเสื้อผ้าไปเปลี่ยนโฉมตัวเองล่ะ”
ฉันหันขวับไปมองหน้าไอ้น้องเวรทันทีแต่มันโบกไม้โบกมือปฏิเสธ มือของพ่อไบร์ทจึงจับหัวฉันให้หันไปมองหน้าช้าๆ
“น้องไม่ได้ฟ้อง พ่อไปรับสร้อยเพชรให้แม่เรามา” ไม่พูดเปล่ายังยกถุงกระดาษที่มีชื่อแบรนด์ให้ลูกสาวได้ดู
“คุณพ่อเห็นเหรอคะ”
“เห็นหมดแหละ ไปเถอะเข้าบ้านวันนี้พ่อจะฉลองให้กับลุคใหม่ของลูกสาว”
“ชิ! คุณพ่อห้ามบอกใครนะคะไม่งั้นเรื่องที่พ่อซื้อกาแฟไปติดสินบนครูหวานถึงหูแม่แน่!” ฉันหันไปสบตาพ่ออีกครั้งเล่นเอาพ่อฉันต้องยกมือขึ้นสาบานว่าจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร ไม่งั้นฉันจะเอาเรื่องที่พ่อซื้อกาแฟไปฝากฝังครูหวานให้ช่วยปิดหูปิดตาเรื่องที่ฉันมีเรื่องในโรงเรียนบอกให้แม่รู้
แผนการที่ฉันจะทำให้ว่าที่คู่หมั้นตกหลุมรักกำลังดำเนินต่อไป เพราะเพื่อนๆ ของฉันยอมร่วมมือช่วยเป็นหูเป็นตาและฝึกการบริหารเสน่ห์ เท่าที่ฉันรู้จักพี่วาโยเขาดูชอบเวลาที่ฉันแต่งตัวเรียบร้อย ฉันจึงต้องสั่งซื้อชุดที่โคตรจะเรียบร้อยมาเก็บเอาไว้ ให้ตายเถอะตั้งแต่เกิดมาฉันไม่คิดอยากจะใส่มันเลยด้วยซ้ำ
ฉันลงมารอหูฉลามเจ้าดังจากร้านดังที่ให้คนไปซื้อมา เพราะวันนี้ที่มหาวิทยาลัยจะมีการเตรียมปรับแผนการเรียนใหม่เพื่อรอนักศึกษาในเทอมหน้าก็คือพวกฉันนี่แหละ
มาถึงฉันก็รีบเช็กหน้าผมให้เรียบร้อยและให้คนขับรถจอรออยู่แถวๆ นี้ เดินเข้ามาก็เจอคุณพ่อว่าที่สามีกำลังคุยกับอาจารย์ท่านอื่น ฉันจึงยกมือไหว้ทั้งสองท่านพร้อมส่งรอยยิ้มให้
“สวัสดีค่ะคุณลุง”
“มาหาวาโยเหรอลูก”
“ค่ะ มาหาคุณลุงด้วยพอดีเบลซื้อหูฉลามมาฝากค่ะ มีของคุณป้าด้วยนะคะ”
“โอ้โห แบบนี้ลุงจะกินให้หมดเลย โน่นไปกวนพี่วาโยก่อนเลยเดี๋ยวลุงตามไป อยู่ตึกใหญ่ขึ้นบนสุดห้องซ้ายมือนะลูก”
“ค่ะ ขอบคุณลุง”
ฉันรีบเดินตรงดิ่งมาที่ตึกใหญ่จากนั้นก็กดลิฟต์มาที่ชั้นบน มาถึงก็เดินตรงมาทางซ้ายจนเห็นป้ายชื่อห้องรองอธิการบดี
ก๊อกๆๆ
“ครับ”
แอดดด ฉันเปิดประตูเข้ามาก็เห็นเขากำลังง่วนกับเอกสารกองโตอยู่ แต่เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองฉันด้วยซ้ำ
“เอกสารวางไว้ก่อนเลยเดี๋ยวเคลียร์ตรงนี้เสร็จผมไปตรวจอีกทีครับ”
“หิวไหมคะ^^”
วาโยรีบเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของเสียง สายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความตกใจ วันนี้เธอมาในชุดเดรสลายดอกลิลลี่ กระโปรงยาวถึงเข่า
“เบลมาได้ไง?”
“พอดีเบลเอาหูฉลามมาฝากค่ะ ถุงนี้ของคุณลุงกับคุณป้า อันนี้ของพี่วาโยค่ะ^^”
“ขอบคุณ...เป็นอะไรหรือเปล่าเบล” สายตาที่ดูระแวงปนตกใจทำเอาลัลลาเบลหัวเราะร่า
“ฮ่าๆ เบลแค่อยากลองทำอะไรใหม่ๆ บ้าง เอาแต่ใจไปพี่ก็ไม่ชอบนี่คะ เป็นคนดีมันก็ไม่ได้แย่”
///วาโย///
แปลกๆ ตั้งแต่วันนั้นแล้วนะเด็กคนนี้ ไม่รู้ว่ามาดีหรือเปล่า ผมมองหน้าเธอด้วยความแปลกใจเพราะผมไม่รู้เธอจะมีแผนอะไร แต่ถ้าไม่ใช่แผนแล้วเธอทำตัวน่ารักเป็นเด็กดีแบบนี้ผมว่ามันน่ารักมากเลย
ผมเดินมานั่งทานหูฉลามที่เธอซื้อมาให้จนหมดพ่อผมก็เข้ามาพร้อมกับแม่ จากนั้นผมก็ให้พวกท่านคุยกับเธอไปส่วนผมกลับมาทำงานต่อ ยิ่งเธอเป็นแบบนี้แม่ผมยิ่งรักเธอเข้าไปใหญ่
“หนูเบลเดือนหน้าก็19แล้วใช่ไหมลูก”
“ใช่ค่ะคุณป้า”
“ถึงแม้จะอายุห่างจากพี่เขาไปหน่อยแต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะป้ากับลุงไม่แคร์ และพี่เขาก็ไม่ติดใจอะไรใช่ไหมวาโย”
ผมไม่ตอบแต่มองหน้าแม่ผมด้วยสายตานิ่งๆ อนาคตอะไรก็ไม่แน่นอน แค่งานผมก็จะตายอยู่แล้ว อย่าเอาอะไรมาใส่หัวผมนักเลย หลังจากที่เธอกลับไปแล้ว แม่ผมก็ยังชื่นชมเธอไม่หยุด ชมชนิดที่ว่าอยากจะชวนเธอมาอยู่ที่บ้านซึ่งแน่นอนว่าพ่อผมค้านไว้ ยังไงเธอก็เป็นนักศึกษา ให้ผมค่อยๆ ปรับจูนเข้าหากันแบบนี้นี่แหละดีแล้ว
อย่างน้อยเธอก็ปรับปรุงตัวเองแล้ว....