อ๋องสาม

3123 Words
“แสงสว่าง พาดทับ ร่มเงาเคลื่อน สายฝนพรำ ลบเลือน รอยรักหวาน ลมรำเพย พัดผ่าน น้ำตาพร่าง หิมะโปรย กลบพราง ทางหวนคืน” ตอนที่ 1 ร่างขาวอวบอรชรไร้ซึ่งอาภรณ์ใดบดบังความงามเย้ายวนแห่งอิสตรีโก่งก้มทำโอษฐ์กามด้วยความกระสันสุข เบื้องหลังบั้นท้ายขาวผ่องมีชายหนุ่มแรงดีคอยบำเรอสวาทให้นางไม่ได้ขาด ขณะคลานเข่าก้มๆ เงยๆ ใบหน้างามป้อนปรนเปรอความสุขแก่มหาโจรหย่งนานผู้มีเครื่องเพศใหญ่โตราวม้าศึกวัยคึกคะนองและหย่งหนานยังฝังมุกเอาไว้ใต้ผิวเนื้อมากกว่ายี่สิบสองเม็ดจนขรุขระตะปุ่มตะป่ำอย่างน่าขนลุกขนพอง  นางโยกเอนร่างรองรับจังหวะการกระแทกกระทั้นรัวแรงจากด้านหลังด้วยอารมณ์เมามันต่อเนื่อง ขณะสองมือประคองความแข็งคึกชูชันที่ยื่นยาวหนั่นหนาและแข็งแกร่งราวต้นไม้ใหญ่  วงปากที่ห่ออมความเป็นชายของมหาโจรขยายตึงจนแทบฉีกขาด ทั้งคับปากคับคอจนแทบไม่มีช่องทางให้ลมหายใจผ่านแต่นางก็ฮึดสู้ไม่ยอมถอย “โอ้... พี่หย่งหนาน ข้า ข้าใกล้จะสำเร็จแล้ว! ”  ลู่อี้หนุ่มน้อยหน้าตาดีที่ถูกเลือกให้มาช่วยบุกเบิกช่องทางสวาทแก่ผู้หญิงของหัวหน้าขุนโจรแดนใต้ ร้องบอกลูกพี่ใหญ่ พลางห่อปากครางและเร่งจังหวะขยับสะโพกถี่ยิบ “อาา... ดี! ดีมาก เจ้าหลั่งข้างในได้เลย ข้าก็อยากเสียบนางเต็มที่แล้ว” หย่งหนานสอดนิ้วทั้งสิบขยุ้มกลุ่มผมนุ่มราวเส้นไหมของท่านหญิงอึ้งย้งสตรีสูงศักดิ์ผู้มีความงามเป็นอันดับหนึ่งแห่งเมืองลู่เจ๋อ กดศรีษะได้รูปต่ำลงและเร่งกระดกบั้นท้ายเร็วขึ้น  “อื้อ...” อึ้งย้งส่งเสียงประท้วง ยกฝ่ามือเรียวงามดันหน้าท้องแกร่งของหย่งหนาน ปรามให้เขาผ่อนแรงกระทุ้งใส่ลำคอที่เริ่มเจ็บระบม นางถูกหย่งหนานจับเงยหน้า ดันลำตัวขึ้นในท่วงท่าที่ผู้นอนอยู่เบื้องล่างสามารถมองเห็นการสอดผสานเครื่องเพศชายหญิงของสองร่างที่กระแทกกระทั้นกันอย่างชัดเจน  “อ๊ะ...อ๊ะ! อ๊าา...” อึ้งย้งร้องครวญครางเสียงสั่นสะท้านกายสั่นสะเทือน มือเรียวทั้งสองบีบขย้ำก้อนเนื้อทรวงอกขาวอวบอย่างเสียวซ่านรุนแรง   แม้ลู่อี้อายุเพียงสิบหกย่างสิบเจ็ด แต่รูปร่างสูงโปร่งผึ่งผาย ความเป็นชายใหญ่โตล่ำสันเกินตัว หน้าตาหล่อเหลาดูดีไม่เหมือนคนที่เกิดในเทือกเถาว์ชาวโจรป่า นอกจากหน่วยก้านดี เรี่ยวแรงของลู่อี้ยังมีมหาศาล ขยับแข้งขยับขาขยับก้นว่องไวไม่แพ้คนเป็นลูกพี่ใหญ่ “อาาา...”  ลู่อี้คำรามเสียงดังลั่น โก่งร่างยื่นแขนที่ประคองเอวคอดออกห่าง จนสุดยอดความเป็นชายเกือบหลุดจากดอกไม้งามแล้วโถมกายกลับคืนขณะมือเรียวแข็งแรงรั้งสะโพกผายกระชากเข้าหาหน้าขา  เสียงเนื้อหวดตีเนื้อดังสนั่น ลู่อี้ห่มก้นกระทั้นบั้นท้ายอวบมนจนหนำใจจึงยอมพวยพุ่งกำหนัดข้นขาวสาดเข้าข้างในรูสวาทสีแดงน่าย่ำยีของอึ้งย้งตามความต้องการของลูกพี่ใหญ่ อึ้งย้งเบี่ยงตัวไปผลักลู่อี้ออกห่างจากบั้นท้าย ขณะที่เขายังเป็นสุขกับการฝังแก่นกายในท่ายืนถ่างขา  “ข้าพร้อมสำหรับท่านแล้ว” นางพาเรือนร่างยั่วตัณหาขึ้นไปคร่อมหน้าตักของหย่งหนานที่ประคองท่อนเนื้อฝังมุกยี่สิบสองเม็ดตั้งโดดเด่นแผ่แฝงขอบรอบส่วนคอรอนางอยู่ด้วยความหื่นกระหายเต็มประดา มหาโจรนำปลายยอดบานแดงขยี้ร่องสวาท อาบชะโลมความเยิ้มลื่นที่ลู่อี้ละเลงทิ้งเอาไว้ ดันเสาหลักแห่งเลือดเนื้อค้ำคากึ่งกลางความสาวเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่ แล้วจับท่อนขาเรียวงามสองข้างแยกกว้างจนมองเห็นกลีบนอกกลีบในของดอกไม้งาม “ขย่มลงมา” หย่งหนานสั่ง  อึ้งย้งวาดแขนไปด้านหลังและวางมือบนต้นขาแข็งแรงของหย่งหนานแล้วขยับขย่มสะโพกผายลงสุดขึ้นสุดด้วยจังหวะสม่ำเสมอ และเร่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคุ้นเคยกับท่วงท่า นางวางนิ้วเรียวบนตุ่มเกสรเต่งตึงแล้วบดขยี้เร่าอารมณ์สวาทให้เริงร่าน  หย่งหนานสูดปากครางอืออาด้วยความชอบใจ พลางขยับไหวบั้นท้ายกระตุ้นให้นางขย่มความสาวเสียบลงบนแก่นกายแกร่งแรงเร็วมากขึ้น มือหยาบใหญ่ตะปบขยำก้อนเนื้อขาวอวบที่สั่นสะเทือนล่อใจอย่างเมามัน ทว่าแรงนารีเหมือนแรงแมว อึ้งย้งสามารถทำเสียวซ่านได้แต่ไม่ถึงขั้นที่หย่งหนานเสร็จสม มหาโจรจึงต้องเป็นฝ่ายลงมือลงสะโพกกระทำด้วยตัวเอง  ร่างขาวผ่องถูกจับกดลงนอนหงาย หย่งหนานใช้ฝ่ามือกดต้นขาของนางกางออกจนเข่ามนติดพื้นและขึ้นขย่มอึ้งย้งอย่างป่าเถื่อนด้วยเรี่ยวแรงที่ทรหดเหมือนไม่ใช่มนุษย์ “โอ...หย่งหนาน หย่งหนาน ท่านช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน อ๊าา... ”  อึ้งย้งพร่ำเพ้อ ร้องครวญครางด้วยความเสียวซ่านสาแก่ใจ ยิ่งนางร้องดังหย่งหนานยิ่งคลั่งยิ่งหื่น  มหาโจรโก่งสะโพกถอนกายออกมาทั้งหมดแล้วกระทั้นกระแทกนางกลับซ้ำหลายหน กระทั่งรูเนื้อแดงช้ำหลั่งเลือดชะโลมความเป็นชายจึงพอใจ  อึ้งย้งทั้งเจ็บแสบทั้งเสียวซ่านแทบสติหลุดลอย แรงตัณหา ทำให้นางลืมตัวลืมตาย ดีดเด้งเข้าใส่ปีศาจร้ายที่ขย่มกายใส่ความสาวอย่างบ้าคลั่ง  นางกรีดร้องด้วยความสุขสมเมื่อได้ยินเสียงคำรามโฮกด้วยความสุขสันต์ของหย่งหนาน อีกด้าน ลู่อี้นอนกึ่งนั่งพิงผนังถ้ำจดจ้องการเริงสวาทของลูกพี่ใหญ่กับหญิงงามที่สอนให้เขารู้จักรสรักและหลงรักนางอย่างโงหัวไม่ขึ้นด้วยความเมามัน  อารมณ์กระสันที่พึ่งสงบของหนุ่มวัยสิบหกย่างสิบเจ็ดได้ผงาดแข็งอีกครั้ง แค่มือของเขาไม่สามารถช่วยบรรเทาอาการคัดแข็งของความเป็นชายได้  ลู่อี้เข้าไปกระตุ้นให้สองร่างที่นอนกอดกันแน่น เริ่มต้นบรรเลงเพลงสวาทอีกครั้ง  ลูกพี่ใหญ่ยังปักหลักอยู่ในดอกไม้งาม เขาจึงขอเข้าทางประตูสวาทด้านหลัง  ลูกพี่ลูกน้องแข่งกันรีดเค้นกำหนัดออก โดยมีสาวงามเป็นคนกลาง อึ้งย้งครวญครางด้วยความเจ็บแสบเสียวซ่าน เรือนร่างงามบิดเร่าทุรนทุราย นางถูกหย่งหนานกับสมุนมือขวาบำเรอสวาทให้อย่างอิ่มหนำฉ่ำดอกไม้  สองขุนโจรแห่งแดนใต้ สูดปากส่งเสียงครวญครางด้วยความเสียวซ่านดังลั่นระงม ต่างกัดฟันขยับบั้นท้ายเร่งเร้าความกระสันสุขเร็วจี๋กระทั่ง “อ๊าา...” ทั้งสามร้องครางด้วยความสุขสันต์สุดเสียงเมื่อสำเร็จสวาทอย่างพร้อมเพียง ดอกไม้งามสั่นเกร็งบีบรัดความเป็นชายของหย่งหนานเร็วแรง ช่องทางลับด้านหลังดูดดึงความเป็นชายของลู่อี้หนึบแน่น นางรีดเค้นน้ำอดน้ำทนของทั้งคู่จนแห้งเหือดทุกหยาดหยด สามร่างนอนฟุบลงบนพื้น หอบหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า และเผลอหลับไปอย่างยาวนาน จนกระทั่งมีเสียงลูกไฟระเบิดดังขึ้น  อ๋องสามหยางหลงกวาดสายตามองรอบบริเวณแนวกำแพงสูงกว่าสิบฉื่อของหมู่บ้านมหาโจร แห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองลู่เจ๋อเพียงสามร้อยหลี่ด้วยความระแวดระวัง หยางหลงได้รับศาลจากเหยี่ยวข่าวกรองซึ่งแจ้งมาว่าที่นี่เป็นแหล่งกบดานของมหาโจรหย่งหนาน หัวหน้ากลุ่มโจรแดนใต้ผู้มีฝีมือการต่อสู้เก่งฉกาจและไม่มีผู้ใดสามารถจับกุมหรือปราบปรามกลุ่มคนโฉดเหล่านี้ได้ ซ้ำพวกโจรยังเพิ่มพูนกองกำลังจนสร้างหมู่บ้านขุนโจรปักหลักอาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินแคว้นเฉินได้โดยไม่เกรงกลัวโทษทัณฑ์ทางกฏหมาย  กำแพงอิฐเนื้อดีทำจากหินภูเขาฉาบทาด้วยมูลสัตว์ผสมดินเหนียวยากแก่การทุบทิ้งหรือเผาทำลาย จึงไม่น่าแปลกใจสักนิดหากทหารกองปราบของชินอ๋องคนก่อนจะไม่สามารถจับกุมโจรกลุ่มนี้ได้สำเร็จ อ๋องหนุ่มสั่งให้ทหารกระจายกำลังโอบล้อมหมู่บ้านแห่งนี้เอาไว้ และส่งทหารฝีมือดีลอบเข้าไปในยามกุน (ยามกุน 23.00-00.59นาฬิกา) กว่าจะกำจัดยามรักษาการตามจุดต่างๆ รอบรั้วและยามเฝ้าประตูทางเข้าหมู่บ้านได้สำเร็จ หยางหลงต้องสูญเสียทหารหน่วยรุกฝีมือดีไปหลายนาย อ๋องสามหยางหลงลูบคอม้าคู่ใจที่แสดงอาการโก่งคอขยับเท้าเพราะได้ยินเสียงการต่อสู้และเสียงกรีดร้องโหยหวนของผู้ได้รับบาดเจ็บดังก้องออกมาจากด้านในหมู่บ้านและเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง  ทว่าเขายังคงปักหลักอยู่ที่เนินดินหลังแนวป่าเพื่อดักรอการปรากฏตัวของมหาโจรหย่งหนานด้วยความอดทนอดกลั้น แม้จะอยากควบม้าบุกฝ่ากองกำลังขุนโจรโฉดเข้าไปต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่เหล่าทหารมากเพียงไร การปราบปรามกลุ่มโจรแดนใต้ที่สร้างความเดือนร้อนแก่ราษฎรแคว้นเฉินกลุ่มนี้ เป็นปัญหาใหญ่เรื้อรังที่ยากจะแก้ไข จึงไม่ควรกระทำการใดบุ่มบ่ามเป็นอันขาด “ท่านอ๋อง! ”  “ข้ารู้แล้ว”  หยางหลงยกมือขึ้นห้ามเสียงของเซียงชุนหัวหน้าองครักษ์ ที่เอ่ยเรียกให้ดูเงาตะคุ่มของบุรุษร่างสูงใหญ่จำนวนเกือบสิบคน ซึ่งใช้วิชาตัวเบาทะยานข้ามกำแพงหมู่บ้านและมุ่งหน้ามายังทิศทางที่พวกเขาปักหลักซุ่มรออยู่ “ให้ทหารเฝ้าม้าไว้สองนาย ที่เหลือตามข้ามา”  หยางหลงหันไปสั่งทหารองครักษ์มือขวา ใช้วิชาตัวเบาพุ่งทะยานขึ้นไปบนกิ่งไม้ใหญ่มุ่งไปดักหน้ากลุ่มโจรที่ลักลอบหนีออกมาจากหมู่บ้าน หัวหน้าขุนโจรหย่งหนานเบี่ยงตัวหลบอาวุธลับของบุรุษลึกลับที่ซัดเข้าใส่ได้แบบหวุดหวิด ทว่าก็ถูกคมมีดบินกรีดต้นคอเป็นแผลจนได้เลือด “คิดจะจับข้างั้นรึ! ” หย่งหนานแสยะยิ้มโหดเหี้ยม แล้วซัดอาวุธลับของตนออกไปเช่นกัน “มหาโจรหย่งหนานหากเจ้าแน่จริง เชิญออกมาประมือกับข้าแบบซึ่งหน้าเถิด”  หยางหลงเอ่ยท้าทาย ทั้งสองฝ่ายทะยานโฉบเฉี่ยวต่อสู้กันท่ามกลางความมืดแห่งราตรี เหล่าขุนโจรนั้นชำนาญพื้นที่จึงได้เปรียบเรื่องการเคลื่อนไหวที่คล่องตัวกว่า ทว่าหากวัดกันที่ฝีมือยุทธย่อมไม่อาจเทียบทหารองครักษ์ที่ถูกฝึกฝนมาอย่างหนัก “ข้ารับคำท้า” หย่งหนานตะโกนตอบโต้เจ้าของน้ำเสียงทุ้มกังวานเปี่ยมพลังอำนาจด้วยความบ้าบิ่นเดือดดาล ไม่ว่ามันผู้นั้นเป็นใครเขาก็จะปลิดชีวิตมันให้ได้ ที่บังอาจนำกองทัพทหารมาบุกรุกเผาทำลายหมู่บ้านซึ่งตนกับลูกสมุนสร้างมาด้วยความยากลำบากจนวายวอดเป็นเถ้าถ่าน  ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ลูกสมุนขุนโจรฝีมือฉมังยังถูกสังหารไปหลายศพ และไหนจะบรรดาตัวประกันสาวงามที่กักขังเอาไว้ยังถูกปล่อยออกจากคุกไปเสียเกลี้ยง ไม่หลงเหลือเอาไว้ให้พวกตนระบายกำหนัดใคร่สักนาง หยางหลงและหย่งหนานใช้วิชาตัวเบาทะยานไปยังเนินหน้าผาหินสูงชันซึ่งปราศจากต้นไม้ ยืนเผชิญหน้าอีกฝ่ายด้วยความองอาจ โดยต่างก็มีผู้ติดตามคอยคุมเชิงอยู่ด้านหลัง “เจ้าเป็นใคร! ” หย่งหนานตะคอกถามน้ำเสียงห้วน  “ข้าชื่อ หยางหลง จงจำใส่กะโหลกผุๆ ไปบอกยมบาลให้แม่นว่าผู้ใดสังหารเจ้า” หยางหลงยิ้มหยันอย่างกวนประสาท ไม่มีท่าทีเกรงกลัวมหาโจรผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือเสียยิ่งกว่าจอมยุทธ์ไร้เทียมทาน  “ไอ้หน้าขาวปากสวะ ข้าจะเฉือนหน้าของเจ้าให้เละจนยมบาลจำศพไม่ได้” หย่งนานตะคอกกลับน้ำเสียงเหี้ยมและพุ่งตัวเข้าจู่โจมชายหนุ่มรูปงามท่าทางภายนอกดูสำอางค์หยิบโหย่งไร้พิษสง ด้วยความกราดเกรี้ยวเต็มกำลัง  พอเห็นหย่งหนานโจมตีด้วยเพลงกระบี่หมื่นทิศ หยางหลงก็ตั้งรับด้วยความใจเย็นและสามารถหลบหลีกได้อย่างแคล่วคล่องว่องไวโดยไม่มีอาการเหนื่อยหอบเช่นผู้เป็นฝ่ายรุก ทุกกระบวนท่าของมหาโจรหย่งหนานล้วนอันตราย ทุกเพลงกระบี่นั้นโหดเหี้ยมอำมหิตหวังปลิดชีพคู่ต่อสู้อย่างไร้ความปรานี หากเขาพลาดพลั้งย่อมมีสิทธิ์สิ้นชีวิตในทันที (ยามฉลู 03.00-04.59นาฬิกา) ทั้งคู่ประมือกันนับร้อยกระบวนท่า ผ่านเข้าสู่ยามฉลูของรุ่งสางแต่การต่อสู้ยังดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด เสียงหินภูเขาถูกซัดจนแตกกระจายด้วยกำลังลมปราณสูงส่ง เสียงการต่อสู้ดังอึงอลไปทั่วทั้งผืนป่าใหญ่เป็นเวลายาวนานไม่หยุดและไม่ผ่อนความเร็วลง มีแต่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งต่างฝ่ายต่างก็เคลื่อนไหวด้วยความว่องไวเสียจนผู้ชมที่มองตามเห็นเพียงประกายไฟแล่บแปลบปลาบจากการฟาดกระทบกันของคมกระบี่ ลู่อี้ลูกสมุนคู่ใจของมหาโจรหย่งหนาน เริ่มกระวนกระวายเมื่อเห็นว่าลูกพี่ใหญ่แสดงอาการเหนื่อยหอบ ขณะอีกฝ่ายที่มีแต่ตั้งรับยังรักษาท่าทางการเคลื่อนไหวของตนไว้ได้อย่างคล่องแคล่วดีเช่นเดิม ไม่มีการแสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาทางสีหน้าและยังไม่ตอบโต้กลับเลยสักกระบวนท่า  หยางหลงเห็นว่ามีหยาดเหงื่อไหลเข้าตาของมหาโจรหย่งหนาน จึงใช้จังหวะที่คู่ต่อสู้กระพริบตาซัดฝ่ามือเข้าที่ช่องท้องจนอีกฝ่ายเลือดไหลทะลักออกมากลบปาก แม้บาดเจ็บแสนสาหัสทว่ามหาโจรหย่งหนานผู้เคยผ่านการรบราฆ่าฟันและถูกทำร้ายร่างกายมาตลอดชีวิตยังสามารถยืนหยัดได้ไหว  ลู่อี้อาศัยจังหวะที่ทุกคนมุ่งความสนใจไปยังการต่อสู้อันดุเดือดเลือดพล่าน เพราะมหาโจรหย่งหนานลูกพี่ใหญ่ของตนกำลังจนตรอก เขาฉวยโอกาสซัดระเบิดควันพิษใส่ฝ่ายทหารของทางการในนาทีวิกฤติและพามหาโจรหย่งหนานหลบหลีกเอาชีวิตรอดไปได้อย่างหวุดหวิด “บัดซบ ไม่ต้องตามไป! ”  หยางหลงสบถด้วยความเจ็บใจ ขณะที่เขากับเหล่าทหารองครักษ์ทะยานหนีออกจากกลุ่มควันพิษ ลูกสมุนของหย่งหนานก็ฉวยโอกาสพาลูกพี่ใหญ่หนีหายเข้าไปในความมืดมิดของผืนป่า  “ไอ้พวกโจรไร้ศักดิ์ศรี”  เซียงชุนก่นด่าด้วยความอาฆาตแค้น  นึกเจ็บใจที่แค่เผลอมองการต่อสู้ของสองยอดยุทธิ์เพียงครู่เดียว สมุนโจรก็เล่นไม่ซื่อ ใช้ลูกไม้สกปรกพาลูกพี่ใหญ่ของพวกมันหนีเอาตัวรอดไปได้ หยางหลงพิจารณาดูแล้ว เกรงว่าหากติดตามกลุ่มโจรของหย่งหนานเข้าไปยังเส้นทางนั้นจะเป็นการพาทหารเอาชีวิตไปทิ้งเสียเปล่า ดูจากม่านควันพิษที่ถูกกระจายปิดทั่วแนวป่าฝั่งตรงข้าม ที่เกาะตัวหนาไม่สลายไปโดยง่ายและไร้ซึ่งเสียงของสรรพสัตว์น้อยใหญ่เคลื่อนไหว แสดงว่าป่าทิศนั้นมีการวางกับดักอันตรายเอาไว้รอบด้าน เสียงเจื้อยแจ้วของท่านหญิงอึ้งย้งผู้มีศักดิ์เป็นถึงกงเก๋อเก๋อ พระธิดาของชินอ๋องอดีตผู้ปกครองเมืองลู่เจ๋อซึ่งมีศักดิ์เป็นท่านอาของอ๋องสามหยางหลง ทำลายความสงบสุขในการเดินทางของกองทัพเป็นอย่างมาก  นางชวนอ๋องสามหยางหลงสนทนาด้วยไม่หยุดปากและพยายามจะเรียกร้องความสนใจจากเขาตลอดเวลาที่นั่งอยู่ในรถม้า กระทั่งคนใจเย็นเช่นอ๋องสามทนไม่ไหวต้องขอตัวออกไปขี่ม้านำขบวนเพื่อตัดบทความรำคาญ ทั้งที่ต้องการนั่งหลับตาพักผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการต่อสู้และอดหลับอดนอนมาทั้งคืน  “ท่อนอ๋อง เป็นชายชาตรีอกสามศอกแท้ๆ ไฉนเลยไม่เหลียวแลสาวงาม” เซียงชุนเอ่ยสัพยอกด้วยรอยยิ้มกว้างขวาง เพราะความใกล้ชิดสนิทสนมและทั้งคู่เติบโตมาด้วยกัน นอกจากเซียงชุนจะเป็นหัวหน้าองครักษ์ เขายังเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของอ๋องสามหยางหลง “ข้าสละที่นั่งให้เจ้าแล้ว เชิญตามสบาย” หยางหลงหรี่ตามอง พูดจบก็ทำเสียง หึ ขึ้นจมูกเหมือนจะหัวเราะเย้ยหยันความโชคร้ายของตัวเอง  ยกกองทัพทหารมาตามจับกุมมหาโจรหย่งหนาน แต่กลับได้เมียของมหาโจรกลับไปแทนเสียนี่ “ได้ข่าวมาว่ามหาโจรหย่งหนานผู้ยิ่งใหญ่ฝังมุกถึงยี่สิบสองเม็ด เห็นทีผู้น้อยอย่างเซียงชุนต้องขอสละสิทธิ์ให้คนใหญ่คนโตจะดีกว่า” เซียงชุนเอ่ยน้ำเสียงเจียมเนื้อเจียมตัว พลางทำท่าคอย่น  อึ้งย้งทนนั่งกระสับกระส่ายอยู่ภายในรถม้าเฉยๆ ไม่ไหว นางแหวกม่านชะโงกหน้ามองออกไปยังหัวขบวนกองทัพ แม้สามารถได้ยินเพียงเสียงเกือกม้ากระทบพื้นดินได้เห็นเพียงแผ่นหลังกว้างของอ๋องสามหยางหลงที่กำลังควบขี่อยู่บนหลังม้าในระยะสุดสายตา เห็นเงาร่างไกลลิบแต่นางก็พอจะมโนภาพใบหน้าอันหล่อเหลาคมเข้มของท่านอ๋องสามตอนนี้ได้   “อย่างไรเสียท่านก็ต้องเป็นของข้า รอให้ถึงเมืองลู่เจ๋อก่อนเถิดท่านอ๋องสาม”  อึ้งย้งรำพึงรำพันกับตัวเอง ด้วยความมั่นอกมั่นใจในเสน่ห์ความงดงามเย้ายวนอันมีชื่อเสียงเป็นอันดับหนึ่งในเมืองลู่เจ๋อของตน เมื่อถึงเมืองลู่เจ๋อ นางจะให้ซินแสกวนซุนหมอเทวดารักษาร่างกายอันบอบช้ำยับเยินกลับไปเป็นสาวบริสุทธิ์อีกครั้ง หลังจากนั้นอึ้งย้งก็จะวางแผนมอมสุราอ๋องสามหยางหลง แล้วรวบรัดตัดความให้เขารับผิดชอบในตัวนาง  อึ้งย้งแอบคิดแผนการณ์โฉดชั่วด้วยใบหน้ายิ้มแย้มปลื้มปิติ ขณะสายตาจับจ้องมองเงาร่างอันเลือนลางของอ๋องสามหยางหลงและนึกวาดภาพอนาคตอันสวยงามแบบล้มๆ แล้งๆ  ("จวิ้นอ๋อง" ตำแหน่งเชื้อพระวงศ์ชายลำดับที่ 2 หากผู้ที่ดำรงตำแหน่งจวิ้นอ๋องนี้เป็นอ๋องหมวกเหล็ก หรือพระโอรสผู้สืบทอดในจวิ้นอ๋องก็จะมีตำแหน่งเป็นจวิ้นอ๋องต่อจากบิดา (พระโอรสผู้สืบทอดในชินอ๋องที่ไม่ได้เป็นอ๋องหมวกเหล็ก ก็จะได้ตำแหน่งเป็นจวิ้นอ๋องเช่นกัน)  (กงเก๋อเก๋อ (***)หรือเรียกว่า "เซียงจวิน" (**) ตำแหน่งท่านหญิง ตำแหน่งเชื้อพระวงศ์หญิงลำดับที่ 7 สำหรับธิดาในผู้สืบทอดจวิ้นอ๋องกับชายารอง ธิดาในเป้ยเล่อกับชายารอง ธิดาในเจิ้งกั๋วกงหรือฝู่กั๋วกงกับชายาเอก)
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD