Chapter 09 ยังไงก็หนีไม่พ้น

1404 Words
“นี่เธอทำบ้าอะไรของเธอห๊ะ!” เฮียน็อตตวาดลั่นแถมยังขึงตาใส่ชนิดที่ว่าถ้าทำมากกว่านี้อีกนิดลูกตาตั้งท่าจะกระเด้นออก แต่ถามว่าฉันสะทกสะท้านไหมก็ไม่หรอก พอใจด้วยซ้ำกับการได้เห็นสุดหล่อของฉันพยายามใช้หลังมือเช็ดปากไม่ยอมหยุด หลังโดนฉันปล้นจูบไม่ต่ำกว่านาที “บอกไปแล้วไงค่ะ ว่าฝันจะทำให้เฮียไล่ฝันไม่ได้อีก” “เหมือนฝัน เธออยากลองดีกับฉันจริง ๆ ใช่ไหม” เฮียน็อตกัดฟันพูด เดินมาไม่ทันถึงตัวก็ดึงฉันเข้าไปหาแล้วจับกดลงไปยังจุดเดิมที่ฉันเคยคร่อมเขาเอาไว้ “ทำเลยสิค่ะ จะฆ่าจะแกงยังไงก็เชิญเลย” ฉันเชิดหน้าแม้จะอยู่ใต้อานัติของอีกฝ่าย “แต่ถ้าฆ่าไม่ตาย ฝันจะบอกทุกคนว่าเฮียน็อตลวนลามฝัน!” “ว่าไงนะ?” เฮียน็อตเอ่ยถามอย่างเหลือเชื่อ “สมองตายรึไง ถึงพูดว่าฉันเป็นฝ่ายลวนลามเธอ” “บอกไปใครจะเชื่อล่ะคะ ว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างฝันจะปล้ำจูบคนตัวโตอย่างเฮียได้ ถ้าบอกว่าฝันโดนเฮียจูบยังจะฟังเข้าท่ากว่า” คิ้วเข้มที่ฉันชอบมองย่นเข้าหากันแทบจะรวมกันเป็นเส้นเดียว เฮียน็อตมองหน้าฉันโดยไม่พูดอะไรคาดว่าคงช็อกอยู่ “เธอนี่มัน...” เฮียน็อตผละตัวออกจากฉัน พอทรงตัวได้ฉันก็ไหว่ไหล่ไม่ยี่ระกับสายตาดุ ๆ ที่มองมา “ต่อไปนี้ถ้าเฮียน็อตไล่ฝันอีก ฝันจะบอกนินิวว่าเฮียลวนลามฝัน ทั้งกอด ทั้งจูบ ทั้งลูบ ทั้ง...” “นี่!” “โอเคค่ะ ไม่พูดต่อแล้วก็ได้” ฉันหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นท่าทีหัวเสียแต่ทำอะไรไม่ได้ “ฝันพูดจริงนะ ถ้าไม่อยากให้คุณแม่มาสู่ขอฝัน ก็เอาใจฝันหน่อยแล้วกันนะคะ” ว่าจบฉันก็ฮำเพลงทำหน้าระรื่นเดินขึ้นรถ ก่อนไปไม่วายโบกมือบ้ายบายคนหล่อที่ยังคงหน้ามุ่ย “หึ ๆ บอกแล้วไง ว่าเฮียหนีฝันไม่พ้นหรอก” “อารมณ์ดีมาจากไหนชะนีฝัน นั่งยิ้มเหมือนคนบ้า” บอสย่นคิ้วมองฉันเหมือนกับว่าฉันเป็นของแปลก มันเอียงคอซ้ายทีขวาที พยายามหาสิ่งผิดปกติที่ทำให้ฉันนั่งยิ้มเหมือนคนบ้าตั้งแต่เช้าจรดเย็น “เมื่อวานยังเดินคอตกออกจากห้องเพราะไม่ได้เจอเฮียอยู่เลย เช้ามากลายเป็นคนละคนซะอย่างนั้น กินยาลืมเขย่าขวดรึเปล่าเพื่อน” “ยาเม็ดไม่ต้องเขย่าค่ะ” “อย่าตอบวอนเบื้องล่าง” เพื่อนชั่วอย่างไอ้บอสเอี้ยวตัวใช้มือจิ้มหน้าผากฉัน “มีเรื่องอะไรดี ๆ ก็รีบเล่า” “ไม่เล่า” ฉันทำหน้าทำตาใส่อย่างท้าทาย “เดี๋ยวตบ” “แกคิดว่าแกตบเป็นคนเดียวไง” ฉันก็มีมือเหมือนกันนะ “เอ๊ะนั่งนี่!” “เอาน่า ฝันอยากเล่าเดี๋ยวก็ได้ฟังเองนั่นแหละ” “แหม๋ ๆ มึงก็อยากใส่ใจไม่ต่างจากกูหรอกยัยหนูนิว ทำเป็นพูดดี” นินิวหัวเราะคิกคัก ฉันถูกบอสพูดจิกอีกสองสามประโยค ก่อนที่รถจะจอดสนิทหน้าคณะสัตวศาสตร์ ซึ่งชื่อเต็มคือคณะสัตวแพทยศาสตร์ “มาที่นี่ทำไม?” ฉันพึ่งรู้ว่าตัวเองถูกพามาที่ไหนก็ตอนถูกไล่ให้ลงรถ สัตวศาสตร์เนี่ยนะ มา ทำ ไม? “คนละถุง” ฉันกับนินิวถึงกับงงเมื่อจู่ ๆ บอสก็ยื่นอาหารปลาใส่มือเราสองคน “เอาอาหารปลาให้พวกฉันทำไม” “ไม่สวยแล้วยังโง่” “เอ้า!” นินิวถึงกับเท้าเอว “อาหารปลาก็ต้องเอามาให้ปลาสิ หรือพวกแกจะกิน จะได้สงเคราะห์ให้” “ถีบนะบอส” นินิวง้างเท้ารอ ฝ่ายคนจะถูกถีบทำเพียงไหวไหล่เดินไปยังบ่อปลาที่ขุดเป็นคูน้ำรอบตึกหลักของคณะ “พวกแกเห็นไหมว่าน้องปลาพวกนี้น่าสงสารขนาดไหน ผอมก็ผอม พวกแกจะใจจืดใจดำไม่ให้อาหารน้องลงคอเหรอ” ผอมเมื่อไหร่? ผอมกี่โมง? ที่เห็นมีแต่ตัวเท่าต้นขา เอาอะไรมาผอมขอถามหน่อย “นี่คือวิธีจีบผู้รูปแบบใหม่?” คนโดนรู้ทันยกมือปิดปาก “ทำไมเพื่อนฝันแสนรู้จัง” ฉันว่าแล้ว ร้อยวันพันปีเคยทำแบบนี้ที่ไหนตั้งแต่รู้จักกันไม่เห็นมันใส่ใจเพื่อนร่วมโลก อย่างตอนนั้นยืนกินลูกชิ้นทอดหน้าร้านสะดวกซื้อ มีน้องหมาเดินมาขอมองหน้าตาปริบ ๆ มันยังบอกให้น้องไปหาเงินซื้อกินเอง แล้วคิดดูว่ามันจะเปลี่ยนมารักน้ำรักปลาได้เหรอถ้าไม่มีอะไรแอบแฝง ดูก็รู้ว่าจอมปลอม แอบสงสารคนคนนั้นที่มันเล็งล่วงหน้าเลย ถ้าเผลอติดกับเข้า “มาแล้วมาแล้ว ฉันดูดียังพวกแก” “อือ ดูดียันชาติหน้า” คำพูดของนินิวเล่นเอาฉันกลั้นขำแทบไม่อยู่ ไอ้บอสชักสีหน้าใส่ แต่พอหันกลับไปเจอน้องหน้าหวานหุ่นนายแบบก็ยิ้มร่า “กิ้งก่านี่มันเปลี่ยนสีไวจริง ๆ” ฉันเห็นด้วยแบบไม่มีอะไรแย้ง คนอะไรอยู่กับเพื่อนชะนีอย่างนั้นชะนีอย่างนี้ อยู่กับผู้ชาย... เหนื่อยไหมครับวันนี้ อาจารย์สั่งงานเยอะรึเปล่า อยากกินอะไรไหมเดี๋ยวพี่เลี้ยง “อยากจะอ้วก” “จริง ล้วงคออ้วกกันไหม” “ไม่น่าลงทุนกับคนอย่างมันนะ” ฉันกับนิวมองหน้ากันแล้วหัวเราะ ให้อาหารปลาต่อไปตามหน้าที่ ระหว่างนั้นหูก็คอยฟัง ปากก็คอยเบ้ ตาคอยกรอกมองบนเวลาได้ยินเพื่อนตัวเองทอแลน้ำไหลไฟดับ “เพื่อนฝันถามจริง ๆ นะเพื่อนบอส ไม่รู้สึกหยีตัวเองบ้างเหรอ ที่ทำตัวเป็นคนดีทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่” หลังบอสวุ่นวายกับ ‘น้องเหม’ อยู่พักใหญ่ มันก็พาฉันกับนิวขับรถออกจากมหา’ ลัย ฉันจึงได้โอกาสถาม เพราะลำพังตัวฉันที่ยืนฟังนั่งฟังยังเกิดอาการเอียน “มีอะไรให้หยีละเพื่อนรัก คนเราจะหยีตัวตนดี ๆ ของตัวเองได้ยังไง” “โอ๊ยยยย หยุดเล่นละครสักที!” ฉันกับนิวพูดขึ้นพร้อมกันอย่างเหลืออด “ไม่มีเหยื่อไม่จำเป็นต้องแสร้งแล้วพ่อคุณ” “นั่นสินะลืมไปเลย คีพลุคนานไปหน่อยชักเริ่มชิน” มาดคุณชายผู้สุขุมเริ่มคลายออก เหลือแค่ไอ้บอสเพื่อนชั่วที่นั่งชันเข่าขับรถด้วยท่าทางสบายอกสบายใจ “ว่าแต่แกไปเจอน้องได้ไง น้องดูเป็นคนดีนะ ไม่น่าจะอยู่วงโคจรเดียวกับแก” “แหม๋แม่คนดี แกกับชะนีนิวคนละวงโคจรกับฉันมั้ง” มันจิกตามองฉันผ่านกระจกมองหลัง เห็นอย่างนั้นก็ได้แต่หัวเราะ “ก็คนนี้แหละ ที่ทำให้ฉันทิ้งแกวันนั้นน่ะ” “อ๋อ...” ฉันลากเสียงยาวถึงบางอ้อ ขยับตัวเข้าไปตรงกลางระหว่างนิวกับบอส “คืนนั้นเกิดอะไรขึ้น เล่าให้เพื่อนฟังบ้างสิ” สาววายอย่างฉันไม่พลาดอยากใส่ใจ นินิวเองพอได้ยินฉันถามก็ขยับเข้ามาใกล้ “ชะนีทั้งสอง พวกแกชักจะเกินไปแล้วนะ” “ไม่เกินไปหรอก อยากรู้ความเป็นไปของเพื่อนผิดตรงไหน เนอะนิวเนอะ” “ใช่ เร็ว ๆ เล่ามา สมองไหลไกลแล้วเนี่ย” “คืนนั้น...” ไอ้บอสลากเสียงยาว นั่นยิ่งทำให้ฉันกับนิวใจเต้นแรง จินตนาการไปไกลเป็นฉาก ๆ ทั้งที่บอสยังไม่ปริปากเลยสักคำ “ฉันไม่บอกพวกแกหรอก ดูอย่างชะนีฝันยังไม่เล่าเลยว่าเจออะไรดี ๆ มา” “มาทำให้อยากแล้วจากไป” ฉันตีแปะเข้าไปที่แขนไอ้ตัวดี ดึงร่างกับมาที่เดิม มองออกไปนอกรถไม่อยากเสวนากับคนเจ้าเล่ห์ “นั่นมัน” ฉันยิ้มมุมปากเมื่อเห็นร่างสูงของคนสนิทเดินเคียงคู่อยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง ไอ้เราก็นึกว่าตายด้านเรื่องความรัก ที่แท้ก็ซุ่มเงียบนี่เอง ร้ายไม่เบา ๆ สงสัยถึงห้องต้องโทรแซวหน่อยแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD