Chapter 13 คิดว่าทำได้ก็ลองดู

1151 Words
•Nott part ผมเห็นตั้งแต่เดินเข้ามาในโรงอาหารว่าเหมือนฝันกำลังนั่งหัวเราะต่อกระซิกกับผู้ชายคนหนึ่ง ส่วนเธอคงไม่เห็นผม เพราะความสนใจทั้งหมดอยู่กับคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม ผมไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร แต่ถ้าให้เดาก็น่าจะเป็นเด็กที่เรียนอยู่คณะนี้ “มีอะไรรึเปล่าคะพี่น็อต” พีชถามกัน น้องเอียงคออย่างน่ารักมองตามสายตาผมเมื่อสักครู่ ก่อนจะหันกลับมามองกันตาแป๋วรอคำตอบ “ไม่มีอะไรหรอก” “ไม่จริง พีชเห็นนะว่าพี่น็อตขมวดคิ้ว” “เหรอ” ผมไม่ยักรู้ว่าตัวเองทำแบบนั้น “ก็ใช่นะสิค่ะ พี่ธูปบอกว่าเวลาพี่น็อตไม่ชอบใจอะไรสักอย่างหว่างคิ้วจะขมวดเข้าหากัน” ที่น้องรู้มาไม่ผิดเลย ผมมักแสดงความรู้สึกผ่านทางสีหน้า ไม่ก็การขมวดคิ้วเวลาเจอเรื่องไม่พอใจ แต่ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมถึงได้ขมวดคิ้วตอนที่เห็นเหมือนฝันอยู่กับคนอื่น “หรือจะเป็นพี่คนสวยคนนั้นคะ” “คนไหน” ผมเลิกคิ้วถาม “ก็คนนั้นไงค่ะ ที่สวย ๆ แถมยิ้มหวานคนนั้นนะ” พีชเพยิดหน้าไปยังโต๊ะของเหมือนฝัน “พี่ธูปเคยบอกพีชว่าพี่คนสวยเป็นแฟนพี่” “เชื่อคำพูดมันเหรอ” “เชื่อค่ะ” พีชพยักหน้า “คนหล่อสวยควรคู่กัน” “พูดไปเรื่อย” “จริง ๆ นะคะ พี่สองคนเหมาะสมมาก” ผมส่ายหน้าเมื่อพีชยังยืนกรานว่าผมกับเหมือนฝันดูคู่กัน “รีบไปเถอะ เดี๋ยวแฟนพีชก็บ่นอีกว่าเราช้า” หลังได้ข้าวกล่องที่สั่งไว้ผมกับพีชก็เดินออกจากโรงอาหารของคณะเทคโนโลยีสารสนเทศที่เจ้าตัวเรียน เนื่องจากไอ้ธูปพรีเซ็นงานยังไม่เสร็จมันเลยขอร้องปนกราบกรานให้ผมมารับแฟนแทน ซึ่งอาทิตย์นี้เป็นครั้งที่สองแล้วที่ผมมารับพีช “แล้วมึงจะไปไหน” พอมาส่งพีชถึงมือเพื่อนผมก็เตรียมปลีกตัวเดินออกมา “อาจารย์เรียกน่ะ กูเลยว่าจะไปกินบนห้องเลย” ผมไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอคนเขาสวีทกัน เลยเลือกเดินขึ้นมาบนอาคาร กะว่าจะหาสักห้องที่ไม่มีคนนั่งกินข้าว แต่ไม่คิดว่าจะเจอคนบางคนเข้าที่นี่ “เชอะ!” อะไรล่ะนั่น มาชงมาเชอะใส่ผมทำไมกัน ผมไม่สนใจแม้จะเห็นว่าเหมือนฝันทำหน้างอ เลือกนั่งโต๊ะที่อยู่ไม่ไกลจากประตู ซึ่งเหมือนฝันนั่งถัดจากผมไปอีกสามโต๊ะ “ข้าวมื้อนี้คงหวานนะคะ” “ข้าวไหมไม่ใช่น้ำตาล” ได้ยินผมตอบกลับเจ้าตัวก็เบ้ปากใส่ แปลก วันนี้มาแปลก ทั้งที่ถ้าเป็นปกติไม่มีหรอกจะนั่งห่างขนาดนี้ ใกล้ได้ใกล้ ถ้าสิงได้ก็คงอยากจะสิง “ก็ไม่ได้บอกว่าเป็นน้ำตาลหรอกค่ะ แต่เห็นว่าไปซื้อกับสาว ก็คงจะหวานกว่าปกติ” หึ! ที่แท้ก็เห็นผมเหมือนกันสินะ “เธอก็คงไม่ต่างกันหรอกมั้ง ทานข้าวกับหนุ่มเป็นไงบ้าง เบาหวานขึ้นรึยังล่ะ?” “ยังค่ะ ถ้าใครจะเป็นคนที่เบาหวานขึ้น ก็คงไม่พ้นเฮียน็อตที่ยิ้มทีปากแทบฉีกถึงรูหู” “ถ้าฉันปากฉีกถึงรูหู เธอก็คงฉีกถึงก้านสมอง” “เฮียน็อต!” ผมเลิกคิ้วใส่อย่างยียวนเมื่อเห็น เหมือนฝันฮึดฮัดขัดใจคำพูดผม “ทำไมเฮียถึงทำกับฝันแบบนี้ เฮียก็รู้ว่าฝันชอบ แล้วทำไมถึงไปชอบคนอื่น” จากสีหน้าบึ้งตึงเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นเบ้แบะ ปากเล็กยื่นออกมา ตากลมโตคลอหน่วยด้วยน้ำสีใส เห็นอย่างนั้นผมก็ชักทำตัวไม่ถูกเปลี่ยนโหมดไม่ทัน อารมณ์ไหนอีกว่ะเนี่ย “ถ้าชอบคนอื่นแล้วมาให้ความหวังฝันทำไม ถ้าชอบคนอื่นทำไมต้องทำให้ฝันหวั่นไหวด้วย ทำไมเมื่อคืนต้องซื้อยามาให้ ทำไมต้องยอมให้ฝันนอนหนุนตัก ทำไมต้องยิ้มให้ผู้หญิงคนอื่นแทนที่จะเป็นฝัน ทำไม ทำไม ฮื่ออออ” “หยุดร้องเดี๋ยวนี้นะ” ผมบอกเสียงเข้ม แต่เหมือนฝันไม่ยอมฟัง ฟุบหน้าลงกับโต๊ะร้องไห้สะอึกสะอื้น “ฝันจะฟ้องนิว ฟ้องบอส ฟ้องปั้นด้วยว่าเฮียจูบฝัน จูบแล้วก็ทิ้ง ทิ้งแบบไม่ใยดี ทิ้งแบบไม่ไว้หน้า! ฮื่ออออ” จะบ้าตาย พูดไม่รู้เรื่องแล้วยังโวยวายไม่ยอมหยุด ผมตัดสินใจลุกออกจากโต๊ะเดินมาหาคนที่ยังคงฟุบหน้า ใช้มือทั้งสองข้างของตัวเองแนบไปกับแก้มของเหมือนฝัน จากนั้นก็บังคับให้เธอเงยหน้ามอง “หยุดร้องเดี๋ยวนี้” ผมสั่งอีกครั้งผ่านน้ำเสียงและสายตาที่จ้องมองอีกฝ่ายนิ่ง เหมือนฝันเบ้ปากแล้วส่ายหน้า “ไม่หยุด ก็คนมันเสียใจจะให้หยุดง่าย ๆ ได้ยังไง” ปฏิเสธไม่พอยังมีการปัดมือทิ้ง “รู้ไหมว่าทำตัวแบบนี้ผู้ชายไม่ได้มองว่าน่ารัก” “ใช่ซี ฝันจะไปน่ารักเท่าแฟนเฮียได้ยังไง” “แฟน? ใคร” ผมงงหนักเมื่อจู่ ๆ ก็ถูกยัดเยียดให้มีแฟน ทั้งที่ชีวิตนี้ไม่เคยมีเลยสักคน “อย่าทำเป็นไม่รู้หน่อยเลย” “ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเธอกำลังพูดถึงใคร” “จะใครซะอีกละ ก็คนที่เฮียยิ้มให้ปากแทบฉีกกลางโรงอาหารคณะเทคโนฯไง” หมายถึง... “พีช?” “แล้วฝันจะรู้กับเฮียไหม!” ตวาดผมแล้วก็กระทืบเท้าเร่า ๆ เหมือนกับเด็กโดนขัดใจ ผมได้แต่โครงศีรษะด้วยความระอา ก่อนจะเอามือทั้งสองข้างแนบใบหน้าเล็กที่ส่ายไปมาอีกครั้ง “เงียบ แล้วฟัง” คราวนี้เหมือนฝันหยุดดิ้นแล้วมองผม “ฉันไม่มีแฟน แล้วคนที่เธอเห็นก็ไม่ใช่แฟนฉัน” “เฮียโกหก” “ก็แล้วแต่จะคิด” ผมปล่อยมือจากแก้มของเหมือนฝัน ยืดตัวเต็มความสูง สอดสองมือล้วงกระเป๋ากางเกงจ้องมองคนหน้างอ “เฮียไม่เคยยิ้มแบบนั้นให้ใครนอกจากนิว” ยิ้มแบบไหน? ถ้าหมายถึงยิ้มเอ็นดู ผมว่าตัวเองก็ไม่ได้ยิ้มให้แค่นิวนะ เหมือนฝันแค่ไม่รู้ “ถ้าเฮียมีแฟนแล้วก็บอกฝันตรง ๆ เถอะ ฝันจะได้เปิดใจรับคนอื่น” คำพูดประโยคนั้นทำให้ผมคิ้วกระตุก ปลายเท้าก้าวไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว ค้อมตัวให้ใบหน้าเสมอกับคนที่กำลังมองผมไม่ละตาก่อนมุมปากจะยกขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลองดู” End part.
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD