ตอนที่ 3 พบเจอ

1965 Words
ตอนที่ 3 พบเจอ “ท่านประธานคะมีเด็กหนุ่มต้องการเข้าพบค่ะ” ภายในห้องทำงานหรูหรา กวิน หรือ วิน เงยหน้าจากเอกสารตรงหน้าก่อนจะใช้นิ้วนวดที่ระหว่างคิ้วตั้งแต่ที่เขาเจอกับหนุ่มคนนั้นก็ผ่านมาหลายวันแล้วแต่ทำไมกลับเอาภาพรอยยิ้มนั้นออกจากหัวไม่ได้เลย สำหรับเขาที่เป็นหนุ่มหล่อหน้าตาดีมีทั้งผู้หญิงและผู้ชายมากมายเข้ามาหาเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกแบบนี้ “ได้นัดไว้ไหม” กวินเหลือบตามองเลขาด้วยใบหน้าเรียบนิ่งระคนเหนื่อย “ไม่ค่ะ” “ฉันไม่ว่างขนาดคุยไร้สาระกับคนไม่รู้จักหรอกนะ” กวินเอ่ยอย่างเย็นชาแค่ทำงานเขาก็เหนื่อยมากแล้วบางทีเด็กหนุ่มที่มาขอเข้าพบอาจจะเป็นหนึ่งในบรรดาคนที่เขาเคยนอนด้วยแล้วก็บุกมาที่บริษัทหวังจะรวยทางลัดเขาเกลียดคนประเภทนั้นที่สุด ตัวเองก็รู้สถานะของตัวเองดีแท้ ๆ แต่กลับเอาความมั่นใจชอบสร้างปัญหา “เขาบอกว่าหากท่านเอ่ยปฏิเสธให้ดิฉันเอ่ยคำนี้ค่ะ TTKR1945GP” เมื่อเลขากล่าวจบท่าทีของประธานก็เปลี่ยนไปในทันทีสร้างความแปลกใจให้แก่เลขาสาว ใบหน้าที่เย็นชาแปรเปลี่ยนเป็นราบเรียบบรรยากาศรอบ ๆ เย็นลงจนเธอรู้สึกขนลุกไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่าเหมือนตอนนี้ประธานกำลังปล่อยออร่าน่ากลัวออกมา “ไปพามาที่ห้อง” “ค่ะ” เลขาสาวก้มหัวก่อนจะรีบเดินออกไป หลังจากที่เลขาสาวออกไปกวินก็ทำสีหน้าเคร่งเครียดรหัสนี้มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่รู้แล้วเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงได้รู้ความลับสุดยอดของเขา ท่ามกลางความสงสัยสมองที่ทำงานหนักประตูห้องทำงานก็เปิดออก ร่างเล็กเดินเข้ามาใบหน้าของอีกฝ่ายน่ารักจิ้มลิ้มดูน่าทะนุถนอม ประตูห้องปิดลงทำให้เหลือเพียงสองคนภายใน “สวัสดีครับคุณกวิน” น้ำเพชรเดินไปนั่งที่โซฟาด้วยรอยยิ้ม แม้จะเป็นรอยยิ้มที่น่ารักแต่กวินไม่ได้หลงกล “ไม่ต้องมากความนายต้องการอะไร” กวินเหลือบตามองร่างเล็กอีกฝ่ายนั่งอย่างผ่อนคลายราวกับไม่เกรงกลัว เขาจะไม่ถามว่าอีกฝ่ายได้รหัสมาได้ยังไงเพราะเขามั่นใจว่ายังไงอีกฝ่ายก็ไม่บอกและการเดินทางมาหาเขาถึงที่นี่ต้องมีความต้องการอย่างแน่นอน เงิน ชื่อเสียง อำนาจ หรือนามสกุล เจริญชัยรุ่งเรืองของเขา “แหม รีบจังเลยนะครับ ผมมีข้อเสนอดี ๆ เราจะได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย” กวินเลิกคิ้วเขามองร่างเล็กตั้งแต่หัวจรดเท้าเสื้อผ้าราคาถูกดูเหมือนเป็นคนชนชั้นกลางดูยังไงก็ไม่น่ามีประโยชน์แต่ถึงอย่างนั้นก็ดูถูกไม่ได้ไม่อย่างนั้นจะรู้รหัสนี้ได้ยังไง “ว่ามาสิ” ระหว่างการพูดคุยใบหน้าของกวินราบเรียบแต่ก็ไม่อาจปกปิดแววตาตื่นเต้นเอาไว้ได้ข้อมูลใหม่ที่ได้มาทำให้เขารู้สึกสนใจ น้ำเพชรพูดระหว่างนั้นก็สังเกตคนตรงหน้าไปด้วยเมื่อมองใกล้ ๆ กวินนั้นหล่อมากเขาเป็นอีกหนึ่งคนที่สาว ๆ อยากได้เป็นสามี ใบหน้าที่หล่อเหลาแถมยังร่ำรวยเป็นรองประธานของบริษัทJCR เป็นธุรกิจอหังสาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ครอบคลุมทั้งคอนโด โรงแรม ที่ดินมากมาย เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ทำให้ภามละสายตาจากเอกสารตรงหน้าก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมา เมื่อเห็นข้อความใบหน้าหล่อเหลาก็เผยรอยยิ้ม ข้าวตัง/เฮียอยากได้ขนมไปกินกับกาแฟไหม ให้พี่ชาเดินมาเอาที่ร้าน Pham/ครับผม ความจริงเฮียอยากลงไปเองนะ เฮียอยากกอดหนูให้ชื่นใจ ข้าวตัง/ไม่ต้องมาเนียนเลยครับ ตั้งใจทำงานไป รีบให้พี่ชามานะครับเดี๋ยวผมเอาดอกไม้ไปให้ด้วยไว้ใส่แจกันในห้อง Pham/ครับ ครับ เมื่อเห็นว่าข้าวตังไม่ได้ตอบกลับมาแล้วภามถึงได้วางโทรศัพท์ก่อนจะกดเรียกเลขาหน้าห้อง “ชาเข้ามาหน่อย” ไม่นานนักประตูก็เปิดออกคนที่เข้ามาเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ดำรงตำแหน่งเลขาและคนสนิท “ลงไปเอาขนมกับดอกไม้ร้านข้าวตังหน่อย” “ครับผม” เมื่อชาเดินออกจากห้องก็เจอกับรุ่นน้องเลขาคนใหม่ที่ตอนนี้อยู่ในช่วงศึกษางานกับตนเองอีกฝ่ายมีใบหน้าที่น่ารักจิ้มลิ้มถูกสเปคของผู้ชายหลายคนในบริษัท “พี่ชากำลังจะไปไหนเหรอครับ” น้ำเพชรเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใส ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มมาพร้อมรอยยิ้มทำให้อีกคนดูเป็นประกายเหมือนดอกทานตะวันท่ามกลางบรรยากาศที่หนาวเหน็บและน่าเบื่อภายในบริษัท “พอดีพี่จะไปเอาขนมและดอกไม้ที่ร้านของคุณข้าวตังหน่อย” “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมไปเอาให้ดีกว่าครับช่วงนี้พี่งานยุ่งด้วยยังไงผมก็เป็นผู้ช่วยแล้ว” ชาทำท่าลังเลในช่วงแรกแต่สุดท้ายก็ยอมพยักหน้ามองเลขารุ่นน้องเดินหายเข้าไปในลิฟต์ ข้าวตังจัดดอกลิลลี่ใส่พลาสติกใสลิลลี่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ สีขาวและสีชมพูให้ความรู้สึกสดชื่นหลังจากจัดดอกไม้เรียบร้อยเขาก็หันกลับมาจัดขนมใส่กล่องมีเค้กส้มหวานน้อยและคุกกี้อีกหลายชิ้น บริษัทของเฮียภามและร้านของเขาอยู่ห่างกันไม่มากสามารถเดินข้ามถนนมาได้เลย เสียงกระดิ่งดังขึ้นเมื่อมีคนเดินเข้ามาในร้านข้าวตังเงยหน้ายิ้มทักทายอย่างเป็นปกติ “ยินดีต้อนรับครับ” เมื่อเห็นใบหน้าจิ้มลิ้มของคนที่เพิ่งเข้ามาจู่ ๆ ข้าวตังก็ปวดหัวภายในหัวเขาเหมือนมีเสียงวิทยุดังแซก ๆ จับใจความไม่ได้แต่มันรู้สึกทรมานจนต้องทรุดตัวลงนั่งกับพื้นสร้างความตกใจให้แก่น้ำเพชร “คุณข้าวตังเป็นอะไรไหมครับ” น้ำเพชรเดินเข้ามาพยุงพาข้าวตังไปนั่งที่เก้าอี้ ความรู้สึกปวดหัวบรรเทาลงแล้ว ข้าวตังเงยหน้ามองอีกฝ่ายชัด ๆ อีกคนเป็นหนุ่มร่างเล็กดูน่ารักน่าเอ็นดูให้ความรู้สึกเหมือนลูกแมว “ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากครับ ว่าแต่คุณคือ?” เมื่อรู้สึกดีขึ้นถึงได้เริ่มพูดคนตรงหน้ารู้จักชื่อเขาทั้งที่เราเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก เขาจำไม่ได้ว่าเคยรู้จักกับหนุ่มน้อยน่ารักแบบนี้ “ผมชื่อน้ำเพชรครับ เรียกเพชรก็ได้ พอดีผมเป็นเลขาคนใหม่ของคุณณภัทรครับ” น้ำเพชรเอ่ยแนะนำตัวด้วยท่าทีเป็นกันเองหากกะจากสายตาอายุของทั้งคู่พอ ๆ กัน “อย่างนั้นเองเหรอ งั้นคงมาเอาขนมสินะ นี่ครับ” ข้าวตังส่งถุงให้อีกคนเมื่อเห็นรอยยิ้มน่ารักเขาก็รู้สึกเอ็นดู น้ำเพชรให้ความรู้สึกเหมือนน้องชายตัวเล็ก ๆ น่ารักน่าเอ็นดู “ขอบคุณครับ งั้นไปก่อนนะครับ” อีกฝ่ายยิ้มโบกมือให้ก่อนจะวิ่งออกไป ข้าวตังมองตามจนแผ่นหลังนั้นหายออกไปก่อนจะกุมหัวตัวเองเมื่อกี้เขารู้สึกเหมือนในความฝันเลยมันเป็นเสียงเหมือนวิทยุเหมือนกัน ความรู้สึกเศร้าเหมือนกันมันคืออะไรกันแน่นะ แล้วทำไมพอเจอกับหนุ่มน้อยคนนี้เขาถึงได้เป็น มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ สิ่งที่ไม่รู้ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวมันเหมือนมีบางอย่างในหัวและมันเป็นเรื่องสำคัญมากแต่ไม่ว่าจะนึกยังไงก็นึกไม่ออกมันเลยทำให้รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา เวลาล่วงเลยมาถึงช่วงเย็นอีกไม่นานร้านจะปิดแล้วตอนนี้คนในร้านส่วนมากเป็นพนักงานประจำที่เพิ่งเลิกงานและแวะมาซื้อดอกไม้และดื่มน้ำกินขนมเพื่อผ่อนคลาย ประตูร้านเปิดออกคนที่เข้ามาใหม่เป็นที่สนใจของทุกคนรอยยิ้มอ่อนโยนประดับอยู่บนหน้าของเขา “สวัสดีครับพอดีผมมารับดอกไม้ที่สั่งไว้ครับ” กวินเอ่ยขึ้นมองใบหน้าสวยปนหล่อของเจ้าของร้านเขาคงจะไม่รู้จักร้านนี้หากไม่ได้ข้อมูลดี ๆ จากน้ำเพชร แม้ว่าร้านนี้จะอยู่คนละทางกับบริษัทและคอนโดแต่กวินก็ไม่ยอมแพ้เพียงเพราะระยะทางที่อ้อมโลก “ครับ คุณกวินไหมครับ” ข้าวตังยิ้มรู้สึกคุ้นหน้าแต่นึกไม่ออกระหว่างที่หยิบดอกไม้ที่จัดไว้รอแล้วเขาก็นึกออกพอดีคนคนนี้คือคนที่เขาชนตอนที่ไปเข้าห้องน้ำที่ห้างไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกันอีกโลกกลมจริง ๆ “สวยมากเลยครับ ขอบคุณนะครับ” กวินรับกุหลาบสีขาวมามองใบหน้างดงามของข้าวตัง ผมสีเทาถูกมัดไว้มันทำให้อีกฝ่ายดูมีเสน่ห์อย่างมากดวงตาเป็นสีน้ำตาลอมดำพออยู่บนใบหน้าเนียนขาวผ่องดูโดดเด่นเหมือนตาของกระต่าย นิ้วเรียวยาวเล็บเป็นสีชมพูดูน่ารักแค่เห็นก็รู้สึกลำคอแห้งผากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “ครับ ขอบคุณที่อุดหนุนนะครับ” ข้าวตังยิ้มมองกวินเดินออกจากร้านไป ไม่นานนักก็ถึงเวลาปิดร้านประจวบเหมาะกับภามเดินเข้ามาในร้านพอดี “เหนื่อยจังเลย อยากกอดหนูมาก” ภามเมื่อเดินเข้ามาในร้านก็ตรงเข้าไปกอดข้าวตังไว้ มือใหญ่โอบเอวบางไว้ไม่เพียงเท่านั้นยังซุกซนล้วงมือเข้าไปในชายเสื้อ เพี๊ยะ “ปล่อยเลยเฮีย ผมจะเก็บร้าน” ข้าวตังส่ายหน้า ภามหน้ามุ่ยก่อนจะช่วยกันปิดร้านไม่นานก็เสร็จ เมื่อกลับมาถึงห้องด้วยความเหนื่อยวันนี้เลยไม่ได้ทำอาหารเองแต่สั่งมาจากร้านหลังจากทานอาหารเย็นเสร็จก็มานั่งที่ห้องนั่งเล่นเหมือนทุกวัน ฟุบ ข้าวตังมองภามที่นอนหนุนตักตัวเองอยู่ขายาวพาดไปถึงพนักอิงแขนใบหน้าหล่อเหลาฉายแววเหนื่อยล้าหลังจากที่ทำงานหนักมาทั้งวัน ช่วงนี้ภามเริ่มขยายธุรกิจเพิ่มทำให้ต้องทำงานหนักกว่าเดิม “เฮียไม่ไปนอนในห้องดี ๆ ล่ะครับ” ข้าวตังแตะที่แก้มสาก “เฮียขอนอนตรงนี้” ภามจับมือนิ่มไว้ก่อนจะหลับตาลงไม่นานนักลมหายใจก็เข้าออกสม่ำเสมอบ่งบอกว่าอีกคนหลับไปแล้ว ตอนแรกข้าวตังคิดว่าจะบอกเรื่องที่เกิดวันนี้แต่เมื่อเห็นท่าทีเหนื่อยเขาไม่อยากให้ภามต้องคิดมากเขารู้ว่าอีกคนเป็นห่วงเขามาด้วยนิสัยของเจ้าตัวคงจะหาทำอะไรบางอย่างแน่นอน ข้าวตังลดเสียงโทรทัศน์ลงมองหนังที่กำลังฉายแม้สายตาจะมองแต่ความคิดเขากำลังนึกถึงเรื่องราว ทั้งความฝันและเด็กหนุ่มคนนั้น ในความฝันที่เลือนรางแม้จะปะติดปะต่อเรื่องไม่ค่อยจะได้แต่เขาจำได้ว่าในความฝันเขามีคนทั้งหมดสี่คน ตอนแรกสองคนกำลังพูดอะไรบางอย่างหนึ่งคนนั่งลงอย่างเจ็บปวดและหนึ่งคนเย็นชาหลังจากนั้นก็มีใครอีกสองคนเข้ามา เมื่อนึกถึงแบบนั้นภายในใจก็รู้สึกหน่วงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกแบบนี้ ทำไมเขาถึงได้ฝันประหลาด คืนนี้เขาก็ฝันอีกแล้วภาพยังคงเหมือนเดิมร่างเล็กสั่นตามแรงเขย่าเสียงสั่นของอีกคนส่งความเจ็บปวดเข้ามาหาคำพูดที่ตอนแรกฟังไม่ค่อยชัดตอนนี้มีหนึ่งคำที่เขาจับใจความได้ ‘ทำไมถึงทำแบบนี้ ‘ เขาไม่เข้าใจว่าทำอะไร แบบนี้คือแบบไหน...มันเกิดอะไรขึ้นทำไมคุณถึงได้ดูเจ็บปวดขนาดนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD